การเดินทางวันที่3 แล้วในทริป 3วัน2คืน เชียงใหม่-ลำปาง ของเรา จุดหมายปลายทางของวันนี้ คือ วัดเฉลิมพระเกียรติพระจอมเกล้าราชานุสรณ์ จ.ลำปาง ที่เราเห็นรีวิวสวยๆมากๆ และใฝ่ฝันว่าต้องมาที่นี่สักครั้งให้ได้


(สองวันที่ผ่านมาเราไป บ้านแม่กำปอง และ บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน มา ตามไปอ่านรีวิวได้ค่ะ)


ถึงแล้วค่ะ จุดต่อรถขึ้นเขา เราต้องไปรถของทางวัดเนี่องจากทางขึ้นต้องใช้รถกระบะโฟวิล เท่านั้นเพราะทางชันมาก และมีบางจุดรถสวนไม่ได้ บางจุดต้องเร่ง ต้องผ่อน ต้องเป็นคนชำนาญทางเท่านั้นถึงจะขับได้ ค่อนข้าวหวาดเสียวและอันตราย





และจุดขาวๆเล็กๆนั่น คือยอดเขาที่เรากำลังจะขึ้นไป ลิบๆนู้นนนนน





หาอะไรจับให้มั่นเลย บางช่วงทางชันมาก อาจจะล่วงตกรถได้ รถค่อยๆไต่ระดับขึ้นๆลงๆ ยังกับนั่งรถไฟเหาะ สนุกดีเหมือนกันแฮะ





ถึงครึ่งทางแล้ว รถมาส่งเราได้เท่านี้ ที่เหลือเราต้องเดินเท้า ปีนขึ้นบันไดไปสู่ยอดเขาสูงด้วยตัวเอง





แวะไหว้พระ ศักการะรอยพระพุทธบาทกันก่อนขึ้นเขาค่ะ เป็นการวอมอัพเบาๆ





เดินเท้าขึ้นเขาไป อีก800เมตร เหนื่อยมากแทบไม่ได้ยกกล้องขึ้นถ่ายรูปเลย หายใจไม่ทัน ขนาดค่อยๆเดิน ยังจะตาย

มีแวะพักเหนื่อย ชมวิวข้างทางบ้างเล็กน้อย แต่ตอนนั้นไม่มีอารมณ์จะชมวิวเท่าไหร่

ขึ้นมาไกลจนเห็นป้าย "อีกนิดเดียวก็ถึงแล้ว" ใจก็คิดว่า หลอกกันรึป่าวเนี่ย เหนื่อย เหนื่อยมากกกกกกก หน้าแดงมาก จมูกก็บาน หายใจไม่ทัน เหนื่อยกว่าที่คิดค่ะ เนื่องจากเขาสูงมาก ต้องขึ้นบันไดกันตลอดเวลา แทบจะไม่มีทางราบ แต่บันไดปลอดภัยนะคะ ไม่อันตรายค่ะ





แล้วก็ถึงจนได้ ทางวัดมีป้ายติดว่า วัดไม่รับรองโครงสร้างของตัวสิ่งก่อสร้าง เพื่อให้เราระมัดระวังตัวเองด้วยค่ะ





ผ่างงงงง!!!!!!!!!!!! โอ้ย สวย คือถ่ายไม่สวยเท่าตาเห็นจริงๆ เห็นวิวสวยๆแบบนี้ทำให้ลืมความเหนื่อยไปได้ชั่วขณะ (แต่ยังเหนื่อย หน้าแดงและจมูกยังบานอยู่ แฮ่กๆ)





เจดีย์เล็กๆตรงนั้น ไม่รู้เค้าเอาไปตั้งไว้ได้ยังไง มันมีแต่เขาชันๆทั้งนั้นเลย





บันไดชัน ระวังกันด้วยค่ะ เป็นช่วงชีวิตขาลง พอลงไปแล้วขึ้นใหม่ เพื่อไปดูจุดชมวิวอีกฝั่งหนึ่ง เป็นศาลาที่มีพระประธานตั้งอยู่ ไหว้พระขอพรเพื่อความเป็นศิริมงคลกันค่ะ





วิวของฝั่งนี้ เห็นเจดีย์มากมาย ตามยอดเขา คนสร้างเค้าต้องใช้ความพยายามแค่ไหน เพื่อสร้างเจดีย์พวกนี้ มันสวยจริงๆ





