ตั้งแต่ต้นปีมานี้มีอาหารอยู่ประเภทนึงที่ผมไม่เคยทานมาก่อนและอยากจะลองทานมากๆ ครับ ซึ่งผมก็ได้พยายามหาข้อมูลนั่นนู่นนี่มาตลอด แต่ก็ไม่ได้โอกาสไปซักที เพราะติดเรื่องเวลากับราคาที่ผมแอบคิดว่ามันสูงไปหน่อยครับ แต่ในที่สุดฟ้าก็ประทานโอกาสมาให้ผม ด้วยการส่งน้องที่ทำงานบริษัทข้างๆ คนนึงมาให้ผมรู้จัก และเค้าได้ให้ผมไปช่วยถ่ายภาพงานแต่งงานของเค้ามาครับ และสิ่งตอบแทนที่เค้าได้ให้ผมมานั้นก็คือ
.
.
.
บัตรกำนัลสำหรับทานอาหารที่โรงแรมในเครือสุโกศล 2 ที่ (ที่ละ 2 ใบ) โดย 1 ในนั้นคือร้านที่ผมอยากจะไปลองทานมากๆ นั่นก็คือ Afternoon tea set ที่ร้าน Café Cha ของโรงแรม The Siam นั่นเองครับ………บอกเลยว่าแว้บแรกที่เปิดซองมาแล้วเจอ voucher ร้านนี้นั้นน้ำตาผมจะไหลเลยครับ เพราะอยากจะทานมานานแล้ว #ปลื้มปริ่ม #กินฟรีไม่ต้องจ่ายT___T
มาดูหน้าตา voucher กันดีกว่าครับ ที่ voucher จะเขียนไว้ว่า 1 ใบสำหรับการทาน Afternoon tea set สำหรับ 1 คน หมดเขตวันที่ 31 ก.ค. 59 ซึ่งวันที่ผมไปทานนั้นเรียกได้ว่าใกล้จะหมดเขตเต็มทีแล้ว ได้มาตั้งสองเดือนกว่าๆ แต่ไม่มีเวลาไปซักที และคาดว่าอีก 2 ใบที่เป็นห้องอาหารปทุมมาศของโรงแรมสุโกศลนั้นผมคงได้ไปใช้วันสุดท้ายพอดี T____T
สำหรับรายละเอียดวันที่ผมไปทานก็ตามนี้เลยครับ
วัน : อาทิตย์ที่ 17 ก.ค. 59
เวลา : 14.00-16.00 น.
จำนวน : 2 คน
ร้าน Café Cha นั้นเป็นร้านขายกาแฟที่อยู่ในโรงแรม The Siam ซึ่งอยู่ใกล้ๆ กับสะพานซังฮี้และวังสุโขทัยครับ โดยตำแหน่งของร้านนั้นจะอยู่บริเวณด้านหน้าของโรงแรมใกล้ๆ กับถนนเลยครับ เพื่อที่คนที่ walk in จะสามารถเข้ามาทานได้ด้วยและไม่เป็นการรบกวนแขกที่พักผ่อนในส่วนด้านหลังที่ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยาครับ
สำหรับตัวผมเอง นี่เป็นครั้งที่ 2 แล้วที่ได้มีโอกาสมาเยือนโรงแรมแห่งนี้ ซึ่งก็ต้องบอกตามตรงว่าผมยังคงประทับใจความสวยงามของโรงแรมแห่งนี้อยู่เช่นเคย ด้วยการตกแต่งสไตล์ไทยในสมัยอดีต ความเงียบสงบเป็นส่วนตัว ทำเลที่ตั้ง และห้องน้ำที่สวยงามโอ่โถงมาก เอาเป็นว่าผมอยากให้ทุกคนได้มีโอกาสไปลองใช้ดูครับ เค้าออกแบบมาได้ลงตัวดีครับ
