ถ้าพูดถึงจังหวัดในภาคอีสาน 'นครพนม' อาจจะไม่ใช่ชื่อแรกที่เรานึกถึง
แต่ในการเดินทางของทริปนี้ เราปักหมุดไว้ที่จังหวัดนครพนม ที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองความสุขริมฝั่งโขง
ที่มีคนถามเรามาเยอะมากว่า ทำไมถึงเลือกมาที่นี่… นครพนมมีอะไร เราเองก็ตอบไม่ได้
เพราะเรารู้จักนครพนมน้อยมากๆ หรือจะเรียกว่าไม่รู้อะไรเกี่ยวกับนครพนมเลยก็ว่าได้
ก็นั่นแหละค่ะ ที่ทำให้เราต้องออกเดินทางมา และอยากทำความรู้จักกับ “นครพนม”
![](/f/44131/63d4fed7ac342359e4b7767e.jpg)
***ไม่อนุญาตให้นำภาพ ทุกภาพ ในกระทู้นี้ไปใช้ หรือเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างเด็ดขาด***
DAY 1 : Back to Travel ... ได้เวลาเที่ยวแล้ว - สวัสดีนครพนม
เช้าวันที่ต้องเริ่มต้นการเดินทางมุ่งหน้าสู่นครพนม ปลายทางของเราในวันนี้คือเมืองที่มีความงดงามชวนให้หลงใหลไปกับธรรมชาติริมแม่น้ำโขง ที่กั้นกลางระหว่างพรมแดนไทย-ลาว และเมืองที่ขึ้นชื่อว่า มีความสุขที่สุดในประเทศไทย
![](/f/44131/63d4fed6ac342359e4b7767a.jpg)
เราเดินทางมาด้วยเครื่องบิน แต่ต้องบอกว่าไฟล์ทบินน้อยมากๆ เราบินไปกับแอร์เอเชียรอบเช้า และต่อรถตู้เข้าเมืองคนละ 100 บาท รถตู้จะมาส่งเราที่หน้าโรงแรมเลย หรือจะลงตรงไหนในเมืองก็บอกพี่คนขับได้เลย
เมื่อมาถึงนครพนม เราจัดการฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมก่อนเพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน และเช่าจักรยานปั่นไปเรื่อยๆ แบบไม่ได้เช็คGoogle map เลยว่า มันใช่ทางที่เราจะไปหรือเปล่า ปั่นไปแบบมั่วมากๆ รู้ตัวอีกที.. เส้นทางที่เราไปมันสวนทางกับริมฝั่งแม่น้ำโขง 55555
เพราะความหิวนิดหน่อยบวกกับความร้อน เลยตัดสินใจแวะนั่งพักสักครู่ และนั่นก็ทำให้เราได้พบกับคุณป้าร้านน้ำ และร้านลูกชิ้นทอด ที่หลังโรงเรียนแห่งหนึ่ง
![](/f/44131/63d4fed7ac342359e4b7767d.jpg)
เรานั่งคุยกับคุณป้าสักพัก ได้ข้อมูลมาหลายอย่าง แนะนำสถานที่ต่างๆ ในนครพนมให้เรา
หลังจากนั้นเราก็ปั่นย้อนกลับไปตามเส้นทางเลียบริมโขง ท่ามกลางแดดอุ่นๆ (อุ่นกว่าไฟนรกนิดเดียว 555)
สายลมเอื่อยๆ พัดโชยมา บวกกับทิวทัศน์ที่เห็นตรงหน้า สวยงามจนไม่สามารถเอ่ยถ้อยคำใดมาบรรยายได้จริงๆ เรารู้ตัวเลยว่าพูดคำว่า “สวย” กับวิวตรงหน้าได้เปลืองมากจริงๆ
![](/f/44131/63d4fed6ac342359e4b7767b.jpg)
![](/f/44131/63d4fed5ac342359e4b77678.jpg)
อุปกรณ์ในการบันทึกความทรงจำที่พร้อมสู้แบบทุลักทุเลไปด้วยกัน
![](/f/44131/63d4fed5ac342359e4b77677.jpg)
![](/f/44131/63d4fed5ac342359e4b77679.jpg)
ตรงนี้คือ วัดนักบุญอันนา หนองแสง เป็นโบสถ์คริสต์ที่มีความเก่าแก่สวยงามแห่งหนึ่งในจังหวัดนครพนม
![](/f/44131/63d4fed4ac342359e4b77675.jpg)
