Krabi Vibes: ตำนานกระบี่ ทริปนี้ไม่ลืม 🏝️✈️🪸🌊
ทริป 3 วัน 2 คืน งบ 4,500 บาท (ไม่รวมค่าเครื่อง)

หาดไร่เลย์ เกาะปอดะ เกาะไก่ ทะเลแหวก x เกาะพีพี เกาะไผ่ อ่าวมาหยา ปิเละลากูน

ไปเที่ยวที่ไหนมันต้องมีตำนาน

ซึ่งที่ที่เราไปสร้างตำนานกันในครั้งนี้ คือที่… “กระบี่” นั่นเอง กระซิบบอกเลยว่าตอนจบพีคคคคคมากกกกกพร้อมแล้ว เริ่มเลอ!


[DAY 1]

✈️ สนามบินดอนเมือง

เรามี Flight บิน กรุงเทพ-กระบี่ (DMK-KBV) เวลา 06.40-08.00 น. แต่ดิฉันเข้าใจผิดจำเวลาเป็น 07.40 น. กว่าจะรู้ตัวก็คือเกือบมาไม่ทัน กะเวลาออกจากบ้านผิด ถ้ามาเช็คอินที่ดอนเมืองก็คือไม่ทันแน่ ๆ เลยต้องบอกเพื่อนร่วมทริปทุกคนโหลดแอป Airasia เพื่อเช็คอินออนไลน์ จะได้วิ่งเข้าเกทเลย เป็นไงล่ะตื่นเต้นตั้งแต่เริ่มไหมล่ะ มาถึงเกทก็คือเรียกขึ้นเครื่องพอดี

✈️ สนามบินกระบี่

ถึงสนามบินกระบี่ตามเวลา ซึ่งเราจะต้องต่อรถจากสนามบินกระบี่-ไปที่พักที่อ่าวนาง โดยมีวิธีเดินทางที่ทำการบ้านมา 4 แบบ

  1. ❌ เช่ารถขับ 🚗 (ไม่เลือกวิธีนี้เพราะกิจกรรมหลักเราไปเที่ยวเกาะ เช่ามาไม่คุ้ม)
  2. ❌ รถทัวร์สาธารณะ 🚌 คนละ 150 บาท (ถ้า 4 คน ก็ 600 บาท ไม่เลือกเพราะอาจจอดหลายที่ เดี๋ยวไปไม่ทัน One Day Trip ที่นัดเวลาไว้)
  3. ❌ Grab 🚕 ประมาณ 400 บาท (ตอนแรกเลือกวิธีนี้ แต่พอมากดเรียกจริง ถึงได้รู้ว่าเขามีสัมปทานรถเหมา ก็คือ ไม่ให้ Grab วิ่งเข้ามารับที่สนามบิน ถ้าจะเรียกให้ออกไปขึ้นถนนใหญ่ข้างนอก)
  4. ✅ รถเหมา 🚐 ราคา 500 บาท ตกคนละ 125 บาท (ปกติเหมา 600 บาท แต่เขาลดราคาให้ ได้นั่งรถตู้แบบส่วนตัว ถ้ามาหลายคนก็ยิ่งจะถูกลง ถือเป็นวิธีที่ดีสุดในตอนนั้น)

🏨 Centra by Centara Phu Pano Resort Krabi
FB: https://bit.ly/3UdIfxQ
Map: https://bit.ly/3mbXpas

ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง จากสนามบินกระบี่ก็มาถึงอ่าวนาง เราแวะที่โรงแรมเพื่อฝากของก่อน เราจองโรงแรมนี้ด้วยแพ็คเกจที่พัก 3 วัน 2 คืน + ทริปเกาะพีพี ตกคนละ 2,290 บาท นั่นแหละค่ะ เราชอบของถูกและต้องดี เราเปรียบเทียบราคาก่อนจองอยู่แล้ว สำหรับที่นี่เราว่าคุ้ม โรงแรม 4 ดาว ในเครือเซ็นทรารา สะอาด ใหม่ ฟังก์ชั่นครบ

แต่แอบไม่ค่อยชอบที่จองเตียง King Size แต่เอา 2 เตียงเล็กมาชนกันให้เป็นเตียงเดียว แล้วผ้าห่มก็เอาผืนเล็กมาคลุมต่อกันแทนที่จะเป็นผืนใหญ่ผืนเดียว ผ้าขนหนูเล็กเช็ดผมก็ไม่มี คิดเสียว่าแค่ไว้นอนจริง ๆ 😂

