เอิงเอยยยยย เอิงเอยยยย ตอนยอน ตะตอนยอน

การเดินทางครั้งนี้บอกเลยเป็นทริปสั้นๆ 2 วัน 1 คืน จาก ลำปาง เส้นทางสู่ เชียงใหม่

เนื่องจากเราเป็นสาวลำปาง....หนาวมาก การเดินทางแบบฉับพลันเลยเกิดขึ้น

ในวันที่เราว่างหยุดเสาร์ อาทิตย์ เราก็เก็บกระเป๋า เตรียมขับรถ มุ่งหน้าสู่เชียงใหม่ เอ้า ลุยยยยย

บอกเลยใครมองหาทริปเที่ยวหน้าฝนแนะนำเลยค่ะ ม่อนแจ่ม เชียงดาว เพียง 2 วัน ก็ฟินได้

Day 1 :

เราออกเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ด้วยรถยนต์ส่วนตัว เดินทางประมาณ 45 นาที ความหิวก็บังเกิด เราจึงแวะตลาดสามแยก แถวอำเภอสันทราย ร้านที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดาค่ะ "ร้านแดนข้าวมันไก่" ราคาตกอยู่ที่จานละ 30.- ราคามิตรภาพ ทุกระดับประทับใจ ขอบอกว่าถ้ามาหลัง11.00โมงอาจไม่ได้กินนะคะ หมดจ้าาาา พอเราอิ่มก้อออกเดินทางต่อเพื่อมุ่งหน้าสู่ ม่อนแจ่ม

แต่ระหว่างทางเราก้อแอบชิวเดินทางจากอำเภอสันทราย ไปทางเส้นอำเภอแม่ริม ไปหาไรอร่อยๆกินกัน นี้เลยค่ะ "ศาลากาแฟ" บรรยากาศธรรมชาติผสมบ้านไม้ ใครที่ชอบถ่ายภาพนะคะมีหลายมุมที่เก๋ๆแนวผสมผสาน ตอนนี้หน้าฝนต้นไม้เขียวสวยมากมาย พร้อมอาหาร เครื่องดื่ม บริการ ร้านเปิดตั้งแต่ เช้า 8.00 - 6.00 ตอนเย็นจ้าา

จัดสิค่ะรออะไรนมชมพู บวก ไอศครีมช็อค กับของหวาน 555+ จำชื่อไม่ได้ค่าเสียหายทั้งสิ้น 190.- ถือว่าราคามาตรฐานคะ บรรยากาศบวกรสชาติ ถือว่าคุ้ม หลังจากอิ่มท้องเราก็เดินเล่นหาที่ถ่ายภาพสวยสวย อันนี้ถ่ายมาน้อยนิดนะคะ

หมดเกลี้ยงพุงแทบแตกแต่เรายังต้องเดินทางต่อ มุ่งหน้าสู่ม่อนแจ่มค่ะ ไปกัน.......

ขึ้นไปขึ้นไป จากนั้นเราก็เดินทางตามป้ายที่บอกทางว่าไปม่อนแจ่มทางไม่อันตรายค่ะ คนไม่เคยไปแบบเราขับเองได้ค่ะ เพียงมี gps นำทางก็ไปได้ จากศาลากาแฟ เพียง 20 นาที ในที่สุดเราก็มาถึง วันนี้โชคดีค่ะฝนไม่ตกและผู้คนก็ไม่เยอะมากเป็นโชคดีของเราจิงๆ ไม่คิดว่าม่อนแจ่มในหน้าฝนจะสวยขนาดนี้ ลุย.....แชะภาพ

ถึงแล้วววววว "ม่อนแจ่ม"


อากาศที่ม่อนแจ่มช่างเย็นสบาย หมอกขาวเคลื่อนผ่านตัวเรื่อยๆ บวกกับต้นไม้สีเขียว กลิ่นดินหลังฝนตก มันช่างสดชื่นที่สุดละ