ถึงแม้แดดจะร้อนมาก ก็ยังมีลมเย็นๆ ของฤดูหนาวพัดมาให้รู้สึกดีขึ้นบ้าง แต่ความสวยงามที่มีวิวทิวทัศน์ตรงหน้านั้นก็ไม่สามารถเอาชนะแดดร้อนๆ ได้เลยจริงๆ ขอยอมซูฮกให้แดดประเทศไทย
![](/f/44131/63d4fed5ac342359e4b77676.jpg)
หลังจากนั้น รู้สึกว่าเริ่มหมดแรงลูกชิ้นทอด ปั่นกลับมาที่ร้านเตี๋ยวเต็มโต๊ะ (อยู่แถวๆ หอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์) ที่ตกแต่งแนววินเทจย้อนยุค
![](/f/44131/63d4fed6ac342359e4b7767c.jpg)
![](/f/44131/63d4fed7ac342359e4b7767f.jpg)
สำหรับเมืองริมโขงที่มีตำนานเกี่ยวกับพญานาคมากมาย ก็ต้องไม่พลาดที่จะมาไหว้ขอพร ที่ลานพญาศรีสัตนาคราช ตามคำบอกเล่าจากคุณป้าร้านน้ำ แกบอกว่าเคยมีคนมาไหว้แล้วซื้อหวยกลับไป ถูกรางวัลที่ 1 …อ่า แต่เรามันคนไม่ชอบเสี่ยงดวง เลยไม่ได้เลขไหนติดมือกลับมา
![](/f/44131/63d4fedaac342359e4b77689.jpg)
ใกล้ๆ กันนั้น มีหอนาฬิกาเวียดนามอนุสรณ์ เป็นหอนาฬิกาที่ชาวเวียดนามได้สร้างไว้เป็นอนุสรณ์แก่ชาวนครพนมเมื่อครั้งอดีต ปัจจุบันเป็นแลนด์มาร์กที่นักท่องเที่ยวมักจะแวะเวียนมาถ่ายรูป และเป็นความคลาสสิกแห่งกาลเวลาที่ยังหลงเหลืออยู่
![](/f/44131/63d4fed7ac342359e4b77680.jpg)
![](/f/44131/63d4fed8ac342359e4b77682.jpg)
เรามาบริเวณท้ายเมือง ไม่ไกลจากตัวเมืองมากนัก มีเส้นทางปั่นจักรยานยาวๆ มีทั้งผู้คนที่มาวิ่งออกกำลังกาย บรรยากาศดีมากๆๆๆๆๆๆ ทัศนียภาพแตกต่างไปจากมุมมองที่เห็นในเมืองนิดหน่อย แต่ยังคงความสวยงามและเงียบสงบเช่นเคย
![](/f/44131/63d4fed9ac342359e4b77687.jpg)
![](/f/44131/63d4fed8ac342359e4b77684.jpg)
![](/f/44131/63d4fed8ac342359e4b77681.jpg)
![](/f/44131/63d4fed8ac342359e4b77683.jpg)
![](/f/44131/63d4fed9ac342359e4b77685.jpg)
มาถึงตรงนี้เราจะเห็นแม่น้ำโขงแห้งเป็นสันดอนทราย ให้ความรู้สึกที่แปลกใหม่สำหรับผู้มาเยือนอย่างเราไม่น้อย
เราเดินมาถ่ายรูปด้านล่าง ที่เป็นพื้นดิน ถ่ายไปถ่ายมา เดินหามุมตรงนี้นิด ตรงนี้หน่อย กลายเป็นว่าเราไปยืนอยู่ตรงกลางแม่น้ำโขงแบบไม่รู้ตัว คิดไปคิดมานี่เราออกนอกประเทศหรือยังนะ 555555
![](/f/44131/63d4fed9ac342359e4b77688.jpg)
วัดฝั่งลาว ที่มองเห็นจากฝั่งไทย
![](/f/44131/63d4fed9ac342359e4b77686.jpg)
คนน้อยมากกกกก ถ่ายไปยังไงก็ไม่ติดคนอื่น จะตั้งกล้องโพสต์ท่าถ่ายนานแค่ไหนก็ไม่มีคนมาให้หลบกันวุ่นวาย
![](/f/44131/63d4fedbac342359e4b7768c.jpg)
เราใช้เวลาอยู่ที่นี่สักพักจวนถึงเวลาที่จะต้องกลับไปที่ท่าเรือ บริเวณลานพญานาคจะมีจุดลงเรือ เพื่อล่องเรือชมวิวแม่น้ำโขง โดยใน 1 วันจะมีแค่ 1 รอบ และจะต้องมารอที่ท่าเรือประมาณ 4 โมงครึ่ง ค่าบริการเพียงคนละ 50 บาทเท่านั้น
![](/f/44131/63d4fedaac342359e4b7768a.jpg)
![](/f/44131/63d4fedaac342359e4b7768b.jpg)
![](/f/44131/63d4fedbac342359e4b7768d.jpg)
![](/f/44131/63d4fedbac342359e4b7768e.jpg)
