รีวิวสุพรรณบุรี กินเที่ยวนอน 2 วัน 1 คืน | สุพรรณบุรี

วันหยุดเสาร์ - อาทตย์ ก็หาที่เที่ยวใกล้ๆ แบบไม่ต้องเดินทางนานๆ แต่เอาจริงเราก็ไม่เคยไปเที่ยวที่สุพรรณแบบจริงๆ จังๆ เลย พอลองหาข้อมูลจังหวัดสุพรรณบุรีก็มีที่เที่ยวเอยะอยู่เหมือนกันนะ แต่รอบนี้เราอาจจะพาไปไม่หมด

เริ่มกันที่เราเดินทางออกจากกรุงเทพตอนเช้าๆ เนื่องจากเราขี่มอเตอร์ไซค์ไป ออกเดินทางเช้าๆ จะได้ไม่ร้อนมาก เราใช้เวลาเดินทางประมาณชั่วโมงกว่าๆ ก็มาถึงสุพรรณบุรี เราแวะทานข้าวเช้ากันที่ร้าน " ร้านป้าเหลว ก๋วยเตี๋ยวเป็ด (เจ้าเก่า) " เป็นร้านที่เราเจอโดยบังเอิญตอนติดไฟแดงตรงแยกรพ.ศรีประจันต์ เลยคุยกันว่าแวะกินเลยหิวแล้ว 😊 

เข้ามาก็เซอร์ไพส์มากเราดูป้ายเมนูและราคา ราคาคือถูกมากชามละ 35 บาทเอง เราเลยสั่งมาทั้งก๋วยเตี๋ยวเป็ด เกาเหล้าเป็ด แล้วก็ข้าวกะเพราเป็ด

ก๋วยเตี๋ยวก็ดี น้ำซุปกลมกล่อม หวานกำลังดีส่วนข้าวกะเพรา ก็อร่อย เผ็ดกำลังดี ถึงเครื่องกะเพรา เราสั่งเพิ่มไข่ดาว เป็นไข่เป็ดด้วย ไข่แดงนี่เต็มปากเต็มคำมากมากเลย

อิ่มแล้วก็เดินทางกันต่อ เราไปกันต่อที่ " ตลาดสามชุก 100 ปี " เป็นครั้งแรกเลยที่เรามาเที่ยวที่นี่ แต่เป็นจุดเช็คอินที่ใครๆ ที่มาสุพรรณบุรี ก็จะนึกถึงตลาดสามชุก ซึ่งตลาดสามชุกเป็นตลาดร้อยปีที่อยู่คู่กับสุพรรณบุรีมาอย่างยาวนาน บรรยากาศวิถีชุมชน บ้านเรือเก่าแก่ มีของกินเยอะแยะมากมาย ทั้งของคาวของหวาน เรามาถึงกันเช้ามาก บางร้านก็ยังไม่เปิด เราเดินซื้อของกินเล่นกันเล็กน้อย

เดินเล่นกันเสร็จเราก็เดินทางกันต่อมาที่ อ.เดิมบางนางบวช โดยเราจะไปเข้าที่พักไปเช็คอินกันก่อน ที่พักของเราในคืนนี้ " ท่าจีนริเวอร์โฮม บ้านหุ่นไล่กา " เป็นที่พักริมแม่น้ำ ที่ให้ความรู้สึกเหมือนมานอนบ้านสวน ตกแต่งเป็นสไตล์ Cottage Farmhome 

ที่พักของที่นี่มีความน่ารักตรงที่บ้านแต่ละหลังจะมีชื่อเรียกเป็นสัตว์ แล้วก็มีการตกแต่งภายในบ้านตามชื่อบ้านด้วย บ้านที่เราพักคืนนี้เป็น " บ้านวัว " ในบ้านก็จะเต็มไปด้วยของตกแต่งที่เป็นน้องวัวทั้งห้องเลย น่ารักสุดๆ ไปเลย ภายในมีต้นไม้เยอะทำให้ร่มรื่นเหหมาะกับการพักผ่อนสุดๆ

เก็บของกันเสร็จแล้วก็ออกไปเที่ยวแถวๆ นี้กันต่อ จากที่ดู map ที่พักเราใกล้กับ " บึงฉวากเฉลิมพระเกียรติ " เลยสตาร์ทรถออกเลย บึงฉวากอยู่ใกล้ที่พักมาก ใช้เวลาเดินทางแค่ 10 นาทีเอง เรามาถึงก็เข้าไปซื้อตั๋วค่าเข้ากันก่อน ค่าเข้าสำหรับผู้ใหญ่คนละ 30 บาทเอง

ซึ่งภายในบึงฉวากมีอาคารจัดแสดงพันธุ์สัตว์น้ำทั้งหมด 3 อาคาร ตั๋วที่เราซื้อนี้สามารถเข้าไป 2 อาคาร มีแสดงทั้งพันธุ์สัตว์น้ำจืดและพันธุ์สัตว์น้ำเค็ม

ส่วนอาคารหลังที่ 3 จะเป็นอาคารสถานแสดงพันธุ์สัตว์น้ำที่มีอุโมงค์ปลาแนวเฉียงที่ลึกที่สุดในประเทศไทย อุโมงค์ปลาฉลามที่กว้างที่สุดในเอเชีย และ มี Lemon Shark ที่เดียวในประเทศไทย จุดนี้จะต้องซื้อตั๋วเข้าชมเพิ่มอีกคนละ 150 บาท แต่น่าเสียดายที่เราไม่ได้เข้าไปตรงจุดนี้

