เดินป่าหน้าฝน 3วัน 2คืน ระยะทางรวม 27 กม. “คลองชมพู-น้ำตกทูแม้ว” ลัดเลาะป่าและลำคลองชมความงามของธรรมชาติ ในเขตอุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (สล.5) อ.เนินมะปราง จ.พิษณุโลก โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นฤดูฝน ธรรมชาติก็จะสมบูรณ์สวยงามพร้อมรอต้อนรับนักผจญภัยอย่างพวกเรา

==========================================================================

Day 01 บ้านคนนำทาง - แก่งคันนา - แคมป์ลานหินลาด

===========================================================================

พวกเราได้ติดต่อคนทำทาง ชื่อกลุ่ม “เที่ยวไทยไปคลองชมพู” นำทีมโดยน้าบุญสืบ และทีมงานคุณภาพที่ดูแลพวกเราเป็นอย่างดีและปลอดภัยกันทุกคน เป็นทั้งคนนำทางและบริการลูกหาบ เพื่อนๆ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดทริปได้ที่นี่ https://www.facebook.com/tewthaipaichomPoo หรือติดต่อที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวงโดยตรงได้เช่นเดียวกัน

นั่งรถอีแต๋นจากบ้านน้าบุญสืบไปยังจุดเริ่มเดินเท้าที่แก่งคันนา เริ่มปุ๊บก็ลุยน้ำข้ามคลองชมภู 

ลัดเลาะไปตามลำคลองจนถึงจุดหมายแคมป์แรกที่ “ลานหินลาด” ระยะทางเดินเท้าวันแรกประมาณ 8 กม. เดินง่ายๆ สบายๆ แต่ร้อนอบอ้าวเอาเรื่องอยู่เด้อ

      ลัดเลาะไปตามแนวลำคลอง เดินเรื่อยๆ สบายๆ ผ่านคลองสวยๆ 

      ได้เวลามุดป่าแล้ว ขากลับเราก็จะมาโผล่แถวนี้ละ ผมนี่งงเลย กลับคนละทางแต่มาโผล่ตรงนี้เฉยเลย คนอื่นบอกมจะงงทำไม ฮ่าๆๆ

      คลองหลายสาขานะเนี่ย ป่าต้นน้ำมันดีจริงๆ จากนี้ไปก็จะเดินในร่มแล้ว 

      และแล้วพวกเราก็มาถึงแคมป์วันแรก "ลานหินลาด” หรือ วังหินลาด มีลักษณะเป็นลานหินกว้าง มีน้ำไหลผ่าน สามารถลงไปแช่ตัวเล่นน้ำให้คลายร้อนอย่างเพลิดเพลิน 


      พวกเราก็นั่งแช่นอนแช่กันจนเข้านอนเลยละ เพราะอากาศค่อนข้างอบอ้าว กลางคืนถ้าฟ้าเปิด เพื่อนๆ สามารถชมความงามของดวงดาวบนท้องฟ้าได้อย่างสวยงาม ที่นี่สามารถกางเต็นท์และผูกเปลได้

      กลางคืนอากาศดี ไม่ร้อน แอบเย็นๆ นิดหน่อย ตื่นเช้าดริฟกาแฟร้อนๆดื่ม ทำอาหารเช้าด้วยกัน แล้วก็เล่นน้ำกันต่อ 

      ==========================================================================

      Day 02 แคมป์ลานหินลาด - น้ำตกทูแม้ว

      ===========================================================================

      แคมป์ 2 ที่น้ำตกทูแม้ว ระยะทางไม่ไกล ประมาณ 6 กม. ใช้เวลา ไม่เกิน 4 ชม.ก็ถึง ระหว่างทางยังสามารถเล่นน้ำ ชมผีเสื้อสวยๆ เยอะมาก ป่าไม้น้อยใหญ่อุดมสมบูรณ์ มีขึ้นลงเขานิดหน่อย ถือว่าไม่ยากมาก ที่นี่มีช้างป่าด้วยนะ พยายามเดินเกาะกลุ่มและเชื่อฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ด้วยเด้อ ปล.ระหว่างทางอย่าลืมเก็บผักกูดมาผัดกินด้วยนะ เยอะมาก ฟินสุดๆ

      ถึงแล้ว แคมป์ริมน้ำที่เป็นจุดหมายปลายทางของทริปนี้ "น้ำตกทูแม้ว" สวยเกินคาด

      แคมป์ที่ดี คือแคมป์ริมน้ำ อ้ายกึ่มชอบมาก อยากเล่นอยากล้างอยากทำไรก็ฟินบอกเลย

        พ่อครัวของเรา พี่รี่ ทำกับข้าวหน้าน้ำตกไปสิ อยากล้างอะไรก็จ้วงๆ แถวนั้นแหละ ยังกับสตรีทฟู้ดที่อินเดียว่าซั่นนนนนน

        เพื่อนๆเห็นลานเล็กๆ ที่มีน้ำไหลผ่านปะ นั่นละที่นั่งทำกิจกรรมบันเทิงของพวกเรา เป็นลานหินที่มีน้ำไหลผ่าน ให้พวกเราได้นั่งพูดคุยกันอย่างสนุกสนานจนลืมไปว่า พรุ่งนี้เราต้องเดินทางกลับแล้วนะ และระยะทางกลับไกลมากๆ กว่า 15 กม.เลยทีเดียว

