รีวิวน่านหน้าฝนแต่เขียนรีวิวตอนหน้าหนาวเพราะยุ่งมาก ฮ่าๆ เผื่อเป็นแนวทางสำหรับใครที่มีแพลนไปเที่ยวน่านนะ
สำหรับน่านยังเป็นจังหวัดที่เราตั้งใจว่าจะไปทุกปีให้ได้เพราะเป็นเมืองที่สวย อากาศดี เหมาะแก่การพักผ่อนว่าแล้วเราก็เริ่มกันเลยเนอะ (ค่าใช้จ่ายทั้งหมดอยู่ช่วงท้ายเด้อ)
เย็นวันที่ 8/9/65 เราออกเดินทางงด้วยรถทัวร์จากกรุงเทพฯ ไป น่าน
เช้าวันที่ 9/9/65 ถึงน่านก็ช่วงเช้าประมาณเจ็ดโมงกว่า ถึงแล้วเราก็อาศัยล้างหน้าแปลงฟังตรง บขส.น่านนั่นแหล่ะประหยัดดี เสร็จแล้วเดินออกมาตรงหน้า บขส. มีร้านเช่ามอไซค์อยู่เราโทรมาจองรถล่วงหน้าไว้แล้วนะจะได้ไม่เสียเวลา เพจร้านเช่ารถนะ เช่ารถมอเตอร์ไซค์ น่าน ราคาถูก | Nan | Facebook ได้รถแล้วเราก็ขับขึ้นไปไหว้พระที่วัดพระธาตุเขาน้อย มาช่วงเช้าอากาศยังไม่ร้อนสวยมาก
เราตั้ง GPS ไปที่ถนนเลข 3 ต่อระยะทางประมาณ 50 กว่ากิโลจากตัวเมือง ขับไปเรื่อยๆแวะถ่ายรูปจุดชุมวิวก่อนถึงถนนเลข 3 ตรงนี้สวยดี
ถึงแล้วจ้าถนนเลข 3 รูปนี้เราถ่ายกันเองนะ
ส่วนรูปนี้เราใช้บริการพี่ตากล้องที่รับถ่ายรูปตรงนั้นถ่ายให้ ค่ารูปคือแล้วแต่เราจะให้เลย อย่างสวย ฮ่าๆๆ
เราขับรถไปสะปันกันต่อคืนนี้เรานอนกันที่สะปัน พิกัดที่พักนะ สะปันซีวิว ที่พักบ้านสะปัน บ่อเกลือ น่าน Sapan See View | Facebook ที่พักคือวิวดีมาก ราคาไม่แพง ที่พักก็มีให้เราเลือกหลายแบบด้วย
รอบๆที่พักก็คือมุมถ่ายรูปเยอะมาก
ภายในห้องนอนมีเครื่องนอนให้ครบ มีน้ำดื่มให้ มีน้ำอุ่นให้อาบด้วยน๊า ไม่ต้องกลัวหนาว
พอเก็บกระเป๋าเสร็จ เราก็ไปจุดชุมวิวของสะปันกันค่ะ ที่พลาดไม่ได้เลยคือร้านกาแฟ หยุดเวลา
ตรงนี้คือวิวสวยแบบ ตะโกนดังๆเลยนะ
จากนั้นเราก็มากินพิซซ่าค่ะ มาสะปันต้องมาแวะน๊าพิซซ่าอร่อยมาก ร้านนี้เลยค่ะ Casa Ya Thip สะปัน บ่อเกลือ น่าน | Nan | Facebook เป็นอาหารอิตลี่ยนแท้ๆเลย
เช้าวันที่ 10/9/65 ตื่นมาพร้อมกับหมอกหนาๆและอากาศดีๆ
เราทานอาหารเช้าที่ที่พักเตรีมไว้ให้เป็นอาหารง่ายๆ แต่รู้สึกว่าอร่อยมาก คงเป็นเพราะบรรยากาศโดยรอบด้วยที่ทำให้รสชาติอาหารอร่อยขึ้นไปอีก
ถ้าได้นั่งจิบกาแฟที่เก้าอีกตัวนี้และบรรยากาศแบบนี้ทุกเช้าคงจะดี
หลังจากที่เราทานอาหารเช้าเสร็จเราก็เก็บกระเป๋าออกเดินทางต่อค่ะปลายทางของเราคือ "ดอยสะกาด"
เราขับรถไปตามเส้นทางมุ่งหน้าสู่จุดชมวิว 1715 ฝนตกหมอกลงตลอดทางเลยแต่ก็สนุกมากๆเช่นกัน การขับรถเที่ยวหน้าฝนที่สำคัญที่ลืมไม่ได้เลยคือเสื้อกันฝนนะ
จุดชมวิว 1715 คือมองไม่เห็นอะไรเลยหมอกลงหนามาก
