รีวิวเกาหลี ปูซาน x โซล ตุลาคม 2023 🍁

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ของการมาเกาหลีค่ะ แต่เป็นครั้งแรกที่จะไปปูซาน การเดินทางในทริปนี้ไปกันเป็นแก๊งค์ผู้หญิง 5 คน โดยเราจะนอนปูซานก่อน 2 คืน และโซล 3 คืน ช่วงวันที่เราไปคือ 19-24 ตุลาคม 2023 ช่วงอากาศที่เราไปเฉลี่ยอยู่ที่ 15-18 องศา มีบางวันที่โซลตอนเช้าจะพีคไป 6-8 องศา สำหรับเราคือกำลังสบายชิว มีคาดิแกนก็เอาอยู่ค่ะ แต่กับพี่ๆที่ไปด้วยกันเป็นคนขี้หนาว การแต่งตัวขึ้นอยู่กับคนเลยว่าขี้หนาวมั้ย

เริ่มต้นออกเดินทางคืนวันที่ 18 ตุลาคม เวลา 22.30 (น้องลิซมาส่งด้วย อิอิ ) เราจะไปถึงปูซานเช้าวันที่ 19 ตุลาคม เวลา 06.20 การเดินทางไปปูซานเราเลือก สายการบินแอร์ปูซานค่ะ บินตรงเลย ใช้เวลา 5 ชั่วโมงกว่า จองผ่าน App Trip ราคารวมนํ้าหนักกระเป๋า 15 โล ถือขึ้นเครื่องได้อีก 10 โล เครื่องลำไม่ใหญ่เป็นเครื่องเล็กแต่พวกเราเป็นผู้หญิงนั่งก็ไม่อึดอัดอะไรค่ะ

และแล้วก็มาถึงช่วงเวลาระทึก นั้นก็คือ ตม ตัวดี !! (เข้าห้องน้ำบนเครื่องให้เรียบร้อยนะคะลงเครื่องปุ๊บคือด่านตมเลย ไม่มีห้องน้ำให้เข้าก่อนเหมือนสนามบินอินชอน) เรามาถึง ตรงเวลาเป๊ะ ตอนที่เราไปยังต้องกรอก Arrival Card อยู่นะคะ ส่วน K-ETA ไม่ต้องยื่นเพราะเค้ามีข้อมูลอยู่แล้ว (แต่ตอนเช็คอินอยู่ไทยขอดูเอกสารก่อนเช็คอิน)

ถึงสนามบินกิมแฮ 06.30 แถว ตม คนเยอะมาก เอาจริงขนาดเคยมาเกาหลีแล้วยังตื่นเต้นอ่ะ งงเหมือนกันนะ บางทีก็เบื่อเกาหลีตรงนี้ แต่ก็ใจดีสู้เสือ ระหว่างรอก็เห็นคนโดนเป็นระยะ มีทั้งที่เรารู้สึกว่าแปลกๆ จริง กับอีกหลายคนที่เราก็มองว่าเค้าคือนักท่องเที่ยวจริงๆ ก็ไม่รู้เค้าใช้อะไรวัด .. รอจน 08.30 ถึงจะถึงคิว ของเราผ่านไวมาก ตมแทบจะไม่มองหน้าเลย สบายใจแฮปปี้ ผ่านคนแรกของกลุ่ม Welcome to Korea


แต่ดีใจได้ไม่นาน และแล้วเหตุการณ์ที่ไม่อยากให้เกิดคือ เพื่อนพี่ที่มาด้วยกัน ติด ตม จ้าาาาา เรามากัน 5 คน ติด ตม 1 พี่แกเป็นคนเดียวที่พาสปอร์ตขาว ไม่เคยไปประเทศไหน ก่อนหน้านี้ที่ลง K-ETA ก็เป็นคนเดียวที่ต้องลงรอบ 2 ถึงจะผ่าน .. แต่พวกเราก็พยายามใจดีสู้เสือกันอยู่ บอกกันว่าไม่เป็นไรเดียวก็ได้ออก พยายามใจเย็นไม่เครียด และให้กำลังใจกัน

