[Tokyo Japan] รีวิวเที่ยวโตเกียว-คามาคุระ-ฟูจิ-ดิสนีย์ ประเทศญี่ปุ่น 8 วัน 7 คืน
ห่างหายจากการเดินทางต่างประเทศไปนานเพราะโควิค ก่อนหน้านี้ทริปโอซาก้าล่ม นาโกย่าล่ม สุดท้ายวันที่โควิคดีขึ้น ก็ลังเลอยู่สักพักว่าไปไหนดี เราเลยตัดสินใจเริ่มต้นใหม่อีกครั้งกับโตเกียวค่ะ เพราะยังติดใจอยู่ อยากมาทบทวนความทรงจำกับโตเกียวกันอีกครั้ง .. ทริปนี้โดยรวมเป็นทริปชิว ๆ ไม่ค่อยมีแพลนอะไรมากเหมือนเดิม แต่ก็หวังว่าจะเป็นประโยชน์ให้กับคนที่กำลังมาโตเกียวนะคะ
การเดินทาง : กรุงเทพ(สุวรรณภูมิ) - โตเกียว (นาริตะ) บินโดยสายการบินแอร์เอเชียค่ะ เราขึ้นเครื่อง 23.55 จะไปถึงโตเกียว 08.00 ค่ะ ช่วงเวลาที่เราไปคือช่วงปลายเมษานะคะ ไม่ทันซากุระ เพราะว่างยาวได้แค่ช่วงนี้ ส่วนอากาศที่ไปเฉลี่ยอยู่ที่ 13 องศา - 18 องศา อากาศสบายกำลังดีเลยค่ะ มีฝนในบางวัน
การเตรียมตัวเข้าประเทศญี่ปุ่น : ลงทะเบียน Visit Japan https://www.vjw.digital.go.jp/... ซึ่งวิธีการลงก็สามารถดูได้ตามรีวิวทั่วไปค่ะ กรอกเยอะหน่อยแต่ไม่ยาก ซึ่งถ้าให้เทียบคือถ้าเรากรอกตัวนี้จากเว็บไปแล้ว พอไปถึง ตม กับ ศุลกากร ก็แค่สแกนผ่านมือถือได้เลยค่ะ สะดวกสบาย ไม่ยุ่งยากในการต้องมานั่งกรอกใบเหมือนแต่ก่อน ปล. โดนศุลกากรถามว่ามากี่วัน ตอนแรกเหมือนเค้าจะเปิดกระเป๋า แต่ก็ไม่เปิดนะ พอเราบอกว่ามา 7 วัน เค้าบอก very good และก็พูดต้อนรับทักทาย อวยพรให้เที่ยวให้สนุก คือน่ารักมาก ๆ คือให้เดาคงเห็นว่ากระเป๋าคือใบใหญ่แหละ 2 คน 2 ใบใหญ่ เพราะครั้งนี้ถอยใบ 28 นิ้วมาเลย (แปะพิกัดกระเป๋า https://www.facebook.com/Caggi...)
