ก่อนรีวิวทริปนี้ทำความรู้จักภูสอยดาวกันสักนิด

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ป่าสงวนแห่งชาติป่าน้ำปาด ตำบลม่วงเจ็ดต้น ตำบลนาขุม ตำบลบ้านโคก อำเภอบ้านโคก ตำบลห้วยมุ่น อำเภอน้ำปาด จังหวัดอุตรดิตถ์ ตำบลบ่อภาค อำเภอชาติตระการ จังหวัดพิษณุโลก เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร ยอดสูงสุดของภูสอยดาวสูงจากระดับน้ำทะเล 2,102 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของประเทศไทย อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวมีเนื้อที่ 125,110 ไร่ หรือ 200.18 ตารางกิโลเมตร ลานสนสามใบภูสอยดาว มีพื้นที่ประมาณ 1.6 ตารางกิโลเมตร เป็นที่ราบบนภูเขา สูงจากระดับทะเลปานกลางประมาณ 1,633 เมตร สภาพพื้นที่ของลานสนสามใบจะเป็นเนินสูงต่ำสลับกันไป ชั้นล่างเป็นทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่สุดในประเทศ บนลานสนยังเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม แต่ไม่มีบ้านพักและอาหาร หากต้องการพักค้างแรมต้องเตรียมเต็นท์และอาหารไปเอง

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวเปิดใหท่องเที่ยวลานสนตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เป็นต้นไป ขั้นตอนการจองตามรูปภาพจากเพจ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว รับนักท่องเที่ยวเป็นวันละ 300 คน

การเดินทาง (ขอเริ่มต้นที่พิษณุโลก)

เราเข้าเพจพี่จ่าเอ๋ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เขาหลวงรถรับส่งราคาถูก เห็นแจ้งว่ารถยังว่างอยู่ เราโทรหาพี่จ่าตอน 2 ทุ่มครึ่ง ประโยคแรกพี่จ่าบอก เราโชคดีมาก รถจ่าต้องขึ้นไปรับลูกค้าด้านบนพอดี ไปพร้อมรถจ่าได้เลย โอนเงินเต็มจำนวนตามที่พี่จ่าแจ้งมา นัดรับกับคุณขับเรียบร้อย พี่โอ๋คนขับมาตรงเวลานัดหมาย พี่โอ๋ขับรถดีนะ ทั้งไปและกลับไม่เมารถ 

มาถึงอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวต้องทำอะไรบ้าง

- จ่ายค่าเข้าอุทยานฯ 40 บาท จุดนี้ประทับตรา passport อุทยานฯ ได้

- ไปติดต่อที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว เรื่องคิวที่จอง และเต็นท์ เครื่องนอนที่เช่า ชำระเงินค่าเช่า และมัดจำค่าขยะ

- นำสัมภาระไปชั่ง และชำระเงิน 30 บาท/1 กิโลกรัม

- เตรียมตัวไปเริ่มเดินที่น้ำตกภูสอยดาว

ถึงเวลาเริ่มเดินกันแล้วระยะทาง 6.5 กิโลเมตร อ้อ...ก่อนเริ่มเดินจะมีเจ้าหน้าที่ตรวจบัตรที่ชำระค่าเข้าอุทยานฯ ก่อน ข้ามาปุ๊บก็ต้องเก็บภาพกันก่อน

เราเริ่มเดิน 9:53 ก่อนเริ่มเดินตามความเชื่อของเราต้องไหว้ศาลเจ้าปู่ภูสอยดาวก่อน

ไปสำรวจเส้นทางศึกษาธรรมชาติจากน้ำตกภูสอยดาวถึงลานสนระยะทาง 6.5 กิโลเมตรกัน เริ่มเดินอย่างจริงจังสักที

เดินกันไปหนึ่งเหนื่อยใหญ่ๆ ก็จะมีเจอป้ายเนินส่งญาติ ระยะทางเดิน 1,600 เมตร จุดนี้มีความสูง 650 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 

เดินต่อไปอีกประมาณ 700 เมตรจะพบป้ายเนินปราบเซียน มีความสูง 780 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

มือสั่นไปหมด ถ่ายรูปไม่โฟกัสแล้ว ข้างทางก็เริ่มมีอะไรให้สนุกมากขึ้นแล้ว

ระยะทาง 900 เมตรจากเนินปราบเซียนก็มาถึงเนินป่าก่อ ที่นี่มีความสูง 850 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