![](/f/44131/63d4fedcac342359e4b77691.jpg)
การได้นั่งชมวิวธรรมชาติริมฝั่งโขง เป็นอะไรที่พิเศษสำหรับเรามากๆ ได้เห็นนครพนมผ่านมุมมองจากแม่น้ำโขงที่ไหลกั้นพรมแดนไทย ลาว และชมพระอาทิตย์ตกในยามเย็น ณ สถานที่ที่แปลกตา
![](/f/44131/63d4fedcac342359e4b7768f.jpg)
ระหว่างกินลมชมวิว พร้อมกับถ่ายรูปไปพลาง ก็มีประโยคคลาสสิกจากคนแปลกหน้าบนเรือพูดกับเราว่า “รบกวนถ่ายรูปให้หน่อยได้ไหมคะ” แน่นอนว่าเราตกปากรับคำทันที และเขาก็ถ่ายรูปให้เราด้วยเช่นกัน
![](/f/44131/63d4fedcac342359e4b77690.jpg)
บรรยากาศเริ่มเย็นขึ้น บวกกับเสียงเพลงขับกล่อมในค่ำวันนี้ช่างเป็นอะไรที่เยียวยาจิตใจนักเดินทางอย่างเราได้มากเลยทีเดียว
![](/f/44131/63d4feddac342359e4b77694.jpg)
นี่เป็นเพียงความประทับใจในวันแรกของการมาเยือน ที่ได้สัมผัสดินแดนแห่งนี้ ก็รู้สึกได้เลยว่าตกหลุมรักนครพนมไปแล้ว
วันนี้ขอตัวไปนอนก่อน.. แล้วจะมาต่อ DAY 2 นะคะ
อ้อออ มื้อเย็นวันนี้จบที่หมูจุ่มหน้าปากซอยโรงแรม แต่หิวมาก กินด้วยความเร็วแสงไม่ได้ถ่ายรูปเก็บไว้เลย แต่อร่อยมากๆๆๆๆๆ
DAY 2 : ขอบคุณร่างกายที่เที่ยวไหวไปด้วยกัน
เช้าวันที่ 2 ของการมาเยือนนครพนมของเรา
เริ่มต้นด้วยการเติมพลังงานด้วยร้านอาหารเช้าพรเทพ ที่ชาวนครพนมแนะนำว่า ถ้ามานครพนมก็ต้องแวะร้านนี้ มันอร่อยจริงๆ อร่อยไปยันน้ำชาฟรีเลย ประทับใจจจจ เราสั่งโจ๊กกับหมูยอมากินอร่อยมากสมคำร่ำลือจริงๆ และจะบอกว่าคนเยอะมากนะ เพราะตอนเราไปเหลือโต๊ะสุดท้าย คนที่มาหลังจากเราก็คือรอคิวแล้วนะะ
![](/f/44131/63d4feddac342359e4b77696.jpg)
![](/f/44131/63d4fedcac342359e4b77692.jpg)
![](/f/44131/63d4feddac342359e4b77693.jpg)
![](/f/44131/63d4feddac342359e4b77695.jpg)
หลังจากนั้น เราก็ไปที่บขส. เพื่อจะขึ้นรถตู้ไปยังวัดพระธาตุพนม อ.ธาตุพนม ระยะทางราวๆ 60 กิโลเมตร ค่าโดยสารคนละ 50 บาท ก็ถือว่าไม่แพงเลยนะ
พอมาถึงธาตุพนม สิ่งแรกที่เรารู้สึกเลย ก็คือ แดดร้อนมากกกกกกกกกกก ก.ไก่ล้านตัว และคนเยอะด้วย อาจจะเพราะวันนี้เป็นวันหยุด ก็เลยมีคนมาเยอะหน่อย ถ้าใครอยากมาถ่ายสวยๆ แบบชิคๆ ชิลๆ แนะนำว่ามาวันธรรมดาจะดีกว่า ได้รูปสวยๆหน้าประตูงี้ (เราไม่ได้เพราะขี้เกียยจรอ5555)
![](/f/44131/63d4fedeac342359e4b77698.jpg)
แต่ความคนเยอะก็ทำให้รู้สึกดีอย่างนึงว่า ชาวบ้าน แม่ค้าพ่อขาย ผู้ประกอบการหลายๆ คนคงพอมีรายได้จากนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง
![](/f/44131/63d4fedeac342359e4b77697.jpg)
องค์พระธาตุพนม เป็นพระธาตุศักดิ์สิทธิ์ ประจำวันเกิดของคนที่เกิดวันอาทิตย์ และเป็นพระธาตุประจำปีนักษัตรของคนที่เกิด ปีวอก ซึ่ง.. ตรงกับเราทั้ง 2 อย่าง เลยคิดว่า ดีจังที่ได้มาสักครั้งในชีวิ
![](/f/44131/63d4fedeac342359e4b77699.jpg)
