📍 Fact about Doi Luang Chiang Dao
1. ดอยหลวงเชียงดาว ตั้งอยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
2. ยอดดอยมีความสูง 2,225 เมตรเหนือระดับน้ำทะเล
3. สูงเป็นอันดับ 3 ของประเทศไทย
4. ดอยหลวงเชียงดาวถูกยูเนสโกแต่งตั้งในเป็นเขตชีวมณฑลแห่งที่ 5 ของประเทศ
5. ภูมิอากาศบนดอยหลวงเชียงดาวค่อนข้างไม่แน่นอน บางทีมีเมฆมาก แต่ผ่านไป 10 นาทีอาจจะมีหมอก
6. เป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่ามากมาย และหนึ่งในนั้นคือ 'กวางผา'
7. เป็นที่เดียวในโลกที่มี 'ดอกเทียนนกแก้ว'
8. เปิดให้เดินศึกษาธรรมชาติ พฤศจิกายน ‑ มกราคม
9. จำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวที่ 100 คน/วัน
10. ระยะทางจากจุดเริ่มต้นถึงแคมป์ คือ 8.5 กิโลเมตร
11. ใช้เวลาในการเดินประมาณ 4‑5 ชั่วโมง
12. ระยะทางจากแคมป์ไปยอดดอยหลวงเชียงดาวไม่ไกลนัก (ใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมง)
13. ต้องอบรมก่อนขึ้นยอดดอยหลวงเชียงดาวก่อน 1 วัน
14. ดอยหลวงเชียงดาวเปิดให้ขึ้นแค่ 2 วัน 1 คืน (ไม่เปิดจองวันพุธ)
15. ข้างบนไม่มีน้ำ ต้องเตรียมมาเอง
17. รายละเอียดค่าใช้จ่ายต่างๆ และการจองหรือวันเปิดปิดดอย สามารถเข้าไปเช็คดูได้ในเพจ 'เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว'

_________

Day 0 : อบรมเพื่อเป็นนักศึกษาธรรมชาติ

เริ่มออกเดินทางด้วยรถไฟขบวน 13 (กรุงเทพ‑เชียงใหม่) โดยจะถึงเชียงใหม่ประมาณ 08.40 น. พอถึงเชียงใหม่ก็เช่ามอไซ 250 บาท/วัน แล้วก็ขับรถมายังสำนักงานเทศบาลตำบลแม่นะ เพื่อมาอบรมก่อนขึ้นดอยหลวงเชียงดาว

ใช้เวลาเดินทางมายังเชียงดาวประมาณ 60 นาที ในการขึ้นดอยหลวงชเชียงดาวเราจะต้องทำการอบรมก่อนประมาณ 3 ชั่วโมง ซึ่งผมมีอบรมช่วงบ่ายจึงไม่ต้องรีบร้อนอะไร

เที่ยวรอบเชียงดาว

หลังจากอบรมเสร็จก็ประมาณ 4 โมงเย็น เลยว่าจะไปหากาแฟกิน และนี่คือระหว่างทางไปวัดถ้ำเชียงดาว

ในที่สุดก็มาถึง “บ้านระเบียงดาว โฮมสเตย์” ซึ่งจุดนี้เป็นทั้งโฮมสเตย์และร้านอาหาร

ขนาดตัวเมื่อเทียบกับดอยหลวงเชียงดาว ตอนนั้นในใจคือแบบ “ที่นี่มันสวยจังวะ”

Day 1 : เริ่มเดินขึ้นดอยหลวงเชียงดาว

เริ่มวันใหม่ต้องตื่นเข้าเพื่อไปรวมพลกันตอน 8 โมง เลยแวะไปสวัสดีดอยหลวงเชียงดาวก่อนตอนเช้า


ลงทะเบียน

ถึงจุดรวมพล ประมาณ 8 โมงแต่กว่าจะทำอะไรเสร็จก็ประมาณ 9 โมง จึงเริ่มขึ้นรถกระบะเพื่อนั่งรถ 4WD ขึ้นไปดอยหลวงเชียงดาว โดยการลงทะเบียนจะมีหลายขั้นตอนตั้งแต่จ่ายค่าเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและเคลียร์เรื่องลูกหาบและขยะ

หลังจากลงทะเบียนเรียบร้อย เราต้องนั่งรถต่อมาเพื่อมาขึ้นยอดและเริ่มเดินที่หน่วยฯเด่นหญ้าขัด โดยนั่งรถประมาณ 1 ชั่วโมงก็จะถึง


เส้นทางศึกษาธรรมชาติดอยหลวงเชียงดาว

10.30 น. “เด่นหญ้าขัด”
หลังจากนั่งรถ 4WD มาชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงจุดเริ่มเดินเด่นหญ้าขัด โดยเส้นทางศึกาาะรรมชาติดอยหลวงเชียงดาวจะมีระยะทาง 8.5 กิโลเมตร โดยจะแบ่งจุดพักหลักๆได้ 7 จุด คือ เด่นหญ้าขัด, ดงไผ่, แยกปางวัว, ดงน้อย, ดอยกิ่วป่าคา, ดงเย็น และจุดพักแรม "อ่างสลุง"

