[CHIANG MAI] รีวิวเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืน เที่ยวเมืองเชียงใหม่ นอนดอยแม่แตง

ห่างหายจากเชียงใหม่ไปนานพอสมควรเลย จะบอกว่าคิดถึงเชียงใหม่มาก มาวันนี้ได้มาสักที เรามาช่วงวันหยุดยาว 3 วันที่ผ่านมานะคะ 10-12 ธันวาคม อากาศกำลังเย็นๆเลย .. ทริปนี้เดินทางด้วยสายการบินแอร์เอเชียค่ะ เริ่มต้นออกเดินทางกันเลย DMK-CNX ..

มาถึงเชียงใหม่ประมาณ 9 โมงเช้า ก็มารับรถกันก่อนเลย เราจองของ Coolpercarrent โดยรถที่จองคือ Yaris 2022 ราคาอยู่ที่ 1,190*3 วัน = 3,570 บาท มีค่ามัดจำ 3,000 บาท โดยรวมเจ้านี้บริการโอเคนะคะ รถใหม่ รับ-ส่งรถสะดวกง่ายดี


เริ่มต้นเช้าแรกที่เชียงใหม่ ที่ร้าน Sun Rays - Breakfast & Brunch ร้านเปิดทุกวัน 8:00–17:00

เป็นร้านที่ตั้งใจว่าถ้ามาเชียงใหม่ต้องมาเลย ตอนมาถึงคือคนเยอะแล้ว ทั้งคนไทยทั้งต่างชาติ ใครมาแล้วไปรับคิวข้างในร้านนะคะ จะมีให้ลงคิว ขอบคุณพี่ที่ยืนอยู่ก่อนหน้าที่บอกด้วยค่ะ ไม่งั้นก็ไม่รู้เลย ร้านนี้เป็นร้านเล็ก ๆ เรารอนานพอสมควรน่าจะชั่วโมงได้ ปกติจะไม่มารอร้านอาหารเป็นชั่วโมงแน่นอน แต่ร้านนี้ยอมรอเพราะตั้งใจไว้มาก ๆ ว่ามาเชียงใหม่จะต้องแวะ

ราคา คุณภาพ ปริมาณ ถือว่าคุ้มค่าการรอคอยค่ะ ชอบมาก เมนูที่เราสั่งคือ Ryan' French Toast กับ ABF มา จุกมาก กินคือไม่หมด จานใหญ่มาก ตัวขนมปังกินตัดกับผลไม้คือสดชื่นไม่เลี่ยนเลย อร่อย ส่วน ABF ก็จะเป็นพวกไข่ ครัวซอง เบคอน 

โดยรวมคือต้องบอกว่าด้วยหน้าตาของอาหารที่ดูอลังการน่ากิน บวกกับคุณภาพแต่ละจานคือไม่แปลกใจว่าทำไมคนเยอะ และร้านก็น่ารักมาก ชอบมากจริงๆ ปีหน้ามีแพลนพาที่บ้านมาเชียงใหม่อีก คิดว่าจะต้องมาซํ้าแน่ๆ ใครมาเชียงใหม่แล้วยังไม่เคยลองแนะนำเลยค่ะ 


ร้านที่สองเราไปหากาแฟกินกันต่อ ที่ร้าน The Baristro Asian Style ร้านเปิดทุกวัน 8:00–18:00

เชียงใหม่เป็นดินแดนแห่งคาเฟ่มาก ตอนมาก็ทำการบ้านยากมาก ว่าจะแวะที่ไหนบ้าง และไม่ได้มานานมีแต่ที่ที่ยังไม่เคยไป ทุกที่สวยหมด แต่กินทุกร้านก็ไม่ไหว เลยเลือกจากรีวิวร้านที่รสชาติดีก็มาเจอร้านนี้