นอกจากนี้ที่นครพนม ยังมีพระธาตุประจำวันเกิดครบทุกวันด้วย โดยแต่ละที่จะอยู่ห่างกันออกไปสักหน่อย ถ้าไม่มีรถยนต์มาก็อาจจะไม่สะดวกในการเดินทางไปไหว้ให้ครบ แต่สำหรับเท่านี้ก็ถือว่าโอเคมากๆ แล้ว
หลังจากไหว้พระ ขอพร และทำสังฆทาน เดินเล่นรอบๆ บริเวณพระธาตุแล้ว เราออกมาเดินเล่นบริเวณเมือง เดินไปตามริมแม่น้ำโขง ซึ่งที่นี่เงียบมากๆ ไม่มีนักท่องเที่ยวมาทางนี้เลย อาจจะเพราะว่ามันไม่ได้มีแลนด์มาร์กเด่นๆ ที่สำคัญมากนัก แต่สำหรับการได้เห็นวิวสวยๆ แบบนี้ก็คือ ภาพที่สุดยอดมากๆ สำหรับเราแล้ว
![](/f/44131/63d4fedfac342359e4b7769a.jpg)
แม่น้ำมันเป็น 2 สี ด้วยล่ะทุกคนน
![](/f/44131/63d4fedfac342359e4b7769e.jpg)
หลังจากนั่งพักจนพอมีแรง เราก็เดินกลับมาขึ้นรถตู้กลับเข้าเมือง เรามารอรถที่บริเวณหน้าวัด ถามจากพี่ๆแม่ค้าว่าต้องรอตรงไหนได้บ้าง พี่ๆน่ารักกันทุกคนเลย ตอบอย่างยิ้มแย้มและเป็นมิตรมากๆ
![](/f/44131/63d4fedfac342359e4b7769d.jpg)
เราเดินเล่น ไปเรื่อยๆ จนเริ่มรู้สึกเพลียๆ เพราะแดดร้อนมากๆ แวะเติมน้ำให้ร่างกายสดชื่นที่คาเฟ่เล็กๆ เมนูอาจจะไม่ได้มีมากนัก แต่ก็มีเครื่องดื่มอร่อยๆ พอให้เราได้ชื่นใจอยู่บ้าง แต่ถึงแดดร้อนก็จริง แต่ลมเย็นมากกกก อาจจะเพราะนี่ยังเป็นช่วงฤดูหนาว ไม่อยากจะคิดถึงหน้าร้อนเล๊ยยย
![](/f/44131/63d4fedfac342359e4b7769b.jpg)
หลังจากกลับมาที่ตัวเมืองเราแวะหาข้าวกินเติมพลังกันสักหน่อย มาที่ร้านอาหารครัวเวียดนาม (ที่นี่ร้านอาหารเวียดนามเยอะมากๆ)
![](/f/44131/63d4fedfac342359e4b7769c.jpg)
พอท้องอิ่มก็ไปต่อกันที่ บ้านลุงโฮจิมินห์ จุดนี้จะห่างจากในเมืองประมาณ 6-7 โล และต้องวิ่งบนถนนใหญ่ที่รถวิ่งเยอะๆ แนะนำว่าควรเป็นมอเตอร์ไซค์ หรือรถยนต์ หรือจ้างรถรับจ้างสกายแล็ปมาก็ได้ นอกจากจะอยู่ห่างจากเมืองนิดหน่อย ทางเข้าก็ต้องผ่านสุสานด้วยบวกกับทางที่เป็นเนินชันนิดหน่อย ถ้าใครไหวก็ปั่นมาได้เลยยย ><
ที่บ้านลุงโฮจิมินห์ อดีตประธานาธิบดีของเวียดนาม เรียกกันติดปากว่า บ้านลุงโฮ
ลุงโฮเคยมาสร้างบ้านอาศัยอยู่ที่นี่ เพื่อหาแนวร่วมกลับไปกู้เอกราชให้กับประเทศเวียดนามในช่วง 90 ปีที่แล้ว ถ้าใครอยากรู้เรื่องราวประวัติศาสตร์เพิ่มเติม ก็มีพี่ๆ คอยดูแลให้ข้อมูลและความรู้ด้วยนะ
![](/f/44131/63d4fee1ac342359e4b776a3.jpg)
![](/f/44131/63d4fee0ac342359e4b776a0.jpg)
![](/f/44131/63d4fee0ac342359e4b7769f.jpg)
![](/f/44131/63d4fee1ac342359e4b776a2.jpg)
และที่นี่ก็คือบ้านของดั้งเดิมแท้ๆ สัมผัสได้ถึงความเก่า แต่ได้รับการดูแลอย่างดี บริเวณทางเข้าดูร่มรื่นเย็นสบายมาก ด้านในยังคงมีข้าวของเครื่องใช้ในสมัยก่อน ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะทำงาน บ้องสูบยา และรูปภาพในอดีตเพื่อคงบรรยากาศเดิมๆ
![](/f/44131/63d4fee1ac342359e4b776a1.jpg)
เปิดให้เข้าชมฟรีทุกวัน เวลา 8:30 - 16:30 น.
