- 13.10.22 -

เด่นช้างนอน ได้รู้จักชื่อนี้เมื่อต้นปีที่ผ่านมา โดยภาพที่เห็นจะเป็นภาพที่เป็นสันเขาที่แบ่งหมอกเป็น 2 ฝั่ง 

ซึ่งเป็นอะไรที่ตื่นตาตื่นใจมากตอนนั้น แล้วอยู่มาวันนึงเพื่อนก็ส่งลิ่งการสมัครของเด่นช้างนอนมาให้

เลยตัดสินใจสมัครไป และก็มีรายชื่อในการไปเดินเด่นช้างนอน

📍 Fact about Den Chang Non

1. เด่นช้างนอน อยู่ในอุทยานแห่งชาติดอยภูคา อ.ปัว จ.น่าน

2. ยอดบนสุดมีความสูง 1,980 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล

3. ยอดที่เราเดินผ่านหรือจุดไฮไลท์คือยอด 1,700 เมตร โดยเราจะไม่ผ่านยอด 1,980 เมตร

4 ปกติแล้วจะเปิดให้พิชิตตั้งแต่ช่วงปลายฝนไปจนจบฤดูหนาว

5. ต้องใช้เวลาทั้งสิ้น 3 วัน 2 คืน

6. ระยะทางเดินรวม 18 กิโลเมตร
- วันแรก 8 กิโลเมตร
- วันที่สอง 5 กิโลเมตร
- วันที่สาม 5 กิโลเมตร

7. วันแรกทางชันมาก เหมือนเขาหลวงสุโขทัยต่อกัน 8 กิโลเมตร

8. จะแบ่งกลุ่มเป็นทั้งหมด 3 กลุ่ม กลุ่มละ 10 คน

9. วันแรกจะกางเต็นท์อยู่บนยอดและสามารถดูพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้จากจุดกางเต้นท์เลย

10. ข้างบนลานกางเต็นท์ของคืนแรกจะไม่มีน้ำ แต่จะมีน้ำระหว่างทางเดินขึ้น

12. วันที่สองจะกางเต้นท์บริเวณน้ำตก

13. ข้างบนไม่มีห้องน้ำ

14. ต้องเตรียมอาหารสำหรับ 3 วัน 2 คืน

15. มีลูกหาบให้บริการ แต่ต้องติดต่อก่อนโดยค่าใช้จ่ายจะอยู่ที่ 3,600 บาท/ 15 กิโลกรัม

16. ต้องจองก่อนผ่านทางเพจ FB : อุทยานแห่งชาติดอยภูคา - Doi Phu Kha National Park

17. โดยทางอุทยานจะเปิดจองช่วงเดือน กันยายน - ตุลาคม

18. มีทากและเห็บเด้อ

__________________

Day 1 : น่านนคร

08.30 น. "ขนส่งผู้โดยสารจังหวัดน่าน"

เริ่มต้นจากรถทัวร์จากหมอชิต ซึ่งรถทัวร์ล้อหมุนตอน 22.00 น.

โดยราคาตั๋วจะอยู่ที่ 760 บาท

พอมาถึงขนส่งน่านจึงแปรงฟันและหาเช่ารถมอไซ

ซึ่งร้านเช่ารถมอไซจะอยู่หน้าขนส่งเลย

แต่เนื่องจากมาวันหยุดยาวจึงทำให้รถหมดไม่มีรถให้เช่า

จึงต้องรอทางร้านหารถมาให้ ซึ่งกว่าจะได้ออกจากเมืองน่านก็ 10.30 น.

ถ้ามาวันหยุดยาวควรจองรถเช่าก่อน FB : น่านไง รถเช่า

จากนั้นจึงขับมอไซเพื่อไปยังจุดหมายแรก นั่นก็คือ ถนนหมายเลข 3

ถนนหมายเลข 3 

14.30 น. "ถนนหมายเลข 3"

เป็นถนนที่พอมองดีๆแล้วมันจะเห็นเป็นเลข 3

เป็นถนนที่คนรอถ่ายรูปเยอะมากกกกกก

จุดชมวิว

15.30 น. "จุดชมวิวบ้านยอดดอยวัฒนา"