แฟนเราสั่งกาแฟ Americano ส่วนเราสั่ง matcha dirty ส่วนขนมตั้งใจจะกินไดฟุกุ แต่วันที่ไปยังไม่มีอดเลย รสชาติของกาแฟแฟนบอกอร่อยดี ส่วนของเราโดยรวมชอบนะเข้มข้นดี ไม่หวานจนเกินไป กำลังพอดีและตัวมัทฉะก็คือหอม ถือว่าชอบเลย

บรรยากาศที่ร้านก็ดี มู้ดดีมาก สมเป็นคาเฟ่เมืองเชียงใหม่เชียงใจ ชอบมาก สามารถนั่งจิบชากาแฟแบบชิว คนเยอะแต่พื้นที่ในร้านก็ทำให้นั่งได้สบาย ๆ เป็นคาเฟ่เชียงใหม่ที่แนะนำเลย


จากนั้นเราก็ไปกันต่อที่สวนดอกไม้ I Love Flower Farm 

ซึ่งที่นี่เป็นอีกหนึ่งที่ในเชียงใหม่ที่อยากมานานมากแล้ว ตอนมาคือช่วงเที่ยงแล้วแต่เห็นว่าแดดวันนี้ไม่แรงเลยตัดสินใจมาตอนนี้เลย การมาที่นี่จะต้องจองก่อนนะคะ ค่าบัตร 100 บาท / คน นำไปแลกนํ้ากับขนมได้ จองผ่าน https://www.traveloka.com/th-th/activities/thailand/product/i-love-flower-farm-chiangmai-tickets-5602765313606

มาถึงจะมีที่จอดรถและก็เรานั่งรถจากลานจอดเข้ามาที่ฟาร์มอีกที มาถึงจากที่แดดไม่มีอยู่ดีๆ ก็แดดแรงมาก แต่โชคดีที่วันนี้อากาศลมเย็นเช่นกัน ตอนมามีแค่ทุ่งดอกสีแดงๆ (ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าดอกอะไร) กับม่วงๆ นิดหน่อย แต่เราไม่ชอบสีแดง ใจอยากได้ทุ่งดอกขาวๆแต่ตอนไปยังไม่มี

ตอนไปไม่ได้ถ่ายอะไรมากเพราะสงสารแฟน เพราะถึงแม้ลมจะเย็นแต่แดดแรงมาก ก็เลยวนๆถ่ายอยู่แค่ข้างหน้า ไม่ได้เข้าไปถ่ายในทุ่งดอกไม้เท่าไหร่ เพราะไม่ชอบทุ่งสีแดงด้วย แหะๆ โดยรวมก็ชอบนะคะที่นี่ คิดว่าถ้ามาสักมกราน่าจะสวยดอกไม้สะพรั่งกว่านี้


ใช้เวลานานเหมือนกันกับ I Love Flower Farm ก็ได้เวลา Check-in โรงแรม คืนแรกเราจะพักกันที่ในเมืองค่ะ ส่วนคืนที่สองจะไปนอนบนดอยกัน คืนแรกที่นอน คือ โรงแรม Syn boutique hotel จองมาในราคาประมาณ สองพันกว่า ไม่รวมอาหารเช้า (โรงแรมใกล้ร้านโกเผือกโกดำ เลยแพลนว่าจะกินที่นี่)

มาถึงโรงแรมมี Welcome drink ให้เลือก จำไม่ได้เหมือนกันว่าคืออะไรแต่ที่รู้คือชอบมาก เป็น Welcome drink ที่น่าตาดูดีและอร่อย ระหว่างนั่งจิบนํ้ามามุมสระว่ายนํ้า มุมนี้เหมือนไม่ได้อยู่เชียงใหม่คิดว่าอยู่ทะเล สระดีมาก แต่ไม่ได้เล่นเลย

เข้ามาห้องพักก็คือสวย สะอาด กลิ่นหอม ห้องกว้างขว้าง เตียงนอนก็คือนอนสบายมาก ห้องนํ้าก็คือดี โถชักโครกเป็นแบบอัตโนมัติด้วย ครีมอาบนํ้าแชมพูก็คือหอมมากชอบมาก

