ทริปนัดกระทันหันจากสายเดินทัวร์ท่านหนึ่ง ที่เวลามีนัดเดินทัวร์ในเมืองทีไรฺ ต้องถามก่อนว่าเดินกี่กิโล ถ้าเดินเยอะจะไม่ไปด้วย และถ้าเพื่อนๆ เคยอ่านบล็อกเตยมาก่อนจะมีท่านหัวหน้าทริปคนนี้เคยชวนไปตะลอนมาแล้ว นั่นก็คือ… เจ๊ปุ๊ก เจ้าเก่านั่นเอง 

พวกเราจ้อง Bangkok Design Week มาก่อนหน้านี้แล้ว แต่วันไม่ลงล็อกด้วยภารกิจทุกวันของเตยเอง จนมาตัดสินใจล่วงหน้าก่อนเดินทางวันเดียว และ เป็น half-day trip ที่ เงื่อนไขเยอะพอตัวจากฝั่งเตยเอง คือ

วันเสาร์ที่ 4 กุมภาพันธ์ ที่เป็นวันแรกของงาน Bangkok Design Week เตยทำงานครึ่งวันเช้า และวันถัดไปก็ยังต้องทำงานต่อ ทำงาน 14 วันยาวไปน่ะเพราะฉะนั้นเดินเยอะไม่ได้ ต้องเซฟร่างกายและพลังงานไว้ใช้ต่อ และอยากกลับถึงที่พักไม่เกิน 3 ทุ่ม เพราะพี่วินกลับไปนอนเร็ว จะไม่มีรถเข้าที่พัก ส่วนเงื่อนไขข้อสุดท้ายคือ 2 คนนี้ไม่มีรถข่าา 🤣

และเหตุผลที่เลือกไปฝั่งธนฯ กันคือ หัวหน้าทัวร์เธอบอกว่าปีนี้ปีแรกที่ฝั่งธนเข้าร่วมงาน

Bangkok Design Week และฝั่งธนฯไม่เชี่ยว เหมาะกะเปิดหูเปิดตา ช่วยกันหลง ก็เลย ป่ะ ไปกัน ชวนง่าย


เก็บ NFT Airdrop ณ The Reference วงเวียนใหญ่

การเดินทางวันนี้… รถสาธารณะล้วน เริ่มจาก ขึ้นรถตู้ไปลงฟิวเจอร์รังสิต ต่อรถเมล์สาย522 ไปลงแยกคปอ. เพื่อจะไปต่อ BTS ยิงยาวไปฝั่งโน้นเลย และสถานีแรกที่เราลง คือ สถานีวงเวียนใหญ่ ไปรับ NFT ฟรีที่มีสิทธิประโยชน์คือ เป็นส่วนลดค่าเครื่องดื่ม ตามแต่ NFT ที่เราสุ่มได้ มีทั้งหมด 3 ร้าน ตลอดทั้งงานมีเพียง 100 ชิ้นเท่านั้น เพียงแค่มี Metamark wallet และมีเวลา ยืนเพิ่ม Bitkub Chain กันตรงนั้น (ทำไมไม่ให้เข้าผ่าน BitkubNFT นะ ดูลำบาก) งาน NFT เขาสวยน๊า 


มาถึงนี่แล้ว ถือโอกาสเดินชมห้องเขาไปด้วย การจัดห้องก็เป็นการออกแบบอย่างหนึ่ง ซึ่ง… คนอยู่จริงจัดให้สวยแบบเขายาก 🤣 The Reference วงเวียนใหญ่ เป็นคอนโดมีเนียมที่เป็นสถานที่จัดงาน Bangkok Design Week มีเวทีเสวนาอยู่หน้าโครงการ และเป็นฮับของที่เดินโซนนี้ จัดแสดงเครื่องหนังของแบรนด์ไทย เช่น Mha Art & Craft หรือ Lioli Studio ที่ตั้งอยู่ในละแวกนั้นด้วย 