หลังจากถ่ายรูปที่ถนนหมายเลข 3 จึงขับรถไปต่อเพื่อจะไปหมู่บ้านสะปัน

แต่ระหว่างทางเห็นจุดชมวิวนี้เลยแวะสักหน่อย 

สรุปเป็นการแวะที่คุ้มมากๆ

บ้านสะปัน

17.00 น. "บ้านสะปัน"

หนังจากจอดแวะ จอดแวะ หลายที่ ในที่สุดก็ถึงสักที บ้านสะปัน 

โดยที่พักตัดสินใจกันว่าจะพักที่ "วัดสะปัน"

ใครจะรู้ว่าการกางเต็นท์ที่วัดสะปัน จะเป็นจุดที่สวยที่สุดในบ้านสะปัน

วัดสะปัน

19.30 น. "วัดสะปัน"

ตอนแรกก็กะจะไม่ล่าทางช้างเผือกแต่เห็นหลวงพี่ตั้งกล้องถ่ายทางช้างเผือกพอดี 

เลยตัดสินใจตั้งกล้องเพื่อล่าทางช้างเผือกบ้าง แต่ถ่ายได้ไม่กี่รูป 

อยู่ดีๆหมอกก็ลงจนทำให้ไม่สามารถถ่ายดาวได้

Day 2 : จุดรวมพล เดินขึ้นเด่นช้างนอน ศิลาเพชร

06.00 น. "วัดสะปัน"

เริ่มออกเดินทางจากวัดสะปัน เพื่อจะไปให้ถึง 

จุดรวมพลเดินขึ้นเด่นช้างนอนศิลาเพชร

โดยใช้เส้นทาง 1256 (ถนนลอยฟ้าดอยภูคา) 

โดยก่อนจะไปยังจุดรวมพลต้องแวะตลาดสดเทศบาลปัวก่อน

เพื่อทำการซื้อของก่อนจะทำการเดินขึ้นเด่นช้างนอน

พอถึงจุดรวมพลจึงถ่ายรูปเช็คจำนวนคนในกลุ่มก่อนเดินขึ้นก่อน

โดนเริ่มออกเดินเท้าตอน 09.30 น.

จุดเติมน้ำ

11.00 น. "จุดเติมน้ำ"

หลังจากเดินมานาน น้ำนี่แหละสำคัญที่สุด

โดยจุดนี้เป็นจุดสุดท้ายที่มีน้ำให้เติม

เลยดื่มน้ำไปเต็มสูบเลย

โดยระดับความชันของเด่นช้างนอนคือ ชันจนอยากกลับบ้าน

จุดพักแรม

17.30 น. "จุดพักแรม"

ใช้เวลาเดินเท้ากว่า 8 ชั่วโมง ระยะทางรวม 8 กิโลเมตร 

ถึงแม้ความรู้สึกมันจะบอกว่ามากกว่า 8 กิโลเมตรก็เถอะ

พอมาถึงหมอกก็ลงจนทำให้ไม่สามารถดูพระอาทิตย์ตกได้

และนี่คือครัวของเราในวันนี้

Day 3 : เด่นช้างนอน

06.30 น. "ลานกางเต็นท์"

ตื่นเช้ามาดูพระอาทิตย์ขึ้น แต่เมฆเยอะมาก ทำให้ไม่เห็นดวงอาทิตย์เท่าไหร่

และหมอกก็น้อยมาก แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นเหยี่ยว แต่ถ่ายไม่ติด

หมอกจางๆและควัน

ยอด 1,700 เมตร

10.00 น. "ลานกางเต็นท์"

เริ่มออกเดินเท้าจากลานกางเต็นท์และเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มสุดท้าย

ที่เดินออกจากจุดกางเต็นท์

เจอดอกไม้ที่เคยเจอที่ดอยหลวงเชียงดาวด้วยแต่จำชื่อมันไม่ได้

กลุ่มอื่นเขาไปนู่นแล้ว

ขอเรียนเชิญรับชมกลุ่ม "พักทุกดอย คอยทุกคน"