เราก็ออกไปนั่งรอตรงมุม จนคนไปหมดสนามบินแล้ว สนามบินกิมแฮอารมณ์ก็เหมือนสนามบินภูเก็ตเชียงใหม่บ้านเรา เล็กมาก (ไม่ได้ถ่ายรูปไว้นะคะ ตอนนั้นก็วุ่นวาย) นั่งรอได้ชั่วโมงกว่า .. อยู่ดีๆ มีเจ้าหน้าที่เดินมาถามว่าเราว่า รอเพื่อนหรอ เพื่อนชื่ออะไร และเราชื่ออะไร และเค้าก็ขอถ่ายหน้าจอที่มีชื่อพี่ เราก็ให้เค้าแคปหน้าจอบุ๊คกิ้งที่มีชื่อพี่เค้า และเจ้าหน้าที่ก็ขอชื่อเรา จากนั้นเค้าก็ถามว่าเรามาครั้งแรกหรอ เราบอกครั้งที่ 3 แล้ว และเค้าก็บอกให้รอก่อนเค้าจะไปถามมาให้ .. จากนั้นไม่นาน พี่แกก็เดินออกมาพร้อมเจ้าหน้าที่ วินาทีนั้นคือ อยากจะกรี๊ดดดดดด 

.. เรื่องราวข้างในคือ พี่เค้าก็รอคิวสัมภาษณ์ ตอนนั้นคนโดนส่งกลับไปแล้ว 3 คน .. ส่วนพี่เรายังไม่ได้โดนเรียกคุย มีแค่กรอกเอกสารต่างๆ ซึ่งพี่เค้าบอกว่าข้างในคนเยอะมาก 30 กว่าคน และเจ้าหน้าที่ที่มาถามเรา ก็เข้าไปเรียกชื่อพี่เค้า โดยถามพี่เค้าว่ามากับใคร ซึ่งคำตอบใดๆ ก็คือตรงกันกับที่เราได้บอกไป .. เค้าเลยเรียกให้ออกเลย ไม่ต้องรอสัมภาษณ์ .. ต้องขอบคุณเจ้าหน้าที่โอปป้าใจดีคนนั้นด้วย .. ตั้งแต่มาถึงมีคนนี้แหละที่ดูหน้าตาต้อนรับเราสุด คือถ้ารอตามคิวต้องเสียเวลาไปเกือบครึ่งวันแน่นอน

ใจก็โกรธนะ เพราะมันเสียเวลา แพลนเที่ยวรวนหมดเลย เพราะแทนที่ถึงเช้าจะได้เที่ยวเลย คือต้องมารอ .... แต่ก็โชคดีตรงที่ลงปูซานที่คนน้อย เจ้าหน้าที่คงมองเห็นเราว่าเรามาเที่ยวจริง เพราะเพื่อนติดก็นั่งรอเป็น กลุ่ม ถ้าคนเป็นผีคงไม่มารอแบบนี้ แต่ถ้าลงโซลคนเยอะอยู่แล้ว คงไม่มีใครมาสนใจเรา และก็ยังโชคดีที่เจ้าหน้าที่คนนี้ใส่ใจเรา มาถามไถ่ เห้ออโล่งใจเที่ยวต่อได้ คัมซามีดาาาา


จบจาก ตม ปวดหัวกันไปหมด .. เริ่มต้นทริปได้จริงๆสักที เรานั่ง Airport Limousines Bus จากสนามบินกิมแฮ มาลงที่ Gwangan Station เดินตรงออกมาจากที่รับกระเป๋า และมารอที่ป้ายหมายเลข 3 ราคาคนละ 10,000 Won จากจุด Bus stop เดินต่ออีกโลกว่า คือตอนแรกเราก็ลังเลว่าจะนั่งแท็กซี่กันเลย แต่พวกเรามา 5 และมีแต่คนกระเป๋าใหญ่ และก็ยังไม่ได้หาข้อมูลแท็กซี่ ลงบัสและเดินทุลักทุเลพอสมควร .. และแล้วก็มาถึงที่พัก เป็นแบบ air bnb เราฝากกระเป๋าไว้ก่อนเพราะห้องพักยังไม่เสร็จ


