กริ๊งงงงงงงง......
ฮาโหล........
เพื่อน : แกแก ฉันจะไปเที่ยวเหนือนะ
ดิฉัน : วันไหนแก เสาร์ ทิตย์ ฉันว่าง ฉันอยากไปป่าบงเปียง สนมะแก
เพื่อน : ไปสิค่ะ รออะไรหละ แก
ดิฉัน : เรื่องเที่ยวนี่พูดง่ายจริ๊งงง แม่คุณ ปะไปกัน
การเดินทางของฉันและเธอคือการเรียนรู้ ^_^ เมื่อใจจะไปก็ต้องไป
มาอีกแล้วทริปเสาร์ อาทิตย์ เมื่อเพื่อนอยากเที่ยว เราก็ต้องจัดให้ เกิดจากความอยากเที่ยวเมืองเหนือของเพื่อนที่เดินทางมาจาก กทม. เราเลยจัดทริปนี้ขึ้นมา เรียกได้ว่าเป็นทริปของการปิคนิคเลยก็ว่าได้ ทำไมถึงเป็นทริปปิคนิคหนะหรอ ต้องติดตามไปดูกันว่าเกิดไรขึ้นบ้าง ตามมาดูกันค่ะ..................
< Day 1 >
วันแรกเรานัดเจอกันที่ เชียงใหม่ โดยมีสมาชิกร่วมเดินทางทั้งหมด 6 คน ต้องบอกก่อนว่าต้องใช้รถโฟร์วิลขับขึ้นไปเพราะทางค่อนข้างลำบากพอสมควร พวกเราออกเดินทางจากตัวเมืองเชียงใหม่ ตั้งแต่ 9 โมงเช้า การเดินทางถ้าไม่แวะไหนจะใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงก็ถึง เส้นทางเดียวกับไปดอยอินทนนท์เลยค่ะ
แต่...... ทางผ่าน เราไปเส้น อำเภอจอมทอง เราไปแวะร้านนี้เลยค่ะ
ร้านต้นไม้ (Side Lake Pizzeria) พิซซ่าต้นไม้ หรือ สามารถโทรสอบถามได้ที่เบอร์นี้เลยค่ะ 086 022 7471 หรือสามารถตามพิกัดในเพจร้าน PizzA พิซซ่าต้นไม้ อ.จอมทอง เชียงใหม่ รับรองถึงแน่นอน ของอร่อยรอเราอยู่
เมนูเยอะแยะมากมาย ไม่ต้องกลัวว่าจะเลือกไม่ถูกนะคะ พี่เจ้าของใจดีมากแนะนำทุกอย่าง วัตถุดิบก็รังสรรค์จากใจเลยคะ พี่เค้าบอกว่าเค้าใช้วัตถุดิบทุกอย่างที่ดีต่อสุขภาพด้วยนะเออ ไม่รีรอ เราก็จัดตามคำแนะนำพี่เค้าเลยคะ หนูเชื่อพี่คะ จัดมา 5555
เราจำชื่อเมนูไม่ได้นะ แต่พี่เค้าแนะนำมาก็โดนๆอยู่ อร่อยคะ อิ่มแล้วเราก็ต้องเดินทางต่อกันแล้วสินะ
มุ่งตรงทางเดียวไปกับดอยอินทนนท์นะคะ
หรือลองตามพิกัดไปนะคะ https://www.google.co.th/maps/place/%E0%B8%9A%E0%B...