ถัดมาไม่ไกลนัก หลังจากเที่ยวชมบ้านลุงโฮแล้ว ก็แวะมาที่ อนุสรณ์สถานประธานโฮจิมินห์ เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ สร้างเพื่อเป็นเกียรติประวัติแก่ประธานโฮจิมินห์ ที่มาอาศัยอยู่บ้านนาจอก ในช่วงสงครามอินโดจีนเพื่อกอบกู้เอกราชจนสำเร็จ
![](/f/44131/63d4fee1ac342359e4b776a5.jpg)
![](/f/44131/63d4fee1ac342359e4b776a4.jpg)
![](/f/44131/63d4fee2ac342359e4b776a6.jpg)
ภายในมีอาคารพิพิธภัณฑ์ มีอาคารจำลองบ้านเก่าของท่านโฮจิมินห์ (ที่คล้ายกับบ้านลุงโฮที่เราไปเยี่ยมเยียนมาเมื่อกี้) นอกจากนี้ที่นี่ยังมีให้บริการให้เช่าชุดเวียดนามใส่ถ่ายรูปด้วยนะ แต่เราเหนื่อยและหมดแรงไปกับริมแม่น้ำโขงเมื่อบ่ายแล้ว ไม่มีแรงแม้แต่จะถ่ายรูปมาฝากทุกคนแล้วด้วย (T_T)
แสงอาทิตย์ค่อยๆ ลาลับขอบฟ้า เรากลับมาบริเวณหอนาฬิกาฯ ที่นี่มีถนนคนเดินให้เดินเล่น เดินช้อปกันชิลๆ โดยจะมีแค่วัน ศ.ส.อา. เท่านั้น ของที่ขายส่วนมากก็เป็น เสื้อผ้า ของกินต่างๆ ผสมปนเปกันไป เราได้โปสการ์ดมาหนึ่งชิ้น น่ารักดี
![](/f/44131/63d4fee2ac342359e4b776a8.jpg)
![](/f/44131/63d4fee2ac342359e4b776a7.jpg)
วันนี้ได้ฟังดนตรีอีสานเพราะๆ และชมเซิ้งสวยๆ จากน้องๆกลุ่มนี้ด้วย
![](/f/44131/63d4fee3ac342359e4b776ac.jpg)
เรามองอะไรแบบนี้ได้ไม่เบื่อเลย..
![](/f/44131/63d4fee2ac342359e4b776a9.jpg)
ฟ้าเริ่มมืดท้องเริ่มหิว(อีกแล้ว) เราแวะมากินหมูจุ่ม (ซึ่งเราเรียกจิ้มจุ่ม แต่คนนครพนมเรียกหมูจุ่ม หรือบางคนก็เรียกแจ่วฮ้อน) แถวๆ ริมแม่น้ำโขง เป็นหม้อดินเผา บรรยากาศสุดจะฟินมีคราฟโซจู (ไม่มีแอลกอฮอล์) ขายใกล้ๆกัน เป็นผลิตภัณฑ์จากชาวบ้านในชุมชนนี่แหละ แต่จำไม่ได้แล้วว่าจากชุมชนไหน แต่อร่อยมากกกก ขวดละ 180 บาทเท่านั้นเองงง อยากให้ทุกคนได้ชิมมม ใครมาก็แวะมาชิมได้นะ
![](/f/44131/63d4fee3ac342359e4b776aa.jpg)
อิ่มแล้วกลับโรงแรมไปพักกันเถอะ วันนี้ร่างจะพัง.. เดินเยอะไม่ไหว TT
ขอบคุณตัวเองจริงๆ ที่มีใจจะเดิน มีใจอยากเห็นบ้านเมือง อยากเห็นวิวสวยๆ ถึงมันจะไม่ได้พิเศษหวือหวาอะไร แต่เราว่าความธรรมดามันก็ดูเรียบง่ายและเข้าถึงง่ายดีเหมือนกันนะ
DAY : 3 ยิ่งเห็นโลกกว้างแค่ไหน เราจะยิ่งรู้ว่า… ตัวเราเล็กนิดเดียว
สวัสดี เช้าวันที่ 3 ของการเยือน นครพนม เรางัดร่างกายเพลียๆ ลุกมาจากเตียง จัดการอาบน้ำแต่งตัวเพื่อไปหาเมนูมื้อเช้ากิน
วันนี้ค่อนข้างตื่นสาย เพราะรู้สึกเพลียจากการเดินตากแดดร้อนๆ เป็นกิโล บวกกับเมื่อคืนนี้เรานอนไม่ค่อยจะหลับเท่าไหร่ เพราะรู้สึกว่าเหมือนจะมีช่วงนึงที่แอร์ตัดไป และเราก็เหมือนจะฝันไม่ค่อยดีนักด้วย สะดุ้งตื่นมา 2-3 รอบเลย ทั้งๆ ที่เพลียขนาดนั้นแล้วแท้ๆ แต่กลับหลับได้ไม่เต็มอิ่ม TT เช้านี้เลยไม่ค่อยสดใสเอาซะเลย =_=