หลังจากถ่ายรูปเสร็จเราก็ขอไปเดินเล่นช้อปปิ้งกันหน่อย เราไปเจอนี่เลย ลูกท้อ

แม่ค้าชาวม้งบอกว่าลูกท้อมีไม่เยอะค่ะช่วงนี้เพราะปลูกละจะนำมาขายได้แค่ปีละครั้งส่วนใหญ่เลยตัดทิ้ง นำที่ไปปลูกผักชนิดอื่นที่มีอายุสั้นสามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปีมากกว่า ลูกท้อเลยมีไม่มากนัก ขายในกิโลละ 70 บาท แม่ค้าชาวม้งใจดีลดให้เรา เหลือโลละ 65 บาท เท่านั้น หุหุ จัดไป 2 โล ค่ะ รวมค่าเสียหาย 130บาท ขาดตัว ยังไม่จุใจเดินถ่ายถาพต่อ เราก็ไปเจอรถฟอมูล่าม้ง และเด็กน้อย น้องเค้าน่ารักมากมายเลยค่ะ ไม่รอช้าพี่ขอเล่นด้วยคนนะจ้ะ งานรักเด็กต้องมา555+

เดินเล่นถ่ายภาพเสร็จเราก็เดินทางต่อไปยังเชียงดาวทางไปเชียงดาวไม่ยากคะ รถมอเตอร์ไซด์ขี่ไปได้ ทางโค้งเล็กๆ

ป้ายบอกทางชัดเจนมากมุ่งสู่อำเภอเชียงดาว จุดหมายเราคือหมู่บ้านนาเลาใหม่ ซึ่งก่อนเข้าหมู่บ้านต้องเสียค่าทางผ่านเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า รถ1 คัน กับคน 2 คนค่าเสียหาย 70.- ทางเข้าแคบค่ะต้องขับอย่างระมัดระวัง ทางไปเจออุบัติเหตุ มีรถตกข้างทางคะ อาจเพราะถนนลื่นและไม่ชินทางใครขับรถไปช่วงหน้าฝนต้องระวังหน่อยจ้าา ถึงที่หมายแล้ว "บ้านลีซูโฮมสเตย์ ดอยหลวงเชียงดาว"


ถึงที่พักแล้วชอบจริงๆ บ้านลีซูโฮมสเตย์ มีเพียง 8 หลัง หันหน้าเข้า ดอยหลวงเชียงดาว มีหมอกโอบเขา ห้องพักพักได้ตั้งแต่ 1 คน จนถึง 4 คน โดยคิดค่าเสียหายเป็นรายคน คนละ 500.- เราสามารถแจ้งเจ้าของได้ค่ะ ว่าต้องการพักกี่คนต่อหลังค่ะ โดย 500.- จะรวมอาหารเย็น และอาหารเช้าของอีกวันค่ะ ที่พักไม่มีไฟฟ้า นะคะมีตะเกียงให้ ห้องน้ำสะอาดแต่ไม่มีเครื่องทำน้ำอุ่นสิ่งที่ต้องเตรียม ผ้าเช็ดตัวคะ เพราะที่โฮมสเตย์ไม่มีให้นะคะ อีกอย่างสัญญาณโทรศัพท์มีเพียงบางจุดเท่านั้นนะคะ ใครที่

อยากจองห้องพักสามารถติดต่อพี่ต้าร์ได้ค่ะ บริการดีมาก เบอร์โทร : 0917247536

พอเรามาถึงยังไม่ค่ำมากคะ เลยไปเดินเล่น หน้าปากซอยมีร้านค้าเล็กๆ ขายของใช้ทั่วไป เครื่องดื่ม ขนมกรุบกริบด้วยนะคะ ราคาบวกจากท้องตลาด 5- 10 บาทเท่านั้นค่ะ ร้านนี้มีขนมกรุบกรอบ เครื่องดื่ม ของใช้อีกเล็กน้อย

จากนั้นเราก็เดินต่อไปยังสถานที่ฮิตอีกที่ "ระเบียงดาว"ค่ะ วิวสวยเหมือนกัน แต่ค่อนข้างคนเยอะหน่อยคะ ที่นี้มีไฟให้ชาร์ตและเครื่องดื่มพร้อมขนมกรุบกรอบให้สั่งค่ะ บรรยากาศสวยไม่แพ้กัน

สัก 5 โมงเย็นเราก็เดินเล่นหาสัญญาณโทรศัพท์ พอพระอาทิตย์จะลับขอบฟ้าก็เริ่มหิวค่ะ ทางลีซูโฮมสเตย์ มีอาหารเย็นเมนูมีไข่เจียว น้ำพริก และต้มจืด อาหารดูธรรมดาแต่บรรยากาศริมระเบียง บวก ดอยหลวง และ หมอกด้านหน้านั้น ขอบอกว่าไม่ธรรมดา สมเป็นที่พักหลักร้อยวิวหลักล้านจริงๆค่ะ ใครอยากดื่มต้องสั่งเจ้าของนะคะ เพราะร้านค้าจะปิดตอน 6 โมงเย็น ใครอยากดืมต้องรีบตุนนะจ้ะ