สำหรับร้าน Café Cha นั้น จะเปิดบริการตั้งแต่ 8.00 น. – 18.00 น. ครับ แต่ในส่วนของ Afternoon tea set นั้น จะเริ่มเปิดบริการตอน 14.00 น. ของทุกวันครับ บรรยากาศโดยรวมๆ ของร้านสวยดีครับ จำนวนโต๊ะนั้นไม่มากเท่าไหร่ บริเวณ indoor ที่มีแอร์นั้นมี 5-6 โต๊ะ (นั่งได้ประมาณ 20 คน) และในส่วนของ outdoor นั้นก็มีประมาณ 5-6 โต๊ะ เช่นเดียวกันครับ ดังนั้นหากใครอยากจะนั่งตรงไหนเป็นพิเศษ ผมแนะนำว่าให้โทรไปจองก่อนก็ดีครับ เพราะวันที่ผมไปใช้บริการนั้นก็มีคนมาใช้บริการพอควรจนโต๊ะด้านในร้านเต็มเลยครับ
มาดูบรรยากาศในร้านซักภาพดีกว่าครับ เป็นภาพพวกอุปกรณ์ชาต่างๆ จัดมาได้สวยดีครับ
เมื่อเราเข้ามาในร้านแล้ว พนักงานก็จะนำเมนูมาให้ครับ โดยรวมๆ เราสามารถสั่งได้ 2 แบบ ดังนี้ครับ
แบบที่ 1 : สั่งเป็น Afternoon tea set ที่ทางร้านจัดไว้ เราจะได้เครื่องดื่มคนละ 1 อย่าง และขนมคนละชุดครับ แต่หากสั่งเป็น Set 2 คน ก็จะถูกกว่าหน่อยนึงครับ
- Afternoon tea set สำหรับ 1 คน ราคา 750 บาท
- Afternoon tea set สำหรับ 2 คน ราคา 1,350 บาท
แบบที่ 2 : สั่งแยกเป็นอย่างๆ ไปเลยว่าเครื่องดื่มเอาอะไร ขนมเอาอะไร วิธีนี้ดีอย่างก็คือเราสามารถเลือกเฉพาะขนมที่เราชอบได้ ราคาอาจจะถูกกว่านิดนึงถ้าทานเพียงไม่กี่ชิ้น แต่ถ้าจะทานจำนวนเท่ากับแบบที่ทางร้านจัดเป็น Set มา ต้องบอกเลยว่าหากสั่งแบบนี้นั้นจะแพงกว่าเยอะมากกกก ดังนั้นวิธีการสั่งแบบนี้จึงน่าเหมาะสำหรับคนที่ทานขนนมแค่ 2-3 ชิ้นเท่านั้นครับ
หมายเหตุ : รายการอาหารในเมนูนั้นยังไม่รวม Vat 7% และ Service Charge อีก 10% นะครับ และสำหรับการสั่งแบบวิธีที่ 1 นั้น เราจะสามารถเลือกเครื่องดื่มได้ที่หน้าซ้ายของเมนู โดยบางรายการก็เป็นแบบร้อน บางรายการก็เป็นแบบเย็น หากสงสัยตรงไหนให้สอบถามพนักงานได้เลยครับ และถึงแม้เราจะไปกัน 2 คน เราก็สามารถสั่ง Afternoon tea set แบบ 1 คน และสั่งเครื่องดื่มเพิ่มอีก 1 อย่างก็ได้ครับ เพราะขนมใน set ที่เค้าให้มานั้นเยอะพอควรครับ!!