ขอบคุณภาพ แผนที่นาขั้นบันได เชียงใหม่
จากร้านพิซซ่าจะอยู่ที่อำเภอจอมทอง ละเราก็เดินทางไปทางดอยอินทนนท์ จะมีทางเบี่ยงซ้ายไปหมู่บ้านป่าบงเปียงคะ
อ้อออออออ ลืมบอกไปใครที่จะไปพักควรจองที่พักล่วงหน้านะคะ เพราะที่พักมีไม่เยอะ ชาวบ้านจะเป็นเจ้าของ จัดการ โฮมสเตย์กันเอง 1 ครอบครัว จะดูแลได้เพียง 1 โฮมสเตย์ เท่านั้น ดังนั้น ที่พักเลยมีไม่เยอะมากคะ
เราโชคดีมาก เราโทรไปมาฉิโพ โฮมสเตย์ แต่ทว่ามีคนจองแล้ว แต่เดชะบุญ พี่ชายพี่วิชัย (เจ้าของ มาฉิโพ โฮมสเตย์) ยังว่างอีก1 หลัง เสร็จเราสิคะ
แต่ก่อนจะไปดูที่พัก ทางไปที่พักเนียะ แสบอยู่เหมือนกัน เห็นคนขับเรียก ทางหนังหมู เราไม่รู้หรอก แต่ แอบเสียว
ส่วนถ้าใครไม่มีรถก็สามารถเหมานั่งรถจากเมืองเชียงใหม่ไปได้นะคะ หรือเช่ามอเตอร์ไซด์ขี่ได้คะ แต่ถ้าใครขี่มอเตอร์ไซด์ไม่คล่องแนะนำนั่งรถหรือขับรถมาจอดตรงจุดจอดรถปากทางเข้าหมู่บ้าน แล้วตอนจะเข้าหมู่บ้านจะต้องให้รถของหมู่บ้านมารับอีกที เพราะทางเค้า อย่างที่เห็นคะ เสียวเป็นระยะ รถเล็กเข้าไม่ได้นะคะ
ทางจะเป็นแบบนี้ตลอดเส้นทางเลยคะ ช่วงนี้มีฝนด้วย พอเข้าไปสักพักด้วยความหวาดเสียว ทุกคนอยู่ในความสงบแล้วนั้น ในที่สุดเราก็มาถึงบ้านป่าบงเปียง พอเจอแยกป้าย เราจะเลี้ยวขวานะคะ ไม่ตรงเข้าหมู่บ้าน ขวาไปที่พักกัน
ในที่สุดก็มาถึงบอกเลยไม่ผิดหวัง แทบกรี๊ดดดด คือดีงาม บรรยากาศ นาข้าว มันต้องแบบนี้สิ
บ้านพักของเราาาาา เย้ๆๆๆๆๆ ชอบจัง ฉันถูกใจ ใครอยากมาพักนะคะ ติดต่อตามเบอร์นี้เลยคะ
บ้านพักม่อนนา ลุงศิลป์ น่าฮักขนาดหนาเจ้า
ด้วยความเป็นชะนีที่ เน้นเรื่องห้องน้ำก็ลุ้นว่าจะเป็นไงน้อออ พอไปสำรวจ โอโห้ ดีนะสะอาด น้ำเย็นสดชื่อสุดๆ แต่ขอเน้นว่าให้รีบอาบเพราะ ที่นี้ ไม่มีไฟนะคะ มืดเร็ว ที่พักจะมีเทียนให้ อ้อ ส่วนราคาที่นี้ คิดหัวละ 500.- รวมอาหารเย็น กับ อาหารเช้า
แต่สิ่งที่เด็ดคือ เราเตรียมกับข้าวมากันเอง คนละนิดคนละหน่อย แถมมีปิ้งย่าง มันได้ที่สุดละกับบรรยากาศ เช่นนี้
สิ่งที่เกิดขึ้นคือ ไปเรื่อยเมนูก็เกิดขึ้น ผสมทุกอย่างได้อย่างลงตัว (รึเปล่า)
เมนูยำแหนม แกล้มปลาเส้น
เมนูสามชั้น ทอดกรอบ
งานเสียบไม้ปิ้ง-ย่างก็มา งานลูกเสือก็มี ดังไฟคะ (การจุดเตาไฟ คนเหนือเค้า เรียกดังไฟ เจ้า) เตาทางที่พักมีให้ยืมคะ แต่ต้องบอกคุณลุงก่อนนะ คุณลุงจัดให้ แต่ต้องซื้อถ่าน กับ ไม้มาเองนะจ้ะ ระหว่างทางร้านค้ามีเยอะแยะ หาไม่ยากคะ
เรามาดูหน้าตาพ่อครัว แม่ครัวกัน ขนาดต้มแซ่บนางยังสามารถ พกไปด้วยไม่อดแน่นอน
ทุกคนทำกับข้าว ส่วนเรารึ สิ่งที่เหมาะสมกับผู้หญิงอย่างเราที่สุด คือเตรียมเครื่องดื่ม หุหุ มันใช่ทางเราสินะ
