วันนี้ก็เป็นเหมือนวันธรรมดาวันนึง

ใช่ๆ มันคือวันธรรมดาหน่ะ ไม่ใช่วันเสาร์อาทิตย์แต่อย่างใด

แต่มันจะพิเศษก็ตรงที่

เราทั้ง 5 ชีวิตมีนัดไปเที่ยวกันน

แม่ เรา พี่ ยาย และแฟนของพี่ เรียงตามภาพหน้าปกเลย

ก็ประมาณนี้แหล่ะ

อย่าได้รอช้า ออกเดินทางกันเลยดีกว่าาา

เมื่อทุกคนประจำตำแหน่ง

ล้อรถก็เริ่มหมุนทันที

โดยโชเฟอร์ในทริปนี้จะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจากพี่เราเอง

ระหว่างทางเราก็แวะกันไปหลายปั้มอยู่

เดี๋ยวคนนู้นปวด เดี๋ยวคนนี้หิว วุ่นวายกันตั้งแต่กรุงเทพยันจะขึ้นเขา

เหตุการณ์ที่วุ่นวายส่วนใหญ่ก็มักจะมาจากคุณยายนี่แหละ5555555

เดี๋ยวนู่นนี่หายตลอด ล่าสุดกระเป๋าเครื่องสำอางนางหาย

หากันแทบพลิกปฐพี

จนมาถึงสถานีสุดท้ายที่เราแวะกันก็คือ

ปั้มปตท.นี่เอง

ต้องบอกไว้เลยว่า

ปั้มนี้ใครไม่ได้แวะนับว่าพลาดมาก เพราะมันสวยหรอ ป่าวค่ะ

เพราะบนเขามันจะไม่มีปั้มอีกแล้วต่างหาก55555555

พอเริ่มเข้าสู่เขตขึ้นเขา

ผู้โดยสารอย่างพวกเราก็ อู้หูวววว โอ้โหวววว กันตลอดทาง

จนโชเฟอร์ชักจะหมั่นไส้

เลยรีบหาจุดชมวิวจอดทันที

แน่นอนว่าคนแรกที่วิ่งเข้าไปช่วงชิงจุดเช็คอินจะเป็นใครไปไม่ได้ นอกจาก..