สำหรับวันนี้ผมสั่งเครื่องดื่มเป็น Mixed thai herb ชาร้อนที่มีส่วนผสมของสมุนไพรหลายชนิดครับ ส่วนภรรยาผมสั่งเป็นคาปูชิโน่เย็นครับ ผมนั่งรอได้ประมาณ 5 นาทีพนักงานก็นำเครื่องดื่มทั้งคู่มาเสิร์ฟครับ และแจ้งว่าขนมต้องรอซักครู่เพราะต้องใช้เวลาอุ่นและจัดเตรียมเล็กน้อยครับ
เจ้า Mixed thai herb นั้นมาในกาโบราณทรงสวยงามมากครับ และมีกลิ่นหอมเหมือนเก๊กฮวยครับ ผมลองดมดูแล้วชอบมาก แต่เมื่อลองทานดูกลับไม่รู้สึกรสชาติของเก๊กฮวยเลย รสชาติจะเหมือนกับน้ำสมุนไพรโบราณที่ไม่ใส่น้ำตาลครับ ตอนแรกที่ลองชิมเฉยๆ แบบไม่มีขนมนั้นผมแอบรู้สึกแปลกๆ เล็กน้อย แต่พอขนมมาและได้ทานคู่กันต้องบอกว่าเข้ากันอย่างลงตัวมากๆ ครับ
สำหรับปริมาณชาในกานั้นถือว่าได้มาเยอะเลยครับ ผมสามารถเทเติมลงไปในแก้วได้เกือบๆ 10 แก้วเลยครับ
ส่วนคาปูชิโน่เย็นของภรรยาผมนั้น หน้าตาน่าทานมากกกกก และรสชาติที่ได้นั้นดีงามมากๆ ครับ เข้มข้น ฟองนุ่มและแน่นมาก โดยแก้วที่เค้าเอามาเสิร์ฟนั้นจะยังไม่มีการใส่น้ำตาลนะครับ แต่เราสามารถเติมน้ำเชื่อมเพิ่มได้จากถ้วยเล็กๆ ที่เค้านำมาเสิร์ฟพร้อมกันครับ
ตัวคาปูชิโน่เย็นนี้หากกินเพียวๆ ถือว่าชนะเลิศครับ แต่พอกินกับขนมแล้ว ต้องบอกว่าไม่เข้ากันเลยครับ มันเหมาะจะกินกับชาร้อนๆ มากกว่า เพราะจะช่วยให้คล่องปาก กินอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นในระหว่างที่ทานขนมไปด้วยนั้น ผมก็โดนคุณภรรยามาขโมยกินเจ้า Thai mixed herb ไปหลายแก้วเลย T___T
หลังจากเวลาผ่านไปราวๆ 10-15 นาที ทางพนักงานก็ได้นำถาดขนมมาเสิร์ฟครับ โดยเท่าที่ผมหาข้อมูลมา Afternoon tea set เค้าก็จะเสิร์ฟมา 3 ชั้นแบบนี้แหละครับ แยกชั้นเป็นแต่ละประเภทครับ
โดยถ้าเราสั่งแบบ Set สำหรับ 1 คนก็จะได้ถาดขนาดเดียวกันนี่แหละครับ แต่ปริมาณขนมด้านในจะน้อยกว่า ส่วนผมสั่งแบบสำหรับ Set 2 คนก็จะได้ขนมเยอะกว่า 2 เท่าครับ ดังนั้นถ้าอยากรู้ว่า set คนเดียวได้ขนมเยอะแค่ไหนก็หาร 2 ได้เลยครับ
มาเริ่มดูกันที่ชั้นแรกที่เป็นชั้นบนสุดดีกว่าครับว่ามีอะไรบ้าง โดยจำนวนที่เห็นจะเป็น Set สำหรับ 2 คนนะครั้บ ดังนั้นคนที่สั่ง Set แบบ 1 คน ก็จะได้ขนมรายการนั้นน้อยลงไปครึ่งนึงนะครับ ^^
ชั้นบนสุด (Sweet Plate) นั้น จะประกอบไปด้วย
- Fruit Cake 2 ชิ้น
- Chocolate tart 2 ชิ้น
- คัพเค้ก 2 ชิ้น
- มาการอง 4 ชิ้น
เรามาไล่รสชาติกันดีกว่าครับ ว่าแต่ละรายการเป็นอย่างไรบ้าง
- Fruit cake : เนื้อแน่น ลูกเกดเยอะ รายการนี้ผมชอบเลยครับ เพราะพื้นฐานแล้วเป็นคนชอบกิน Fruit cake กับลูกเกดมากๆ อยู่แล้วครับ
- Chocolate tart : ช็อคโกแลตเข้ม และเยอะมากครับ คนชอบทานช็อคโกแตต้องรักมันแน่นอนครับ ส่วนผมชิมนิดเดียวและยกให้ภรรยาตามเดิม เพราะไม่ค่อยชอบทานช็อคโกแลตครับ