ออกจากเนินป่าก่อ ข้างทางดีงามมากจริงๆ 

เดินต่ออีก 1,500 เมตรก็จะมาถึงเนินเสือโคร่ง มีความสูง 1,150 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

ระหว่างทางก็แฉะหน่อยๆ 

เดินต่อแค่ 200 เมตรก็จะถึงเนินสุดท้ายแล้ว เนินมรณะ สูง 1,410 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

อีก 1.5 กิโลเมตร แต่บอกเลยว่ากินแรงสุดแล้ว ทางก็แฉะขึ้น

เดินมาเจอต้นสนคู่นี้ เป็นจุดที่เราแวะกินข้าวเมื่อ 10 กว่าปีก่อน ปีนี้ก็แวะอีก กินไปวิวดีงามมาก ลมดีมากด้วย

เดินต่อไปจนถึงป้ายผู้พิชิตลานสนภูสอยดาว จุดนี้ความสูงที่ 1,633 เมตรจากระดับน้ำทะเล เวลาที่มาถึงป้ายคือ 13:16 (ระยะเวลาในการเดิน 3.23 ชั่วโมง) 

เดินจากป้ายมาไม่ไกลเราจะเจอทุ่งดอกหงอนนาคทุ่งแรก

เดินมาที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวที่ลานสน ลงทะเบียนกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่แจ้งว่ารีบถ่ายรูปดอกหงอนนาคเลย จะบานถึงประมาณบ่าย 3 และกว่าจะบานอีกครั้งก็ 10 โมงเช้าวันรุ่งขึ้นแล้ว ก็เลยเดินออกมาเก็บภาพดอกหงอนนาคทุ่งที่ใกล้ลานกางเต็นท์ 1

รอบนี้เห็นความแตกต่างมีแค่ห้องน้ำมาตรฐานขึ้นกับหลังคาตรงจุดเต็นท์ที่จองออนไลน์ และตู้น้ำดื่ม+ที่ชาร์จมือถือหยอดเหรียญ ที่ตกใจตรงจุดรับสัญญาณโทรศัพท์ทุกคนนั่งจริงจังกันมาก 

หมอกปกคลุมลานสนภูสอยดาวจะเป็นปกติของการได้มาลานสนในฤดูดอกหงอนนาค แต่ก็ยังชอบมาก และตื่นเต้นอยู่ดี

ระหว่างรอสัมภาระที่ยังไม่ขึ้นมา เราก็เดินรอบจุดท่องเที่ยวบนลานสนภูสอยดาว 

เดินมาถึงหลักหมุด 5-35 ชายแดนไทย - สปป.ลาว

เดินจนครบรอบที่ทางอุทยานฯ อนุญาตให้สามารถเดินท่องเที่ยวได้ด้วยตนเอง แต่รอบนี้เราไม่ได้ลงไปที่น้ำตกสายทิพย์

สัมภาระมาถึงฟ้ามืดแล้ว กว่าจะกางเต็นท์ (โดยได้รับความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่อุทยานฯ) มื้อเย็นเป็นอาหารที่สั่งที่ร้านสวัสดิการของอุทยานฯ พี่ๆ เขาสั่งชาบูกัน กินของร้อนท่ามกลางอากาศหนาวๆ ก็ฟินไปอีกแบบ

คืนนั้นฝนตกหนักมาก ตกแรงจนสะดุ้งตื่นเลย ใจก็กลัวน้ำท่วมเต็นท์ แต่กลุ่มเต็นท์พวกเรารอดนอนกันสบายถึงเช้า มื้อเช้าก็เป็นมื้อที่สั่งวัตถุดิบจากร้านสวัสดิการ 

หลังมื้อเช้า ฝากสัมภาระเสร็จ ได้รับความกรุณาจากพี่อาทิตย์และพี่ๆ เจ้าหน้าที่พาเดินชมเส้นทางท่องเที่ยวตามตะเข็บชายแดนไทย - สปป.ลาว ด้วยความที่ชอบฟังก็เดินตามฟังเรื่องราวต่างๆ จนลืมถ่ายรูปลานสนตอนเช้าเลย เรื่องหนึ่งที่พี่เขาเล่า พื้นที่บนลานสน 2,000 กว่าไร่ จะเป็นฝั่งไทยเพียง 600 กว่าไร่เท่านั้น นอกนั้นก็เป็นพื้นที่ของสปป.ลาว พี่ๆ พาลงมาถ่ายดอกสีม่วงๆ นี้ที่ฝั่งสปป.ลาว 