เราขับรถกันต่อมาเรื่อยๆตรงเส้นถนนลอยฟ้าวิวข้างทางคือสวยมากๆ
ตรงนี้ใครๆก็จอดถ่ายรูปเวลาจอดรถก็ระมัดระวังรถที่วิ่งสวนกันด้วยน๊า
ระหว่างทางก็เที่ยงพอดีเราเลยแวะหาอะไรกินกันก่อนที่ "ระหว่างทางคาเฟ่" วิวตรงนี้คือปังมากกกกก
อาหารอร่อย วิวดี ราคาไม่แพงด้วยนะ
เราใช้เวลาถ่ายรูปเล่นกันที่ระหว่างทางคาเฟ่นานมาก วิวสวยเกินไปปปป ฮ่าๆ
ก่อนขึ้นดอยสะกาดเรามาแวะไหว้พระกันที่วัดภูเก็ตปัวค่ะ ตรงนี้ก็เป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวที่สวยมากๆของปัวน๊า
ได้ทำบุญด้วยได้รูปสวยๆกลับไปด้วยฟิน
เราขับรถไปถึงดอยสะกาดช่วงบ่ายแล้วค่ะ ระหว่างทางขึ้นดอยสะกาดวิวข้างทางก็สวยไม่แพ้เส้นถนนลอยฟ้าเลยนะ คืนนี้เราพักกันที่นี่นะ บ้านต้นเมี่ยง | Pua | Facebook บ้านต้นเมี่ยงเป็นที่พักที่อยู่บนดอยสะกาดที่บรรยากาศดีมากๆอีกหนึ่งที่เลยค่ะ ค่อนข้างเป็นส่วนตัวมากเหมาะแกการมากับกลุ่มเพื่อนๆ เจ้าของเป็นกันอีกมาก
มีที่ให้นั่งพักเม้ามอยกันกับเพื่อนบรรยากาศสบายๆ
อากาศเย็นสบายโดยแอร์ธรรมชาติดีสุดๆ
อาหารเช้าและเย็นรวมมากับค่าที่พักแล้ว อยากจะบอกว่าอาหารอร่อยมาก
เช้าวันที่ 11/9/65 ตื่นมาพร้อมกับอากาศเย็นๆและหมอกที่ปกคลุมทั้งเขาอีกวันอากาศแบบนี้มันทำให้เราไม่อยากกลับกรุงเทพฯเลยนะ
มองดูวิวจากหน้าต่างห้องนอนไม่อยากลุกเลย
ตอนเช้าที่พักมีอาหารเช้าให้ มีชา กาแฟให้เราดริฟด้วยนะ
อาหารเช้ามาแล้ว ข้าวต้มเห็ดหอม อร่อยมาก
วันนี้เราต้องเดินทางกลับไปเมืองน่านเพื่อจะเดินทางกลับกรุงเทพฯคืนนี้ แต่เรายังไม่อยากกลับเลย ดอยสะกาดมีร้านกาแฟน่ารักๆเยอะมากบรรยากาศก็ดี สัญญาว่าเราจะกลับมาเที่ยวสะกาดอีก
ระหว่างทางลงจากสะกาดเราก็ไปเจอวิวลับๆตรงนี้ แต่ขอไม่บอกพิกัดแล้วกันนะ ความลับ!
พอลงมาถึงปัวเรามาแวะร้านแกแฟที่ใครๆก็ต้องมาแวะ ขนมอร่อยติดใจเลย ที่ "นา เขา เรา น่าน"
ต้องกลับแล้วจริงๆนะ ส่วนค่าใช้จ่ายต่างๆก็ตามนี้เลยจ้า
-ค่ารถทัวร์กรุงเทพฯ-น่าน ไป/กลับ = 1134 บาท
-ค่าเช่ามอไซค์ 3 วันๆละ 300 (900/2คน) = 450 บาท
-ค่าน้ำมัน (230/2คน) = 115 บาท
-ค่าที่พักสะปันคนละ = 900 บาท
-ค่าที่พักสะกาดคนละ = 1000 บาท
รวมทั้งทริป 3,599 บาท (ไม่รวมค่าของกินและของฝากน๊าแต่ละคนกินเก่งไม่เท่ากันจ้า)
จบทริปละสู Bye jaaa เจอกันใหม่ทริปหน้าน๊า
แค่ทิ้งความกลัวไปบ้างก็ใช้ชีวิตสนุกขึ้นเยอะ
รัก :)
#ลองเป็นโสดแล้วจะเป็นสุข
ลองเป็นโสดแล้วจะเป็นสุข
วันอังคารที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เวลา 11.17 น.