        “น้ำตกทูแม้ว” เป็นต้นน้ำคลองชมภู สายน้ำไหลผ่านโขดหินที่เรียงลายเป็นชั้นๆ มีแอ่งน้ำสามารถเล่นน้ำได้ มีพื้นที่กางเต็นท์หน้าน้ำตก วันนี้พวกเราได้นอนชั้นหินด้านหน้าน้ำตกด้วยละ มันฟินมาก จับจองพื้นที่กันได้ตามสบาย ผูกแปลได้นิดหน่อย ปกติแล้วหน้าฝนทางผู้นำทางฯ ไม่อนุญาติให้นอนหน้าน้ำตกทำให้บางกลุ่มต้องไปแคมป์บนลานเนินเขาข้างๆ หัวน้ำตก เพราะกลัวเรื่องน้ำป่า แต่ช่วงที่เราไปยังเป็นต้นฤดูฝน ที่ยังมีฝนไม่มากถือว่ายังแล้งอยู่ ทำให้พวกเราได้ดื่มด่ำและทำกิจกรรมกับแคมป์ที่ใกล้ชิดตัวน้ำตกมากๆ

        เราสามารถเดินสำรวจน้ำตกชั้นอื่นๆ ได้นะ เลยน้ำตกทูแม้วขึ้นไปอีกด้านบน ไต่ชั้นหินไปเรื่อยๆ เดินง่าย แต่ควรใส่แค่ถุงเท้านะ ไม่งั้นลื่นเด้อ

        มีสายน้ำซึมผ่านร่องเขามาหลายจุด ดูแล้วชดชื่นสบายตา 

        แผ่นหินที่เห็นสามารถเดินได้นะ แต่ไม่เอาดีกว่า กลัวลื่นและกลัวความสูง เดี๋ยวพลาดมาไม่คุ้ม เพื่อนๆก็ระมัดระวังด้วยนะครับ อย่าดื้อเด้อ

        อยากรู้จังว่าถ้าน้ำเยอะกว่านี้จะสวยแค่ไหน ไว้รอชมรูปจากเพื่อนกลุ่มอื่นที่มาฤดูฝนนะครับ

        เราอยากเห็นน้ำตกฝั่งนี้ละ แต่น้ำน้อยไปหน่อย ได้แค่นี้จริงๆ

        ผมว่าที่นี่มันเป็นธรรมชาติดี ใช่ว่าใครๆ ก็มาได้ มันต้องใช้กำลังขา แรงกายและแรงใจจริงๆ อยากให้เพื่อนๆ ได้มาสัมผัสด้วยตัวเอง ที่นี่ก็สวยไม่น้อยเลยละ

        ==========================================================================

        Day 03 แคมป์น้ำตกทูแม้ว - แก่งคันนา - บ้านคนนำทาง - กทม.

        ===========================================================================

        ได้เวลากลับแล้ว ด้วยระยะเดินทางกลับค่อนข้างไกล ทำให้เราต้องรีบตื่นและเก็บสัมภาวะ ทานข้าวและเตรียมข้าวมื้อกลางวันให้พร้อม ส่วนน้ำดื่มสามารถกรองดื่มได้สบายใจ

        เรามาโผล่จุดนี้ จำได้ปะ เล่นน้ำกันให้หายร้อนก่อนเดินทางกลับไปขึ้นรถอี่แต๊กกันต่ออีกไม่ไกลมาก

        วางเป้แล้วพักเอาแรง เพราะอีกไม่ไกลมากก็ถึงรถอีกแต๊กแล้ว เย่ๆ หินโค้กแป๊บซี่และฟองๆ ที่สุดเลย

        ผมว่าที่นี่เหมาะกับมาเที่ยวช่วงฤดูฝนและปลายฝนต้นหนาวมากๆ เพราะจะได้เจอน้ำตกสวยๆ ป่าที่เขียวสดชื่น เป็นอีกหนึ่งทริปประทับใจถ้าโอกาสคงได้หวนกลับมาเที่ยวที่นี่อีกแน่นอน

        ต้องขอขอบคุณพี่เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง (สล.5)  ที่อำนวยความสะดวกและดูแลความปลอดภัยให้กลุ่มเรา ขอบคุณทีมน้าบุญสืบและทีมงานที่พาพวกเราเข้าไปชมความงามของคลองชมภู เป็นทั้งลูกหาบและบริการนำเที่ยว ด้วยบริการที่ยิ้มแย้มแจ่มใสดุจญาติ ถ้าเพื่อนๆ มาถึงกลางดึกของคืนก่อนจะถึงทริป สามารถแจ้งน้าบุญสืบว่าขอมางีบที่บ้านของแกได้นะ บ้านแกไม่ไกลจากตลาดตัวอำเภอเนินมะปราง เช้าๆ สามารถไปจับจ่ายซื้อเสบียงเตรียมตัวเข้าป่าได้เลยละ ต้องขอขอบคุณน้าบุญสืบมากๆ แกใจดีจริงๆ 

          ขอบคุณพี่รี่ พี่ปั๋ง ที่ชวนมาเที่ยวและทำกับข้าวแซ่บๆ ให้พวกเราได้กินอย่างอร่อยตลอดทริป ขอบคุณมิตรภาพจากเพื่อนๆ ที่มาร่วมผจญภัยด้วยกันในครั้งนี้ ไว้เจอกันใหม่เด้อ

          "ประสบการณ์ใหม่ ไม่ออกไปหา ไม่มีทางเจอ " Life is a journey”

          #ดีแต่เที่ยว #คลองชมภู #เนินมะปราง #พิษณุโลก #อุทยานแห่งชาติทุ่งแสลงหลวง #เที่ยวไทยไปคลองชมพู


          อ้ายกึ่มมักเล๊าะ

           วันพฤหัสที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2566 เวลา 12.04 น.

          ความคิดเห็น