เชียงคาน เมืองชิคๆ พักผ่อนชิลๆ 3 วัน 2 คืน

สวัสดีครับทุกท่าน หลังจากโควิดก็ห่างหายจากการเดินทางมานาน ครั้งนี้เราจะพาไปเที่ยวในประเทศ สถานที่ที่อยู่ไม่ไกล ใช้เวลาบินจากกรุงเทพเพียง 1 ชม. เมืองเก่าสวยงาม วิวแม่น้ำโขง...เชียงคานนั่นเอง

Day 1

19/12/2565 ออกเดินทาง

เริ่มต้นการเดินทางที่สนามบินดอนเมืองครับ เราจองตั๋วเครื่องบินผ่าน Trip.com โดยขาไปบิน Nok Air และกลับโดย Airasia โดยเลือกจากเวลาและราคาครับ เดี๋ยวจะสรุปราคาให้ตอนท้ายอีกทีครับ

มาที่อาคาร 2 อาคารผู้โดยสารภายในประเทศครับ

นกแอร์สามารถมาเช็กอินได้ที่ Row 14-15 โดยเราทำ Online Check-in เลือกที่นั่งมาแล้วครับ

เราเดินทางไปยังสนามบินเลย โดยเที่ยวบินที่ DD372 ออกเดินทางเวลา 9.20 น. ครับ

ผ่านจุดตรวจความปลอดภัยเข้ามานั่งรอด้านในกันครับ

Boarding Time ล่าช้าเล็กน้อย แต่เครื่องออกเดินทางตรงเวลาครับ

วันนี้เราเดินทางกับ Nok Sabai รุ่น B737-800 ทะเบียน HS-DBK ครับ

พร้อมแล้ว ออกเดินทางกันเลยย

10.15 เครื่องก็ลงจอดที่ท่าอากาศยานเลยเป็นที่เรียบร้อยครับ

อาคารผู้โดยสารเป็นอาคารเล็กๆ อนาคตกำลังมีแผนพัฒนาอาคารใหม่อยู่นะครับ

ออกมาจากอาคาร เราเดินทางเข้าเชียงคานโดยรถตู้ของบริษัท รถเช่าเมืองเลย คนละ 250 บาทต่อเที่ยว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.ครับ โดยรถจะมาส่งถึงหน้าโรงแรมเลย และนัดวันเวลารับขากลับไว้เลยครับ

เรามาพักกันที่ โรงแรมเชียงคาน ริเวอร์วอล์ค ครับ เป็นโรงแรมสไตล์มินิมอล พึ่งเปิดไม่นานครับ

เรามาถึงประมาณเที่ยง ทางรร.ให้เราเช็คอินได้เลยครับ โดยคืนแรกเราจะพักห้องดีลักซ์พร้อมอาหารเช้า

ทางโรงแรมจะแบ่งรอบอาหารเช้าเป็น 3 รอบ เราก็เลือกกันตามสะดวกเลยครับ

ห้องพักอยู่บนชั้น 2 โดย Lobby คือชั้น 1 และลงไปชั้น G ออกไปทางริมแม่น้ำได้ครับ

เป็นห้องเตียงคู่ แบบไม่มีวิวครับ ราคาคืนละ 2400 บาท พร้อมอาหารเช้าครับ

มี smart TV สามารถดู netflix, viu ต่างๆได้ด้วยครับ

มีน้ำเปล่าให้ 2 ขวด มีไดร์เป่าผม ตู้เย็น

ในห้องน้ำมีสบู่ แชมพู ผ้าเช็ดตัว ของใช้ต่างๆให้ครับ ถือว่าใหม่ สะอาดมากๆครับ

เที่ยงกว่าแล้ว เราออกไปหาอะไรกินกันครับ

บรรยากาศถนนคนเดินตอนกลางวัน ร้านจะยังไม่ค่อยเปิดกันครับ เงียบสงบมาก

เที่ยงวันนี้เรามากินกันที่ร้าน จุ่มนัวยายพัด ซึ่เป็นท้องถิ่นเก่าแก่กว่า 70 ปีครับ อยู่ที่ซอย 10