จากจุด Bus stop เดินต่ออีกโลกว่า คือตอนแรกเราก็ลังเลว่าจะนั่งแท็กซี่กันเลย แต่พวกเรามา 5 และมีแต่คนกระเป๋าใหญ่ และก็ยังไม่ได้หาข้อมูลแท็กซี่ เลยขึ้นมาก่อน ทุรักทุเลพอสมควร .. และแล้วก็มาถึงที่พัก เป็นแบบ air bnb นอนได้ 5 คนพอดี เตียง 3 ปูนอนพื้น 1 โซฟา 1 ห้องสวยเลย ดีกว่าที่คิดมาก วิวสะพานคือสวย ห้องใหญ่กว้างขวางมีทุกอย่างครบ ห้องน้ำสวยมาก แต่เนื่องจากเรามากันเยอะพอของเข้าห้องจากห้องมินิมอล ก็กลายเป็นมินิมาร์ท ก็เลยไม่ถ่ายรูปอะไรเลย แต่คอนเฟิร์มเลยว่าดีงามค่ะ

https://th.airbnb.com/rooms/54...


จากนั้นเราก็ได้เริ่มต้นเที่ยวสักที เที่ยงพอดี เราไปกินข้าวที่ร้าน ก็ตามรีวิวมา เดินมาจากที่พักไม่ไกล ชื่อร้าน Nasari Restaurant Gwangan Branch ร้านสวยมองเห็นวิวทะเลปูซานปูใจ เจริญอาหารสุด เราสั่งมาเป็นเซ็ท เรามา 5 คนสั่ง 2 เซ็ท โดยรวมก็อร่อยดี ส่วนตัวชอบพิซซ่าเกาหลี กรอบอร่อย

[Naver Map]
Nasari Restaurant Gwangan Branch
부산 수영구 광안로61번길 60 3층
https://naver.me/xVAARoqi


จากนั้นเราก็ไปคาเฟ่กันต่อ ชื่อว่า Coralani ไกลจากตรงนี้พอสมควร ถ้านั่งรถบัสไปจะใช้เวลาประมาณชั่วโมง แต่ถ้านั่งแท็กซี่คือครึ่งชั่วโมง  ตอนแรกก็ งง ว่าสามารถโบกแท็กซี่ได้เหมือนบ้านเรามั้ย สรุปก็คือโบกได้เลย และไม่ต้องถามว่าไปหรือไม่ไป เพราะบ้านเค้าไม่ปฏิเสธผู้โดยสารไปหมด แต่นั่ง 5 คนไม่ได้นะคะ นั่งได้แค่ 4 เราเลยแยกเป็น 2 คัน แท็กซี่ประหยัดเวลากว่ามาก นั่งบัสแอบไกลเสียเวลา เริ่มต้นมิเตอร์ถ้าจำไม่ผิดอยู่ที่ 4,800 Won

ตอนแรกเรามาเพราะมุมไฮไลต์ที่เป็นเบาะนั่งสีฟ้า ตัดกับทะเล แต่วันไปเค้าเปลี่ยนเป็นเก้าอี้ ฮือออ ไม่รู้เพราะก่อนหน้านี้ฝนตกหรือยังไง แอบช็อตฟิล แต่ถ่ายออกมาก็สวยอยู่ ส่วนราคานํ้าขนมค่อนข้างแรง แต่ก็อร่อยทั้งนํ้าทั้งขนม

[Naver Map]
Korallani
부산 기장군 기장읍 기장해안로 32
https://naver.me/IDooVikh


จากนั้นเราก็ไปกันต่อ เราจะไปนั่งรถไฟน่ารักปุ๊กปิ๊ก Sky capsule ที่เป็นรถไฟสีๆ เป็นสิ่งที่ทำให้ทริปมาเกาหลีปูซาน เกิดเลย .. 