ฝากของไว้เรียบร้อยแล้วก็ออกไปสนุกกับ “One Day Trip 4 เกาะกระบี่” ด้วยเรือหางยาวแบบ Luxury ที่จองไว้ ซึ่งเจ้าที่จองไว้ไม่ได้มีบริการรถรับ-ส่ง เราเลยต้องเหมารถเพื่อไปขึ้นเรือที่ท่าเรือหาดนพรัตน์ธารา ระยะทางประมาณ 5 km โดยรถเหมาตุ๊กตุ๊กราคา 300 บาท ก็ถือว่าแพงพอควร ที่อ่าวนาง ถ้าไม่มีรถก็คือ แทบจะเหมาอย่างเดียวเลยแหละนะ

🚤 ท่าเรือหาดนพรัตน์ธารา
Map: https://bit.ly/3KgjJYh

เป็นท่าเรือศูนย์กลางไปเที่ยวตามเกาะต่าง ๆ ของกระบี่ มีห้องน้ำ มีร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน

🚤 กัปตัน พาเที่ยว ออนทัวร์ บริการเรือนำเที่ยวกระบี่
Link: https://bit.ly/3KBS6u5

เราจองเรือไม้หางยาวแบบ Luxury กับเพจ กัปตัน พาเที่ยว ออนทัวร์ ราคา 3,500 บาท ซึ่งถือว่าได้ราคาถูกมาก เพราะถ้าจองเรือแบบนี้ผ่าน Agency หรือโรงแรม ราคาจะประมาณ 6,900 บาทขึ้นไป แถมยังได้ส่วนลดเพิ่มอีก กัปตันเหมก็คือบริการดีมาก สุภาพ ใช้เวลาแต่สถานที่เต็มที่ ให้ความเป็นส่วนตัว บอกเลยว่า “โคตรประทับใจ”

ปล. แค่เรือตรงปกก็ดีใจมากแล้ววว

🚤 สำหรับเส้นทาง One Day Trip ทัวร์ 4 เกาะกระบี่

  1. หาดไร่เลย์-ถ้ำพระนาง
  2. เกาะปอดะ
  3. เกาะไก่
  4. ทะเลแหวก (เกาะทับ เกาะหม้อ เกาะไก่)

🏝️ หาดไร่เลย์

จุดแรก ที่เรามาแหวะ คือ หาดไร่เลย์ หลายคนอาจเข้าใจว่าเป็น "เกาะ" แต่จริง ๆ แล้ว หาดไร่เลย์ ตั้งอยู่บนแผ่นดิน แต่ที่ต้องเดินทางด้วยเรือ เพราะถูกภูเขาล้อมรอบทุกด้าน ทำให้คนที่จะเดินทางมาเที่ยวต้องนั่งเรือเพียงอย่างเดียว ที่นี่หาดสวย ทรายขาวนุ่มละเอียด น้ำใสมาก มีกิจกรรมให้ทำเยอะ ฝรั่งนอนอาบแดดกันเต็มหาด จะสังเกตว่าที่กระบี่ นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะเป็นชาวต่างชาติ คนไทยน้อยมาก บริเวณหาดก็จะมีโซนร้านอาหารนั่งดริ้งค์ดื่มชิลกันได้เต็มที่ เป็นอีกบรรยากาศการเที่ยวทะเลที่เหมาะแก่การมากับแก๊งค์เพื่อนมาก

⛰️ ถ้ำพระนาง

ถัดมา เราแวะถ่ายรูปกันที่ “ถ้ำพระนาง” วิวดีมาก วิวภูเขาหินปูนและหน้าผา น้ำทะเลใส สามารถทำกิจกรรมพายเรือคายัค เล่นน้ำ ชมถ้ำได้ แต่สำหรับเราแค่ถ่ายรูปกับเรือแถมวิวสวย ๆ คือใช้เวลาไปค่อนข้างมากแล้ว

🏝️ เกาะปอดะ

อีกหนึ่งจุด Unseen ของทะเลไทย เชื่อว่าใครมาเที่ยวกระบี่ก็จะคุ้นตากับแท่งหินขนาดใหญ่ที่ตั้งตระหง่านอยู่กลางน้ำ สัญลักษณ์ของเกาะปอดะ

