วันนี้ผมตั้งใจมารีวิวเมืองเล็กๆ ที่ใครๆก็บอกว่าสวย ต้องมาให้ได้ ใครผ่านก็ต้องแวะมาเช็คอิน ถ่ายรูปไว้อวดเพื่อนๆ
ที่นี่ก็คือ เดอะเวโรน่า@ทับลาน ประตูสู่อีสาน เขาใหญ่และวังน้ำเขียว สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ที่ตั้งอยู่ในเขตจังหวัดปราจีนบุรี ตรงข้ามกับทางขึ้นอุทยานแห่งชาติทับลาน
ก่อนหน้านี้ผมเคยมาแวะที่นี่ เพราะเป็นทางผ่านก่อนขึ้นสู่เขาใหญ่และวังน้ำเขียว เห็นสวยงาม กว้างใหญ่ และน่าถ่ายรูปมากๆ เลยแวะเก็บภาพไปสี่ห้าใบ ซึ่งก็ไม่ผิดหวังครับ เดอะเวโรน่ายามค่ำคืน สวยงามมากสมคำร่ำลือครับ
นี่คือภาพเดอะภาพเวโรน่า ครั้งก่อนที่ผม แค่แวะมาเก็บภาพ
สำหรับครั้งนี้ ผมตั้งใจมาครับ ตั้งใจมาเที่ยว มากิน มานอน มาพักผ่อนที่นี่ครับ
คิดแล้วก็จองโรงแรมซะเลย ที่นี่มีห้องพักหลายรูปแบบให้เลือกครับ ไม่ว่าจะเป็นห้องพักแบบเรียบหรูตามสไตล์อิตาลี่ ห้องพักสไตล์คาวบอยกลิ่นอายคันทรี หรือห้องพักแบบกระโจมอินเดียนแดง ที่สำคัญคือ ราคาไม่แพงด้วยครับ ผมเลือกจองแบบDeluxe สไตล์อิตาลี่นะครับ และนี่คือบรรยากาศของห้องพัก การตกแต่งห้องพักได้กลิ่นอายแบบยุโรปจริงๆ
นอกจากถ่ายรูปที่พักแล้ว เลยจัดการสร้างสตูดิโอเล็กๆในห้อง เก็บภาพนางแบบประจำตัวสักหน่อย
เก็บสัมภาระเรียบร้อย ก็ได้เวลาออกเดินทางสำรวจเมืองเวโรน่ากันแล้ว
เราเดินชมรอบๆเวโรน่าไปเรื่อยๆครับ ที่นี่มีร้านอาหาร ร้านกาแฟสด ร้านขนม ร้านเครื่องดื่ม เปิดบริการนักท่องเที่ยวหลายร้านครับ ส่วนร้านอาหารก็มีให้เลือกทั้ง สเต็กแบบยุโรปกับร้าน Morgen ร้านชาบู ร้านอาหารญี่ปุ่น ร้านอาหารอีสานแซ่บๆ ร้านปิ้งอย่างอย่างโคขุน โพนยางคำ และร้านอาหารยามเย็นบรรยากาศสไตล์ยุโรปอย่างร้าน Blackwood bar and resterant ซึ่งร้านนี้เป็นของโรงแรมเวโรน่าครับ ตอนหัวค่ำจะมีดนตรีสดด้วย
หลังจากสำรวจที่กินแล้ว ก็ลองเดินต่อไปอีกเพื่อสำรวจที่เที่ยวต่อ ผมเดินมาสุดทางด้านหลังห้องอาหาร Blackwood ตอนแรกก็เข้าใจว่ามีแค่นี้ แต่นึกขึ้นได้ครับว่า มันมีกิจกรรมแอดเวนเจอร์และคาวบอยฟาร์มด้วยนี่ เอ๊ะแล้วมันอยู่ไหน มองสำรวจไปรอบๆ จะเจอป้ายที่อยู่ติดอาคารประชาสัมพันธ์ของโรงแรม Verona Farm มองไปดีๆจะเห็นเมืองคาวบอยเล็กๆซ่อนตัวอยู่ด้านหลังนั่นแหล่ะครับ
เมื่อเดินเข้าไปเมืองคาวบอย เราจะเห็นอาคารสไตล์คาวบอยตั้งเรียงรายอยู่ รู้สึกเหมือนตัวเองหลงมาอยู่ในเมืองเท็กซัส ยังไงยังงั้นครับ