ที่หน้า The Reference วงเวียนใหญ่มีรถกะป๊อบริการให้ผู้มาชมงานเดินทางโซนฝั่งธนฯ ฟรี โดยจะแวะ 3 จุดหลักๆ ได้แก่ ตรงนี้ที่เราอยู่ และไปยัง Icon Siam หรือ ตลาดพลู 

ปะ next station หิวแล้ว


เปลี่ยนทริปทัวร์เมือง ให้เป็นทัวร์กิน ที่ตลาดพลู

รถกะป๊อพาเราวันรอบตลาดพลู ซอกแซกไปในซอยเล็กขนาด 1 เลนแล้วออกมาจอดตรงจุดรับส่งผู้โดยสารผู้ชมงาน ข้างตลาดพลู (ตลาดรัชดาฯ) ตลาดพลูน่ะ ขึ้นชื่อเรื่องอาหารอยู่แล้วใช่ไหมคะ เราสองคนที่เดินผ่านสิ่งเร้าสองข้างทาง ก็อดไม่ได้ เริ่มจากเดินหาที่นั่งกิน อะ ไม่มี งั้นไปหาร้านที่มีที่นั่งกันเถอะ เอ๊ะ ฝั่งขะโน้นมีที่นั่ง ป่ะ ก็พากันเดินข้ามไปฝั่งสถานีรถไฟปู๊นๆ เดินๆ แล้วก็ตัดสินใจ ร้านนี้ละว๊า ซึ่งเชฟทั่นนี้มีรถเข็น 2-3 คันจอดเรียงกันอยู่ ด้วยราคาแอปแรง แต่เมนูน่าสนใจก็สั่งกันมาคนละอย่าง 


เจ๊ปุ๊กสั่งบะหมี่กุ้งต้มยำชีส ส่วนเตยสั่งบะหมี่ขาหมูฮ้องเต้ และข่าวว่าบะหมี่ทำเอง ในส่วนของรสชาติคืออร่อย กุ้งคือตัวใหญ่ เผ็ดนำ คุ้ม (เจ๊ปุ๊กกล่าว) ส่วนบะหมี่ขาหมูฮ้องเต้ เหมือนกินบะหมี่ขาหมูกระเพรา น่าจะไม่อยากให้เลี่ยนหรือเปล่า คนลิ้นแมวอย่างเราว่ามันเผ็ดไป แต่อร่อยนะ ขาหมูนิ่มมาก

พออยู่ท้อง เดินต่อได้ ไหนๆ ก็มาถึงฝั่งนี้แล้ว ก็เดินชมชุมชนเสียหน่อยแล้วกัน ซึ่งละแวกนั้นมีหลายที่เข้าร่วมกิจกรรม เช่น บ้านตลาดพลู นำเฮ็ง ศาลเจ้าพ่อพระเพลิง โรงสีง่วนไถ่ ศาลเจ้ากวนอู เป็นต้น แต่เก็บไม่หมดหรอก 

บ่ายชรามากแล้ว ใกล้ได้เวลาละ ก่อนกลับแวะตลาดข้างๆ หน่อย ตรงนี้มีที่นั่งด้วย เท่าที่เดินดู หลายร้านคนต่อแถวยาวมาก น่าจะคัดร้านมาลงอยู่ เตยได้ปังปิ้งเตาถ่านกลับไปเป็นข้าวเย็น และสั่งออส่วนทะเลกินที่ตลาด ราคาประมาณ 60 บาท เครื่องท่วมมาก รสชาติก็ใช้ได้ เครื่องสดอยู่  กับน้ำส้มขวดละ 20 บาท สีเหมือนน้ำส้มปลอม แต่ไม่นะ แท้ๆ เลย เปรี้ยวหวาน สดชื่นมาก เจ๊ปุ๊กได้หนมปังปิ้งลูกกลมๆ เสียบไม้กลับบ้าน ข่าวว่าอร่อยเหมือนกัน ถ้ากินร้อนๆ จะอร่อยกว่านี้ 

 ไปละ จบด้วยรูปอาหาร ทริปหน้าไปไหนมาดูกัน สต๊อกเพียบ ไม่มีเวลาลง

Introvert walker

 วันอาทิตย์ที่ 12 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2566 เวลา 17.29 น.

ความคิดเห็น