"เดินเล่นชิวๆไปดูพระอาทิตย์ตกที่ "ผาหล่มสัก"

      วันนี้ทั้งวันเราและสมาชิกทุกคนจะเน้นเดินกันไปเรื่อยๆ เพื่อชมธรรมชาติบนภูกระดึง หลังจากที่พวกเราทานมื้อเช้าและพร้อมเดินทางกันต่อ

               การเดินทางวันนี้เริ่มจากจุดกางเต็นท์ เดินไปจนถึงลานพระพุทธเมตตา เราแวะไหว้พระขอพระกันก่อนแล้วหลังจากนั้นก็เดินต่อไปเรื่อยๆ ซึ่งจะมีป้ายบอกสถานที่ และระยะทางอยู่ทุกจุดที่เป็นส่วนของการเที่ยวชม

          เรามุ่งหน้าเดินห่างจากลานพระพุทธเมตตาออกมาตามเส้นทางเรื่อยๆ จะผ่านวิวทิวทัศน์ที่มีทั้งลานสนและผ่านทุ่งหญ้าสะวันนา รวมทั้งบางช่วงก็ยังเจอร่องรอยไหม้ของไฟป่าอยู่ การเดินทางในช่วงนี้ไปแบบยังไม่มีจุดหมายเท่าไหร่ 555 คิดกันว่าถ้าเจอป้ายเมื่อไหร่ค่อยแวะ แต่ระหว่างทางที่ทั้งสวยและร้อนในเวลาเดียวกัน เราก็สู้กับการถ่ายภาพกันมา ฮ่าๆๆ

         เดินไปถ่ายรูปไป จนเดินมาถึง "สระอโนดาต"  ซึ่งสระน้ำที่นี่มีความพิเศษคือเป็นสีฟ้าครามและผืนน้ำยังสะท้อนท้องฟ้าสวยงามมากๆ

         หลังจากนั้นเราก็เดินตัดมาอีกทาง ซึ่งทางตรงนี้เราจะเน้นเดินเรียบริมฝั่งหน้าผาต่างๆ จะไม่เดินตรงไปอีกทางที่จะเป็นเส้นทางของน้ำตก ซึ่งอีกทางจะมีน้ำตกให้เราได้เที่ยวชม แต่จะเดินไกลหน่อย แต่ทั้งสองทางสามารถไปถึงผาหล่มสักได้เหมือนกัน

ดอกหยาดน้ำค้าง

      ตลอดการเดินทางนั้น โดยระหว่างทางเราก็ก็บดอกไม้ป่าสวยๆ ดอกไม้แปลกๆหายาก ซเช่นดอกหยาดน้ำค้างนั้น จะเป็นดอกที่เล็กมากๆๆ พบไม่มากเท่าไหร่ นี่เป็นครั้งที่ 2 ที่เราเห็นดอกหยาดน้ำค้าง ครั้งแรกเราเห็นที่ทุ่งโนนสน จ.พิษณุโลก

เมื่อเดินมาไกล ร้อน และเมื่อยขามากๆ การถ่ายรูปเล่นก็ช่วยได้เยอะ 55 

          ผาแรกที่เราเดินฝ่าความร้อนมาหลายกิโลคือ "ผาเหยียบเมฆ" ซึ่งเหมือนต้องมาถ่ายรูปให้ได้ เห็นในรีวิวก็ลองขึ้นไปเหยียบเมฆดูบ้างจะมีก้อนหินก้อนใหญ่ให้เราเดินขึ้นไปแล้วถ่ายรูป ได้บ้างไม่ได้บ้างเพราะน่ากลัว และหน้ามืดด้วยร้อน 555

           หลังจากนั้นก็ตามหา "ผาหลอกลวง" เป็นก้อนหินยื่นไปทางหน้าผา แต่มีพื้นหินรองรับอยู่ ต้องใช้พละกำลังในการห้อยโหนตัวกอดหินก้อนนั้นไว้ในการถ่ายรูป ประหนึ่งว่า ข้างล่างคือหน้าผานาจ้าาาา 55 (หลอกๆหยอกๆไป๊)

        หลังจากใช้เวลาสักพักกับผาหลอกลวง บ่ายแก่ๆเราเดินมุ่งตรงไปจนถึง "ผาหล่มสัก " ซึ่งเป็นเป้าหมายสุดท้ายของวันนี้ พักเหนื่อยด้วยการทานข้าวมื้อเที่ยงด้วยความหิว เป็นมื้อเที่ยงที่ได้กินช่วงบ่าย 3 โมง ไม่ได้ตุนเสบียงตุนข้าวมาเลย เพราะคิดว่าที่ผาเหยียบเมฆ ร้านค้าจะเปิดขายอาหาร ตั้งใจจะแวะพักทานข้าวเที่ยง แต่ผิดหวังร้านปิดจร้าา จ๋อยยเลย..ท้องร้อง..

      เลยต้องมาฝากท้องอันโหยหิว มาถึงผาหล่มสัก ฮ่าๆๆเมื่อกินอิ่มหนำสำราญเราก็ยืมเสื่อร้านค้า มานอนพักตามใต้ต้นไม้ รอเวลาออกไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ตก

        พอใกล้ช่วงเย็นคนก็เริ่มทะยอยมาถึง มาถ่ายรูปเก๋ๆมุมมหาชนกัน คือลานหินริมหน้าผากับต้นสนสวยๆ เป็นซิกเนเจอร์ของ ผาหล่มสักที่นี่เลยคะ ช่วงใกล้เวลาย่ำค่ำ แสงโพล้เพล้สีทองกำลังลาลับขอบฟ้า เราต้องรีบเดินกลับด้วยระยะทางอันยาวไกล เพื่อไปยังที่พัก

       ค่ำนี้คือรีบเดินจ้ำ รีบเดินกันมาก เดินจนไฟฉายบนหัวเราแบตหมด บวกกับอากาศหนาว หิว และล้าขามาก เนื่องจากทางที่เดินเป็นทรายขาวๆตลอดทาง และสองข้างทางก็มืดมากกก กลัวทั้งผีและน้องสัตว์ป่าจะมาหยอกเล่นด้วย

         เราเดินเรียบหน้าผาเหมือนตอนมา เดินไปจนประมาณเกือบ 2 ทุ่ม มาถึง ผาหมากดูก ค่อยใจชื้นหน่อย นั่นหมายถึงเราเริ่มใกล้แคมป์แล้ว เหลืออีก 2กิโลเอ๊งงจากนั้นเราก็ตัดเข้าไปทางที่จะไปแคมป์ ซึ่งเป็นทางที่วันแรกเรามาดูพระอาทิตย์ตกที่ ผาหมากดูก คือ อีก 2 กิโลถึงแค้มป์ แบบเดินกัดฟันมากกก หิวและหนาว 55

         ระหว่างทางจะมีเจ้าหน้าที่ขับมอไซด์ คอยดูแลห่างๆ ผ่านไป 45 นาที ในที่สุดด...ก็มาถึงแคมป์แล้ว..เย่น่าจะถึงสองทุ่มครึ่ง เกือบๆสามทุ่มปลอบใจตัวเองด้วยชาบูร้อนๆ หิวจะแย่....

สรุปวันนี้ เราน่าจะเดินไป เดินมา ประมาณเกือบ 22 กิโลเมตร OMG!!!


😺 แมวพเนจร 🌿

 วันอาทิตย์ที่ 4 กันยายน พ.ศ. 2565 เวลา 19.44 น.

ความคิดเห็น