พอเสร็จจากมื้อเย็น ฟ้าเริ่มมืด ไฟไม่มี อากาศเย็นใช้ได้เลยค่ะ ช่วงนี้หน้าฝนมีฝนตกเล็กน้อย ห่มผ้ากันสิค่ะหนาวใช้ได้เลยค่ะ........Zzzzzzzz

Day 2 :

เช้าละจ้า....ทางโฮมสเตย์มีอาหารเช้าเป็นข้าวต้มพร้อมกาแฟ และ โอวัลติน ไว้บริการแต่เช้าเลยจ้า หมอกหลังฝนตกตอนกลางคืนลอยโอบล้อมดอยหลวงเย็นสบายจิงๆ พี่ต้าร์เจ้าของโฮฒสเตย์บอกเราว่าช่วงนี้นักท่องเที่ยวมาพักน้อยถ้าช่วงหน้าหนาวจะเต็มหมด หน้าฝนจะไม่ค่อยเต็มแต่ถ้าฤดูร้อน โฮมสเตย์ปิดจ้าาา คนไม่ค่อยมากันแล้ว ที่เรามาช่วงนี้ถือว่าคนน้อยคะ เพราะเป็นหน้าฝน (แต่บรรยากาศมันร้ายนะคะ ฝนก็ฝนเหอะ)


ตอนเช้าเดินขึ้นมาจากที่พักจะเจอจุดนี้ ที่นิยมมาถ่ายรูปกัน แดดยามเช้าพร้อมหมอกขาว ข้างบนนี้ก็มีที่พักนะคะ สวยไม่ต่างกันเจ้า วิวดอยหลวง

หลังจากทานอาหารเช้าเราก็เริ่มเดินทางต่อเลยค่ะ วันที่ 19 บังเอิญเป็นวันพระเราเลยแวะทำบุญโรงศพ ไหว้พระ เติมตะเกียงน้ำมัน ที่ "วัดจอมคีรี" ซึ่งเป็นวัดที่อยู่ระหว่างทางเดินทางกลับจาดอำเภอเชียงดาว เข้าวัดทำบุญ สาธุ......



เริ่มหิวแล้วสิคะ เอาๆๆๆเดินทางต่อๆๆ หาเอาข้างหน้าเจอแล้วๆๆ ร้าน "กาแฟฮิมน้ำ" ฮิมภาษาเหนือแปลว่า ริมค่ะ หมายถึง กาแฟริมน้ำเจ้า ร้านนี้มีอาหารและเครื่องดื่มหลากหลายมาก เราหิวจัด สั่งอาหารที่คุ้นเคยส้มตำ พร้อมสตรอเบอรี่สมูทตี้ๆๆๆๆ กับช็อคโกแลต ไอศครีมแบบที่เราชอบ อร่อยจ้า มิผิดหวังๆๆๆๆ



อิ่มแล้ว เดินทางต่อได้ เราเดินทางไปอีกหนึ่งวัดค่ะ ไปกราบพระกัน วัดแห่งนี้มีความสวยงามมากมายค่ะ ต้องห้ามพลาดนะคะ สวยจิงๆ แต่ก็ร้อนด้วยเช่นกันแหะๆๆแต่เรายังคงบ่อยั้นคะ....ลุย "วัดบ้านบ้านเด่น อ.แม่แตง" เชียงใหม่เจ้า




ไหว้พระเสร็จแล้วถึงเวลาเดินทางกลับสู่ลำปางหนาาาาา ระหว่างทางกลับมาเราผ่านแยกสารภี คิดถึงร้านก๊วยเตี๋ยวเจ้าหนึ่งค่ะ ร้านธรรมดา รสชาติไม่ธรรมดาอีกแล้ว ร้านป้าพร เรียบรถไฟแยกสารภี มาจากเชียงใหม่มุ่งหน้ากลับลำปาง เจอแยกสารภีจะเลี้ยวขวานะคะ ต้องข้ามทางรถไฟ ร้านจะอยู่เรียบทางรถไฟ ไม่รอช้าเราสั่งเมนู หมี่เหลืองแห้งต้มยำ อร่อยมากขอบอกๆๆๆ สงวนราคาอยู่ที่ชามละ 30.- อร่อยและถูก ต้องบอกต่อ อีกแล้วครับท่าน

