การแสดงยามค่ำคืนรูปแบบใหม่ ที่บอกเล่าเรื่องราวด้วยเทคนิคพิเศษ จัดเต็มแสงสีเสียงสุดอลังการ มีการฉายภาพไปที่ตัวปราสาทดิสนีย์ พร้อมด้วยการแสดงน้ำพุ เลเซอร์ และพลุดอกไม้ไฟสุดตระการตาที่จะทำให้ท้องฟ้ายามค่ำคืนสว่างไสวและไพเราะไปด้วยเสียงเพลง การแสดงโชว์ชุด "Momentous" แสดงที่ The Castle of Magical Dreams (ปราสาทความฝันอัศจรรย์) มีกำหนดการแสดงตามวันและเวลาที่กำหนด แต่อาจเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า โปรดตรวจสอบข้อมูลจากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชั่นของสวนสนุก

Disneyland ที่นี่จะเปิดให้เข้าตอน 10.00 น. พอประมาณ 9.50 น. ก็จะมี marching ตัวการ์ตูนมาเดินเล่นเต้นรำให้ดู ทริคของการเที่ยว Disneyland คือการโหลดแอปของเขา Disneyland® ซึ่งโหลดได้ทั้ง Android และ IOS จริงๆดิสนีย์แลนด์เขาไม่ได้ใหญ่มาก สามารถเที่ยววันเดียวได้หมด โดยแอปก็จะช่วยบอกเราทั้งเรื่องแผนที่ เวลาที่ต้องรอต่อแถวเพื่อเล่นเครื่องเล่น ตารางกิจกรรมโชว์ต่างๆ เวลาโชว์เพื่อต่อถ่ายรูปกับตัวละครดิสนีย์ ในแอพมีบอกหมดทุกอย่าง

*มาทำความรู้จักประเภทบัตร Tier 1 ถึง Tier 4 ของฮ่องกงดิสนีย์แลนด์กัน 

-Tier 1 บัตรประเภทวันธรรมดา (Regular Day) 

-Tier 2 บัตรฤดูท่องเที่ยว (Peak Day) 

-Tier 3 บัตรฤดูท่องเที่ยวพิเศษ มีพลุ (Peak Plus Day)

-Tier 4 บัตรสำหรับวันเทศกาลต่างๆ ที่คาดการณ์มาแล้วว่าคนจะเยอะสุดๆ (Seasonal Day)

ส่วนการซื้อบัตรจะมี 2 แบบ ได้แก่

1-Day ticket คือ บัตรสำหรับเข้าสวนสนุก 1วัน ตามวันที่ระบุ

2-Day ticket คือ บัตรสำหรับเข้าสวนสนุกแบบ 2วัน (ไม่จำเป็นต้องเข้าติดกัน) โดยจะต้องใช้เข้าสวนสนุกวันที่ 2 ภายใน 6วันหลังจากเข้าวันแรก ของเราซื้อจากแอพ Klook แบบ 1วัน วันที่มีจุดพลุ (Peak Plus Day) ราคาบัตรประมาณ 3,500บาท ตามค่าเงิน