ระหว่างรอทานข้าวเย็น เรารออาหารคุณลุงด้วยคะ คุณลุงจะเอามาให้ช่วง5-6 โมง เราก็ไม่รีรอหยิบกล้องมือถือ กล้องถ่ายรูปไปดื่มด่ำกับท้องทุ่งนา ขอให้ภาพเล่าเรื่องเลยคะ มันได้อะ ฟินเกิ๊นนนนจะบรรยาย จริ๊งนะไม่ได้โม้ๆๆๆๆ
เดินไปถ่ายรูปไกลพอควร จะตกคันนาก็หลายรอบ ท้องร้องแล้วสินะ
hello!!! คุณลุงมาส่งข้าวพอดีเลย ลงมือ หิ๊วววว หิวว
เมนูเด็ดจากคุณลุง น้ำพริกกะเกรี่ยงอร่อยนะเออ ไข่เจียว หมูทอด ผักนึ่ง บวกกับอาหารเมนูเราทำเอง แน่นเลยคุณท้อง
ปิ้ง-ย่าง ก็เสร็จแล้ว โชคดีจริงๆ พกคนทำครัวมาด้วย5555 สบายท้อง
พอหลัง 6 โมงก็เริ่มมืดแล้วหละคะ จุดเทียน ล้อมวงสนทนา มันคือความลงตัวที่บอกเลยว่าคุ้มค่าของพวกเรา การได้อยู่กับเพื่อน ทำกับข้าวทานกัน มีธรรมชาติที่ยังคงเป็นธรรมชาติ คุยกันเรื่องสนุก เรื่องชีวิตของแต่ละคน อยู่ในโลกที่ไม่มีการแย่งชิง นี่แหระคือการพักผ่อนเพื่อเติมพลังที่ดีที่สุดของพวกเรา
แสงเทียนดับ ทุกอย่างมืดสนิท มีแต่เสียงฝนที่กำลังตกลงมา
นี้แหระธรรมชาติบำบัดโดยแท้ พักผ่อน ชาร์ตพลังกัน ZZzzzzzz....
< Day 2 >
สวัสดีเช้าวันอาทิตย์ เช้าที่มีฝนตกโปรยปราย
คนอะไรก็ไม่รู้ ตื่นมา หิวเลย ยังเช้าอยู่คุณลุงยังไม่มาส่งข้าว เลยสะกิดเพื่อนไปหาอะไรกินก่อน
คุณลุงเคยบอกว่าที่หมู่บ้านมีมาม่า มีไข่ ขนม ขาย เราเลยขอเดินไปอุดหนุนสะหน่อย
ดู ดู ทางเดินหลังฝนตก ช่างเป็นใจกับความหิวของเราสะเหลือเกิน เรื่องกินเรื่องใหญ่ ทางแค่นี้ห้ามเรามิได้คะ
ราคาก็ไม่แพงมากนะคะ อุดหนุนกันหน่อยคุณยายขายเองเลยนะ
ไหนไหนก็เข้ามาในหมู่บ้านละ เราก็ขอเดินเล่นสักหน่อย หมู่บ้านเป็นชุมชนเล็กๆ มีไม่กี่ครัวเรือนคะ ยังคงวิถีชาวกะเหรี่ยงปกาเกอะญอ ให้เราเห็นแล้วอมยิ้มอยู่
จัดมาม่าสะหน่อย สักพักคุณลุงก็เอากาแฟ โอวัลติน พร้อมอาหารเช้า มาให้เราคะ
ปลาทู ไข่เจียว แกงฟักทอง พร้อมหมูปิ้งที่เราเหลือจากตอนดึก
เมนูสารพัดนึกก็เกิดขึ้นอีกแล้ว ไข่ลวกอะโวคาโด อร่อยอะ ชอบจัง
พอทานเสร็จเราก็รีบเก็บของเดินทางต่อคะ แถวบ้านป่าบงเปียงมีที่เที่ยวเยอะนะคะ เราตกลงว่าจะไปแวะถ่ายรูปดอยอิทนนท์สะหน่อยละค่อยไปต่อ ฝนกำลังตกเลย หมอกต้องเยอะแน่ๆ จากปากทางหมู่บ้านไปก็ไม่กี่กิโลคะ 10 กิโล โดยประมาณนะคะ ไม่ไกลคะ
หมอกลงตามคาดคะ ส่วนทางขึ้นดอย ไม่ลำบากนะคะ เราไปเจอรถเหลือง น่าจะมีคนเหมาขึ้นมา ใครอยากขึ้นมาสามารถนั่งรถเหลืองได้นะคะ
ลองโทรสอบถามทางกันนะคะ 089-554-7826 จอมทอง-อินทนนท์
ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ เราไม่เมื่อย เราไม่เหนื่อย