วันไปใกล้วันเกิดแฟน มีเค้ก พร้อมการ์ดเขียนอวยพรของพนักงานให้ด้วย และพนักงานที่นี่ก็คือน่ารักมาก บริการดี โดยรวมประทับใจกับที่นี้นะคะ ใครมาเชียงใหม่ก็คือแนะนำเลย ค่อนข้างสะดวกสบาย

ช่วงเย็นเราไปเดินเล่นเซนทรัลเชียงใหม่และก็แพลนไป กินสุกี้ช้างเผือก มาเชียงใหม่หลายครั้งจะบอกว่ายังไม่เคยกินเลย ครั้งนี้เลยคิดว่าจะลองหน่อย เพราะรีวิวคนมาเชียงใหม่ก็เหมือนต้องกินไปแล้ว ที่ผ่านมาไม่กินไม่ใช่อะไรคือเรากับแฟนเป็นคนไม่ชอบต่อคิวยาว ๆ แม้คนจะบอกว่าอร่อยมากก็ตาม แต่ถ้าร้านไหนยาวมากก็คือไม่เอา แต่รอบนี้ก็คิดว่าลองดูหน่อย

เรามากินสาขาหลังมช เพราะใกล้กับโรงแรมและก็คิดว่าสาขานี้คนไม่น่าเยอะเท่าไหร่ สรุปยาวเหมือนเดิมสิบแปดคิว อาจเพราะไปเวลาช่วงพีคด้วย โชคยังดีที่หลังมช มีของกินให้เดินกินเยอะพอให้ไม่หิวมาก ไม่อย่างนั้นอาจจะไม่รอ ได้คิวแล้วก็สั่งพิเศษเลย สุกี้ช้างเผือกเชียงใหม่ ก็ต้องกินแห้ง ตามรีวิวเค้าบอกมา โดยรวมคือชอบนะ ผัก วุ้นเส้น อร่อยตามที่ทุกคนรีวิวเลย สุกี้ธรรมดาๆ แต่ผัดออกมาแล้วลงตัว ก็ถือว่าอร่อย วัตถุดิบเค้าดีจริง ถือว่าไม่ผิดหวังกับที่รอคิว แต่ถ้ารอบหน้าก็อาจจะคิดดูก่อนขี้เกรียจมายืนต่อ 

ทั้งหมดนี้ก็คือวันแรกค่ะ กลับมานอนพักผ่อน อาบนํ้าอุ่น ๆ จิบชาที่ห้องพัก ฟินมาก Zzzz


เช้าวันที่ 2 ข้าวเช้าเราไปกินที่ร้านโกเผือกโกดำ 

ร้านโกเผือกโกดำ อีกหนึ่งร้านอาหารเช้าร้านดังในเชียงใหม่ ซึ่งมากี่รอบก็ไม่เคยได้แวะเหมือนกัน อย่างที่บอกว่าจากโรงแรมไม่ใกล้ เดินไปได้เลยประมาณ 300 เมตร เดินมาคนเดียว (แฟนไม่ตื่น) มาถึงร้านเปิดพอดี ร้านเปิด 07.30 คนก็คือเยอะแล้ว งงมาก ดังจริงอะไรจริง 

เมนูก็จะเป็นอาหารเช้าง่าย ๆ ที่ชอบสุดคือเมนูที่สั่งคือขนมปังปิ้ง 4 สี อร่อยไม่หวานเกิน ปกติสังขยาร้านอื่นมีความหวาน ที่นี่คือกำลังพอดี แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าต้องอดทนรอคิวนานๆ เป็นชั่วโมงก็ไม่ไหวจะมารอเหมือนกัน โชคดีว่ามาถึงได้กินเลย 