วันนี้อากาศแจ่มใส ฟ้าสวย ทะเลใส แดดจ้า ก็คือแทบจะไม่อยากถอดแว่นกันแดดเลย เพราะแสบตามาก แต่พอถอดแป้ปนึง โอ้ววววว ทะเลสวยมากกก สวยแบบตะโกนอ่ะ ถ่ายรูปยังไง ยังไม่สวยเท่าที่ตาเห็นอ่ะ สุดยอด 🤩

ตรงจุดนี้เป็นจุดดำนำใกล้เกาะปอดะ แต่เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปจัดหนักจัดเต็มกับการดำน้ำที่เกาะพีพีอยู่แล้ว เลยไม่ได้ดำน้ำในจุดนี้ เดี๋ยวเราจะไปกันต่อที่เกาะไก่ และทะเลแหวก Bye Bye เกาะปอดะ 

⛰️ เกาะไก่

ล่องเรือเพลิน ๆ มาถึงเกาะไก่แล้ว ที่ได้ชื่อว่า “เกาะไก่” ก็เพราะภูเขาหินมีรูปร่างคล้ายไก่นั่นแหละ แต่บางคนก็จินตนาการเป็น “ด้ามขวาน” จุดนี้เราไม่ได้ทำอะไรมาก นอกจากสัมผัสบรรยากาศและถ่ายรูป เป็นช่วงเวลาที่ Slow Life มาก ๆ เลย

🏝️ ทะเลแหวก

Unseen Thailand 🇹🇭 ของทะเลไทย ทะเลแหวกประกอบไปด้วย 3 เกาะ คือ เกาะไก่ เกาะหม้อ และเกาะทับความมหัศจรรย์ของที่นี่เกิดจากธรรมชาติคลื่นทะเลไหลมากระทบกันพัดพาเม็ดทรายมารวมกันเป็นสันทรายช่วงเวลาน้ำขึ้นสันทรายจะจมหายไป เมื่อเวลาน้ำลดสันทรายจะโผล่กลายเป็นทะเลแหวก ซึ่งสามารถเดินเชื่อมระหว่างเกาะได้เลย

เราใช้เวลาที่นี่เยอะมาก จากทริปเราจะจบที่ประมาณ 4 โมงเย็น เที่ยวเพลินจนไม่ได้ดูเวลาตอนแรกทะเลยังไม่ได้แหวกมากยังเห็นน้ำกระทบกันอยู่ แต่พอตกเย็นน้ำลง ทะเลแหวกก็คือชัดมาก แล้วคือกัปตันเรือก็ปล่อยเรา Free Time มาก ประทับใจมากจริง ๆ สำหรับวันนี้

ได้เวลากลับจากเกาะแล้วค่ะ นั่งชมพระอาทิตย์ตกไปด้วย บรรยากาศโคตรดี ฮีลใจได้ดีมาก

🥘 ร้านโกดำ คิทเช่น (KODAM KITCHEN)

ร้านลับลับที่คนอ่าวนางแนะนำ มาเที่ยวใต้ก็ต้องกินอาหารใต้นะจ๊ะ ถือว่าอร่อย ราคาไม่แรง ไม่ผิดหวัง สมคำแนะนำของคนท้องถิ่น

หลังจากกินข้าวเสร็จเราจะกลับโรงแรม ตอนมาจากท่าเรือเหมาตุ๊กตุ๊กมา 200 บาท กลับก็ต้องเหมากลับอีก แต่ความโชคดีระหว่างที่เดินเปลี่ยว ๆ ออกจากร้านเพื่อไปโบกรถข้างนอก เราเจอรถโรงแรมเขามาส่งแขกที่ร้านแอบเห็นป้ายรถโรงแรมเลยเสิร์จหาเห็นว่าไปทางโรงแรมเราเลยโบกขอติดรถเพื่อไปขึ้นรถรับ-ส่งของโรงแรมเรา พอเขาจอดเลยลองถามอีกรอบ “ไปทางเดียวกันคุณไปส่งฉันได้ไหม” สุดท้ายเขาก็ไปส่งถึงที่ น่ารักมาก 🥰ตอนแรกนึกว่าเป็นคนไทย คุย ๆ ไปน่าจะคนเกาหลี พูดไทยคำ ฟังอังกฤษ 555 แต่คือ น่ารักมากจริง ๆ ขอบคุณความโชคดี กลับเข้าโรงแรมพักผ่อนกันค่ะคืนนี้


