𝗣𝘂𝗻𝗽𝗿𝗼 𝘅 𝗔𝗶𝗿𝗔𝘀𝗶𝗮
เที่ยวดี กรีนดี กับที่นี่..
ดอยผาหมี จังหวัดเชียงราย
ทริปนี้เราจะพาไปสัมผัสวิถีชุมชนที่ผาหมีค่ะ
ไปให้รู้ว่าที่นี่ไม่ได้มีดีแค่ร้านกาแฟที่จะไปเที่ยวแปปเดียวแล้วกลับ
เราออกเดินทางด้วย Thai AirAsia FD 3199 ไฟลท์เช้า ใช้เวลาประมาณ 1h 25m ค่ะ
จากนั้นเราออกเดินทางต่อไปยังชุมชนผาหมี ที่อยู่ในอำเภอแม่สาย
หลับค่าา ตื่นมาอีกทีอ้าวว เจอด่าน
ใช่แล้วค่ะมีด่านตรวจเป็นระยะ แต่ไม่ได้น่ากลัวนะคะ
มาถึงที่แรก..
ร้านกาแฟดอยผาหมี มีป้าต้อย พี่โย พี่แมวมาต้อนรับเล่าที่มาของชุมชน
และเสิร์ฟ Welcome drink เป็นน้ำมะนาวโซดา เรียกความสดชื่น ได้ดีมากกก
พอนั่งคุยแนะนำตัวกันพอหายเหนื่อยเราก็ออกไปสัมผัสภูมิปัญญาของชุมชนกันค่ะ
พร้อมจะไปสัมผัสวิถีชุมชนกับเรารึยังคะ^^
ไปกันเลยยยยยยย
การทอผ้าเป็นวิถีชีวิตและภูมิปัญญาดั้งเดิมของชาวอาข่า
คุณแม่อาข่า ได้โชว์การปั่นฝ้าย ดีดฝ้าย
และการทำข้าวปุกงา
ข้าวปุกงาเป็นอาหารประกอบพิธีมงคลของชาวอาข่า เวลาทำต้องแต่งตัวเต็มยศ
ชุดของแท้ราคาแพงมากๆ
ข้าวปุกงาทำจากข้าวเหนียวนึ่งร้อนๆ เอามาใส่ครกไม้และตีด้วยสากไม้ทำเอง
เราลองทำแล้ว โอโหว ใช้แรงเอาเรื่องเลยค่ะ
แต่อร่อย ยืดเหมือนโมจิ น่าจุ่มน้ำผึ้งมากนะ😆
จากนั้นเรากลับมาที่ร้านกาแฟดอยผาหมี
มาทานมื้อกลางวันค่ะ
เป็นอาหารอาข่ามื้อแรกและครั้งแรกของเราเลย
มันแปลกตาไปหมด คิดในใจ โอ้วว จะไหวมั้ยนะ
มีน้ำพริกถั่วลิสง หมกปลา ไข่เจียวโปะด้วยไข่ต้ม ยำผัก ผัดรากชูหมู แกงฝักทอง
อร่อยทุกอย่าง เราชอบผัดรากชูหมูที่สุดเลยค่ะ
รากชูเป็นผักอเนกประสงค์ของคนอาข่า
รสจะออกร้อนแรงนิดๆ
เราเคี้ยวแล้วให้ความรู้สึกเหมือนเคี้ยวกระเทียมเจียวหอมๆ
เป็นการเปิดประสบการณ์ด้านอาหารถิ่นได้เลิศสุดๆ ไม่อดแล้วเรา เลิฟมาก
จากนั้นเรากลับเข้าที่พักค่ะ
ที่พักเราชื่อว่า โอเอซิส ผาหมี โฮมสเตย์
ตั้งขับขึ้นไปจากตัวชุมชนด้านล่าง
วิวหลักล้านสุดๆไปเลยค่ะ
วิวที่มองออกไปจากห้อง
เราแอบกระซิบป้าต้อย มีชุดสาวอาข่าให้เราเช่ามั้ยคะ
สรุปว่ามีค่ะ 100 บาทเท่านั้น และมีน้องมาแต่งตัวให้ที่ห้อง เราเลยให้ค่าแต่งตัวน้องไปด้วย
ใส่เสร็จก็แอบเขินอยู่นะคะ เดินไปเดินมาเก้ๆกังๆ
หันไม่ถูกเพราะเครื่องหัวและชุดหนัก😆
แต่ก็ถือเป็นประสบการณ์ดีๆอีกเรื่องที่ได้ลองใส่ค่ะ
ถ่ายรูปออกมา เนียนเลยล่ะ
พักกันจนหายเหนื่อยๆ
พวกเราก็ลุยต่อค่ะ
ไร่ส้มธิดา ผาหมี
ไปเรียนรู้วิธีการเลือกและเก็บส้มจากต้น
เราเก็บมาสี่ลูกค่ะ อยากงก แต่พื้นที่กระเป๋าไม่ไหว 555
เค้กส้มกับน้ำส้มคั้นสุดของที่นี่ก็อร่อยนะคะ
สดชื่นมากๆ
จากนั้นเราก็กลับที่พักเตรียมตัวทานมื้อค่ำ
จะบอกว่า นาฬิกาแอบรวนตอนแรกค่ะ
เวลาพม่าจะช้ากว่า 1 ชั่วโมง
ต้องตั้งค่ากันยกใหญ่เลย เดี๋ยวเลท
และค่ำคืนนี้เราก็ได้ทานอาหารอาข่ารอบที่2
เป็นสไตล์ขันโตกค่ะ
สิ่งที่เพิ่มเติมมาก็มีลาบหมูสูตรอาข่า ไม่มีข้าวคั่วแบบลาบ