จุ่มนัวเป็นเมนูคล้ายๆสุกี้ แต่น้ำจะเข้มข้นมาก เลือกเส้นได้เหมือนก๋วยเตี๋ยวเลยครับ

สั่งมาเป็นจุ่มนัว เส้นเล็ก ธรรมดา 40 บาทครับ น้ำขลุกขลิกๆ มีหมูชิ้น แคบหมู ถั่วงอก ให้เยอะมากครับ

ร้านเปิด 07.00-15.00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์ แต่ที่เราไปบ่ายโมงของก็เริ่มหมดแล้วครับ แนะนำให้ไปทานตอนเช้าๆหรือก่อนเที่ยงจะดีกว่าครับ

หลังกินเสร็จแล้ว เราไปคาเฟ่กันต่อ นั่นคืออ With A View Cafe อยู่ที่โรงแรม With A View ระหว่างซอย 14 กับ 15 ครับ

สั่งไป 2 แก้ว คือ โกโก้เย็น 80 บาท และ Butterfly Tea 95 บาท รสชาติถือว่าอร่อยครับ แต่ที่คุ้มยิ่งกว่าก็คือ วิวของที่นี่ สวยงามมากๆ นั่งดูวิว ลมเย็นๆ สบายสุดๆครับ

โดยร้านจะเปิดทุกวัน ตั้งแต่ 07.00 - 20.00 ครับ แนะนำให้มาเลยครับ

หลังจากนั้นเรากลับไปพักผ่อนที่โรงแรม รอเวลาเย็นๆ ออกมาเดินถนนคนเดินกันครับ

ทางโรมแรมมีจักรยานให้ยืมไปขี่ได้ฟรีด้วยครับ

บรรยากาศทางเดินริมแม่น้ำโขงช่วงเย็น อากาศเย็นสบายมากครับ ช่วงที่ไปประมาณ 16-24 องศาครับ

เราเดินมาเริ่มต้นถนนคนเดินกันบริเวณหน้าวัดท่าคกครับ มีอาหารมากมายจริงๆ

มาเจอข้าวจี่โบราณ ไม้ละ 10 บาทเท่านั้น

ร้านขายของที่ระลึกน่ารักๆ

จุดหมายของมื้อเย็นวันนี้ก็คือ ร้านเฮือนหลวงพระบาง ครับ ร้านอาหารขึ้นชื่อของเชียงคาน ที่ใครมาแล้วต้องห้ามพลาดร้านนี้เลย

บรรยากาศร้านจะตกแต่งสไตล์ล้านนาโมเดิร์น

มาสั่งอาหารกันครับ นั่งรอแปปเดียว อาหารมาแล้วครับ อาหารมาเร็วมากๆ

เมนูที่เราสั่งไป จานแรก น้ำพริกหลวงพระบางหมูทอด 159 บาท

ผัดผักกูดไฟแดง 120 บาท

ปลาคังทอดกระเทียมพริกไทย 280 บาท

อาหารอร่อยมากๆทุกเมนูเลยครับ แนะนำให้มาตามกัน พลาดไม่ได้เลยครับ

ก่อนปิด day 1 วันนี้ เราแวะซื้อบัวลอยเจ้าดังของถนนคนเดน คือร้านบัวลอยโรจน์เลย ครับ

สั่งบัวลอยธรรมดา 30 บาท แป้งดี น้ำราดอร่อย สมกับที่แนะนำเลยครับ

ร้านเปิดทุกวันครับ จะเริ่มเปิดประมาณ 5 โมงเย็นไปถึงสามทุ่มครับ

และนี่คือทั้งหมดของวันแรก วันต่อไปเราจะออกแต่เช้าไปภูทอกกันครับ พบกัน Day 2 ครับบ