จะมาที่นี่ควรจองล่วงหน้านะคะ เพราะเต็มตลอด เราจองผ่านทวิตเตอร์ที่เค้ารับจอง นั่งประมาณครึ่งชั่วโมง แต่เหมือนเดียวนี้จะสามารถจองได้ด้วยตัวเองที่เว็บเค้าเลย ลองดูข้อมูลกันอีกทีนะคะ .. วันที่มาเมฆเยอะ ท้องฟ้าสวยบ้างไม่สวยบ้างแต่ก็น่ารักอยู่ ใครมาปูซานที่นี่ไม่ควรพลาดค่ะ (ตรงสถานีมีร้านคาเฟ่ ตอนแรก ว่าจะไป แต่กว่าจะนั่งรถไฟเสร็จคํ่าพอดีเลยไม่ได้แวะ)

[Naver Map]
Haeundae Blue Line Park Mipo Station
부산 해운대구 달맞이길62번길 13
https://naver.me/GABBQMfP


เมื่อนั่ง Sky capsule จาก Mipo Station รถไฟจะพามาลงที่สถานี Cheongsapo station ตรงนี้ก็จะเป็นจุดไฮไลท์ให้ถ่ายรูปเหมือนกัน ที่มีรถไฟวิ่งตัดผ่านด้านหลังเป็นทะเล แต่ตอนเราไปคนเยอะ และแสงพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน เลยถ่ายมาอีกฝั่งก็เลยได้มุมนี้มา 


จากนั้นเราก็ไปหาอะไรกินที่ตลาดแฮอุนแด Haeundae Traditional Market ร้านที่อยากจะแนะนำคือร้านนี้เลย ต็อกโบกีคืออร่อยมาก ตั้งแต่กินมาที่นี่ฟินสุด

ส่วนโฮต็อกก็สุ่มร้านกิน แต่ว่าส่วนตัวเฉยๆ ไม่ได้ชอบเท่าไหร่ กินคำสองคำก็อร่อยดี แต่ว่ากินเยอะเลี่ยน พวกเราก็กินจุกจิกตามทางไปเรื่อย

จริงๆ วันแรกผ่านมาทุลักทุเล แต่ก็แฮปปี้ดี จบท้ายด้วยนมกล้วยก่อนนอน ZZzz


เช้าวันที่ 2 แดดแรง อากาศหนาว และลมเย็น วันนี้เดินออกจากที่พักไปร้านข้าว ระหว่างทางก็แวะถ่ายรูปริมหาด จริงๆแล้ว ฟิลปูซานก็อารมณ์เหมือนพัทยาบ้านเรา เพียงแต่อากาศดีกว่า

จากที่พักเดินมาร้านข้าวไกลพอสมควร ร้านที่เราจะกินคือร้าน Jukstory busan มีหลายสาขา ดังพวกโจ๊กหอยเป๋าฮื้อ หน้าตาอาจจะเฉย ๆ แต่ก็คืออร่อยจริง อาจจะด้วยความที่อากาศเย็น และวันนี้ลมแรง ได้กินอะไรร้อนๆ ก็ฟินเลย


จากนั้นเราก็โบกแท็กซี่เหมือนเดิมเพราะประหยัดเวลา เราไปกันที่ หมู่บ้านคัมชอน (Busan Gamcheon Culture Village)

หมู่บ้านคัมชอนก็เป็นอีกหนึ่งไฮไลท์ของปูซาน ก็จะเป็นหมู่บ้านที่มองไปก็จะเป็นบ้านสี ๆ และก็มีตัวเจ้าชายน้อย ซึ่งคิวถ่ายรูปยาวเป็นกิโล เราก็แว็บเดินผ่านละอาศัยจังหวะถ่ายเอา 

ส่วนตัวเฉยๆกับหมู่บ้านนี้ อาจเพราะว่าคนเยอะด้วย เราชอบหมู่บ้านฮวิลยออุน มากกว่า ที่จะไปต่อช่วงเย็น แต่ในเมื่อมาปูซานแล้ว ก็ลองมาให้รู้ เดินเล่นถ่ายรูป