ค่ะะะ คุณยาย ท่าเยอะจริงๆ

จุดแรกเราก็ยกให้เขาไปก่อนละกัน ยังลั้ลลากันครบทุกคน

แต่พอมาถึงจุดที่2นี่

พี่พูดเลยว่าพี่ไม่ยอม

ต้องหลบทางให้คู่รักคู่นี้เน้นๆ

ถามว่าตอนถ่ายอิจฉาไหม๊ ไม่มั้งแกกก นี่ว่าเฉยเฉย

ในส่วนของคุณยายนั้น

คนที่แพ้ก็ต้องดูแลตัวเองเข้าใจไหมคะ55555555

มามา จะไปต่อยังเดี๋ยวหนูโบกรถให้

จะเห็นกันได้ชัดๆว่ารูปเราเองจะสวยกว่ารูปคนอื่น

นี่ก็ไม่ได้ตั้งใจจะลำเอียงง แต่คือถ้าเป็นรูปเราแม่ถ่ายไง เขินจัง-//////-

ไปต่อดีกว่าาา

ขับยาวๆไปจนถึงยอดภูเลยย

เขาว่ากันว่าวิวที่นี่สวยที่สุด

ซึ่งก็คงจะจริง

เพราะบ้านพักที่นี่ทุกหลังถูกจับจองหมดแล้ว

นี่ขนาดระหว่างทางเราแทบจะไม่เจอใครเลยนะเนี่ย

สุดท้ายเราเลยมาลงเอยกันที่นี่

กู๋ฮะก้อ @เดอะม้ง

ซึ่งถ้านี่ไม่ได้เข้าใจอะไรผิด

กู๋ฮะก้อเป็นภาษาม้ง ที่แปลว่าฉันและเธอ ประมาณนี้มั้งงง มั้งงงง

ส่วนตัวแล้วชอบที่ตรงนี้มากกว่า

เพราะคนไม่พลุกพล่านดี

รู้สึกส่วนตัวสุดๆ

แถมยังมีหมอกลอยขึ้นมาได้ถึงหน้าระเบียงบ้านเลยทีเดียวเชียว

บ้านที่เราเลือกพักกันคืนนี้มี2หลัง

คือ บ้านที่เปิดไปแล้วเจอที่นอนเลย

ไร้ซึ่งห้องน้ำใดๆ หรือถ้าจะเปรียบเทียบก็คงเหมือนเต็นท์ดีๆนี่เอง

ถ้ายังจินตนาการไม่ออกก็แบบในรูปข้างล่างเลยย

นี่ว่ามันก็น่ารักดีนะ นอนได้2คน ราคา600บาทเอง

ถ้าเป็นคนปกติเขาก็ใช้ห้องน้ำรวมกันไป

แต่เราไม่ต้องค่ะ

เพราะเรายังมีบ้านอีกหลังที่มีห้องน้ำด้วยเว้ยย

หน้าตามันก็เหมือนแคปซูลอะไรสักอย่างที่ราคา1,500 แต่วิวแสนแปดได้

คือดีงามมม พอเราไปถึง หมอกก็มารอต้อนรับเราเลย

รู้งานจริงๆนะเจ้าหมอก

ไงล้าาาา นี่ขนาดใกล้เย็นแล้ว

ยังมีหมอกให้ชื่นใจได้ขนาดนี้

เช้าๆจะฟินขนาดไหน

ไม่รอช้าค่ะ กระเพาะเรียกร้องแล้ว

จัดมา

ตำนานของภูทับเบิก

อากาศเย็นๆกับหมูกระทะร้อนๆนี่มันเป็นของคู่กันจริงๆ

ไม่รู้คิดไปเองรึเปล่า แต่ตอนเขายกของมาให้นี่ก็แอบคิดนะ

ว่าทำไมมันน้อยจังว้า จะอิ่มไหมหน่ะ

สุดท้าย

พุงแทบแตกตายไปเลยย

เอ้อออ ชุดนี้500บาทนะ ดูแพงละสิ่ แต่อิ่มกันครบ5คนเลยนะเว้ย

คือถ้าใครไม่ได้กินหมูกระทะที่นี่นับว่ามาไม่ถึงเลยจริงๆ

หลังจากอิ่มไม่เกิน3วิ

แม่ก็ชวนไปเดินย่อยทันที

นี่ก็เลยจำใจวางตะเกียบแล้วคล้องกล้อง

ตามมาถ่ายท่าแม่เซลฟี่

ชุดแม่เรานี่แย่งซีนเด็กดอยแถวนั้นมาก

ถึงขั้นบึ้งตึงกันเลยทีเดียว นี่หนูเต็มใจถ่ายใช่ไหมลูก..

เดินๆๆๆๆ เดินมาจนถึงที่นี่

เป็นลานที่ให้ผู้คนมากางเต็นท์ ฟรีเลยยยย

ร่วมขบวนการเซลฟี่กับคุณแม่ด้วยขาตั้งกล้อง

เลยได้รูปคู่กันมาตั้งรูปนึงแหนะ

หลังจากรูปนี้เราสองคนก็เดินหอบกลับมายังที่พัก

การเดินขึ้น-ลงเขานี่มันกินแรงจริงๆ

จบวันนี้ด้วยความหนาวพอประมาณ ที่พีคกว่านั้นคือ ไม่มีใครอาบน้ำเลย555555555

05:30

"ตื่นไปถ่ายหมอกไหมลูก"