- Cup cake : ผมได้มา 2 รส คือ Banana Chocolate กับ Banana Salt รสชาติโดยรวมๆ จะคล้ายๆ กัน แตกต่างกันที่ทอปปิ้งกับการตกแต่งนิดหน่อยครับ รสชาติอร่อยดีครับ ครีมๆ มันๆ โดยข้างล่างนั้นจะเป็นเค้กกล้วยหอมนะครับ
- มาการอง : มีทั้งหมด 4 รส ตามนี้ครับ ซึ่งการที่สั่งแบบ Set 2 คนมันดีอย่างตรงที่เราได้ทานครบแทบทุกรสชาติที่ทางร้านมีเลยครับ
มะพร้าว : หอมอร่อย และถือว่าเป็นมาการองที่หวานน้อยครับ
Lime : เปรี้ยวนิดๆ รสชาติโดดเด้งแตกต่างจากอันอื่นดีครับ
มะลิ : หอมมาก และเป็นรสที่แปลกไม่เคยเจอมาก่อน รสชาติรวมๆ เหมือนกินขนมไทยตามเพชรบุรีครับ
ลิ้นจี่ : อร่อย หอน หวานครับ รสนี้น่าจะหวานที่สุดจากทั้ง 4 รสแล้วแต่ก็ยังถือว่าไม่หวานมากเท่ากับมาการองจากหลายๆ ที่ครับ
มาต่อกันที่ชั้นกลางครับ กับ Savoury plate ชั้นนี้จะมีของทั้งหมดตามนี้ครับ
- แซนวิชแตงกวา 2 ชิ้น
- พัฟ 2 ชิ้น
- มินิเบอร์เกอร์ 6 ชิ้น
ในส่วนของรสชาติก็ตามนี้ครับ
- แซนวิชแตงกวา : เนื้อขนมปังหนาเกินไป ทำให้ไม่ค่อยได้รสชาติแตงกวาเท่าไหร่ แต่อีกนัยหนึ่งอาจจะดีแล้วก็ได้เพราะผมว่าเมนูนี้เป็นการผสมที่ไม่เข้ากันมาก และเป็นรายการที่ผมไม่ชอบที่สุดในวันนี้เลยครับ
- พัฟ : กรอบ อร่อย แนะนำว่าให้รีบทานตอนที่ยังร้อนๆ ครับ
- มินิเบอร์เกอร์ : ขนาดไม่ใหญ่มาก มีทั้งหมด 3 ไส้ครับ รสชาติโดยรวมทั้ง 3 อันสอบผ่านหมดครับ
แซลมอนรมควัน : อร่อย ชนะเลิศ
แฮมชีส : อร่อย ถูกปากเช่นกันครับ
ไข่+ผัก : รายการนี้ตอนแรกที่เห็นแอบคิดในใจว่าน่าจะ fail แต่พอได้กินแล้ว ต้องร้องเฮ้ย!! มันกลมกล่อมลงตัวกว่าที่คิดแฮะ
อ้อ.....ขนมปังของมินิเบอร์เกอร์นั้นเป็นแบบเนื้อเหนียวแน่นนะครับ กินเฉยๆ อาจจะฝืดและติดคอได้ ซึ่งบางคนอาจจะไม่ชอบเหมือนกับผมตอนแรกๆ แต่พอได้ทานชาต่อท้ายมันทำให้ลื่นคอและรู้สึกลงตัวขึ้นครับ
และตอนนี้ก็มาถึงชั้นล่างสุดกันแล้วกับ Scone Plate จานนี้จะมีผลไม้กับ Scone ครับ โดยผลไม้นั้นจะมีแก้วมังกร แตงโม สัปปะรดอย่างละ 2 ชิ้น ส่วน Scone มีอยู่ทั้งหมด 4 ชิ้นครับ แบ่งเป็นแบบธรรมดา 2 ชิ้น และแบบลูกเกด 2 ชิ้น และแน่นอนว่าฝั่งลูกเกด 2 ชิ้นนั้น ผมรับผิดชอบไปเพราะผมชอบลูกเกดส่วนภรรยาผมเกลียดมันเข้าไส้ 555555
ในจานนี้จะมี dip ของ Scone มาให้ด้วยทั้งหมด 3 แบบครับ ได้แก่
- แยมสตรอเบอรี่
- Lemon : เปรี้ยวเล็กๆ ครับ
- Cottage cream: รสชาติมันๆ ครีมๆ และมีส่วนผสมของเนยครับ
โดยรวมๆ รสชาติของ Scone นั้นก็อร่อยถูกปากเราทั้งคู่ครับ ส่วนใครชอบ dip แบบไหนก็ลองเลือกดูได้เลยครับ