เดินทาง เดินทาง แวะอีกๆๆ อีกอย่างที่ห้ามพลาดไม่ได้กับทริปนี้ค่ะ ตลาดแม่ทา ตลาดนี้จะอยู่ระหว่างจังหวัดเชียงใหม่กับลำปางค่ะ ซึ่งอยู่ในเขตลำพูนนั้นเอง เป็นตลาดที่ขายของป่า พืชผัก หลายชนิด ใครอยากลองของแปลกที่นี้มีให้ลองแน่นอนจ้ะ

อันนี้รังต่อ เออออ ยังไม่เคยลอง รังผึ้งพี่พอไหว เมนูนี้ขอข้ามก่อนนะ

ด้วงมะพร้าว งุงิ

เห็ดยอดนิยมที่ทุกคนต้องลอง ขอบอกว่าเราชอบมากมาย เห็ดถอบ แค่ต้มใส่เกลือ แค่คิดก็รู้สึกถึงตอนกัดกรอบกรุบกรุบ อร่อยอย่าบอกใครเชียว

หลังจากช้อปปิ้งที่ตลาดแม่ทา ซึ่งได้ทั้ง เห็ด รังผึ้ง และผลไม้เราก็เดินทางกลับบ้านเมืองรถม้าของเรา วันนี้เป็นวันอาทิตย์แน่นอนค่ะ เราดิ่งตรงสูู่ถนนคนเดินกาดกองต้า แต่งานนี้ไม่เน้นถ่ายภาพบรรยากาศนะคะ ความหิวล้วนๆ อยากคะๆลูกชิ้นเขียง ไม่รอช้าเรื่องกินเรื่องใหญ่ แต่ถ้ามาลำปางเสาร์อาทิตย์ แนะนำให้มาเดินถนนคนเดินกาดกองต้ากัน เพราะนอกจากจะมีอาหาร ของขาย ให้เลือกหลากหลาย ทุกท่านจะได้เห็นบรรยากาศบ้านเก่า ซึ่งเป็นชุมชนที่ยังคงความสวยงามอยู่


พอเสร็จจากลูกชิ้นเขียงไม้ละ 10.- เราก็หันหลังไปพบกับขนมที่คล้ายขนมถ้วย มี 4 สี แต่เค้าเรียกกันว่า ขนมข้าวปั้นโบราณ ขายถ้วยละ 4.- ต้องกินกับน้ำอ้อยผสมหมูสับ กระเทียมเจียว แล้วก็หัวไชโป๊ะ โรยด้วยพริกไทย รสชาติอร่อยใช่ได้แต่ต้องใส่น้ำจิ้มเยอะๆนะคะ เพราะขนมค่อนข้างจืด ซึ่งขนมข้าวปั้นโบราณที่ขายจะมีเพียง 4 สีค่ะ คือสีม่วง สีขาว สีเหลือง ละก้อออกสีส้มค่ะ ชอบสีไหนเลือกเลยเจ้า



ในที่สุดก็ปิดทริป เอิงเอย แบบฉบับตะตอนยอน ทั้งเที่ยวทั้งกิน ค่าเสียหายทั้งหมดในทริปตกอยู่ที่ 1,632 บาท รวมค่าน้ำมันแล้ว ทริปสั้นๆ กินอิ่มนอนอุ่น หน้าฝนต้องมานะคะ......... #กินเที่ยวเฟี้ยวด้วยกัน #เอิงเอยทริป

ส่วนคนที่อยู่ไกลรับรองการมาเที่ยวเชียงใหม่ไม่ใช่เรื่องยาก เดินทางสะดวก เครื่องบิน รถยนต์ รถไฟ จัดตารางจองตั๋วมาได้เลยส่วนม่อนแจ่ม เชียงดาว ก็มีรถพาไปถึงที่เลยเจ้า รถรับส่งเยอะมาก ไม่ต้องห่วงค่ะ คนเหนือใจดียินดีต้อนรับเจ้า ^_^

ความคิดเห็น