มันอาลู รสชาติแบบมันบดแต่รสจัดขึ้นไม่เลี่ยน และสิ่งที่แก้งเราเลิฟคือ ยำผักกาดสไตล์อาข่า อร่อยอีกแล้ว ผักกาดไม่เปรี้ยวไม่เค็มมาก ฟินนน
มีการแสดงโชว์ให้เราชมในค่ำคืนนี้ด้วยค่ะ
การแสดงเต้นรำกระทุ้งไม้ไผ่ ที่เราสามารถออกไปเต้นด้วยได้
เพื่อนก็เต้นกัน เราก็จิ้มอาหารต่อ
จากนั้นก็แยกย้ายค่ะ
มีเด็กมาขอขนม อากาศก็ประมาณ20องศา
แอบหนีมาเที่ยว เลยตั้งชื่อให้เลย เจ้าโอเอซิส
ตื่นเช้ามา เราเปิดม่านอออกก็ตะลึงกับวิวตรงหน้าค่ะ ฟูลฟิลหัวใจได้ดี๊ดี
ขึ้นไปทานข้าวต้มร้อนๆ ที่โฮมสเตย์เตรียมให้
แล้วก็ดริปกาแฟกันค่ะ
หลังจากนั้นเราก็เก็บของ เช็คเอาท์ อำลาวิวตรงหน้า
บอกลาสายหมอกที่มาส่ง
สัญญาว่าจะกลับมาอีกนะ
ออกเดินไปจุดชมวิวดอยช้างมูบ
ดอยช้างมูบ เป็นที่ตั้งของ ฐานปฏิบัติการดอยช้างมูบ อยู่บนแนวสันเขาแบ่งเขตแดนไทย-เมียนมา
เรียกได้ว่าห่างกันเพียงรั้วกั้นแค่นั้นเองค่ะ
เป็นจุดชมวิวที่สูง สวย และอากาศดีมากๆ
แต่ทางขึ้นโหดเอาเรื่อง เรานี่นะทั่งขึ้นทั้งลง เมาดอยเลยค่าา
และก็ลงมาเรียนรู้เรื่องกาแฟกันต่อ
ทั้งการเลือกเมล็ด การคั่วสด และต่อด้วยดริปกาแฟดอยผาหมีด้วยกระบอกไม้ไผ่
ไม่เคยเห็นมาก่อนเลยค่ะ
จากนั้นเราก็ไปเพ้นท์ลูกสะบ้าค่ะ
ลูกสะบ้าเป็นทั้งของเล่น และของประกอบการละเล่นของชาวอาข่า
วันนี้เราจะมาใช้สมาธิกับเจ้าลูกนี้กันค่ะ
เราคิดอยู่นานว่าะเพ้นท์เป็นลายอะไรดี สุดท้ายก็ตัดสินใจเป็นลายรุ้งและดอกไม้
เป็นความสดชื่น แห่ง ชุมชนผาหมีค่ะ
พอวางรวมๆกันกับของเพื่อนๆท่านอื่น สวยทุกอันเลยค่ะ
กลับมาทานอาหารที่เดิม เมนูอาข่า ครั้งที่ 3
วันนี้มีอาหารแบบปกติ แต่เราคิดถึงรากชูค่ะ
เลยขอสั่งส่วนตัวเพิ่มกันเอง อร่อยมากๆ อยากให้ทุกคนได้ลองค่ะ
และแล้วก็ถึงเวลาที่ไม่อยากให้ถึงค่ะ
ต้องกลับแล้วสินะ
มีแม่ๆพี่ๆชาวอาข่า มามอบไข่มงคลค่ะ
ไข่ต้มที่ถูกเพ้นท์ด้วยสีธรรมชาติ
เหมือนเป็นการเรียกขวัญ ได้กอดแม่ๆก่อนกลับทั้งอบอุ่นทั้งใจหาย
ตลอด 2 วัน 1 คืนที่ผ่าน
ชุมชนผาหมีที่เป็นมากกว่าสถานที่แวะจิบกาแฟ เพราะยังมีแหล่งธรรมชาติ แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาชาวบ้าน แหล่งอาหารท้องถิ่น
ให้เราได้ไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง เพราะต่างคนต่างมุมมอง ต่างไลฟ์สไตล์
และสำหรับเรา ชุมชนผาหมีเป็นวิถีชีวิตที่สัมผัสแล้วมีความสุข อบอุ่นจากการต้อนรับ
เหมือนเราได้กลับมาพักใจที่บ้านเลยค่ะ
ทริปนี้นอกจากได้ประสบการณ์ใหม่ๆแล้วยังได้เพื่อนใหม่กลับมาด้วยค่ะ
สุดท้ายนี้
ขอขอบคุณสปอนเซอร์
𝗣𝘂𝗻𝗽𝗿𝗼 𝘅 𝗔𝗶𝗿𝗔𝘀𝗶𝗮
ที่มอบประสบการณ์ที่แสนวิเศษครั้งนี้ให้กับเราและเพื่อนๆ
สนุกสุดๆไปเลยค่ะ
และขอบคุณทีมงาน Find Folk ที่ดูแลกันเป็นอย่างดี
ขอบคุณมากนะคะ
Tatae Sutharat
วันเสาร์ที่ 11 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 20.08 น.