[Naver Map]
Gamcheon Village
부산 사하구 감내2로 203 감천문화마을안내센터
https://naver.me/xBssjBz0


จากนั้นก็ไปกินข้าวที่ ตลาดปลาจากัลชี ปูซาน (Jagalchi Market) ไม่ไกลจากหมู่บ้าน ก็นั่งแท็กซี่ไปเหมือนเดิม ตอนแรกจะไปกินตามรีวิว เดินไปตามทาง เจอคุณพี่ท่านนี้พูดไทยใส่ สวัสดีไปมา และบอกจะลดให้ ก็เลยอุดหนุนเลยละกัน 

สั่งเสร็จจ่ายเงิน เค้าจะพาไปที่นั่ง วิวดีมาก พวกเราสั่ง ปูทาราบะ หอยเป๋าฮื้อ กุ้ง ราคารวมๆมื้อนี้ก็น่าจะแสนกว่าวอนได้มั้ง นอกจากนั้นก็จะมีค่าทำ ค่าโต๊ะแยกตั้งหากไปจ่ายข้างบน  เป็นมื้อที่รู้สึกคุ้มราคา เพราะอร่อยมาก สดมาก และก็หวานมาก ใครมาปูซานต้องมากินเลย

[Naver Map]
Busan Jagalchi Market
부산 중구 자갈치해안로 52 자갈치시장
https://naver.me/5wAAVpHx


กินเสร็จก็ใกล้จะเย็นแล้วเราก็ไปกันต่อที่ หมู่บ้านฮวิลยออุน (Huinnyeoul Culture Village) นั่งแท็กซี่เหมือนเดิม เป็นหมู่บ้านริมทะเล

ซึ่งตอนที่มาคือฟ้าสวยมาก รูปสวยแบบไม่ต้องแต่งสีเลย แสงพระอาทิตย์กำลังจะตก และอากาศก็ดีมาก ๆ โรแมนติกสุด ๆ ทางเราชอบหมู่บ้านนี้มาก ให้ฟิลนี้แหละที่เรียกว่าปูซานปูใจ 

แต่ที่ไม่ชอบหมู่บ้านนี้อย่างเดียวคือบันไดสูงมาก 555 อาจุมม่าเดินเก่งมากนะ แต่คนไทยวัยสามสิบที่ไม่ค่อยได้เดิน หอบอยู่เหมือนกัน แต่ถึงจะเหนื่อยยังไงก็รู้สึกแฮปปี้มากกับหมู่บ้านนี้ ใครมาปูซานแนะนำเลยค่ะ

[Naver Map]
Huin Ford Culture Village
부산광역시 영도구 영선동4가 605-3
https://naver.me/xAVVBsOX


จากนั้นพวกเราก็ไปกันที่ BIFF Square เป็นสตรีทฟู้ด มีของกินขายเยอะ อาจจะไม่ได้ถ่ายรูปมาเยอะนะคะ เพราะเดินหาของกินไปเรื่อย 

นอกนั้นก็จะมีของให้ช้อปน่ารักปุ๊กปิ๊กเยอะเลย โดยเฉพาะไดโซะช่วงนี้ น้องน่ารักมาก 

[Naver Map]
BIFF Square
부산 중구 구덕로 44
https://naver.me/xjJJlHtb


Day3 วันนี้เป็นวันที่เราย้ายจากปูซาน ไปเที่ยวโซล เกาหลี พวกเรานั่งแท็กซี่ไปลงที่ Busan Station ตอนนั่งแท็กซี่คุณลุงถามว่ามาจากประเทศอะไร พอบอกประเทศไทย คุณลุงบอกชอบดูวอลเลย์บอลไทยมาก ชอบนุศรา เธอคือเดอะเบส โห้พอฟังแล้วปลื้มใจแทน