เดินบนสันเขาของจริง

เขาไปนู้นแล้ว เรายังคงแวะถ่ายรูปอยู่55555

คนนำทางตึงๆ นอกจากนำทางแล้วยังเป็นตากล้องอีก

ทางเดินคือ 1 คนเดิน

มนุษย์ตัวน้อยกับดอยเด่นช้างนอน

จุดที่หวาดเสียวที่สุดของทริปนี้

ยัง ยังไม่เลิกถ่ายรูปอีกกกกก

พักกลางวัน

12.00 น. "ที่ไหนสักที่บนเด่นช้างนอน"

เดินช้าแบบพิรี้พิไร จนเป็นนักท่องเที่ยวกลุ่มแรก

ตั้งแต่มีคนเดินเด่นช้างนอนมาเกือบ 20 ปี

ที่กินข้าวบริเวณนี้5555

หลังจากพักเสร็จจึงเดินทางต่อไปเพื่อให้ถึงยอด 1,700

ในที่สุดก็ถึงยอด 1,700 ร้อนก็ร้อน เหนื่อยก็เหนื่อย

วิวไม่ค่อยว้าววมากขนาดนั้นเพราะว่าวันนี้ไม่มีหมอกเลย

มีแต่แดด แดด แดด และก็แดด

ต้นอะไรก็ไม่รู้ขึ้นเต็มเลย

ลง ลง ลง แล้วก็ลง

12.30 น. "ผู้พิชิตเด่นช้างนอน"

ในที่สุดก็มาถึงที่เขาพักทานข้าวจริงๆ พอมาถึงก็ไม่มีใครแล้ว5555

หลังจากนี้คือเป็นทางลงอย่างเดียว ลงคือลงจริงๆ

เมื่อวานชันขึ้นยังไง วันนี้ชันลงแบบนั้นเลย

หลังจากจุดนี้จะเป็นจุดที่พวกเห็บอยู่ ต้องแต่ตัวมิดชิด

ต้นไม้ที่โดนไฟป่า

คนนำทางหรือพรานป่าฟะเนี่ย555555

เด่นช้างนอนแคมป์ 2

15.15 น. "แคมป์ 2"

ลงมาตั้งนาน ทั้งก้นและกระเป๋าแตะพื้นไม่รู้กี่ครั้ง 

ในที่สุดก็ถึงน้ำตก ซึ่งเป็นบริเวณกางเต็นท์ของเรา

ส่วนบริเวณกางเต็นท์ต้องเดินไปอีกประมาณ 100 เมตร ถึงจะถึงแคมป์ 2

น้ำตก = ที่ซักผ้าและอาบน้ำ

อาหารป่า

17.30 น. "แคมป์ 2"

วันนี้ขอเสนอเมนูคือ ข้าวต้มมมมมมมม

ใส่ทุกอย่างที่มีในกระเป๋าลงไปให้หมดเพราะจะได้ไม่ต้องแบกของให้หนักในวันต่อไป

Day 4 : ข้อคือผู้พิชิตเด่นช้างนอน

08.00 น. "แคมป์ 2"

วันนี้เป็นวันเดินลงชิวๆ จึงไม่ต้องรีบร้อนอะไร

ตื่นมาเก็บเต็นและเริ่มเดินประมาณ 08.00 น.

แต่ความชันยังคงไม่เปลี่ยนแปลงงงง

วันนี้มีข้ามน้ำตกนะ สู้ชีวิตเข้าไปอีก

เช้าวันนี้ขอเสนอตอน 3 แยกวัดใจ ถ้าเลือกผิดก็ขึ้นยอดเด่นช้างนอนใหม่

ปัว

11.00 น. "จุดรวมพล เดินขึ้นเด่นช้างนอน ศิลาเพชร"

สั้นๆได้ใจความ "ตีนแตก"

กลับเข้าเมืองน่านกันดีกว่า

วัดภูมินทร์

16.30 น. "วัดภูมินทร์"

หลังจากเฉไฉไปเรื่อย ในที่สุดก็ถึงเมืองน่าน

โดยก่อนกลับกะจะแวะที่วัดภูมินทร์ แต่พึ่งรู้ว่าตรงนั้นมีตลาดคนเดิน

ก็หาซื้อของกินของฝากกันเลยสิครับ

ตามรอยปู่จ๋าน

แล้วเจอกันใหม่เมืองน่าน

นิรัชพร รุจิรัตนากร

 วันเสาร์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เวลา 11.39 น.

ความคิดเห็น