เราไม่รู้จะไปหาอะไรกินเช้านี้ดี.. เลยเดินมาใกล้ๆ ริมโขง (อะไรๆ ก็ริมโขง5555) เผื่อจะมีร้านไหนเปิดบ้าง แล้วก็มาเจอร้านกาแฟ ที่อยู่ใกล้กับหอนาฬิกา ตรงข้ามกับร้านเตี๋ยวเต็มโต๊ะที่เรามากินวันแรกเลย
![](/f/44131/63d4fee3ac342359e4b776ab.jpg)
แต่ปกติเราก็ไม่ใช่คนกินกาแฟสักเท่าไหร่นัก เลยไม่รู้ว่าควรสั่งอะไรดี พี่บาริสต้าก็เลยถามว่าเราชอบรสชาติประมาณไหน ขมมั้ย หรือเปรี้ยวมั้ย เราคิดว่าคงกินแบบขมๆ ไม่น่ารอด เลยบอกว่าขอเปรี้ยวดีกว่าและขอเป็นแบบกาแฟเย็นด้วย จะได้เติมความสดชื่นหน่อย
![](/f/44131/63d4fee3ac342359e4b776ad.jpg)
ในร้านก็มีปาเตขายด้วย เป็นอาหารเช้าสไตล์เวียดนาม ความไม่เคยเห็น ไม่เคยชิมมาก่อน ก็เลยสั่งมาชิม 1 ชิ้นถ้วนน ร้านเป็นร้านเล็กๆ ไม่ใหญ่มาก มีโต๊ะให้นั่ง 2-3 โต๊ะ ซึ่งตอนนั้นเราไปมันมีที่นั่งแบบที่แชร์กับคนอื่น
![](/f/44131/63d4fee4ac342359e4b776ae.jpg)
พี่ๆ เขาก็ชักชวนเรานั่งด้วยกัน (คนนครพนมที่เจอใจดีกับเราทุกคนเลย) ถามไถ่นั่นนี่ มาคนเดียวหรอ ดีจังนู่นนั่น คุยไปเรื่อย แนะนำสถานที่ต่างๆ ก็คือคุยเพลินมากๆ จนพี่เขาต้องขอตัวไปทำงาน ส่วนเราก็นั่งจิบกาแฟและกินปาเต
พูดถึงปาเต มันคือขนมปังแข็งๆ ที่ข้างในมีไส้เป็นหมูยอ หมู ซอส ผักต่างๆ หมูยออร่อยมากกก (หมูยอLoverแน่ๆ 555) คือมันอร่อยนะ แต่มันก็แข็งไปสำหรับเราจริงๆ ทุกคนนน เป็นการกินปาเตที่เหนื่อยมาก 5555555
![](/f/44131/63d4fee4ac342359e4b776b0.jpg)
น้องแมวมานั่งเป็นเพื่อนนน
![](/f/44131/63d4fee4ac342359e4b776af.jpg)
หลังจากอิ่มท้อง..(อิ่มหลอกๆ กินไปติ๊ดเดียวจะอิ่มได้ไง -.,-) เราก็เดินมาถ่ายรูป ที่มุมอาร์ตน่ารักผ่านภาพวาด Street art อยู่ใกล้ๆ กับร้านกาแฟเลย เราจะบอกว่าแทบ จะ ไม่ มี คน เลย เพราะที่นี่มีคนนครพนม ผ่าม ผ๊าม !! (ขอเล่นหน่อยเถอะ เหงา) แฮ่ๆ ที่นี่คนน้อยมากกก เราตั้งกล้องถ่ายรูปแบบชิลสุดอะไรสุด ถ่ายจนได้รูป ได้มุมที่พอใจก็เดินเล่น นั่งมองวิวแม่น้ำโขง ทำให้ค่อยรู้สึกดีกับวันนี้ขึ้นมาหน่อ
![](/f/44131/63d4fee5ac342359e4b776b3.jpg)
เบื้องหลังรูปสวยๆ ของทริปนี้ ยกให้เจ้าน้อนพวกนี้เลยค้าบบบ
![](/f/44131/63d4fee5ac342359e4b776b1.jpg)
เมื่อเราต้องตั้งกล้องเอง ถ่ายเอง อย่าไปเขินน ถ้าเขินเราจะไม่มีรูปปป สู้เขาาา
![](/f/44131/63d4fee5ac342359e4b776b4.jpg)