และแน่นอนว่าด้วยความที่ผมพึ่งไปทานข้าวเที่ยงก่อนมาถึงร้านไม่นาน ประกอบกับจำนวนขนมที่ได้มาก็ค่อนข้างเยอะ ทำให้มีบางรายการที่ผมได้แค่ชิมอย่างละชิ้นเท่านั้น ซึ่งทางร้านก็ใจดีมีบริการห่อกลับให้ด้วยนะครับ โดยพนักงานได้แจ้งผมตั้งแต่ตอนรับ order เลยว่าหากทานไม่หมดสามารถห่อกลับได้ครับ ซึ่งเค้าห่อให้ดีมากอย่าง Scone ก็มี dip มาให้ด้วยทั้ง 3 แบบเลยครับ
เอาล่ะครับ ทีนี้เรามาดูกันดีกว่าครับว่า ในความเห็นผมนั้นคิดว่า Afternoon tea set มื้อนี้นั้นเป็นอย่างไรบ้างครับ โดยผมจะขอแยกเป็นเรื่องๆ ตามเดิมนะครับ
รสชาติอาหาร : ถือว่าสอบผ่านหมดทั้งขนมและเครื่องดื่มครับ อาจจะไม่ได้ถึงขั้นดีเว่อร์ต้องไปกินให้ได้ แต่ก็อยู่ในเกณฑ์ดี กินแล้วรู้สึกประทับใจครับ อย่างมาการองก็ทำรสชาติแปลกๆ ใหม่ๆ ออกมาได้ลงตัวและหวานน้อยกว่าหลายๆ ที่ครับ และจากรายการทั้งหมดที่กินนั้นก็มีเพียงแค่แซนวิชแตงกวารายการเดียวเท่านั้นที่ผมรู้สึกไม่ประทับใจครับ
ความหลากหลายของอาหาร : จากอาหารทั้ง 3 จานที่ได้มาใน Set ผมถือว่าได้มาครบดีนะครับ ทั้งของคาว ของหวาน และก็ผลไม้ รวมๆ แล้วเกิน 10 ประเภทได้ครับ ส่วนชาและกาแฟก็มีให้เลือกหลายประเภทดีครับ
ความสะอาดของร้าน : ไม่มีปัญหาอะไรในข้อนี้ครับ เพราะด้วยความที่ตั้งอยู่ในโรงแรมเกรดขนาดนี้ดังนั้นเรื่องนี้จึงสอบผ่านสบายมากครับ
การบริการของพนักงาน : ถึงพนักงานในร้านจะน้อย มีเพียงแค่ 2 คนเท่านั้น แต่การเต็มใจให้บริการ การพูดจาของพนักงาน ความเอาใจใส่ถือว่าดีมากครับ อย่างผมมีการทำส้อมตกไปที่พื้นครั้งนึง ยังไม่ทันที่ผมจะยกมือเรียกพนักงาน ทางพนักงานก็เดินมาที่โต๊ะพร้อมทั้งนำอุปกรณ์ชิ้นใหม่มาให้เรียบร้อยเลยครับ บอกเลยจุดนี้ประทับใจมากครับ ส่วนเรื่องความเร็วในการให้บริการนั้นหากมีแขกเต็มร้านแบบก่อนที่ผมจะออกจากร้านมานั้นก็อาจจะต้องมีการรอนิดหน่อยครับ เพราะพนักงานทั้ง 2 คนต้องทำหมดทั้งรับ order, เสิร์ฟ, ชงชากาแฟ และก็อุ่นขนมครับแต่ถ้าคนในร้านน้อยแบบตอนที่ผมพึ่งไปถึงร้านก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรในเรื่องนี้เลยครับ
ความสะดวกของการเดินทาง : โรงแรม The Siam เป็นโรงแรมที่อาจจะเดินทางด้วยรถสาธารณะลำบากหน่อยครับ เพราะไม่มีรถผ่านโดยตรง ต้องใช้การเดินต่อเอา แต่ก็ไม่ได้ไกลมากครับ ส่วนใครที่ขับรถมาถือว่าอาจจะงงนิดหน่อยเพราะถนนแถวนี้จะเป็น one way ครับ แต่ในเรื่องที่จอดรถนั้นถือว่ามีเยอะแยะและจอดได้ง่ายมากครับ อ้อ…..สำหรับคนที่ชอบโดยสารทางเรือนั้นเหมือนทางโรงแรมจะมีท่าเรือส่วนตัวและเราสามารถนั่งมาจากท่าเรือสาทรได้ด้วยครับ แต่ยังไงลองสอบถามทางโรงแรมเพื่อความแน่ใจอีกทีนะครับ