วันนี้ฝนตกคะ หมอกแน่นมาก อากาศเย็นเลย แต่เราชอบนะ กำลังเย็นสบายเลย
ถึงจุดที่ต้องเดินขึ้นไปชมวิวกัน ถ่ายรูปรัวรัวกันไป ยิ้มกว้างงงงงงง กว้างงงง กดรัว รัว
ทางเดินชมธรรมชาติก็สวยตลอดทางเลยคะ เดินไปจนสุดทางจะเจอกับจุดพักที่มีข้อมูลให้อ่าน ถ้าใครอยากรู้เกี่ยวกับดอยอินทนนท์ก็สามารถอ่านข้อมูลจากที่นี้ได้เลยจ้า
ใครอยากซื้อของที่ระลึก อยากทานกาแฟบนดอยมีจุดบริการนะคะ แหะๆไม่อดอีกแล้ว
อิ่มกับการถ่ายรูปเราก็ออกเดินทางต่อ เราคุยกันว่าจะไปหาอะไรทานที่จอมทอง แล้วก็จบทริปที่ ลำพูน ก่อนจะแยกย้าย
แต่ก่อนอื่นต้องหาไรทานก่อน ขับรถไปจอมทอง สะดุดร้านนี้เลยคะ มีกะลาทั้งร้าน ภาชนะก็ใช้กะลาทั้งหมด มีอาหารหลากหลายอยู่คะ ข้าวซอย ส้มตำ ใครแวะไปลองไปดูนะคะ ร้านข้าวซอยกะโหล้ง อำเภจอมทอง
ตามพิกัดนี้ได้เลยคะ https://wego.here.com/p/e-eyJuYW1lIjoiXHUwZTAyXHUw...
อิ่มแล้ว เราก็จะไปปิดทริปที่ลำพูน
พลาดไม่ได้สำหรับ วัดพระธาตุหริภัญชัย ถือว่าเป็นวัดที่ใครมาแวะลำพูนต้องมาไหว้พระธาตุแห่งนี้ ถ้าไม่มาไหว้คงเหมือนมาไม่ถึงลำพูนแน่นอน
พอเดินออกไปบริเวณหน้าวัดต้องสะดุดกับร้านนี้คะ เฉาก๊วยมุกดา สะดุดตรงเฉาก๊วยอร่อยที่สุดในเมืองมนุษย์เนียะแหระคะ แหมะแค่อ่านป้ายก็อยากลองละ ราคาไม่แพงด้วยนะเออ 20 บาท ใช้ได้ๆ 555+
มีอีกที่ที่เราอยากไป พอดีเพื่อนเราคนลำพูนแนะนำร้านนั่งน่ารัก น่ารัก ร้านโรงชา คะ มีชาหลากหลายรสชาติ ขนม เครื่องดื่ม บรรยากาศน่ารักเชียวคะ ไม่ไกลจากวัดมากนัก เมนูอาหารก็มีเยอะ มีขนมปังพิซซ่า เยอะจริงๆ ร้านเล็กๆ แต่คุณภาพแน่น มีชาทุเรียน ชามะม่วง ชารีแองเจิล ก็ยังมี ใครอยากรู้รสชาติต้องไปลองนะเอออ เลือกไม่ถูกเลยทีเดียว
http://www.facebook.com/rongchaa ใครอยากลองไปตามพิกัดในเพจนี้ได้เลยค่ะ
เห้อออออ หมดเวลาสนุกแล้วสิ อยากอยู่ต่ออีกสัก 3 วัน เอาไว้งานหน้าละกัน(คิดในใจ) แต่แค่นี้ก็ฟินละ 2 วัน 1 คืน เต็มอิ่มได้ ชาร์ตพลังงานได้เยอะเลย ปะก่อนแยกย้าย กินกันนนนนนน
หมดเวลาลัลลาแล้วสิ แยกย้ายจริง จริงละนะ
อ้อ ฝากอีกหน่อย ใครไปป่าบงเปียงช่วง กันยา-ตุลา ทุ่งนาจะยังเป็นสีเขียว
แต่ถ้าไปช่วง พฤศจิกา-ธันวา ราวๆนี้นาจะเป็นสีเหลืองทองละคะ
เดี๋ยวค่อยหาเรื่องไปเที่ยวกันใหม่ ขอบคุณมิตรภาพของเพื่อนร่วมทาง กิจกรรมที่เกิด หมู่บ้านป่าบงเปียง คุณลุงวิชัย ลุงศิลป์
แล้วเราจะพบกันอีกกับ เอิงเอยออนทัวร์.........เอิง เอย เอิง เอย บ๊าย บาย บ๊าย บาย
ครูขาพาทัวร์
วันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 02.11 น.