[DAY 2]

🏝️ One day trip เกาะพีพี

วันนี้เราจะไปเกาะพีพีกันจ้า ไปแบบจอยทริปด้วยเรือสปีดโบ๊ท มีบริการรถมารับที่โรงแรม 8 โมงเช้า และไปเช็คอินนับจำนวนที่ท่าเรือนพรัตน์ธารา วันนี้คนเยอะมากแตกต่างจากเมื่อวาน กรุ๊ปเราส่วนใหญ่ 80% เป็นชาวต่างชาติ ครบแล้วไปเที่ยวกัน

🏝️ เกาะไผ่ (Bamboo island)

เกาะไผ่ หรือ Bamboo Island เป็นเกาะเล็ก ๆ กลางทะเลกระบี่ หาดทรายขาว นุ่ม เนียน ละเอียด น้ำทะเลใสกิ๊ง!! มีจุดให้ดำน้ำตื้น

หลังจากใช้เวลาที่เกาะไผ่ เรือก็พาเรามาที่จุดดำน้ำลึก ของเกาะพีพี ปะการังใหญ่มาก น้ำเย็นสบาย Enjoy สุด ๆ


🏝️ เกาะพีพีดอน (Phi Phi Don)

แวะพักทานบุฟเฟต์มื้อเที่ยงที่เกาะพีพีดอน แถว ๆ หาดต้นไทร อาหารรสชาติกลาง ๆ พักเหนื่อยจากดำน้ำเติมพลังกัน

จากนั้นเราไปต่อที่อ่าวลิง แต่วันนี้ลิงไม่ออกมาทำงาน เลยอดเห็นเลย “สงสัยลาพักร้อน”

🌊 อ่าวปิเละ (Pileh Lagoon)

อีกสถานที่ชอบมาก ตื่นตาตื่นใจตั้งแต่ทางเข้า น้ำทะเลสีเขียวมรกตใส ๆ สะท้อนแสง คือแบบสวย สวยตะโกนส๊วยยยย!


🏝️ อ่าวมาหยา (Maya Bay)

ปิดท้ายทริปด้วยจุดไฮไลท์ของทะเลกระบี่ อ่าวมาหยา หรือ Maya Bay เป็นอ่าวที่มีหาดทรายขาวละเอียดนุ่มละมุนเหมือนผงแป้ง น้ำทะเลใสสีเขียวมรกต โอบล้อมด้วยเขาหินปูน มีลักษณะเป็นเวิ้งอ่าวขนาดเล็กรูปพระจันทร์เสี้ยว เรียกได้ว่า สวยงามอลังการมาก ๆ

บริเวณหาดไม่สามารถเล่นน้ำได้ เนื่องจากมีฝูงปลาฉลามตัวน้อยอาศัยอยู่ ซึ่งอุทยานอนุรักษ์ไว้

ปิดทริป One Day Trip เกาะพีพี ได้ใช้ชีวิตสุดมากจริง ๆ

🌃 อ่าวนางแลนด์มาร์คไนท์มาร์เก็ต (Ao Nang Landmark Night Market)

หลังจากจบทริปรถไปส่งที่โรงแรมอาบน้ำพักผ่อน มื้อเย็นเราให้รถโรงแรมมาส่งที่อ่าวนางแลนด์มาร์คไนท์มาร์เก็ต เป็นตลาดถนนคนเดิน มีของกินให้เลือกกินเยอะ จะนั่งกินนั่งดื่มได้ยาว ๆ

หมดสภาพพพพพพ!!!!


[DAY 3]

วันนี้ Free Day นอนตื่นสาย ทำกิจกรรมชิล ๆ เดินเล่นริมหาดอ่าวนาง เข้าคาเฟ่ แวะร้านนวด เพื่อรอไฟลท์บินกลับกรุงเทพกัน

ตอนแรกกะว่าจะโทรหารถตู้ที่มาส่งในวันแรก แต่ก็ลองกด Grab ดูก่อน (ที่นี่มี Grab แต่วิ่งน้อยมาก ส่วนใหญ่จะเป็นรถเหมาจองพื้นที่) สรุปฟลุ๊คมีคนรับด้วย โชคดีสุด ๆ เพราะกด Grab ราคาถูกกว่ามาก 290 บาทเองถือว่าเป็นการปิดทริปแบบโชคดีสุด ๆ