กินเสร็จก็กลับมาโรงแรม อาบนํ้าแต่งตัว แฟนตื่นพอดี ก็ Check out เลย เพราะวันนี้เราจะไปนอนกันที่แม่แตง เชียงใหม่ ระหว่างทางเราแวะกันที่ ผลิ : Phli 봄 - Cafe x Khao Soi

ร้านนี้เป็นอีกคาเฟ่เชียงใหม่ที่ดัง ด้วยความน่ารักของร้าน และช่วงธันวาคือร้านตกแต่งน่ารักมาก ตอนไปคือคนเยอะเหมือนกัน ต้องอาศัยจังหวะหลบมุมถ่ายเอา วันนี้แต่งตัวคุมธีมมาก

ดีเทลของร้านนี้คือน่ารักทุกมุมถ่ายรูปได้ทุกจุด ใช้คำว่าน่ารักได้เปลืองแบบมาก ๆ และที่สำคัญ เครื่องดื่มก็คือดี อันนี้จำชื่อเมนูไม่ได้ เลยสั่งมาให้เข้ากับบรรยากาศ คืออร่อย ไม่หวานเลี่ยน กำลังดี ชอบมาก ต้องสั่งเลย 

เป็นคาเฟ่ที่รู้สึกว่ามาซํ้าได้อีกนะที่นี่ ชอบทุกอย่างเลย ไว้รอบหน้ามากินข้าวซอย ที่นี่เค้าเป็นคาเฟ่ที่มีข้าวซอยด้วย ใครมาเชียงใหม่แนะนำเลยค่ะคาเฟ่นี้


ถัดมาเราไปกันต่อที่ร้าน Fleur Cafe & Eatery ร้านนี้เราจะแวะกินข้าวกัน เจอรีวิวมาว่าร้านใหญ่ บรรยากาศดี และก็เป็นทางไปที่พักคืนที่ 2 ที่เราแวะได้ด้วย

ร้านนี้เป็นร้านที่กว้างมาก ๆ เข้ามาก็คืออลังการ ต้นไม้ดอกไม้สวยมาก ถ่ายรูปได้ทุกมุม เป็นร้านที่มาได้ทุกวัยเลยด้วย โต๊ะก็จะมีตามมุมต่าง ๆ

เมนูที่สั่งก็ประมาณนี้จำชื่อไม่ได้ แต่อาหารโดยรวมก็อร่อยดีค่ะ (มารอบนี้ไม่ได้เน้นอาหารเหนือ ก็จะกินปกติ) การบริการพนักงานก็คือน่ารัก แอบเสียดายที่ไม่ได้กินเค้กเพราะว่าเค้กเค้าก็น่ารักแต่บังเอิญว่าอิ่มก่อน ใครมาเชียงใหม่แล้วอยากหาคาเฟ่นั่งชิวมาได้ทุกวัย แนะนำเลยร้านนี้ มีทั้งอาหารทั้งขนม ดอกไม้ต้นไม้สวยๆ แนะนำร้านนี้เลยค่ะ


เสร็จจากคาเฟ่แล้ว เรามากันที่ วัดป่าดาราภิรมย์ จริงๆ ไม่ได้อยู่ในแพลน แต่เนื่องจากระหว่างทางเข้าร้านนี้เราเห็นวัดนี้ แล้วมองเข้าไปคือวัดสวยมาก ขากลับออกมาจากคาเฟ่เราก็เลยตั้งใจจะแวะ

ส่วนตัวชอบวัดที่เชียงใหม่อยู่แล้ว คือสวยทุกวัดจริง ๆ วัดนี้ก็ถือว่าเป็นอีกหนึ่งวัดสำคัญของเชียงใหม่เลย ใครผ่านมาทางแม่ริมแวะสักการะได้นะคะ 


จากแม่ริมขับไปยังแม่แตง ที่พักคืนที่สองของเราอีกหนึ่งชั่วโมง เราไปนอนกันที่ อูรี เฮ้าส์ ที่พักเชียงใหม่