เดินกลับเข้าเส้นทางศึกษาธรรมชาติตามแนวตะเข็บชายแดนก็มาเจอน้องหดตัวอยู่

เดินมาเก็บภาพจุดสุดท้ายที่ป้ายก่อนเดินลงจากลานสนภูสอยดาว

ทางลงหลังฝนตกหนัก และระหว่างลงก็ตกลงเรื่อยๆ นั้นบันเทิงมาก ลุยน้ำ ลุยโคลน ข้ามสะพานไม้ไผ่เลี่ยงเส้นทางจุดอันตราย เหนื่อยกว่าขาขึ้นอีก

หลายจุดเส้นทางอันตรายจนต้องมีเจ้าหน้าที่คอยอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่ลงเขาปลอดภัย ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกท่านที่ยืนตากฝนช่วยเหลือนักท่องเที่ยวตลอดเส้นทาง 

มีคนถามว่า "ทำไมไม่แบกเป้ขึ้นไปเอง" เราตอบเลยนะ "ไม่แบกเองจ่ะ เก็บหลังไว้ปวดแค่ตอนทำงานพอ ตอนเที่ยวขอไปแบบสนุกๆ ไม่ต้องมาโอดโอยปวดหลัง มันจะหมดสนุก" 

อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวมีป้ายรายละเอียดต่างๆ ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นลานสน การขึ้นยอด 2,102 ช่วงเวลาที่อนุญาตและตัวหนังสือสีแดงที่บอกว่า "ต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางเท่านั้น" และอีกจุดที่ต้องขอชื่นชมทางอุทยานฯ ที่ใส่ใจเรื่องความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวเป็นพิเศษ คือ มีป้ายแจ้งเหตุฉุกเฉินให้โทรหาเจ้าหน้าที่ที่เบอร์มือถือ (081 727 7486) ติดไว้ตั้งแต่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว (ป้ายใหญ่ที่เราถ่ายมา) ระหว่างทางในเส้นทางศึกษาธรรมชาติไปจนถึงลานสนจะมีป้ายเล็กๆ ติดเบอร์นี้ไว้ตลอดทาง (แต่บางป้ายเริ่มจางแล้ว) เบอร์โทรนี้สำคัญมาก เราว่าควรเมมไว้เผื่อฉุกเฉิน ส่วนเบอร์สำนักงาน 055 436 001-2 นั้นจะใช้ได้เฉพาะเวลาราชการเท่านั้น เมื่อฉุกเฉินจะข่วยเราได้รวดเร็วและปลอดภัยกว่าการติดต่อไปที่อื่น 

ขอบคุณพี่ๆ ที่ชวนมาร่วมทริป และต้องขอบคุณมากเป็นพิเศษ คือ เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวทุกท่าน ที่คอยดูแลความปลอดภัย อธิบายรายละเอียดต่างๆ การได้ยินเสียงว.รายงานจากเจ้าหน้าที่ประจำทุกจุดเสี่ยงในเส้นทางขาลงก็อุ่นใจมากแล้ว

เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวฝากมาขอความร่วมมือจากนักท่องเที่ยวที่จะขึ้นไปพักค้างคืนบนลานสนภูสอยดาวอย่าทิ้งกระดาษชำระ และผ้าอนามัยลงในโถส้วม พออุดตันจนห้องสุขาใช้ไม่ได้ก็จะกระทบความสะดวกสบายในการใช้ห้องสุขาของนักท่องเที่ยวเอง การแก้ไขสุขาตันจากกระดาษชำระและผ้าอนามัยด้านบนลานสนไม่ง่ายเหมือนอยู่ด้านล่าง ทางเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จะต้องดำเนินการแก้ไขเอง ซึ่งจำนวนเจ้าหน้าที่จะมีเพียงพอสำหรับอำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยวเท่านั้น  

เราลงมาถึงด้านล่าง 13:17 เวลา 13:30 ทางอุทยานแห่งชาติภูสอยดาวประกาศปิดการท่องเที่ยวลานสนชั่วคราว เนื่องจากฝนตกหนักมาก เพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว ติดตามประกาศเปลี่ยนแปลงได้ที่เพจ อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว - Phu soi dao National Park

ตะลุยเดี่ยวแบกเป้เที่ยว

 วันอังคารที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2565 เวลา 21.15 น.

ความคิดเห็น