การเดินทางในโตเกียวและโรงแรม : เริ่มต้นวันแรกจากสนามบิน ไปยังโรงแรม เราเลือกพักที่ Ueno เหมือนเดิมค่ะ Apa Hotel Keisei Ueno เพราะชอบที่ไปกลับสนามบินง่าย ไม่เหนื่อยลากกระเป๋า ข้ามทางม้าลายคือถึงเลย สามารถดูรีวิวการเดินทาง และรีวิวโรงแรม จากทริปโตเกียวครั้งแรกของเราได้เลยค่ะที่ : https://th.readme.me/p/17024 ส่วนการเดินทางรถไฟในโตเกียวครั้งนี้เราซื้อบัตร passmo ค่ะ เติมเงินเอาสะดวกมากๆ
Day 1
เริ่มต้นเราไปกันที่ Asakusa เหมือนเดิมเลยค่ะ เพราะเป็นที่ที่ไม่ไกลจากที่พัก แต่ครั้งนี้ไม่ได้มาวัดอาซากุซะเพราะครั้งที่แล้วมาแล้ว แต่ครั้งนี้ตั้งใจมากินไดฟุกุที่ร้าน Asakusa ichigo โดยเฉพาะ
เห็นรีวิวมาแล้วอยากกินมาก พอได้กินก็คืออร่อยมากชอบค่ะ กินวันแรกและวันสุดท้ายก็ยังแวะมากิน ชอบมาก จากนั้นก็เดินเล่นรอบ ๆ ค่ะ วัดอาซากุซะคือคนก็เยอะเหมือนเดิม เราก็เลยไม่ได้ถ่ายอะไรเท่าไหร่
จากนั้นเราก็ไปที่ย่านอากิฮาบาระ Akihabara เหมือนทริปครั้งแรกที่เคยมาเลย เพราะเราชอบย่านนี้ มาเล่นคีบตุ๊กตา ข้าวเที่ยงเรากินที่อากิฮาบาระนะคะ ร้าน Yakiniku Like ที่ตอนนี้มีสาขาที่ไทยแล้ว แต่เราอยากลองที่นี่ดู เดินผ่านพอดี ก็เลยแวะ อร่อยเหมือนกันทั้งที่นี่แล้วก็ที่ไทย
ส่วนมื้อเย็นเราก็สุ่มร้านกินราเม็ง ไม่แน่ใจชื่อร้านเลยอยู่ในตลาดอะเมโยโกะ อร่อยมากชอบมาก มีแต่คนญี่ปุ่นเดินเข้ามากิน ร้านธรรมดา ๆ แต่อร่อยมาก
ส่วนใหญ่ร้านอาหารเราหิวตรงไหนก็กินร้านนั้นเลยนะคะ อาจจะแนะนำไม่ได้มาก กินอะไรก็อร่อยหมด สุ่ม ๆ เอา วันแรกก็ไม่มีอะไรมาก เพราะมึนๆ หน่อย ไม่ได้นอนเท่าไหร่บนเครื่อง .. ก่อนกลับโรงแรมก็แวะซื้อของมานั่งกิน สตอเบอรี่ที่ตลาดอะเมโยโกะดีงามมาก เอามากินกับไอติมที่เซเว่น เป็นอันจบวันแรกที่โตเกียว
Day 2 One Day Trip ออกนอกโตเกียวไป Kamakura
วันนี้เราออกมาเที่ยวนอกโตเกียวหน่อยค่ะ คือที่ คะมะคุระ (Kamakura) อยู่ห่างจากโตเกียวนั่งรถไฟมาประมาณ 1 ชั่วโมง มาไม่ยากแต่ได้ฟิลครบทุกอย่างจากที่นี่ มีทั้งทะเล วัด ของกิน