เราเดินเล่นถ่ายรูปจนเวลาผ่านไปจนหิวขึ้นมาอีกแล้ว เลยแวะหาอะไรกินที่ร้าน ครัวสะบายดี เป็นร้านอาหารเวียดนาม(อีกแล้ว) สั่งก๋วยจั๊บญวนหมูมา กับน้ำเก๊กฮวยเย็นๆ ชื่นนนใจ
![](/f/44131/63d4fee5ac342359e4b776b2.jpg)
อันที่จริงแพลนในวันนี้ขอเราแทบไม่มีอะไรเลย เพราะเราเองก็ไม่ได้คาดหวังความหวือหวา หรือแพลนเที่ยวแบบอัดแน่นขนาดนั้น อย่างที่บอกไปตั้งแต่ต้นกระทู้ ว่าเราอยากมาพักผ่อน ซึ่งที่นี่มันตอบโจทย์เรามากๆ เราใช้เวลาอยู่กับตัวเอง อยู่กับสิ่งรอบตัวไม่คุ้นเคย มันสงบ มันเป็นการฮีลจิตใจตัวเองที่ดีมาก
สถานที่ต่อไปที่เราจะไปทำความรู้จัก เป็นที่ที่สวยและน่ารักมากสำหรับเรา.. มันคือ บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว 3 ซึ่งมีทางปั่นจักรยานยาวววววว มากๆ แต่มันก็ค่อนข้างห่างจากตัวเมืองสักประมาณ 10 กม.เห็นจะได้ ใจไหวก็ปั่นเลยยย แต่ระวังอย่านั่งชิลนานๆ ขากลับจะมืดซะก่อน
![](/f/44131/63d4fee5ac342359e4b776b5.jpg)
![](/f/44131/63d4fee6ac342359e4b776b7.jpg)
เราอยากบอกว่า ณ สถานที่แห่งนี้ บรรยายากาศมันเรียกว่า โคตรดี ! ดีเกินกว่าที่คิดไว้ทุกอย่าง ดีจนไม่รู้จะอธิบายยังไง เราก็ขอให้ภาพที่เราถ่ายมาฝากเป็นคำตอบแทนแล้วกัน
![](/f/44131/63d4fee6ac342359e4b776b9.jpg)
โลกเรามันกว้างมากจริงๆเลยเนอะ ทุกครั้งที่เดินทางมักมีประสบการณ์ และเรื่องเล่ากลับมาด้วยเสมอ
และยิ่งเห็นโลกกว้างแค่ไหน เราจะยิ่งรู้ว่า… ตัวเราเล็กนิดเดียว
![](/f/44131/63d4fee8ac342359e4b776bd.jpg)
รูปนี้จะสวยมากๆ เลย ถ้าไม่มีขยะเกลื่อนกลาดขนาดนี้.. อยากให้ทุกคนช่วยกันไม่ทิ้งขยะ อยากให้มีที่ที่สวยๆ เยอะๆจังนะ
![](/f/44131/63d4fee6ac342359e4b776b8.jpg)
![](/f/44131/63d4fee6ac342359e4b776b6.jpg)
เราดีใจที่ตัดสินใจมายัง นครพนม ถ้าใครถามเราว่านครพนมมีอะไรดี เราคงอยากแนะนำให้เขาเดินทางมาเห็น มาสัมผัสบรรยากาศเหล่านี้ มากกว่าคำบอกเล่าจากเรา
คิดไปคิดมา.. นี่ก็เป็นเย็นวันสุดท้ายของทริปนี้ พรุ่งนี้ต้องเดินทางกลับกรุงเทพฯ แอบถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะไม่อยากจากที่นี่ไปเลย แต่เราคิดว่าเราคงได้กลับมาอีกครั้ง และอยากบอกต่อภาพความทรงจำดีๆ ที่เราเก็บไว้เมื่อครั้งมาเยือน นครพนม
![](/f/44131/63d4fee7ac342359e4b776ba.jpg)
พระอาทิตย์เริ่มเปลี่ยนสี จะลาลับขอบฟ้าอีกแล้ว ได้เวลาต้องกลับเข้าเมืองก่อนจะค่ำเสียก่อน ถึงแม้ความจริงอยากนั่งอยู่ตรงนี้นานๆ ดูวิวตรงหน้านี้ไปเรื่อยๆ…
ค่ำคืนนี้.. เราจบที่การกินบาร์บีคิวกับปลาหมึกย่างที่ถนนคนเดิน นั่งกินลมชมแม่น้ำโขงมืดๆ จนทนลมหนาวไม่ไหว...