  • ทางสวนสนุกมีปฏิทินวันท่องเที่ยวที่กำหนดประเภทวันไว้ล่วงหน้า โดยผู้ถือบัตรแต่ละประเภทจะใช้เข้าสวนสนุกได้ตามปฏิทินที่สวนสนุกกำหนด เช่น ผู้ถือบัตรประเภทวันธรรมดา (Regular Day) จะใช้เข้าสวนสนุกได้ในวันที่สวนสนุกกำหนดให้เป็นวันธรรมดา แต่ไม่สามารถใช้เข้าวันที่สวนสนุกกำหนดให้เป็นวันฤดูท่องเที่ยว และวันฤดูท่องเที่ยวพิเศษ
  • ในการจองโควต้าเข้าสวนสนุก ระบบจะแบ่งวันให้ผู้จองตามประเภทบัตรที่ซื้อ เช่น หากถือบัตรประเภทฤดูท่องเที่ยว (Peak Day) ระบบจะแสดงให้ดูว่าสามารถใช้เข้าวันไหนได้บ้างตลอดปี 
  • กรณีซื้อบัตรที่มีสิทธิ์สูงกว่า (เช่น บัตรฤดูท่องเที่ยวพิเศษ หรือ Peak Plus Day) แต่ต้องการมาเที่ยวในวันที่ถือเป็นวันธรรมดา (Regular Day) ผู้ถือบัตรจะไม่สามารถขอเงินชดเชยหรือขอคืนเงินได้
  • เวาเชอร์อิเล็กทรอนิกส์ จะใช้ได้ตามอายุการใช้งานที่กำหนดไว้แล้ว กรณีไม่ได้ใช้เวาเชอร์ตามข้อกำหนดและเงื่อนไขของบัตรเข้าสวนสนุกฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ จะส่งผลให้บัตร/เวาเชอร์เป็นโมฆะ และไม่สามารถขอแลก ขอคืนเงิน หรือขอค่าชดเชยได้

*แนะนำวิธีการจองวันเข้าดิสนีย์

  • นักท่องเที่ยวจะต้องจองคิวเข้าสวนสนุก โดยแจ้งหมายเลขบัตรเข้าสวนสนุก (บัตรจะต้องไม่หมดอายุ) หรือแจ้งหมายเลขสมาชิกบนบัตรสมาชิก ทั้งนี้ต้องทำการจองก่อนเดินทางไปเที่ยวสวนสนุก โปรดทราบว่าโควต้าในการเข้าสวนสนุกของแต่ละวันของบัตรแต่ละประเภทมีจำกัด ในกรณีที่โควต้าประจำวันนั้นๆ เต็มแล้ว ทางสวนสนุกจะไม่สามารถรับคนเพิ่มได้อีก
  • เข้าเว็บไซต์ Disneyland ก่อน https://www.hongkongdisneyland...
  • เข้ามาแล้วก็กดลงทะเบียนอีเมลก่อนนะ แล้วก็เตรียมลงทะเบียนตั๋วของเรา
  • กดเลือก Park Ticket แล้วใส่ Ticket Reference Number ซึ่งสามารถหาได้จากตั๋วที่ทาง Klook ส่งมาในอีเมลได้เลย
  • เรียบร้อยแล้วก็จะขึ้นชื่อที่เราลงทะเบียนไว้ โดยเราสามารถลงทะเบียนให้คนอื่นเพิ่มเติมได้เหมือนกัน (Add Guest) เรียบร้อยแล้วกด Next ไปเลือกวันที่เราอยากไปได้เลย
  • เช็คอีกรอบ ถ้าถูกต้องทุกอย่างก็กด Confirm ได้เลย เป็นอันเสร็จเรียบร้อยค่ะ

วิธีเดินทางไป Hong Kong Disneyland เราเดินทางจาก East Tsim Sha Tsui ไปลงที่สถานี Nam Cheong และเปลี่ยนเป็นสายสีส้มไปถึงสถานี Sunny Bay เป็นสถานีเดียวที่เชื่อมกับรถไฟสายสีชมพูไปดิสนีย์แลนด์ สถานี Disneyland Resort นั่นเอง 

-รีวิวนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้รีวิวเอง เจ้าของรีวิวนี้ไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับทางสถานที่แต่อย่างใด โปรดใช้วิจารณญาณในการรับชม

สุดท้ายนี้... ขอขอบพระคุณทุกท่านที่ติดตามชมรีวิวนี้ด้วยนะคะ ผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยค่ะ

อีกหนึ่งช่องทางสำหรับการพูดคุย หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม https://www.facebook.com/bell.diiz.39

Tara

 วันจันทร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 18.47 น.

ความคิดเห็น