Day 2

20/12/65 : ภูทอก-sky walk เชียงคาน-บ้านไทดำ-บ้านติดดิน-วัดพระพุทธบาทภูควายเงิน

สวัสดีเช้าวันที่ 2 ครับ

วันนี้เรานัดรถเช่าพร้อมคนขับมารับตั้งแต่ตี 5 ครึ่งเพื่อเดินทางไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกันบนภูทอกครับ

ประมาณ 15 นาทีก็มาถึงทางขึ้นภูทอกครับ โดยเราต้องขึ้นรถท้องถิ่นไป เสียค่าโดยสารคนละ 40 บาท

วิวก่อนพระอาทิตย์ขึ้นครับ

ประมาณ 6 โมงครึ่งเริ่มมีแสงขึ้นมาแล้วครับ

วิวพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมทะเลหมอก โดยวันที่ไปอากาศเย็นมากครับ ประมาณ 10-12 องศา

ประมาณ 7 โมงนิดๆคนก็เริ่มเยอะมากแล้วครับ หลังจากดูจนจุใจแล้ว เราเลยลงไปข้างล่างกันดีกว่า

วิวระหว่างทางลงเขาครับ

ด้านล่างทางขึ้นจะมีตลาดขายของต่างๆพวกผลไม้ เสื้อ ของที่ระลึกครับ

ได้เวลากลับไปทานอาหารเช้ากันที่โรงแรมครับ โดยจะมีให้สั่งได้ กับเดินตักเองครับ โดยแบบเซตจะมีชุดอาหารเช้า ไข่ดาว ไส้กรอก แฮม กับ ชุดไข่กระทะ ครับ

ส่วนไลน์อาหาร เรามาดูกันครับ

มีน้ำเปล่า น้ำส้ม ชามะนาว

ซีเรียล นมสด ผลไม้ ของกินเล่น เจลลี่

ชา กาแฟ ไมโล แบบซองชงได้เลยครับ มาม่าถ้วยก็มีเช่นกัน

ชุดอาหารเช้าที่สั่งมาครับ

บรรยากาศที่นั่งทานอาหารฝั่งทางเข้าครับ

จะมีที่นั่งฝั่งวิวแม่น้ำด้วย แต่เนื่องจากอากาศเย็นมากๆ เราจึงนั่งด้านหน้าโรงแรมแทนครับ

แล้ววันนี้เราจะย้ายห้องกัน ไปอยู่ห้องดีลักซ์วิวแม่น้ำ ในราคาคืนละ 4,200 บาทครับ

เข้ามาจะเจอกับวิวที่สวยมากกกกครับ ห้องเป็นเตียงเดี่ยว มีโซฟา ทีวี 43 นิ้ว

มีเครื่องชงกาแฟแคปซูลให้พร้อมกาแฟ 2 แคปซูลครับ

มีน้ำเปล่าให้ 4 ขวด

มีชุดกาพร้อมถ้วยชา พร้อมชา 2 ซองให้ด้วยครับ

มาดูห้องน้ำกันบ้างครับ

คล้ายๆกับห้องดีลักซ์ครับ แต่จะมีของใช้ให้มากกว่าครับ

ได้เวลารถมารับแล้ว สถานที่ต่อไปที่จะไปคือ sky walk เชียงคานครับ

เหมือนเดิมครับ เราต้องขึ้นรถท้องถิ่นต่อ ราคาคนละ 60 บาท พร้อมถุงครอบรองเท้าเดินบนกระจกครับ

ใช้เวลานั่งรถแปปเดียว ก็ขึ้นมาถึงแล้วครับ จะเจอกับพระใหญ่ภูคกงิ้วองค์ใหญ่ครับ

มาชมบรรยากาศรอบๆสกายวอล์คกันครับ

ฝั่งตรงข้ามแม่น้ำโขงจะเป็นฝั่งของประเทศลาวครับ

ชมวิวกันพอสมควร ก็เดินทางลงข้างล่างกันครับ

โดยที่ต่อไปเราจะไปแวะที่บ้านพิพิธภัณฑ์ไทดำครับ

จากข้อมูลของเว็บไซต์การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บอกไว้ว่า "เป็นพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้ภายใต้การดูแลของเอกชน ที่บ่งบอกความเป็นมา ภาษา วัฒนธรรมและประเพณีของชาวไทดำ อีกทั้งยังเป็นแหล่งรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้ชาวไทดำกว่า 5 ชั่วอายุคน บริเวณชั้นล่างของตัวบ้านเป็นร้านขายสินค้าที่ระลึกจากฝีมือของชาวไทดำ" ครับ