ความคุ้มค่า : หากดูกันที่ราคาอย่างเดียวที่ Set 1 คน ราคา 750 บาท และ Set 2 คน ราคา 1,350 บาทนั้นก็ถือว่าเป็นราคาที่แพงเอาการอยู่เพราะราคานี้ยังไม่รวม vat และ service charge เลย และหากรวมไปนั้นจะทำให้ราคา Set 1 คน ตกไปที่ราวๆ 900 บาท และ Set 2 คนราวๆ 1,600 บาทครับ ซึ่งราคานี้สามารถนำไปกินบุฟเฟต์ดีๆ แบบอิ่มพุงทะลักได้เลยครับ แต่หากมองเทียบแค่ว่านี่คือราคาของ Afternoon tea set แล้วก็ถือว่าเป็นราคาที่สมเหตุสมผลครับ เพราะราคา Afternoon tea set ของโรงแรมระดับนี้ก็อยู่ที่ประมาณนี้หรือสูงกว่านี้อีกครับ T___T และที่ร้าน Café Cha นั้นยังมีจุดเด่นตรงที่มี Set 1 คนจำหน่าย และสามารถให้นั่งทาน 2 คนได้ รวมทั้งยังมีการจำหน่ายขนมแยกเป็นจานเดี่ยวๆ หรือเป็นชิ้นด้วยครับ ซึ่งจะช่วยประหยัดเงินได้อีกนิดหน่อยครับ
สรุป : หากคุณเป็นคนชอบ Afternoon tea set หากคุณกำลังมองหาสถานที่ดีๆ บรรยากาศสวยๆ ขนมอร่อยๆ ชาดีๆ ไว้ทานกับคนรู้ใจ หรือคุยธุรกิจที่ไม่เป็นความลับมาก สถานที่แห่งนี้เป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ดีครับ เพราะการทาน Afternoon tea นั้น จะไม่มีการจำกัดเวลา ไม่ได้มีอาหารหนักๆ ที่ต้องเร่งรีบกันภายในเวลาจนไม่ได้พูดคุยกัน แต่มันคือการนั่งคุยกันไปเรื่อยๆ เม้ามอยส์ ถ่ายรูปเก๋ๆ อวด Social อะไรแบบนี้ครับ แต่หากคุณเป็นคนที่มองหาอะไรที่อิ่มพุงแตกชนิดข้ามวันข้ามคืน และรู้สึกอยากได้ความคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไปทุกบาททุกสตางค์ การทาน Afternoon tea คงไม่เหมาะกับคุณซักเท่าไหร่ครับ ^^
ก็จบลงแล้วสำหรับรีวิวนี้ครับ หากขาดตกบกพร่องประการใดต้องขออภัยด้วยนะครับ และการรีวิวนี้เป็นเพียงความเห็นส่วนตัวของผมจากวันที่ไปใช้บริการเท่านั้นครับ แต่ละท่านที่ได้มีโอกาสไปใช้บริการอาจจะได้รับการบริการหรือรสชาติที่แตกต่างจากนี้ออกไปครับ และหากใครชอบการรีวิวของผม สามารถไปติดตามหรือแนะนำเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยครับ
https://www.facebook.com/amazingcouples
ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบ แล้วพบกันใหม่ในรีวิวหน้า ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการกิน ไม่ตก ไม่หล่นเวลาเข้าร้านอาหารนะครับ ผมขอทิ้งท้ายด้วยภาพ Set นี้แล้วกันนะครับ ภาพภรรยาผมในบรรยากาศข้างๆ ร้าน Café Cha ที่ผมว่าสวยมากครับ ไปทีไรผมอดใจถ่ายรูปมุมนี้ไม่ได้ซักทีครับ โดย 2 ภาพแรกผมถ่ายเมื่อเดือน มิ.ย. ปีที่แล้ว และ 2 ภาพหลังเป็นการถ่ายภาพจากการไปทาน Afternoon tea ในรีวิวนี้ครับ
ภรรยาหา สามีใช้
วันจันทร์ที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.41 น.