แต่ ๆๆๆๆๆ ตำนานความพีคมันอยู่ตรงนี้

เมื่อเรามาถึงสนามบินช่วงเวลา 5 โมงเย็น Boarding Time 18.45 น. เวลาเหลือเฟือ เลยแวะทานอะไรพลาง ๆก่อน ด้วยหิวหรืออะไรไม่รู้ดิฉันกินมาม่าคัพไป 2 ถ้วย เสร็จแล้วก็ไปเข้าเกทปกติ มาจับจองที่นั่งตรงเสาไฟเพื่อชาร์จแบตรอเรียกขึ้นเครื่อง และสิ่งที่ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น…!!!

เครื่องบินดีเลย์ เนื่องจากสนามบินกระบี่ปิดจ้าาาา ✈️❌‼️

จาก Boarding Time 18.45 น. >> 20.45 น. (Delay 2 ชั่วโมง) เรา Airasia เป็นเที่ยวบินแรกที่จะออกเลยประกาศก่อนเพื่อน หลังจากนั้นสายการบินอื่น ๆ ก็ประกาศดีเลย์ตามกันมาติด ๆ ซึ่งสายการบินบอกแค่ว่าสนามบินกระบี่ปิด เลยทำให้ดีเลย์ เราก็ได้แต่เอ๊ะ เกิดอะไรขึ้น

พอถึงเวลาที่จะออกอีกรอบ ประกาศเลื่อนต่ออีกจ้า!!

จาก Boarding Time 20.45 น. >> 23.10 น. (Delay ต่อ 4 ชั่วโมงกว่า) และหลังจากนั้นก็ไม่ประกาศเวลาใหม่แล้ว คือไม่รู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะประกาศแค่ว่าสนามบินปิด จนเข้าไปดูในทวิตเตอร์มีคนบอกไฟฟ้าลัดวงจร ทำให้ไฟรันเวย์ดับ แต่สนามบินไม่ได้ประกาศชัดเจน และทำความเข้าใจกับผู้โดยสารเลย แล้วที่ค้างอยู่สนามบินกระบี่ จำนวน 6 เที่ยวบิน!!!

  • Airasia 3 เที่ยวบิน
  • Bangkok Airway 1 เที่ยวบิน
  • Thai Smile 1 เที่ยวบิน
  • Vietjet Air 1 เที่ยวบิน

คนค้างในสนามบินกระบี่เยอะมาก ทั้งเสียความรู้สึกและสงสารคนที่ต้องไปต่อเครื่อง ไปธุระสำคัญ มีนักท่องเที่ยวต่างชาติคู่หนึ่งเขาเครียดจนร้องไห้ถามจะเสร็จเมื่อไหร่ สายการบินก็ตอบไม่ได้ แล้วก็สงสารตัวเองที่มาติดอยู่ที่นี่ สายการบินก็มีแค่บัตรอาหารให้ทานที่สนามบินซึ่งออกไปกินไม่ได้ เพราะคนเยอะมาก พอจะไปร้านก็ปิดแล้ว ทุกคนที่นี่สายตาดูสิ้นหวังมาก

สุดท้ายเราก็ได้เวลากลับกรุงเทพ 02.25 น.!!!!!

จาก Boarding Time 18.45 น.- 02.25 น. (เกือบ 8 ชั่วโมงที่ดีเลย์ เกือบ 10 ชั่วโมงที่อยู่สนามบินกระบี่) ดีนะกินมาม่าคัพไป 2 ถ้วย!!! พอมาถึงกรุงเทพก็ไม่มี Taxi บริการเพราะเขาไม่รู้มีไฟลท์มาลงเวลานี้ 04.30 น. เนี่ย...ตำนานความพีคของทริปนี้ 🥲 ตลกร้ายมาก 🤣

"จบการรีวิว ตำนานกระบีดีเลย์ ทริปนี้ไม่มีลืมมมมมม!!!!"
ขอบคุณที่ร่วมเดินทางมาด้วยกันจนจบ


สรุปค่าใช้จ่ายทริปกระบี่

Pichika.P

 วันพฤหัสที่ 6 เมษายน พ.ศ. 2566 เวลา 16.17 น.

ความคิดเห็น