เราค่อนข้างชอบที่นี่เลยค่ะ เมืองเล็กๆ แต่น่ารัก เที่ยวง่ายด้วย วันที่ไปไม่มีแดดเท่าไหร่ถ่ายรูปออกมาอาจจะไม่สวย แต่บรรยากาศดีสุดๆ ไปเลย ที่เราแวะที่แรกก็คือ สถานี Inamuragasaki Station เดินมาจากสถานีนิดเดียวก็จะเป็นถนนเรียบชายหาด บรรยากาศดีมาก เค้าบอกว่าถ้าฟ้าสดใสจะมองเห็นฟูจิได้เลย แต่วันที่เราไปเสียดายไม่เห็น
ถัดมาเราไปลงที่สถานี Kamakurakōkō-Mae Station ซึ่งตรงนี้เป็นหนึ่งที่ฮิตของที่นี่เลย เพราะตรงนี้เป็นฉากของ การ์ตูนเรื่องดัง สแลมดั้ง ด้วย ตอนไปคนเยอะเหมือนกัน มุมที่ถ่ายมาแล้วเห็นคนรีวิวแล้วสวยคือต้องไปอยู่ตรงกลางถนนเลย แต่เรามองว่ามันไม่โอเค เป็นภาระกับคนที่เค้าขับรถ และเราก็อันตรายด้วย เลยหลบๆ ข้างทางถ่ายเอาค่ะ
จากนั้นเราไปกันต่อที่วัดโคโตกุอิน (Kotoku-in Temple) และ วัดฮาเซเดระ (Hase-dera) 2 ที่นี้อยู่ใกล้กันนะคะ สถานีเดียวกัน เที่ยวได้สองที่เลย
2 ที่มีค่าเข้านะคะ จำราคาไม่ได้น่าจะประมาณ 300 -400 Yen ประมาณนี้ วัดโคโตกุอินก็จะมีพระพุทธรูปขนาดใหญ่ ตอนไปมีเด็กญี่ปุ่นมาทัศนศึกษาเต็มไปหมดเลย เลยไม่ได้ถ่ายรูปมาเท่าไหร่นะคะ
ส่วนวัดฮาเซเดระร่มรื่นมากๆ เข้ามาวัดใหญ่พอสมควรค่ะ เดินเพลิน แถมมีดังโงะอร่อยมาก ๆ แนะนำเลย นั่งชมวิว กินตรงนี้ได้เลย เสียดายวันไปฟ้าครึ้มไปหน่อย
สุดท้ายก่อนกลับเราไปกันที่ Komachi-dori Street เป็นถนนคนเดินในย่านนี้ คือเดินเพลินเลย มีทั้งของกินของฝากค่ะ และตรงสถานีก็มีของขายเต็มไปหมด
ทางเราก็เดินไป อยากกินอะไรก็แวะกินหน้าร้านตรงนั้นนะคะ กินจุบจิบไปเรื่อย สตรอเบอร์รี่อร่อยมาก ๆ และก็แวะกินซูชิร้านนึง จำชื่อร้านไม่ได้ แต่โดยรวมการที่เลือกๆสุ่มๆกิน ก็สนุกไปอีกแบบนะคะ ไม่ได้เน้นต่อคิวร้านดังอะไร
สรุปคือชอบที่นี่มากเที่ยวง่าย มาที่ Kamakura ที่เดียวแต่เหมือนได้ไปหลายที่ เห็นทะเล ได้ไหว้พระ ได้มาเดินตลาดกินของอร่อยๆ แถมใกล้โตเกียวด้วย ใครมีเวลาจากโตเกียวแนะนำเลยค่ะ
กลับจาก Kamakura เราแวะไปที่ Shinjuku ค่ะ แวะมาเล่นตู้คีบตุ๊กตา รอบก่อนที่มาเราเล่นตู้คีบได้โมเดลที่นี่ด้วย รอบนี้มาอีก เพราะตู้ที่นี่เยอะเหมือนกัน เล่นเพลินมาก
ได้น้องอาซามิมิจังมาด้วย เรากับแฟนชอบตัวนี้กันมาก ดีใจมาก น้องเป็นโคมไฟ ส่วนตุ๊กตาใหญ่ๆ รอบนี้ไม่ได้เลย
Day 3 ในวันที่ฝนตก กับ Tokyo Disney Sea