DAY : 4 แล้วพบกันใหม่ Good Bye นครพนม
เช้านี้เราตื่นมาอาบน้ำแต่งตัว เก็บของพร้อมสำหรับเช็คเอ้าท์และเดินทางกลับ ก่อนจะลงไปกินอาหารเช้าที่ร้านหน้าโรงแรม
อ้อ.. ตั้งแต่มาเราคงยังไม่ได้เอ่ยถึงโรงแรมที่เราพัก ชื่อ “โรงแรมพอเพียง” เป็นโรงแรมเล็กๆ อยู่ห่างจากบริเวณหอนาฬิกาไม่กี่ร้อยเมตรเท่านั้น ที่นี่พนักงานบริการดี น่ารักและเป็นกันเองเราไม่ได้เก็บภาพภายในโรงแรมมาเลย แต่ถ้าจะมานครพนม โรงแรมนี้ก็เป็นทางเลือกที่ดี ราคาไม่ได้แพงมาก แถมมีจักรยานให้เช่าด้วย ชั่วโมงละ 30 บาท ถ้าเกิน 3 ชั่วโมงคิดเป็นวันละ 80 บาท
![](/f/44131/63d4fee7ac342359e4b776bb.jpg)
![](/f/44131/63d4fee7ac342359e4b776bc.jpg)
นี่คือโจ๊กมื้อเช้าของเรา เสิร์ฟมาพร้อมกับปาท่องโก๋ อร่อยมากๆๆ ร้านนี้เป็นร้านเล็กๆ ที่นั่งอาจจะไม่ได้เยอะมาก เราสังเกตุเลยว่า ที่ร้านมีลูกค้ามาซื้อแบบรับกลับเยอะมากก มาไม่ขาดสายเลย ช่วงประมาณ 10 -11 โมงก็ขายหมดแล้ววว ร้านอยู่หน้าโรงแรมพอเพียงที่เราพัก แต่เราก็จำชื่อร้านไม่ได้
![](/f/44131/63d4fee9ac342359e4b776c0.jpg)
หลังจากอิ่มโจ๊กมื้อเช้า เราเดินไปร้านกาแฟเมื่อวานอีก อันนี้ติดใจกาแฟด้วยและอยากไปเสพบรรยากาศริมโขงก่อนจะเดินทางกลับอีกสักครั้ง..
![](/f/44131/63d4fee8ac342359e4b776be.jpg)
![](/f/44131/63d4fee8ac342359e4b776bf.jpg)
วันนี้เลยซื้อกาแฟแล้วมานั่งดื่มที่ริมโขง และถ่ายรูปเซ็ตสุดท้ายก่อนจะลา..
![](/f/44131/63d4fee9ac342359e4b776c1.jpg)
![](/f/44131/63d4fee9ac342359e4b776c2.jpg)
![](/f/44131/63d4fee9ac342359e4b776c3.jpg)
ใกล้เวลาที่นัดกับรถตู้เพื่อมารับไปส่งที่สนามบินแล้ว เราเดินกลับมาที่โรงแรม เช็คของให้เรียบร้อยดีอีกรอบ และลงไปเช็คเอาท์นั่งรอรถตู้ข้างหน้าโรงแรม
การโทรนัดให้รถตู้มารับ เราโทรนัดพี่เค้าล่วงหน้า 1 วัน ก็โทรตามเบอร์ที่เขาให้ตั๋วเราตอนมาส่งจากสนามบินวันแรกนั่นแหละค่ะ ค่าบริการก็ 100 บาทเท่าเดิม
![](/f/44131/63d4fee9ac342359e4b776c4.jpg)
นครพนมที่เราได้รู้จัก น่ารักมากจริงๆ เป็นอีสาน ที่มีความเวียดนามข้นมากๆ และผสมความเป็นลาวได้อย่างกลมกล่อม และความจริงนครพนมอาจจะน่ารักมากกว่านี้ แต่เรายังไม่ได้ค้นพบทั้งหมด เพราะที่เราไปเยือนนี่เป็นเพียงส่วนหนึ่งของนครพนม และเศษเสี้ยวของโลกใบนี้เท่านั้น..
ถ้าใครอยากมาพักผ่อนแบบสโลว์ไลฟ์ เรื่อยๆ ชิลๆ ไม่หวือหวา ไม่วุ่นวาย อย่าลืมชื่อจังหวัดนครพนม ให้เป็นอีกหนึ่งในลิสต์รายการตัวเลือก บอกได้เลยว่านครพนม แม้จะเป็นเมืองรอง แต่ไม่เป็นรองใครแน่นอน.. และเรามั่นใจว่า นครพนมจะทำให้ทุกคนตกหลุมรัก <
ด้วยรักและอยากเดินทาง
Arii - Sherry4869
SHERRY
วันพุธที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 16.22 น.