ชีวิตขาลงมันดีจริงๆ เชื่อเราเถอะ เวลาลงแล้วสวนกับคนที่เดินมาแล้วเข้าใจเลยว่า ตอนขึ้นเค้าเหนื่อยกันแค่ไหน เพราะเราผ่านจุดนั้นมาแล้ว ก็ได้แต่ให้กำลังใจ ว่า"อีกนิดเดียวค่ะ จะถึงแล้วค่ะ" แล้วก็ยิ้มปลอบใจกันไป เหมือนที่เราได้รับจากคนที่เดินลง ตอนเราขึ้นมา คือขาขึ้นเหนื่อยจนยกกล้องถ่ายรูปไม่ไหวเลยไม่มีรูปขาขึ้น พวกเราไต่บันไดพวกนี้ขึ้นมาไกลมาก และชันมากจริงๆ





เมื่อถึงแล้วก็เดินทางกันต่อ เพื่อกลับตัวเมืองเชียงใหม่ ขี่รถดูวิวระหว่างทางไปเรื่อยๆ เจอฝนก็หยุดใส่เสื้อกันฝน เจอแดดก็ลุยไป เพราะเราเผื่อเวลาไว้แล้ว ขาก็หนีบเบาะไว้ให้มั่น มือก็กดถ่ายรูปไปตลอดทาง วิวสวยคุ้มค่า ความเหนื่อยและความลำบาก ตากแดดตากฝน





แต่มีสิ่งเซอร์ไพส์ อย่างหนึ่ง คือทางขากลับเชียงใหม่ช่วงหนึ่งเราเจอหมอก เหมือนเราขับรถเข้าไปในกลุ่มหมอกแน่นๆ สวยมาก สวยจนบอกไม่ถูก มันเป็นการเดินทางด้วย มอเตอร์ไซค์ ที่ได้สัมผัสกับอากาศรอบตัวเรา ฟินกับทางช่วงนั้นมาก


ถ่ายรูปมาเยอะเลย แต่ไม่ค่อยชัด ฮ่าๆๆๆ ปัดโถ่!!!





แล้วออกสู่ความเจริญเมื่อเดินทางถึงเชียงใหม่ พระอาทิตย์ตกดินพอดี ขึ้นเครื่อง 4ทุ่มกลับกรุงเทพ





รูปปิดทริป




ความเหนื่อยและไม่ได้สะดวกสบาย มันจะมีภาพในความทรงจำที่ชัดเจนกว่า เที่ยวแบบสบายนิดนึงตรงที่ร่างกายเราจดจำความเหนื่อยได้

ทริปนี้แค่ 3วัน แถมผ่านมาเกือบปีแล้ว ยังจำได้ทุกฉากทุกตอน แก๊งค์นี้ยังคงแว๊นส์กันอยู่เรื่อยๆเมื่อมีเงินในกระเป๋าประมาณนึง

การเที่ยวด้วยการขี่มอเตอร์ไซค์ เป็นประสบการณ์ที่มันดีมากๆเลยค่ะ เป็นการเดินทางที่ไม่ต้องรีบร้อน เจออะไรสวยก็หยุดพัก แวะดูวิว แวะพักรถได้ตลอดเมื่ออ่อนล้า มันไม่ได้ลำบากอย่างที่หลายคนคิด กลับกลายเป็นการเที่ยว ที่เรารู้สึกว่าเราได้เที่ยวอยู่ตลอดเวลา ไม่ใช่เพียงแค่แวะลงตามจุดต่างๆที่เรากำหนดไว้ ถ้ามีโอกาสและยังมีแรงอยู่ ลองสักทริปค่ะ เช่ามอเตอร์ไซค์ ขับอย่างระวัง ไม่ต้องรีบ แล้วคุณจะได้ฟินไปอีกแบบหนึ่งค่ะ ลองดู

ติดตามการเดินทางกันได้ต่อไปค่ะ ไว้จะมาเล่าให้ฟังอีกเรื่อยๆ ถ้ายังมีแรงแว๊นส์กันอยู่



ติดตามชมรีวิว อีกสองวันก่อนหน้านี้


วันที่1 :บิดสองล้อไปนอนเล่น เดินเล่น ที่บ้านแม่กำปอง


วันที่2 :ร้อนกายแต่ว่าเย็นใจ ที่บ่อน้ำพุร้อนแจ้ซ้อน

SandyHappy

 วันศุกร์ที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 14.03 น.

ความคิดเห็น