จากสถานี Busan Station เราจะไปลง Seoul Station โดยรถไฟ KTX ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง เราจองตั๋วมาจาก App Trip เหมือนเดิม ง่ายมาก จ่ายเงิน เลือกที่นั่งได้เลย ไปถึงขึ้นรถไฟได้เลยไม่ต้องปรินซ์อะไรแล้ว แนะนำให้มาก่อนเวลาสักครึ่งชั่วโมงนะคะ รถไฟออกตรงเวลามาก

เรามาถึงโซลประมาณบ่ายโมงกว่า คนเยอะมาก จากฟิลสงบปูซาน สู่คนมากมายที่โซล เรานั่งรถไฟใต้ดินไปลงฮงแด เพราะที่พักอยู่ที่นั้น เราจองเป็น air bnb เหมือนเดิม ความพีคคือเจ้าของที่พักติดต่อไม่ได้เลย คิดว่าจะโดนเทแล้วตอนแรก ดีว่ามีเซเว่นตรงนั้นให้พนักงานช่วยโทรเบอร์เกาหลีได้ โอปป้าใจดีมาก ๆ ไปๆมาๆ กว่าจะได้เอากระเป๋าฝากเข้าห้องคือ สี่โมงเย็นแล้ว พีคไม่หยุด โดยรวมก็คือดีแหละห้องพัก ราคาไม่แพง อยู่ได้ 5 คน แต่ความประทับใจแรกคือเฟลไปหน่อย (ไม่ได้ถ่ายรูปนะคะ เพราะตอนไปเค้ายังไม่ทำสะอาดเลย)


ข้าวมื้อแรกของเราคือร้าน Hong’s Jjukumi ร้านปลาหมึกผัดเผ็ด หนึ่งในร้านดังย่านนี้ อิ่มอร่อย ปลาหมึกเด้งดี


จากนั้นเราก็ไปคาเฟ่ที่ชื่อว่า Beuraediseu Coffee คาเฟ่มินิมอลของพี่สาวเกาหลี ย่านนี้คาเฟ่เยอะมาก คาเฟ่เกาหลีฮิตๆก็อยู่ย่านนี้เยอะ คาเฟ่เกาหลีน่ารักเยอะ ขนมนํ้าร้านนี้ก็ดี แต่ราคาก็แรงหน่อย

[Naver Map]
Beuraediseu Coffee
서울 마포구 성미산로23안길 23 1층, 2층
https://naver.me/F3OO8ZSZ


ตอนแรกเราแพลนจะไปสวนฮานึล แต่มันใกล้จะเย็นแล้ว เราเลยเปลี่ยนแพลน เที่ยวช้อปปิ้งอยู่ย่านฮงแดแทน Butter Shop มีแต่คำว่าน่ารัก

เดินช้อปนู้นนี้จนเพลิน หิวใหม่อีกรอบ พวกเราเลือกกินร้านไก่กับเบียร์ Oven Chicken & Beer ต่อคิวไม่นาน อร่อยฟินมาก จบทริปวันที่สาม แม้วันนี้จะผิดแผนไปหน่อยแต่ก็โอเค


Day 4 เช้าวันที่สี่ที่อยู่เกาหลี วันนี้แพลนเราคือไปเที่ยว ย่าน Anguk กับย่าน Seongsu ร้านแรกที่เราไปคือ London Bagel อยู่แถวย่าน Anguk เป็นร้านดัง แต่ไปถึงคือรอคิว 4 ชั่วโมง ฮิตอะไรขนาดนั้น แน่นอนว่าไม่รอ เราก็เลยไปหาข้าวกิน สุ่มร้านเอา ลืมถ่ายชื่อร้านมา แต่อร่อยดี 


จากนั้นเราก็เดินเล่นแถวนั้น ตอนไปคนเยอะเหมือนกัน ทัวร์ลง เราเลยไปหาที่นั่ง โดยเลือกร้าน Osulloc  เป็นชาร้านดัง 