เราจองมาจากเว็บไซต์ https://www.klook.com/th/ จากไทยเรียบร้อยแล้วนะคะ 2 คน ราคารวมกัน ฿4,480 ซึ่งตอนเข้าสามารถ Scan E-Voucher เข้าได้เลย
ทางเราไปค่อนข้างสาย ประมาณ 11 โมงได้ แถมวันไปฝนตก แต่ก็ไม่ได้ตกแรงเท่าไหร่ แต่ข้อดีในวันที่ฝนตกคือเราได้เล่นเครื่องเล่น Toy Story ต่อคิวแค่ 20 นาทีเอง ถือว่าแฮปปี้มาก เครื่องเล่นสนุกดี ยิงเก็บคะแนน แต่แอบปวดแขน 55555 ซึ่งแต่ละเครื่องเล่นก็คนไม่เยอะเลย
เราไม่ได้ถ่ายรูปมาเยอะเท่าไหร่นะคะ เพราะทุลักทุเลพอสมควร .. จริงๆกะจะตะลุยกินของในดิสนีย์ด้วย โมจิเอเลี่ยนก็ไม่ได้กิน หาไม่เจอ เพราะฝนตก ส่วนร้านอาหารเราเลือกร้าน Cafe Portofino เข้าไปก็หยิบถาดละเลือกได้เลยว่าจะเอาอะไร จากนั้นก็ไปคิดเงินค่ะ จะบอกว่าร้านนี้อร่อยมาก โดยเฉพาะไก่ มันนุ่มมันฉ่ำมากๆ ขนมก็อร่อยแถมได้แก้วมิกกี้กับบ้านด้วย :) จำราคาไม่ได้นะคะ รวมๆ ก็น่าจะพันบาทแอบแรงเหมือนกัน
ถึงมันจะทุลักทุเลเพราะฝน แต่การมา Tokyo Disney Sea ในครั้งนี้ก็แฮปปี้มากๆ แอบช้อปเพลินด้วยของมันน่ารักน่าใจทั้งนั้นเลย :)
Day 4 Fuji - Kawaguchiko
จากที่อยู่โตเกียวมาสามวัน ครึ้มฟ้าครึ้มฝน จนเมื่อวานที่ฝนตก มาวันนี้ท้องฟ้าสดใสมาก รีบพุ่งตัวไปภูเขาไฟฟูจิที่ Kawaguchiko ทันที คิดว่าทริปนี้จะเฟลแล้ว เพราะรอบก่อนพลาดไม่ได้มาเหมือนกัน
ทางเราตื่นตั้งแต่เช้าค่ะ เดินทางโดยนั่งรถไฟไป เพราะเราอยากไปแบบตรงวันที่ฟ้าเปิดที่สุด ไปโดยไม่ได้จองอะไรนะคะ เลยไปรถไฟ ซึ่งราคาจะแพงกว่าไปรถบัส อันนี้แล้วแต่ความสะดวกเลยค่ะ แต่ส่วนตัวก็ชอบฟีลนั่งรถไฟมากกว่า ฟ้าใสเป็นใจสุดๆไม่มีเมฆเลย เหมือนฝนไม่เคยตก
ปกติเที่ยวรอบภูเขาไฟฟูจิทุกคนรีวิวก็คือจะให้ขึ้นรถ Red Line เที่ยว จะได้เก็บครบ แต่ตอนที่เราไปเห็นคนยื่นต่อแถวแล้วเราขี้เกียจรอค่ะ คุยกับแฟนว่าเดินไปกันมั้ยชิว ๆ ไม่ต้องแวะจุดที่เป็นแลนด์มาร์คก็ได้ แค่เดินไปเห็นฟูจิไปก็ฟินแล้ว แฟนก็ตกลงตามสไตล์เรื่อย ๆ แบบคู่เรา
เดินมาก็จะเจอ Lawson ยอดฮิตที่คนวิ่งถ่ายรูปโดยตัดหน้ารถไม่ข้ามทางม้าลาย แบบนี้คือไม่โอเคมากๆนะคะ มาเที่ยว อย่าห่วงแต่ถ่ายรูปจนไม่เคราพกฏนะคะ .. ซึ่งทางเราเดินไปเรื่อยๆ จนเจอ Lawson อีกที่สวยเหมือนกันเลยแต่ไม่มีคน และสาขาตรงนี้ไม่ต้องข้ามถนนด้วย พื้นที่หน้าร้านเยอะมาก อันนี้เป็นสาขาจุดจอด Bus stop 2