โดยช่วงกิโลแรกยังง่ายอยู่สำหรับดอยหลวงเชียงดาว เส้นทางเดินเป็นเส้นทางที่กว้างขึ้นและโล่งเตียนและสวยมาก โดยไม่นึกมาก่อนว่าประเทศไทยก็มีธรรมชาติที่สวยขนาดนี้

โดยระหว่างทางจะมีดอกไม้มากมายให้เราศึกษาโดยเราจะใช้บัตรที่ได้มาจากอบรมในการศึกษามันว่ามันคือดอกอะไร

พอเดินมาถึงครึ่งทางป่าจะเริ่มเปลี่ยนเป็นเหมือน "ป่าดงดิบ" ทุกอย่างจะเริ่มเย็นและชื้น และพื้นค่อนข้างลื่นถึงแม้จะไม่มีฝนก็ตาม 

พอเดินมาเรื่อยๆ หันกลับไปอีกที ก็เห็นลูกหาบเดินตามมาติดๆ เลยคิดในใจ "ลูกหาบไม่เหนื่อยบ้างหรือยังไง"

จุดสูงสุดดอยหลวงเชียงดาว 2,225 เมตรจากระดับน้ำทะเล

15.00 น. "จุดพักแรม อ่างสลุง"

ในที่สุดก็มาถึงจุดกางเต็นท์ แต่เรายังต้องเดินเท้าขึ้นไปยังยอดดอยหลวงเชียงดาวอีกประมาณ 1 ชั่วโมง

ถึงแล้ววววว 

ยอดดอยหลวงเชียงดาวกับอากาศประมาณ 10 องศา

นี่คือสภาพที่แท้จริง คือไม่ไหวจริงๆเหนื่อยมากกกกกกก

อยู่ๆจากที่เมฆปกคลุมเยอะมาก คล้ายว่าฝนจะตก กลับกลายเป็นฟ้าที่เปิด เหมือนวันนี้ฟ้าจะเป็นใจให้เรานะ

หลังจากเดินมาเหนื่อยๆการที่ได้เห็นภาพนี้ อากาศที่เย็นและความสงบ อยู่ดีๆความเหนื่อยมันก็หายไป

หลังจากพระอาทิตย์ตกไม่นาน อยู่ดีๆหมอกก็ไหลเข้ามาปกคลุมจนทำให้มองทางไม่ค่อยเห็น และอุณหภูมิค่อยๆลดลงจะต้องหยิบเสื้อกันหนาวมาใส่

ลาวันนี้ด้วยดาวจากดอยหลวงเชียงดาว

Day 2 : 

เริ่มเดินจากจุดกางเต็นท์ประมาณ ตี 5 เพื่อมาชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอด

นี่เป็นครั้งแรกที่เข้าใจว่าทำไมผู้คนถึงเรียกมันว่า "ทะเลหมอก"


กวางผา

กวางผาเป็นสัตว์หายากของที่นี่ โดยกวางผาถือว่าเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์ โดยน้องออกมาหากินตอนเช้า ดดยน้องทำการยึดดอยกิ่วลมไปแล้ว ซึ่งดอยกิ่วลมสามารถมองเห็นได้บนยอดดอยหลวงเชียงดาว แต่ค่อนข้างไกล ถ้าอยากเห็นน้องเขาชัดๆควรพกกล้องส่องทางไกลมาด้วย


หมอกหรือควัน

08.00 น. "ยอดดอยหลวงเชียงดาว"

อยู่ดีก็มีหมอกจำนวนมากไหลเข้ามา ซึ่งภาพที่อยู่ตรงหน้าทำผมประหลาดใจและมีความสุขมาก เนื่องจากผมไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้ที่อื่นมาก่อน

ภาพสุดท้ายก่อนลงจากยอดดอยหลวงเชียงดาว

ระหว่างทางลงจากยอดไปจุดพักแรม ก็มีหมอกไหลเข้ามาเรื่อยๆ ไม่พัก

กลับบ้าน

10.00 น. "จุดพักแรม อ่างสลุง"

เราทำการเดินเท้ากลับไปยังทางที่เรามา โดยมีหมอกปกคลุมยอดเขาตลอดทาง

ใกล้ถึง "เด่นหญ้าขัดแล้ว" โดยตอนนั้นใช้แรงเฮือกสุดท้ายพาตัวเองจนมาถึงเด่นหญ้าขัดจนได้

15.00 น. “เด่นหญ้าขัด”

การเดินทางครั้งนี้ทำให้ผมได้รู้อะไรอีกหลายๆ อย่าง ทั้งการทำงานของชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ ที่ได้ร่วมมือกันจนเกิดเป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาตินี้ รวมไปถึงมุมมอง การป้องกัน ประวัติความเป็นมาของดอยหลวงเชียงดาว และขอบคุณที่ทำให้ผมได้รู้ว่า “ความสุข, มิตรภาพ และความรู้ที่เราได้จากการสัมผัสธรรมชาติมันมีคุณค่ามากเพียงใด” แล้วเจอกันใหม่ดอยหลวงเชียงดาว :)

นิรัชพร รุจิรัตนากร

 วันเสาร์ที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2565 เวลา 18.57 น.

ความคิดเห็น