ร้านใหญ่ สวยดี ขนมน่ากินมาก อร่อยสมหน้าตา ส่วนชาหอมดี เราซื้อกลับมาด้วยเป็นกล่อง แต่พวกเครื่องดื่มเย็น พี่ที่เค้ากินบอกว่ายังไม่ค่อยเข้มข้นเท่าไหร่ แต่โดยรวมก็คือฟิน 

[Naver Map]
Osulloc Tea House Bukchon Branch
서울 종로구 북촌로 45 오설록
https://naver.me/5PssFZXJ


ไปต่อกันที่ย่าน Seongsu กันค่ะ เป็นย่านที่กำลังฮิตในเกาหลีเลย ก็ไปเดินเล่น ช้อปปิ้ง กินขนม วันไปคือวันอาทิตย์คนแตกแตนมาก ต้องต่อคิวแทบจะทุกอย่าง 


จากนั้นเราก็เดินไปคาเฟ่น้องหมี เป็นอีกหนึ่งคาเฟ่ที่พี่สาวเกาหลีฮิตมาก ขนมน่ารักน่ากิน ชมนมน้องหมีอร่อยดี ไม่หวานไป

[Naver Map]
Tediseu Oven
서울 성동구 서울숲2길 43 (성수동1 가) 1층
https://naver.me/5pHHXw3h


จากนั้นเราก็ไปเดินเล่นที่สวน Seoul Forest Park เดินไม่ไกลจากคาเฟ่หมี ใบไม้เริ่มจะเปลี่ยนสีแล้ว แม้จะยังไม่มาก แต่ก็สวย 

จากนั้นเราก็กลับไปเดินเล่นที่ฮงแดใกล้ที่พักกัน มี Pop Mart ตึกใหญ่เลย ใครสาวกก็คือฟินแน่นอน 

เสร็จจากช้อปปิ้งก็สุ่มร้านปิ้งย่างกิน เพราะคนเยอะทุกร้านวันอาทิตย์ แต่ร้านนี้ก็คือพนักงานไม่รับแขกสุดๆ ถามว่าอร่อยมั้ยก็อร่อยแหละ แต่ไม่ค่อยประทับใจ เดียวพรุ่งนี้ค่อยไปกินร้านเดิมแก้ตัว


Day 5 เริ่มต้นเราแพลนจะไปกินปูดองที่ร้าน Hong Lim อยู่ที่ตลาด Gwangjang Market ฟินมาก คุณลุงเจ้าของร้านก็น่ารักมากๆเลย แอบพูดไทยได้ด้วย เราสั่งมาสองตัว คุณป้าก็ไปทำมาให้ มีข้าวพร้อม ยืนกินหน้าร้านเลย มียาคูลท์เกาหลีตบท้ายให้ด้วย อร่อยฟินมาก

จากนั้นก็ยังมีร้านดังอีกหลายร้าน ที่ฉายในสารคดี Street Food ของ Netflix ด้วย แต่เราก็สุ่ม ๆ ร้านกิน กินอย่างละนิดอย่างละหน่อย

[Naver Map]
Gwangjang Market
서울 종로구 창경궁로 88
https://naver.me/x3qqV03f


จากนั้นทุกคนก็เรียกร้องอยากไปช้อปที่เมียงดง ไปอีกแล้ว มากี่ครั้งก็ต้องไป บรรยากาศก็ยังคงเหมือนเดิม คึกคักเหมือนเดิมแม้จะมาตอนกลางวัน 


ช้อปกันอย่างบ้าคลั่งเสร็จแล้วเราก็เอาของไปเก็บที่พัก และก็ไปกันต่อที่ตึกวายจี ไปยืนๆหมุนตัวอยู่หน้าตึกก็ยังดี ตึกที่เราได้ร่วมสร้างมา หมดเงินไปเยอะ อิอิ ระหว่างทางสถานีเดินไปตึกเจอ ใบไม้เริ่มเปลี่ยนสีแล้ว

เสื้อน้อง Blackpink พรีมาก่อนโควิค เพิ่งจะได้เอามาใส่ เสียดายจังที่ช่วง Blackpink คอนสุดท้ายที่เกาหลีที่ผ่านมาเรากดไม่ทัน เอามาใส่หมุนหน้าตึกแทน