ไฮไลท์วันนี้เรามาดูแสดงโชว์จระเข้กัน โชว์นี้จะมีแค่วันเสาร์ อาทิตย์เท่านั้น จัดแสดงวันละ 3 รอบ ใครมาเที่ยวอย่าลืมไปนั่งดูโชว์กันนะ

หลังจากที่เราเดินในบึงฉวากเสร็จ ก็ได้เวลามื้อเย็น วันนี้เราไปทานมื้อเย็นกันที่ " ร้านเจ๊เน้ย กุ้งเป็น " ย้อนกลับไปทางตลาดสามชุก ห่างจากบึงฉวากประมาณะ 20 นาที

เข้ามาถึงร้านก็สั่งกันไม่ยั้งเหมือนเดิม รอไม่นานอาหารก็มาวางเต็มโต๊ะอีกแล้ว ☺️ มาสุพรรณต้องได้กินกุ้งเผา เราเลยจัดมาครึ่งโล กุ้งจะมีหลายไซส์ให้เลือกด้วยนะ วันนี้เราสั่งเป็นไซส์กลางมา แล้วก็มีผัดผักกุ้ง แกงส้มชะอมปลาช่อนทอด แกงคั่วหอยขม อาหารรสชาติดีทุกอย่างเลย

หลังจากทานมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้วเราก็กลับที่พักกัน วันนี้เที่ยวมาทั้งวัน ต้องขอตัวไปพักผ่อนแล้ว เจอกันอีกทีพรุ่งนี้เช้าเลยเนาะ 😴


อรุณสวัสดิ์ยามเช้า เริ่มต้นกันที่มื้อเช้าของทางรีสอร์ทเลย เช้านี้เรามานั่งทานอาหารเช้ากันที่ริมน้ำ บรรยากาศดีมาก มื้อเช้าของที่นี่เป็นเซต Breakfast ให้เลือกได้คนละ 1 เมนู เราเลือกมาเป็นไข่ข้น กับไข่กระทะ แล้วก็มีพวกข้าวต้ม สลัด ขนมปังไว้บริการเพิ่มอีก

ทานมื้อเช้าเสร็จเราก็นั่งชิลกันต่ออีกพักนึง ชิลเสร็จก็ไปเก็บของ เก็บของเสร็จแล้วเราก็แวะไปนั่งคาเฟ่ในรีสอร์ทกันต่อสักหน่อยก่อนเดินทางกลับ " บ้านหุ่นไล่กา " ร้านเล็กๆ ตกแต่งด้วยตุ๊กตาเต็มไปหมด ส่วนเครื่องดื่มก็อร่อย

ป่ะได้เวลากลับแล้ว เดินทางกลับกันดีกว่า แต่เราจะยังไม่กลับกรุงเทพเพราะเรานัดรุ่นพี่ไปเที่ยวกันต่อที่ชัยนาท จริงๆ เรานัดไปนั่งเล่นกันที่คาเฟ่ แต่ก่อนที่จะเข้าไปคาเฟ่ เราไปขี่รถเล่นกันก่อนที่ " อ.สรรพยา " อำเภอเล็กๆ ติดแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นชุมชนเก่าแก่และมีที่เที่ยวน่าสนใจ เช่น ชุมชนเก่าสรรพยา โรงพักเก่าสรรพยา ยังมีที่อื่นๆ ด้วยนะ แต่น่าเสียดายที่ในตัวชุมชนเก่าเพิ่งผ่านการน้ำท่วมใหญ่มา ทำให้ยังไม่ฟื้นฟูกลัยมา แต่อยากให้ฟื้นฟูกลับมาเร็วๆ นะ เราอยากกลับมาเที่ยวอีก

วนรถถ่ายรูปเสร็จก็เดินทางต่อ เราแวะไปทานมื้อเที่ยงกันก่อนที่แถวๆ สวนนกชัยนาท เป็นร้านก๋วยเตี๋ยวเนื้อ " เนื้อตุ๋นนายโอ " อยู่ตรงข้ามกันสวนนกชัยนาท

เสร็จจากก๋วยเตี๋ยวเนื้อ ก็ไปต่อกันที่คาเฟ่ " Sunset café "

เป็นคาเฟ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ตกแต่งสไตล์อินดัสเทรียลแบบเท่ๆ มีรถมอเตอร์ไซต์เป็นพรอพสุดเก๋ตั้งโชว์หลายมุมเลย

นั่งคุยกันจนเย็น รุ่นพี่ก็ชวนไปขี่รถเล่นที่เขื่อนเจ้าพระยา มาถึงก็ขี่รถถ่ายรูปกันจนพระอาทิตย์ตกกันไปเลย จะบอกว่ามุมพระอาทิตย์ตกบนสันเขื่อนคือดีงามมาก เป็นการจบวันที่ดีจังเลย แล้วก็ได้เวลากลับบ้านสักที เป็นอันจบทริป สุพรรณบุรี 2 วัน 1 คืนของพวกเรา


ติดตามและเป็นกำลังใจให้เราได้ที่
Facebook : เที่ยวแบบเรา : Once-a-month
Instagram : onceamonth.travel

เที่ยวแบบเรา : Once-a-month

 วันพุธที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 14.33 น.

ความคิดเห็น