ลองเดินไปรอบๆเพื่อดูว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง สิ่งแรกที่เจอนี่เลยครับ ขี้ม้า 5555 ต้องเจอขี้ม้าสิครับเพราะที่นี่เขามีฟาร์มเลี้ยงม้า ไว้บริการให้นักท่องเที่ยวขี่ม้าชมรอบๆ
ถัดจากคอกม้ามา จะเป็นสตูดิโอ ถ่ายภาพสไตล์คาวบอยครับ เป็นสตูดิโอรับถ่ายภาพ และปริ้นภาพ พร้อมใส่กรอบไม้อย่างสวยงามสไตล์คันทรี ว่าแล้วก็ลองเข้าไปขอชมในสตูเขาสักหน่อยครับ ที่นี่มีเสื้อผ้าแบบคาวบอยทั้งของผู้หญิงผู้ชายและเด็กน้อยไว้บริการนักท่องเที่ยว จะมาเป็นคนเดียว มาเป็นคู่ เป็นครอบครัว ก็สามารถถ่ายได้ครับ
นอกจากเสื้อผ้า ก็ยังมีรองเท้า หมวก และพรอพเท่ๆอย่างปืนด้วยครับ เลยขอยืมพี่เขามาให้แฟนใส่ถ่ายซะหน่อย อิอิ
นอกจากถ่ายในสตูแล้วร้านนี้ยังบริการพาท่านไปถ่ายรูปนอกสตูได้ด้วยนะครับ ไม่ว่าจะเป็นหน้าสตู เมืองคาวบอย หรือแม้แต่ตึกสวยๆในเวโรน่า นักท่องเที่ยวจะได้ภาพสวยๆที่ผ่านการแต่งภาพ พร้อมปริ้นภาพความประทับใจ ในราคาแค่ 199 บาทต่อภาพ ครับ เหมือนได้ภาพพรีเวดดิ้ง ในราคา199 ยังไงยังงั้น 5555 (คุณแฟนผมเลยขอจัดมาหนึ่งภาพครับ)
เดินออกจากเมืองคาวบอยมา ก็จะพบกับที่พักแบบกระโจมสไตล์อินเดียนแดงของเดอะเวโรน่าครับ กระโจมแต่ละหลังแยกกันกระโจมใครกระโจมมัน มีห้องน้ำในตัวด้วยครับ ตั้งอยู่กลางทุ่งหญ้าที่ด้านหน้าคือเมืองคาวบอย ด้านหลังคือบรรยากาศคลองแบบบ้านนอกของชาวตะวันตก ขอบอกว่าน่านอนสุดๆครับ
เดินเล่นอยู่ในเมืองคาวบอยจนเย็น เลยถือโอกาสเก็บภาพของ บรรยากาศเมืองคาวบอยมาให้ชมครับ อยากให้คนที่แวะมาเที่ยวที่เวโรน่าได้มีโอกาสเดินเข้ามาในเมืองคาวบอยเล็กๆแห่งนี้ดูครับ สวยไม่แพ้ด้านนอก
เห็นภาพสวยๆแล้วนึกคันมือขอนำเสนอแนว Retouch ดูกันบ้าง
หลังจากที่ได้เดินสำรวจรอบๆ เมืองเวน่า และเมืองคาวบอยเท็กซัสจนหนำใจ ก็ได้เวลา หาของอร่อยลงท้องสำหรับค่ำตืนนี้ จำได้ว่าครั้งที่แล้ว เราเลือกกินอาหารญี่ปุ่นไปแล้ว รสชาติเอาเป็นว่า 5 เต็มสิบ ละกัน ถ้าอยากรู้ว่าเพราะอะไร คงต้องมาลองเอง 555 วันนี้เราเลยขอจัดร้านใหม่
อิ่มท้องแล้วก็ได้เวลาพักผ่อน ก่อนออกเดินทางต่อในวันพรุ่งนี้ เดอะเวโรน่าแอททับลาน ถ้าคุณผ่านมา อย่าลืมแวะเข้ามาสักครั้งนะครับ แล้วคุณจะหลงรัก ดินแดนแห่งความรักแห่งนี้ ถ้ามีอากาสได้มาพัก ครั้งหน้าจะขอลองบ้านอินเดียนแดงดูหน่อย ขอบพระคุณทุกท่านนะครับที่ติดตาม
I AM POPEYE
วันจันทร์ที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 15.49 น.