ช่วงเดือนพฤศจิกายนของทุกปีเป็นช่วงที่ดอกทานตะวันที่จังหวัดลพบุรีบาน เราชอบดอกทานตะวันมากและเราก็ไม่พลาดที่จะไปเก็บภาพถ่ายไว้ค่ะ โดยบริเวรที่มีไร่ทานตะวันจำนวนมาก คือ เขาจีนแล ตั้งอยู่ในตำบลนิคมสร้างตนเอง อำเภอเมืองลพบุรี จังหวัดลพบุรี ด้วยความที่เราไม่มีรถยนต์ส่วนตัว ครั้งนี้เราจึงเดินทางไปด้วยรถไฟและไปเช่ามอเตอร์ไซค์ขับค่ะ แผนที่บริเวณทุ่งทานตะวันที่เราสามารถไปท่องเที่ยวได้นะคะ (ขอบคุณภาพแผนที่จากเพจ ทุ่งทางตะวันเขาจีนแลลพบุรี ด้วยนะคะ)
เรานั่ง MRT มาต่อรถไฟที่สถานีกลางบางซื่อนะคะ รถไฟที่ผ่านลพบุรีมีหลายเที่ยวมากค่ะ เลือกเวลาที่เราสะดวกเดินทางได้เลย
ซื้อตั๋วขึ้นรถไฟกันเลยค่ะนั่งชมวิวเพลินๆไปประมาณ 3 ชั่วโมงก็ถึงลพบุรีแล้ว
พอถึงลพบุรี เราก็เดินไปเช่ารถมอเตอร์ไซค์ที่ร้าน Noom's สังเกตุซอยเข้าร้านมี 7-11 อยู่ ค่าเช่ามอเตอร์ไซค์วันละ 300 มีมัดจำ 2000 บาทได้คืนเมื่อเอารถมาคืนค่ะ หากเกินเวลาคิดชั่วโมงละ 100 บาท
พอได้รถแล้วเราก็ขับชมเมืองลพบุรี 1 รอบถ่ายรูปพระปรางค์สามยอดและน้องลิง
จากนั้นก็ไปกินผัดไทยเจ้าดังค่ะ "ผัดไทยบุรี" ผัดไทยอร่อยมากราคาไม่แพงเลย มีของกินอย่างอื่นอีกเยอะมากนะคะ แนะนำถ้าใครไปลพบุรีให้ไปลองผัดไทยร้านนี้เลยค่ะ
ผัดไทยนำ้พริกแคบหมูเด็ดมาก
ผัดไทยบุรีซิกเนเจอร์อร่อยแสงออกปาก
อิ่มท้องแล้วเราต้องไปหาที่หลับนอนค่ะ สายชิลอย่างเราต้องนอนเต็นท์เท่านั้น อิอิ จริงๆแล้วคือประหยัดตังค์ค่ะ ฮ่าๆๆๆ เราไปกางเต็นท์กันที่ไร่จำรัส ซึ่งห่างจากตัวเมืองลพบุรีประมาณ 30+ km. บรรยากาศลานกางเต็นท์ดีมาก เงียบสงบ มีไร่ทานตะวันด้วยนะกำลังบานสวยเลย ค่ากางเต็นท์คนละ 100 บาท มีห้องน้ำ 1 ห้อง และมีไฟฟ้าให้ด้วยนะ เจ้าของน่ารักมากกกก (เบอร์ติดต่อ 089-8135361) ตอนเย็นก็สั่งหมูกะทะมาทานได้ค่ะ ส่งถึงที่ และได้เยอะมากอย่างวู่วามสั่งเยอะเชียวนะ
บริเวรกางเต็นท์ ร่มรื่นมากเหมาะแก่การพักผ่อน
มีไร่ทานตะวันเล็กๆ 1 แปลงด้วยนะ
กางเต็นท์เรียบร้อยแล้วเราก็ขี่มอเตอร์ไซค์สำรวจพื้นที่รอบๆค่ะ ไปเจอแปลงทานตะวันอีก 1 แปลงลงไปถ่ายรูปสักหน่อย มีค่าเข้าคนละ 20 บาทนะคะ สวยจัง
ตอนเช้าเราตื่นไปขึ้นเขาค่ะไปชมวิวที่เขาซับเหล็ก ห่างจากจุดที่เรากางเต็นท์ประมาณ 5 Km ต้องเดินขึ้นเขาประมาณ 300 เมตรค่ะเหนื่อยเอาเรื่องเหมือนกันนะ
บรรยากาศด้านบนเขาดีมาก เราว่าควรมาตอนพระอาทิตย์ตกนะน่าจะสวยมากๆ เพราะพระอาทิตย์ตกด้านนี้เ
เรากลับมาเก็บเต็นท์และออกแว้นกันต่อค่ะ เช้านี้เราไปแวะที่คาเฟ่ก่อนเลยเติมคาเฟอีนค่ะ เราที่ Flower House Cafe' มุมถ่ายรูปเยอะมากๆสำหรับใครที่เป็นสายคาเฟ่นะได้รูปสวยๆเพียบเลยแหล่ะ
เราขับรถออกมาไร่วิรัชซึ่งอยู่ไม่ห่างกันมากมีค่าเข้าชม 20 บาทนะตรงนี้คือดอกทานตะวันสวยมากๆเลย ถ่ายมุมไหนก็สวย ฉากหลังเป็นภูเขาตัดกับสีเหลืองของทานตะวัน
ทุ่งทานตะวันกว้างสุดลูกหูลูกตาเลย
ถ่ายรูปทานตะวันเสร็จเราแว้นไปไกลหน่อย เราไปจุดชมวิวทางรถไฟโคกสลุง ขับออกมาอีกประมาณ 40 Km. ระหว่างทางที่ไปจุดชุมวิวรถไฟก็มีสวนทานตะวันเหมือนกันนะ
ตรงนี้ถ่ายรูปสวยมากๆฟีลเหมือนอยู่ญี่ปุ่นเลย
ตรงนี้มีตารางเวลาที่รถไฟวิ่งผ่านด้วยนะ ดูตารางกันมาก่อนจะได้เห็นรถไฟวิ่งบนทางรถไฟลอยน้ำ
ได้เวลากลับแล้ว เราขับรถตรงมาที่ลพบุรีคืนรถและซื้อตั๋วรถไฟกลับกรุงเทพฯ เรากลับเที่ยว 14.39 น. ถึง กรุงเทพฯ 17.30 น. แปบๆเอง จบทริปแบบสนุกสนานมาก
ค่าใช้จ่ายโดยประมาณ
ค่ารถไฟขาไป 52 บาท
ค่ารถไฟขากลับ 100 บาท
ค่าเช่ารถมอเตอร์ไซค์ 300 บาท
ค่าน้ำมัน 100 บาท
ค่ากางเต็นท์ 200 บาท
ค่าเข้าไร่ทานตะวัน 80 บาท
รวม 832 /2 ตกคนละ 416 บาท
**ไม่รวมค่ากินนะจ๊ะแต่ละคนกินไม่เท่ากันจ้า**
แค่ทิ้งความกลัวไปบ้างก็ใช้ชีวิตสนุกขึ้นเยอะ
#ลองเป็นโสดแล้วจะเป็นสุข
ลองเป็นโสดแล้วจะเป็นสุข
วันพฤหัสที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 17.29 น.