ระหว่างเราทั้งคู่เดินถ่ายกันอยู่ มีคุณลุงญี่ปุ่นเพิ่งออกมาจาก Lawson ถามว่ามาจากประเทศอะไร พอบอกไทย ก็พูดญี่ปุ่นรัวๆด้วยความตื่นเต้นสักอย่าง น่าจะเคยมาไทย และก็ให้ขนมโดรายากิเรามา 2 ห่อ อร่อยมากด้วย ประทับใจ :) ถ่ายรูปไปและก็กินข้าวที่นี่เลย นั่งกินใน Lawson ได้เลย เจอบรรยากาศดีวิวสวย ผู้คนน่ารักแฮปปี้มากๆ
จาก Lawson เราก็ดูว่าเดินไปตรงไหนได้อีก ก็เห็นว่า Mt. Fuji Panoramic Ropeway เดินมาได้ ประมาณ 2 โลนิดๆ ถ้าจำไม่ผิด ลัดเลาะตามบ้านคนมา ก็จะเจอ คนต่อคิวเยอะพอสมควรแต่รอไม่นาน นั่งกระเช้าขึ้นไป ไปกลับน่าจะคนละ 950 yen จำราคาเป๊ะๆ ไม่ได้ แต่คุ้มมากค่ะ วิวดีมาก ฟ้าก็เปิดเป็นใจสุดๆ
ลงมาเสร็จเราก็เดินไปต่อย้อนกลับไปสถานีกะจะไปกินเทมปุระที่เดินผ่านก่อนหน้า ปรากฎว่าคิวเยอะมาก และร้านอื่นๆก็มีคิว เราเลยเลือกกินเซเว่นแบบยืนกินไปเลย ข้าวแกงกะหรี่ก็คืออร่อยยืนหนึ่งเหมือนกัน จากนั้นก็เดินทางกลับค่ะ ขากลับแอบเจอ คยูฮยอน ซุปเปอร์จูเนียร์ มาถ่ายรายการด้วย หล่อมากกกก สรุปวันนี้อากาศดี วิวสวย ฟูจิปัง เจอคนหล่ออีก โชคดีสุดๆเลย
กลับจากฟูจิเรามาแวะกันที่ Shibuya นะคะ แวะมาเดินๆ ข้าม 5 แยกหน่อย และก็ช้อปปิ้ง เป็นอันจบทริปวันนี้ค่ะ
Day 5
วันนี้เรามากันที่โอไดบะ Odaiba ค่ะ ตั้งใจมาเดินที่ห้าง DiverCity Tokyo Plaza มาเดินดูพวก shop ตัวการ์ตูนต่าง ๆ กับมาเล่นพวกเครื่องคีบตุ๊กตาด้วย
ที่แรกที่เรามาคือ Doraemon Times Square มีเก้าอี้นั่งให้เราได้ถ่ายรูปมุมเล็ก ๆ อยู่ตรงนี้
พอเข้ามาในห้าง DiverCity Tokyo Plaza ชั้น 2 ก็จะเจอ Doraemon Future Department Store จะมีของเกี่ยวกับโดเรม่อนเยอะมาก ทั้งแบบตุ๊กตา ของใช้ ของกิน คือใครเป็นสาวกโดเรม่อนต้องชอบ อาจจะถ่ายมาได้นิดเดียว แต่จริงๆแล้วของค่อนข้างเยอะเลยค่ะ
นอกจากโดเรม่อนที่ห้างก็จะมีซานริโอ้ มีชินจัง เยอะแยะเต็มไปหมดเลย เดินเพลินๆเลยค่ะ ตู้กาชาปองก็เยอะ ที่คีบตุ๊กตาก็เยอะมาก
นอกจากนั้นที่ห้าง DiverCity Tokyo Plaza ในส่วนของฟู้ดคอร์ทที่นี่ก็คือดีงามมาก หน้าตาไม่หรูหรา แต่อร่อยมาก ราคาไม่แพง แวะมากินได้เลยค่ะ มีให้เลือกเยอะ
จากนั้นเราก็เดินมาถ่ายรูปตรงกันดั้มกัน และก็เดินชิวๆไปเรื่อย เดินมาเจอสะพานสายรุ้งและก็รูปปั้นเทพีเสรีภาพจำลอง
กลับจากโอไดบะ ตอนลงสถานีเราตั้งใจจะแวะไปซื้อของที่ ตึกม่วง takeya และผ่านร้านขนมน้องแพนด้า อร่อยดีค่ะ มีหลายไส้ให้เลือกแต่เราเลือกรวมมาเลย .. จากนั้นก็เดินไปช้อปปิ้งขนมของฝากกันค่ะ ซื้อไว้ตั้งแต่วันนี้วันที่เหลือจะได้เก็บไว้เพื่อขาด
มื้อเย็นกลับมากินตลาดอะเมโยโกะเหมือนเดิม วันนี้สุ่มร้านข้าวหน้าปลาไหล ร้าน Unatoto Unagi อร่อยมาก หน้าตาอาจจะดูไหม้ไปหน่อย แต่คือดีงามเลย และพอเดินออกมาปรากฏคนรอแถวยาวมาก พอมาดูรีวิวก็เหมือนว่าจะเป็นร้านดังย่านอูเอโนะ แต่เราอาจจะมาช่วงจังหวะไม่ต้องต่อคิว
Day 6
เช้าวันเสาร์เริ่มต้นสายหน่อย เป็นอีกวันที่ชิวๆค่ะ เราเดินจากที่พักไปร้านคาเฟ่โตเกียวกัน ตามประสาสายชิว เดินไปประมาณ 2 กิโลได้ อากาศดีเดินสบายมาก ร้านมีชื่อว่า coffee & bar genie
เราตาม ig คนญี่ปุ่นแล้วเห็นเค้าฮิตมากัน เห็นน้องหมีแล้วก็อยากมาตาม มาถึงคือคนญี่ปุ่นต่อคิวเยอะเหมือนกัน เป็นคาเฟ่เล็กๆ คนส่วนใหญ่ซื้อแบบซื้อกลับ
ร้านจะมีแบบขวดน้องหมีและก็แบบแก้วนะคะ ซึ่งราคาน้องหมีก็จะแพงกว่า แต่คนสวยใหญ่ก็สั่งน้องหมีแหละเพราะมันน่ารัก ราคาจะอยู่ที่ประมาณ ¥790 ประมาณ 190฿ ถือว่าแพงเลยนะ แต่มันก็น่ารักและก็อร่อยสมราคา เป็นคาเฟ่โตเกียวที่ชอบมาก
ต่อจากคาเฟ่เราไปกันที่ฮาราจูกุ Harajuku ค่ะ เป็นย่านที่มาแล้วมาได้อีก ชอบมาก
เริ่มต้นคือต่อแถวกินเครปก่อนเลย รอไม่นานนะคะ แปปเดียวแม้คนจะเยอะ เรากินร้าน Sweet box นะคะ กิน Strawberry banana chocolate ราคา ¥580 ประมาณ 140฿ ชอบมากอร่อยมาก
วันที่ไปฮาราจูกุคือวันเสาร์ คนเยอะตั้งแต่สถานียาวไปถึงถนน Takeshita Dori คนเยอะมาก เลยไม่ได้ถ่ายอะไรเยอะนะคะ และด้วยความย่านนี้ของน่ารักด้วยเลยช้อปเพลิน จากถนน ทาเคชิตะ เราก็เดินชิวมาเรื่อย ๆ ด้วยความมั่นไม่เปิดแมพ เจอมุมนี้สวยดี ...จากนั้นเราก็ไปต่อที่ Yanaka Ginza
ยานากะ กินซ่า โตเกียว เป็นตลาดเก่าแก่เล็ก ๆ เห็นคนรีวิวเยอะและเราก็ยังไม่เคยมา ก็เลยอยากลองมาเดินเล่นดูค่ะ
ช่วงที่ไปคนเยอะ อย่างที่บอกด้วยความเป็นวันเสาร์ เราเลยขี้เกรียจรอต่อคิว ก็เดินซื้อ ละกินหน้าร้านอย่างละนิดอย่างละหน่อยค่ะ ที่แนะนำเลยคือ ทาโกะยากิ ร้าน yanakatakobo น่าจะเป็นร้านดังย่านนี้เพราะคนต่อเยอะ แต่รอไม่นานค่ะ พอได้กินก็คืออร่อยเลยค่ะ ฟินมาก
ตกเย็นแน่นอนว่ากลับมากินตลาดอะเมโยโกะเหมือนเดิม เดินได้ทุกวันใกล้ รร. สุด เราสุ่ม ๆ ร้านเหมือนเดิมค่ะ อันนี้จำชื่อร้านไม่ได้ ไม่ได้ถ่ายไว้ แต่ร้านค่อนข้างเด่นพอสมควร โดยรวมก็คืออร่อยสดมากๆ
Day 7
วันนี้ฝนก็ตกอีกแล้วค่ะ เราก็ไม่ได้มีแพลนไปไหนด้วย ปล่อยใจฟรีเดย์มาก ๆ เลยมาเดินเล่นย่านอิเกบูกูโระ ikebukuro ค่ะ ที่นี่มี muji shop ใหญ่ด้วย เราก็เดินเล่นไปเพลิน ๆ ย่านนี้ที่คีบตุ๊กตาก็เยอะมาก
ย่านอิเกบูกูโระ มีห้างซันไชน์ซิตี้ Sunshine City ที่นี่ก็จะมีโตเกียวโปเกม่อนเซ็นเตอร์ด้วย แต่คนเยอะมาก ๆ เราก็ไม่ได้ต่อคิวรอ ก็เดินเล่นภายในห้าง นอกจากนั้นก็มีชินจัง ริลัคคุมะ ซานริโอ้ เป็นอีกหนึ่งย่านที่ชอบเลย
จากนั้นเราไปกันที่ Asakusa กันอีกเพราะอย่างที่บอกติดใจไดฟุกุมาก ลงทุนไปอีก และก็ไปช่วงเย็นหน่อยคนไม่เยอะมาก ก็ได้กินนู้นกินนี้อีกหลายร้าน ไอติมชาเขียวก็สุ่ม ๆ ร้านเอา อร่อยมากเหมือนกัน
ตกเย็นนึกได้ว่าวันนี้วันอาทิตย์เค้าจะมีปิดถนนที่ย่านกินซ่า เลยไปเดินถ่ายรูปเล่นกันสักหน่อยก่อนกลับค่ะ
Day 8
ตัดภาพมาวันสุดท้ายแล้ว เวลาผ่านไปเร็วมาก จริง ๆ กระเป๋าคือจุของได้เยอะมาก กระเป๋ารุ่น vertigo แบรนด์ Caggioni ค่ะ ขยายข้างๆได้ด้วย แต่นํ้าหนักกระเป๋าไม่ได้ปราณี เนื่องจากช้อปเยอะมาก ทำให้ก่อนบินต้องซื้อนํ้าหนักกระเป๋าเพิ่มเลยทีเดียว รู้เลยว่าเก็บกดมาก ๆ (แปะพิกัด WWW.CAGGIONI.COM)
ทริปนี้อย่างที่บอกเราไม่ได้แพลนอะไรมากมายค่ะ ตั้งใจมาพักผ่อนจริง ๆ เน้นเดินเล่นกันในเมือง ตั้งใจมาหาฟูจิแค่นั้น และก็ถือว่ามิชชั่นคอมพลีทแล้ว ที่แม้ฟ้าจะครึ้มทุกวัน มีฝนตกในหลายวัน แต่ก็มีวันฟ้าใสให้ได้เห็นฟูจิ แค่นี้ก็แฮปปี้แล้ว ดีใจที่ได้กลับมาโตเกียวอีกครั้ง และก็สัญญาว่าจะมาญี่ปุ่นอีกหลาย ๆ ครั้งเลย : )
ติดตามเพจเล็ก ๆ :
https://www.facebook.com/puifa...
Puifaikamon
วันอาทิตย์ที่ 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2566 เวลา 14.08 น.