อูรี เฮ้าส์ จะอยู่ที่ ต.ป่าแป๋ อ.แม่แตง เชียงใหม่ค่ะ เราเห็นที่พักขึ้นมาที่ฟีด คือจองเลย เห็นแล้วชอบมาก จากเชียงใหม่ขับรถมาประมาณชั่วโมง ทางมาไม่ได้น่ากลัวมากเท่าไหร่ โค้งแอบเยอะแต่ถนนค่อนข้างดี ขับสบาย มาทางเส้นไปปาย มีแค่ทางขึ้นที่พักที่แอบชันหลังติดเบาะ น่ากลัวนิดหน่อย

บรรยากาศขึ้นมาถึงก็คือดีมาก อากาศลมเย็นสบาย ท้องฟ้าก็สวย บรรยากาศรอบ ๆ คือดีมาก ที่นี่จะเป็นฟีล บ้านพักที่เป็นบ้านพักสไตล์เกาหลี ที่อูรี เฮ้าส์ มีหลายราคานะคะ เริ่มต้นห้องประมาณสองพันก็คือตามรูปด้านบน น่ารักเหมือนกัน แต่เรานอนห้องแบบพลูวิลล่าราคาประมาณหกพัน ราคารวมอาหารเช้า-เย็น 

ชอบการดีไซน์ของที่นี่มาก สวยมาก และอากาศตอนเย็นกับตอนเช้าคือเปิดพัดลมนอนยังหนาว อากาศแบบฟินมาก แช่อ่างนํ้าอุ่นคือฟินสุด ๆ ไปเลย ถ่ายรูปออกมาสวยทุกมุม รู้สึกคุ้มค่ากับที่จ่ายเลย 

ตอนเช้าคือ 17 องศา ไม่หนาวจนเกินไปกำลังสบายฟินๆเลย ชอบมาก แอบมีหมอกด้วย สวยสุดๆ ไปเลย โชคดีมาก ๆ ทุกอย่างเหมือนเป็นใจ 

อากาศสบาย ๆ แช่นํ้าอุ่นมองวิวเพลิน ๆ มีความสุขมาก เป็นการได้มาพักผ่อนที่นอนหลับได้เต็มที่ ตื่นมากับวิวสวย ๆ แช่นํ้าสบาย ๆ เหมือนได้ชาตแบตให้ตัวเอง

อาหารเย็นมีหม้อไฟเกาหลีกับหมูกระทะให้เลือก เราเลือกหมูกระทะ บรรยากาศแบบนี้กินก็คือฟินมาก และให้เยอะมาก ไม่ต้องกลัวไม่อิ่ม ส่วนอาหารเช้าของที่นี่จะเป็นข้าวต้มกับขนมปังปิ้ง ซึ้งขนมปังให้เราปิ้งเองจากเตาถ่านด้วย ฟินสุด เหมือนได้ผิงไฟกับอากาศหนาว ๆ 

โดยรวมสรุปที่ อูรี เฮาส์ เชียงใหม่ ก็คือดีทุกอย่าง ได้รับการดูแลอย่างดี ที่พักสวย บรรยากาศดี ไม่มีอะไรฟินไปกว่านี้อีกแล้ว ใครมาเชียงใหม่ ก็แนะนำที่นี่เลยค่ะ ห้องพักราคาประมาณสองพันก็น่ารักดี แต่ถ้างบถึงหน่อยพลูวิลล่าก็คุ้มค่ากับที่จ่ายแน่นอนคอนเฟิร์ม รักมากเลยที่นี่