หน้าตึกมีคาเฟ่ที่ชื่อว่า The Seim Cafe เราไม่ได้นั่งกินอะไรนะคะ แต่ลงไปที่ช้อปด้านล่าง จริงๆก็มีหมดแล้ว ก็เลยซื้อแค่เสื้อมา 1 กับสุ่มกล่องน้องหัวใจมา ได้ลูกเจนนี่ของแม่ด้วย พนักงานถามว่ามาจากประเทศอะไรและก็ยิ้มๆ ด้วย 

[Naver Map]
The Seim Cafe
서울 마포구 희우정로1길 6-3 1층 2층
https://naver.me/FQRRBqmy


จบจากการติ่ง วันนี้เรามีนัดกับพี่ ซึ่งเป็นพี่ที่สนิทกันสมัยมหาลัย พี่เค้าและสามีมารับราชการที่นี่ ซึ่งรอบก่อนที่เรามา เราก็มานอนกับพี่เค้า ครั้งนี้นัดเจอกันปิ้งย่าง ร้านดีร้านเดิม ก็ยังจำชื่อร้านไม่ได้อยู่ดี แปะพิกัด https://naver.me/Fvn7F5CK  อร่อยฟินเหมือนเดิม มีทั้งเนื้อทั้งหมู 

ค่อยชื่นใจหน่อย อร่อยฟินมาก ทดแทนความรู้สึกเมื่อวานที่แอบเฟล แอบกระซิบว่าร้านนี้ลูกชายเค้าหล่อนะคะ อิอิ 


Day 6 วันสุดท้ายแล้วที่เกาหลี เช้านี้เราตื่นและก็ออกไปถ่ายรูปใบไม้เปลี่ยนสีข้างพระราชวัง นั่งรถไฟใต้ดินมาลงสถานี City Hall ออกมาคนเดียวเลย เพราะคนอื่นๆ ยังสลบอยู่ ซ่วงที่ไปยังไม่ได้ฟลูบูมแต่ก็สวยมากๆแล้ว ดีใจที่อย่างน้อยก็ได้เห็นก่อนกลับ

กลับมาห้องพักทุกคนตื่นแล้ว ก็ได้เวลาช้อปกันต่ออีก ช้อปจนวันสุดท้าย ก็อยู่ย่านฮงแดเหมือนเดิม และก็หาอะไรกินไปด้วยเลย ก่อนไปสนามบิน

หมดเวลาสนุกแล้วซิเกาหลี .. ได้เวลากลับบ้านแล้ว เราก็นั่งรถบัสไปสนามบินกันค่ะ ย่านนี้ก็สะดวกสบาย ป้ายรถบัสอยู่ไม่ไกล ราคารถบัสคนละ 17,000 Won ไปลงสนามบินเลย ไม่ต้องยกกระเป๋าเองด้วย ขากลับเราไปสายการบินจินแอร์ค่ะ เครื่องถือว่าใหญ่เลย นั่งสบายมาก ถ้ามาเกาหลีแนะนำสายการบินนี้เลย 

ก็ถือเป็นการปิดทริปเกาหลี ปูซาน x โซล ซึ่งการไปปูซานก้อเป็นอีกหนึ่งที่ที่อยากมามานานแล้วก็ได้มาสักที ส่วนโซลรอบนี้ก็เน้นมาติ่ง มาช้อปปิ้ง คาเฟ่กรุบ ๆ กับแก๊งค์ ถึงแม้ทริปรอบนี้จะมีอุปสรรคอยู่บ้างแต่ก็แฮปปี้สุดๆไปเลย 


หวังว่ารีวิวเกาหลีนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยนะคะ ติดตามเพจเล็ก ๆ ได้ที่ : https://www.facebook.com/puifa...

Puifaikamon

 วันอาทิตย์ที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2566 เวลา 18.36 น.

ความคิดเห็น