คิดในใจว่าขออีก5นาทีละกัน รู้ตัวอีกทีก็เกือบ7โมงล้าาา

เลยรีบลุกมาล้างหน้าแปรงฟัน

พอเปิดประตูออกจากบ้านเท่านั้นแหละ

อู้หูยยยย

คือไม่เคยตื่นมาแล้วเจออะไรแบบนี้

รีบวิ่งไปหากาแฟมาเสริฟคุณยายก่อนจะวิ่งไปหาแม่ให้ไวที่สุด

ฮายยยยย ทะเลหมอกของข้า

คือมากันเป็นทะเลจริงๆวะ

เยอะจนสงสัยว่านี่เขามีเครื่องผลิตไหม ของจริงปะเนี่ยยย

แต่ผ่านไปได้ไม่นานทะเลก็แห้งเหือดไป

เพราะนี่ตื่นสายเองแหละ แฮะๆ

บินหนีความผิดแปปปป

บ้ายบายภูทับเบิกกก

สำหรับที่นี่

โคตรประทับใจและอิ่มเอมมาก

ปกติจะเป็นคนไม่ชอบเที่ยวที่ซ้ำๆ

แต่ที่นี่เป็นที่แรกที่รู้สึกอยากกลับมาอีก

คุณยายก็น่าจะรู้สึกอย่างงั้นเช่นกัน ใช่ไหมคะ555555

บรื้นบรื้นนน มุ่งหน้าตรงไปเขาค้อ

เพื่อนัดเจอกับ

เจ้ากังหันลมยักษ์

คือมันสวยมากเลยนะเว้ย แต่..

ถ่ายรูปมาแล้วแบบ หามุมไรไม่ได้

อาจจะเพราะเขาไม่ได้เปิดให้เข้าไปใกล้ๆ เอ้อออ ต้องใช่แน่ๆเลย ไม่ใช่เพราะฝีมือเราหรอกแก

....

สคิปมันไปให้ไว5555555

เดินไปหาที่โล้ชิงช้าที่อยู่ใกล้ๆกันแก้ช้ำใจดีกว่าาา

สนุกสนานกันใหญ่ ทั้งผู้ใหญ่และวัยชรา555555555

ความรู้สึกตอนลมตีหน้า แล้วได้มองวิวสวยๆจากมุมนั้น

ไม่ว่าจะเป็นวัยไหนๆ

ก็รู้สึกได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งนะเราว่า

คุ้มค่ากับผิวสีแทนที่แลกมามากๆ

จุดต่อไปที่เลื่องลือ

จะเป็นที่ไหนไปไม่ได้นอกจาก

ไปรษณีย์เขาค้อ

ส่วนตัวคิดว่าที่นี่ไม่มีอะไร ถ้าไม่ได้หมอกตอนเช้าๆ

เราเลยรีบมุ่งหน้าไปที่จุดหมายสุดท้าย

ที่ซึ่งตั้งใจว่าจะไปพรุ่งนี้เช้า

แต่พอเอาเข้าจริงๆ

ยายดันติดใจวิวบนภูทับเบิก

จนไม่อยากจะนอนที่อื่นไปซะแล้ว

วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว

ที่นี่มีเราเข้าไปข้างในแค่คนเดียว

เพราะเขาห้ามเสื้อแขนกุดและกางเกงขาสั้นต่างๆนานา

เราก็ใส่ขาสั้นมานะ

แต่ได้ผ้าที่น่าจะเป็นญาติฝ่ายหนึ่งของผ้าถุงมั้ง

ที่ทางวัดมีบริการไว้ให้

เลยกดชัตเตอร์มารัวๆ

เราว่าวัดนี้เป็นวัดที่สวยมาก

สวยทั้งสภาพแวดล้อม ความอลังการ และ สีสัน

ถ้าไม่ติดว่าต้องรีบขับรถกลับกรุงเทพ

เราก็อยากจะฝังตัวอยู่ในนั้นให้นานกว่านี้

23:00

พอกลับมาถึงบ้านเราก็ล้มตัวลงนอนทันที

ด้วยความเหนื่อยล้า

นับเป็นช่วงที่เงียบที่สุดใน2วันที่ผ่านมา

และนั่นก็ทำให้เราคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย

มันดีมากเลยนะที่เราได้มีโอกาสใช้เวลากับครอบครัวบ้าง

ได้เห็นมุมน่ารักๆของแต่ละคน

ตลกดีที่บางทีเราก็มัวแต่ห่วงเรียนจนลืมบางอย่างไป

ลืมว่าบางอย่างมันก็รอกันไม่ได้

กรี้ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!

เสียงกรีดร้องจากคุณยายหลังจากนางเจอกระเป๋าเครื่องสำอางที่หายไปของนาง

ที่ไหนนะเหย๋อ ก็ในกระเป๋าถือของนางนั่นแหละ กราบสวัสดีค่ะ