เราออกจากที่พักก็ไปกันต่อที่ Mori Natural Farm โมริ เนเชอรัลฟาร์ม เชียงใหม่

ที่พักดังเชียงใหม่สไตส์ญี่ปุ่นที่หลายคนรู้จัก และเค้าก็มีคาเฟ่ด้วย ตอนแรกลังเลว่าจะไปดีมั้ยเพราะห่างจากที่พักประมาณหนึ่งชั่วโมง แต่ใจก็อยากมาที่นี่ตั้งนานแล้ว เลยตัดสินใจว่าไป เราจองเป็นเซ็ตปิคนิคไว้นะคะ เห็นเค้าเปิดโซนใหม่พอดี 

จองรอบบ่ายแต่อากาศก็คือลมเย็นสบาย เซ็ตปิคนิคเราสามารถเลือกได้ว่าจะเอาอะไร เราก็เอาข้าวมาหนึ่ง และก็ขนมหนึ่ง และเค้าก็มีผลไม้กับชาให้ อร่อยหมดเลย โซนที่นั่งก็แยกจากคาเฟ่มา ใครจะมาเซ็ตปิคนิคต้องจองก่อนเท่านั้นนะคะ 

ถ่ายรูปออกมาก็คือน่ารักมาก และตอนกำลังถ่ายวิวอยู่ พี่เค้าเดินมาถามว่าอยากถ่ายรูปกับน้องหมามั้ย แน่นอนว่าอยากถ่ายมาก ตอบแบบไม่ลังเล แต่ตอนมาก็ไม่อยากคาดหวังว่าจะเจอ เพราะเห็นรีวิวหลายคนก็ไม่ได้เจอ เราโชคดีมากๆ 

น้องฮาชิกับมิกิ น่ารักมาก ตัวใหญ่ขนฟูมากเลย แต่ช่วงหลังพี่เค้าก็จะไม่ได้ให้จับนะคะ เพราะน้องจะงับมือเอา แอบดุและหวงตัวแล้ว แต่สามารถนั่งใกล้ ๆ ได้ ถ่ายรูปถ่ายคลิปรัวๆเลย น้องน่ารักมาก แค่นี้ก็คือฟินแล้ว คุ้มค่ากับที่ตัดสินใจขับรถมา

ใครมาเชียงใหม่ก็อยากให้ลองแวะมานะคะ อาหารอร่อย บรรยากาศดี  โมริ เนเชอรัลฟาร์ม เชียงใหม่ จะมาพักหรือมาคาเฟ่ก็ได้ แต่น้องหมาอาจจะเจอหรือไม่เจอนี้แล้วแต่ดวงเลยนะคะ น้องอาจจะไม่ได้ออกมาทักทายทุกวัน 


จากนั้นเราก็กลับเข้าไปในเมืองเชียงใหม่ มีเวลาอีกนิดหน่อยก่อนไปสนามบิน เราแวะกันไปที่นนช้างม่อย ไปถ่ายรูปกับร้านกระเป๋าสานยอดฮิต และก็กินกาแฟร้าน Brewginning (บิวกินนิ่ง) ที่อยู่ฝั่งตรงข้าม ย่านนี้ก็เป็นย่านในเชียงใหม่ที่น่ารัก และก็ยังมีอีกหลายร้านเลย เอาไว้มาใหม่ ... 

และก็เป็นอันจบทริปเชียงใหม่ 3 วัน 2 คืนของเราค่ะ สำหรับทริปนี้ก็เป็นอีกครั้งที่มาเชียงใหม่แล้วประทับใจ รักเชียงใหม่มาก ๆ .. เหมือนได้มาชาตแบตให้ตัวเองหลังจากเหนื่อยมาทั้งปี ยังไงปีหน้าต้องมาเชียงใหม่อีกแน่นอน มีแพลนมาทั้งครอบครัวเลย ไว้ยังไงเดียวจะมารีวิวให้นะคะ หวังว่าทริปนี้ทุกคนจะชอบนะคะ : ) 


ติดตามเพจเล็ก ๆ ได้ที่ : https://www.facebook.com/puifa...

Puifaikamon

 วันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม พ.ศ. 2565 เวลา 11.33 น.

ความคิดเห็น