อาคารนี้ด้านล่างจะขายของใช้ ของที่ระลึกทำมือจากชุมชน ส่วนด้านบนจะเป็นพิพิธภัณฑ์ครับ

ที่นี่จะมีชาวบ้านชาวไทดำอาศัยอยู่จริงๆครับ แล้วด้านหลังจะมีส่วนปลูกผัก เลี้ยงสัตว์ ของชาวบ้านด้วยครับ

มีการแสดงพื้นเมืองประกอบเพลงจากชาวบ้านให้ดูเล็กๆน้อยๆด้วยครับ

วันนี้วันธรรมดาเลยไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นเลยครับ บรรยากาศสบายๆ ที่นี่เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 08.00-17.00 น. ไม่มีค่าเข้าชมครับ แต่สามารถช่วยสบทบทุนเล็กๆน้อยๆได้ครับ

ได้เวลาเดินทางต่อครับ เรามาแวะชมวิวกันที่แก่งคุดคู้ จุดชมวิวยอดฮิตของเชียงคานครับ

มองไปจะเห็นวิวแม่น้ำโขงและภูควายเงินฝั่งตรงข้ามทอดตัวไปแนวยาวเลยครับ บรรยากาศดีสุดๆ

เราเดินทางกันต่อ ไปที่คาเฟ่ บ้านติดดิน คาเฟ่สไตล์ธรรมชาติริมแม่น้ำโขง

ภายในร้านจะตกแต่งด้วยไม้เป็นหลักครับ ร้านเป็นแบบเปิดโล่ง อากาศเย็นสบายดีเลยครับ

มีที่นั่งแบบเคาท์เตอร์หันออกด้านแม่น้ำโขง วิวสวยมาก อาหารหลักสิบวิวหลักล้านจริงๆครับ

มาดูเมนูกันครับ

อาหารที่สั่งมาแล้ว จานแรก สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า 80 บาทครับ

ราดหน้าทะเล 80 บาท

ชาเขียวเย็น 60 บาท เป็นสไตล์ชาเขียวมะลิครับ เข้มหวานกำลังดีครับ

อีกแก้วเป็น Red Orange Soda 80 บาท ซ่าๆอร่อยดีครับ

ทั้งอาหารและเครื่องดื่มราคาไม่แพง และรสชาติถือว่าดีเลยครับ และยิ่งมีวิวสวยๆ ยิ่งคุ้มเลยครับ แนะนำให้มาลองตามกันเลยครับบ

ร้านเปิด 09.00-19.00 น. โดยหยุดทุกวันพุธครับ

เดินทางต่อไปเข้าวัดทำบุญกันบ้างครับ เราไปกันที่วัดพระพุทธบาทภูควายเงินครับ

วัดพระพุทธบาทภูควายเงินเป็น ศาสนสถาน ศักดิ์สิทธิ์ สำคัญที่อยู่คู่บ้านคู่เมืองเชียงคานมานาน ในอดีตเชื่อกันว่า ใครก็ตามที่จะมาถึงวัดพระพุทธบาทภูควายเงินได้ ต้องเป็นผู้ที่มีบุญวาสนาจริงๆ เท่านั้น ส่วนคนที่มีบุญหรือมีวาสนาไม่ถึงก็จะมีอุปสรรค์ต่างๆ ทำให้มาไม่ได้ทั้งที่ตั้งใจไว้อย่างเต็มที่แล้วก็ตาม แต่ในปัจจุบันสามารถขับรถขึ้นมาได้อย่างสะดวกแล้วครับ (ขอบคุณข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย)