อยากเดินทางแต่ไปไหนดี? อยากพักใจแบบสงบท่ามกลางธรรมชาติ คิดได้ดังนั้นก็ลองค้นหาทริปของประเทศต่างๆ จนได้มาเจอกับเมืองฟุกุโอกะ (Fukuoka) เมืองเล็กๆบนเกาะคิวชู ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศญี่ปุ่น เพียงแค่เห็นวิวทิวทัศน์ในอินเตอร์เน็ตก็ตกลงปักธงในใจเลย เอาล่ะเตรียมตัวเก็บกระเป๋าออกท่องเที่ยว แล้วก็พลางคิดว่าญี่ปุ่นฤดูฝนก็น่าสนุกไปอีกแบบนะ
DAY 1
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c3a50bebf7b03b4657e776.jpg)
เราจองเที่ยวบินขาไปกับ Air asia ซึ่งออกเดินทางจากท่าอากาศยานดอนเมือง เวลา 23.25 น. จะใช้เวลาเดินทางถึงฟุกุโอกะประมาณ 5.30 ชั่วโมง ระหว่างรอเช็คอิน เราก็มานั่งดูเครื่องบินรอเวลาก่อน
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c3a535ebf7b03b4657e777.jpg)
นี่เป็นครั้งแรกที่เดินทาง fight กลางคืนแล้วถึงที่หมายช่วงเช้า แสงแดดเริ่มกระทบสายตา ก็อดตื่นเต้นกับวิวก้อนเมฆนอกหน้าต่างไม่ได้ พระอาทิตย์กำลังขึ้นสวยมากๆ (ตอนนี้เวลาประมาณตี 5 ของประเทศญี่ปุ่น แต่ตี 3 ของประเทศไทย แล้วก็ไม่ง่วงนะ55555)
![](/f/45608/648ebd8285ffa86c295cfb3d.jpg)
ถึงสนามบินฟุกุโอกะเรียบร้อย เตรียมกรอกใบ ตม. (Disembarkation Card) แล้วก็ยื่นให้เจ้าหน้าที่ตม.กันเลยค่ะ ส่วนคำถามจากตม.ก็จะประมาณว่ามากี่วัน พักที่ไหน เที่ยวที่ไหนบ้าง (แต่น่ารักมากเลยพอคำถามสุดท้าย เจ้าหน้าที่เปิดสมุดที่มีคำถามภาษาไทยมาให้)
จากนั้นเดินลงมาด้านล่างเพื่อรับกระเป๋าและผ่านด่านศุลกากรค่ะ ซึ่งก็ต้องกรอกใบศุลกากรก่อนนะคะ (Customs Declaration) เมื่อผ่านศุลกากรออกมาก็เตรียมขึ้น Shuttle bus ทางออกที่ 1 เพื่อไปขึ้น subway เข้าตัวเมืองที่อาคาร Domestic terminal
![](/f/45608/648ec448f12cfc736da06636.jpg)
ระหว่างยืนรอรถบัสข้างหน้าอาคาร International terminal วันที่เรามาอุณหภูมิประมาณ 23-24 องศาเซลเซียส อากาศเย็นสบายมากเลย^^
การกดบัตรโดยสาร subway เข้าเมือง Fukuoka
![](/f/45608/648ec5624df6bf67eef4ee6d.jpg)
เมื่อถึงอาคาร Domestic terminal ก็เขาแถวกดซื้อตั๋วโดยสารเลยค่ะ โดยหน้าจอก็จะแสดงแบบนี้เลยค่ะ ให้เลือกภาษาก่อน กดเลยที่ English มุมบนขวานะคะ แล้วก็เลือกตั๋วแบบ 1 Day Pass ราคา 640 ¥/คน (เพราะว่าหากไปหลายสถานที่ ถือว่าคุ้มกว่ามากค่ะ แต่ตั๋วชนิดนี้จะใช้เดินทางกับ Subway ภายในตัวเมืองเท่านั้น) ถ้ามากันหลายคนก็เลือกจำนวนผู้โดยสารตรงปุ่มรูปคนด้านซ้ายได้เลยค่ะ
![](/f/45608/648ec6aef12cfc736da06637.jpg)
ใส่ธนบัตรหรือหยอดเหรียญเสร็จก็รอรับตั๋วกันเลยยย
![](/f/45608/648ec84e4df6bf67eef4ee6e.jpg)
หน้าตาของ 1 Day Pass ค่ะ ซึ่งตั๋วสามารถใช้ได้เพียง 1 วันตามวันที่เราซื้อและวันดังกล่าวจะระบุอยู่บนตั๋วนะคะ อย่างเช่นที่เราซื้อคือวันที่ 5 เดือน 6 ปี 2023 จากนั้นก็เดินมาที่เครื่อง อย่าลืมรับตั๋วกลับออกไปใช้ต่อด้วยนะคะ ขึ้น subway เข้าเมืองกันนน
อย่างแรกที่ไปคือไปเช็คอิน+เก็บกระเป๋าที่โรงแรมก่อนค่ะ พักสักหน่อยก็เตรียมหาข้าวเช้าทานก่อนออกเดินทางตามแผนที่เตรียมไว้ :)
![](/f/45608/648f3312f12cfc736da06656.jpg)
เซ็ตข้าวหน้าหมูสไลด์พร้อมซุปร้อนๆ ท่ามกลางอากาศที่เย็นสบาย ดีต่อใจเหลือเกิน
Tochoji Temple
![](/f/45608/648f33cd85ffa86c295cfb4d.jpg)
ทานข้าวเสร็จแล้วก็ออกเดินทางไปที่แรก ไหว้พระขอพรกันที่ Tochoji Temple ซึ่งเป็นวัดที่มีอายุเก่าแก่ใจกลางเมืองอย่างในย่านฮากาตะ (Hakata)
![](/f/45608/648f3601bde37328bbcd901a.jpg)
บรรยากาศภายในวัดที่ทำให้จิตใจสงบอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินเยี่ยมชมสถาปัตยกรรมอันเก่าแก่ แต่ยังคงถูกอนุรักษ์ไว้เป็นอย่างดี
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c10193ebf7b03b4657e685.jpg)
เจดีย์ 5 ชั้น (The Pagoda) ซึ่งตั้งอยู่ด้านข้างวิหารหลัก ต้นไม้ใหญ่ให้ความร่มรื่นมากๆ
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c10294ebf7b03b4657e686.jpg)
หอไม้โบราณทรงหกเหลี่ยม วิวทิวทัศน์ที่ผสมผสานระหว่างสถาปัตยกรรมที่มีความเก่าแก่และความร่วมสมัย
Shofukuji Temple
![](/f/45608/64906ed7bde37328bbcd9035.jpg)
เดินถัดไปอีกหน่อยก็ถึง Shofukuji Temple ผู้คนไม่พลุกพล่านจนเกินไป บรรยากาศแบบนี้จึงทำให้เหมาะแก่การออกมาพักผ่อนหย่อนใจ
![](/f/45608/649070184df6bf67eef4eead.jpg)
เมื่อเดินเข้าไปภายในวัด ค่อยๆละเลียดความงามของการออกแบบและการก่อสร้างในแบบศาสนาพุทธนิกายเซนของญี่ปุ่นด้วยวัสดุอย่างไม้เป็นองค์ประกอบ ภาพนี้แสดงประตูทางเข้าตัววัด ซึ่งอยู่ติดกับบ่อน้ำเล็กๆด้านหน้า เรียกว่า “Sanmon Gate”
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c3adccebf7b03b4657e77b.jpg)
ด้วยความที่วัดแห่งนี้มีต้นไม้ล้อมรอบเยอะ ความร่มรื่นก็มีมากตาม ดังนั้นในช่วงพักเที่ยงของการทำงาน ก็จะเห็นผู้คนวัยทำงานบางส่วนออกมานั่งพักและทานข้าวใต้ต้นไม้กันค่ะ สูดอากาศแล้วพร้อมลุยงานต่อกันช่วงบ่าย :)
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c10553ebf7b03b4657e687.jpg)
ก่อนกลับก็ไม่ลืมที่จะทักทายน้องแมวที่นอนเล่นอยู่แถวๆบริเวณหน้าวัด ^^
Kushida Shrine
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c10a20ebf7b03b4657e689.jpg)
เพื่อความเป็นศิริมงคล เราก็มาขอพรกันต่อที่ศาลเจ้า Kushida ซึ่งศาลเจ้าแห่งนี้มีความเก่าแก่ถึงประมาณ 1,200 ปีเลยล่ะค่ะ และที่สำคัญตั้งอยู่ในย่านใจกลางเมืองอย่าง Hakata อีกด้วย
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c10a6bebf7b03b4657e68a.jpg)
ตามความเชื่อของชาวญี่ปุ่นนั้น หากได้ลูบบริเวณหัวและเขาของวัว จะประสบความสำเร็จในด้านการเรียนและจะมีแต่สิ่งที่ดีๆนะคะ
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c10ae3ebf7b03b4657e68b.jpg)
ผู้คนต่างหมุนเวียนพลัดเปลี่ยนพากันมาเคารพและขอพรเทพเจ้าที่นี่ค่ะ ถ้าใครได้มาฟุกุโอกะแล้วก็สามารถแวะมาขอพรกันที่นี่ได้นะ
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c10b49b0944b3b55fd1393.jpg)
นอกจากนี้ศาลเจ้า Kushida ยังเป็นศูนย์รวมการจัดงานเทศกาลสำคัญๆของเมืองฟุกุโอกะอีกด้วย
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c10b9fb0944b3b55fd1394.jpg)
Yamakasa ขนาดใหญ่ ซึ่งจะนำมาใช้ในเทศกาล Hakata Gion Yamakasa ที่จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคมของทุกปี เพื่อให้ผู้คนมาขอพรเทพเจ้าให้มีความสงบสุขค่ะ
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c10bf5b0944b3b55fd1395.jpg)
ถ้าอยากเขียนขอพรก็สามารถไปซื้อแผ่นไม้ได้ที่ซุ้มร้านค้าข้างๆวิหารหลักนะคะ
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c2470bebf7b03b4657e6d5.jpg)
เมื่อเดินออกมาจากศาลเจ้าแล้ว ถนนฝั่งตรงข้ามมีร้านขายของฝากเล็กๆตั้งอยู่ ขนมและของเครื่องใช้ต่างๆจัดเรียงมากมาย ยืนแวะเลือกซื้อสักพัก ได้ของฝากหลายชิ้นเลยล่ะค่ะ
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c2481eb0944b3b55fd146a.jpg)
ไม่พลาด! ที่จะเก็บภาพกับมุม signature ของประเทศญี่ปุ่น นั่นคือมุมตู้กดเครื่องดื่มนี่เองงงง เวลาเหนื่อยๆ ถ้าเห็นตู้นี้แล้วชื่นใจทันที เพราะมีเครื่องดื่มดับความกระหายได้แล้ว สะดวกมากๆทุกคน หากระหว่างทางไม่มีร้านสะดวกซื้อ ตู้กดเครื่องดื่มนี่แหละตอบโจทย์สุดๆ :)
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c24c8febf7b03b4657e6dc.jpg)
ไหนๆก็อยากทานน้ำกับขนม เราก็ไปร้านกาแฟกันเถอะ นั่ง metro แล้วเดินต่ออีกนิด ถึงแล้วกับร้าน Carbon Coffee ซึ่งเป็นร้านที่เราติดตามในไอจีแล้วอยากมาทานให้ได้!
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c37b22ebf7b03b4657e75a.jpg)
ร้านน่ารักมากๆ กาแฟรสชาติดี ขนมก็อร่อย แถมยังมีงาน handmade เล็กๆน่ารักๆให้เราได้ซื้อเป็นของที่ระลึกด้วยนะ :) ทุกคนสามารถอ่านรีวิวร้านกาแฟในฟุกุโอกะได้ที่นี่เลยๆ https://th.readme.me/p/45557
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c3b9166afc802f2eff8b8e.jpg)
ย่านนี้เรียกว่าย่าน “Daimyo” ซึ่งเป็นแหล่งร้านขายเสื้อผ้าชิคๆน่ารักๆมากมาย รวมไปถึงร้านกาแฟและคาเฟ่หลายๆร้านก็ตั้งอยู่ในย่านนี้เช่นกัน
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c3894bebf7b03b4657e75b.jpg)
เดินไปเรื่อยๆสำรวจร้านนั้นร้านนี้ แล้วก็มาเจอกับร้านไก่ทอด “Nene chicken” ชิมๆไก่ทอดสักหน่อย เราชอบความตู้กดของญี่ปุ่นมากเลย เจอตั้งแต่ตู้กดเครื่องดื่มไปจนถึงตู้กดบัตรสั่งอาหาร เป็น signature ที่น่ารักดีนะ
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c38b11ebf7b03b4657e75c.jpg)
แท๊นนน! ไก่ทอดร้อนๆหอมๆน่าทานมากกก อร่อยด้วยค่ะทุกคน คุณพนักงานก็น่ารัก ยิ้มแย้มให้กัน :)
Momochi Seaside park
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c38c1febf7b03b4657e75e.jpg)
ทานไก่เสร็จแล้วเราก็จะออกเดินทางไปที่ Momochi Seaside Park กัน! เพราะอยากพักผ่อน นั่งรับลมทะเลที่ญี่ปุ่นให้ใจได้สงบ^^ ซึ่งเราก็ต้องนั่ง metro ไปลง Nishijin station ตอนที่เราเดินทางคือประมาณสี่โมงเย็น ภายในสถานี metro ผู้คนจึงไม่เยอะเกิน นี่เป็นอีกเหตุผลนึงเลยที่เราชอบ Fukuoka เพราะว่าเป็นเมืองที่ค่อนข้างสงบ ไม่ค่อยวุ่นวายมาก เหมาะกับการมาพักผ่อนและปล่อยความเหนื่อยล้าให้หายไปไม่น้อยเลยทีเดียว
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c38f61ebf7b03b4657e75f.jpg)
เมื่อขึ้นจากสถานีมาแล้ว นี่เลย!ถนนสี่แยก ทางม้าลายชัดเจนมาก แต่เราจะไม่ข้าม เราต้องเลี้ยวขวานะทุกคน5555
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c38fd8ebf7b03b4657e760.jpg)
เดินเรื่อยๆประมาณ 1 .6 km ก็จะถึงชายหาดค่ะ วิวทิวทัศน์ 2 ข้างทางเต็มไปด้วยความเขียวชอุ่มของต้นไม้สลับกับตึกรามบ้านช่อง ร่มรื่นมากๆเลย
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c391526afc802f2eff8b66.jpg)
ถึงแล้ววว Momochi beach อากาศดีมาก ลมเย็นๆพัดผ่านพร้อมกับเสียงดนตรีจากร้านอาหารทางด้านล่าง mood ดีสุดๆค่ะ <3 ผู้คนต่างพากันออกมาพักผ่อน บ้างก็พาน้องหมามาวิ่งเล่น บ้างก็วิ่งออกกำลังกาย ปั่นจักรยานชิลๆ เดินตามชายหาด ทานอาหาร ถ่ายรูปเล่นกันบ้าง บรรยากาศที่ควรค่าแก่การมาหย่อนใจ
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c3931e6afc802f2eff8b67.jpg)
แวะชิมไอศกรีมสักนิดนึง ชิมไปเดินเล่นไปก็ดีเหมือนกันนะ :D ยกให้เป็นอีกวันนึงที่มีความสุขกับปัจจุบัน ให้ร่างกายได้ชาร์จแบต ให้ความเครียดต่างๆพัดไปกับสายลมและคลื่นของทะเล :)
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c3b75debf7b03b4657e77c.jpg)
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c3937debf7b03b4657e761.jpg)
ขอเอาภาพบรรยากาศที่ชายหาดมาฝากค่ะ นั่งเล่นอีกหน่อย ก่อนจะเตรียมกลับที่พักแล้วก็หามื้อเย็นทานกัน
Canal City Hakata
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c394beebf7b03b4657e762.jpg)
หลังจากแวะเก็บของ เราก็ลงไปหาอะไรทานกัน! ร้านรวงต่างๆเริ่มเปิดมากขึ้น แสงไฟส่องสว่างยามค่ำคืนช่างงดงามจริงๆ
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c397316afc802f2eff8b6d.jpg)
ระหว่างทางที่เราจะไปห้าง Canal City Hakata เจอร้านอาหารริมทางที่เรียกว่า “Yatai (ยะไต)” ซึ่งได้รับความนิยมมากๆใน Fukuoka (จริงๆแอบเสียดายที่ไม่ได้นั่งชิม เพราะว่าคนต่อแถวค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว)
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c3988e6afc802f2eff8b6f.jpg)
ถึงแล้ววว Canal City Hakata อยากลองมาเพราะร้าน Muji น่าสนใจอ่ะ ส่องๆราคาหน่อยจะถูกกว่าที่ไทยรึเปล่า ปรากฎว่าถูกกว่าจริง เลยได้เสื้อยืดมาในราคา 179 บาทค่ะ จะบอกว่าช่วงที่ไป ทางร้านจัดโปรโมชั่นลดราคาด้วย :)
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c399c56afc802f2eff8b7f.jpg)
ทางห้างมีจัดแสดงโชว์แสงไฟกับน้ำพุด้วยค่ะ สวยมากเลย ถ่ายวิดีโอเก็บไว้เป็นที่ระลึกสักนิด
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c39d3f6afc802f2eff8b84.jpg)
ส่วนอันนี้เป็นวิดีโอที่ฉายไปบนผนังอีกด้านหนึ่งของห้าง สวยไม่แพ้กันเลย :)
Hakata Issou Gion (博多一双 祗園店)
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c39add6afc802f2eff8b81.jpg)
สรุปมื้อเย็นกว่าจะทานกันคือประมาณสามทุ่ม ซึ่งเป็นร้านราเมงใกล้ที่พักอย่าง Hakata Issuo Gion ขอบอกเลยว่าประทับใจมากๆค่ะ พนักงานน่ารักทุกคนจริงๆ ด้วยความตู้กดบัตรสั่งอาหารมีเฉพาะภาษาญี่ปุ่นไม่มีภาพประกอบ ทางร้านก็ใส่ใจหยิบแฟ้มเมนูที่เป็นภาพมาให้ดูด้วยค่ะ
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c39eb8ebf7b03b4657e76e.jpg)
ข้าวหน้าหมูพร้อมไข่ต้ม อร่อยมากๆเลย ลงตัวกับรสชาติของพริกที่คลุกกับมายองเนส
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c39f68ebf7b03b4657e770.jpg)
อีกชามคือราเมงที่เป็นเมนูแนะนำของทางร้าน ชามนี้ราคา 1,000 เยน (~240 บาท) ชามใหญ่มากๆ อิ่ม คุ้มกับราคาและคุณภาพ เส้นนิ่มและหอมน้ำซุปแบบจริงใจ เพราะทางร้านลวกเส้นกันให้เห็นเลย เนื่องจากเป็นบาร์กั้นครัวกับโต๊ะอาหาร
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c3a0d26afc802f2eff8b87.jpg)
ขอสั่งอีกหนึ่งเมนู นั่นก็คือเกี๊ยวซ่าาา คุณพนักงานน่ารักอีกแล้ว คอยสังเกตกับพยายามสื่อสารกับเราว่าจะเอากี่ชิ้น น่ารักมากเลย เกี๊ยวซ่าที่นี่หอมและมีความชุ่มฉ่ำของเนื้อหมูที่เป็นไส้อยู่ข้างในมาก ถือได้ว่าเป็นร้านราเมง local ที่ดีอีกร้านนึงเลย เพราะผู้คนเข้ามาทานกันเรื่อยๆหลังเลิกงาน
![](https://asset.readme.me/files/45608/65c3a3b4ebf7b03b4657e775.jpg)
ก่อนกลับที่พักก็ขอซื้อน้ำและขนมเล็กๆน้อยๆที่ Lawson สักหน่อย เพราะช็อคโกแลตอร่อยจริงๆค่ะ มีให้เลือกมากมายเลย จบแล้วกับ Day 1 ประทับใจทุกสถานที่ที่ได้ไป :))))
Journey with Me
วันพุธที่ 7 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เวลา 23.33 น.