ลี่เจียง - ช่องเขาเสือกระโจน- แชงกรี-ล่า

ใช้เวลาประมาณ 8 ชั่วโมงรวมแวะเที่ยวแวะพัก

ช่องแคบเขากระโจน หรือช่องเขาเสือกระโจน (อังกฤษ: Tiger Leaping Gorge; จีน: 虎跳峡; พินอิน:   Hǔ tiào xiá) เป็นช่องหุบเขาเหนือแม่น้ำแยงซี ในมณฑลยูนนาน สาธารณรัฐประชาชนจีน ตั้งอยู่ห่างจากเมืองลี่เจียงไปทางเหนือ 60 กิโลเมตร ได้รับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก UNESCO (ทริปนี้เราเจอเมืองเก่าลี่เจียงอีกแห่งหนึ่ง)
ช่องหุบเขานี้ความยาว 15 กิโลเมตร ตำแหน่งที่ตั้งอยู่ในบริเวณที่แม่น้ำไหลผ่านระหว่างภูเขาหิมะมังกรหยกที่สูง 5,596 เมตร และภูเขาหิมะฮาป๋าที่สูง 5,396 เมตร ซึ่งเป็นบริเวณที่น้ำไหลเชี่ยวและอยู่ใต้หน้าผาสูง 2,000 เมตร ตามตำนานกล่าวว่า มีเสือตัวหนึ่งได้หนีการตามล่าจากนายพราน โดยกระโดดข้ามแม่น้ำที่จุดที่แคบที่สุด (กว้าง 25 เมตร) จึงเป็นที่มาของชื่อของช่องเขาแห่งนี้
ช่องเขาเสือกระโจนเป็นหนึ่งในหุบเขาเหนือแม่น้ำที่ลึกที่สุดในโลก โดยมีจุดที่ลึกที่สุดระหว่างแม่น้ำถึงยอดเขาประมาณ 3,790 เมตร (12,434 ฟุต)[3] ผู้อยู่อาศัยในบริเวณนี้มีจำนวนเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นชนพื้นเมืองชาวหน่าซี โดยจะอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ บริเวณใกล้เคียง และหาเลี้ยงชีพโดยการเพาะปลูกและรับจ้างนำทางคนต่างถิ่น

อ้างอิง จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

                                                               บรรยากาศตลาดเช้าเมืองลี่เจียง

เช้าวันที่ 12 ตุลาคม เราไปเดินเล่นที่ตลาดเช้าเมืองลี่เจียง ส่วนใหญ่จะเป็นอาหารสด อาหารแห้ง ผลไม้ อาหารที่นี่ราคาค่อนข้างถูกกว่าทุกๆที่ เป็ดย่าง ไก่ย่างราคาตัวละประมาณ 25-30 หยวน (เป็ดถูกกว่าไก่) 

สัมผัสกับบรรยากาศการเดินตลาดได้ไม่นาน ก็มีปัญหาเรื่องรถ (คันที่พาไปหิมะมังกรหยก เขาติดต่อรถสำหรับพวกเรา 7 คนพร้อมกระเป๋าเดินทางไว้  แต่มาบอกตอนเช้าว่าไปไม่ได้) ก็ต้องรีบกลับโรงแรมให้ทางโรงแรมติดต่อคนใหม่ให้ รถที่ได้เป็นรถสำหรับ 5 ที่นั่งรวมกระเป๋าเดินทาง (ไม่รวมคนขับ) แต่จะบอกว่าที่นั่งที่ 5 จะต้องนั่งเบาะเสริม (เก้าอี้) พวกเราจะเปลี่ยนรถก็ไม่ได้แล้ว

ทุกการเดินทางย่อมมีอุปสรรค แต่เราก็ต้องไปต่อ ประมาณ 9 โมงเช้าออกเดินทางไปยังช่องแคบเสือกระโจน คนขับรถจัดการเรื่องการไปซื้อตั๋วให้พวกเรารออยู่ในรถ และไปส่งพวกเราให้เดินเล่น ถ่ายรูป ชมวิวกันตามสบาย

                                                  ตั๋วเข้า และวิวข้างทางก่อนถึงช่องเขาเสือกระโจน

ออเพื่อนสมาชิกอีก 2 คนนั่งรถบัสขึ้นทางด่วนไปล่วงหน้า คนละ 88 หยวนค่ะ

ค่าเช่ารถ พร้อมแวะเที่ยว ช่องแคบเสือกระโจน 800 หยวน / 5 คน

ค่าตั๋วเข้าสถานที่ 70 หยวน ค่าบันไดเลื่อน 45 หยวน (ไม่ได้เก็บใบเสร็จค่ะ)



วันนี้เจอฝนตกเป็นระยะๆ เช่นเคย  แต่นักท่องเที่ยวก็ยังเยอะอยู่นะคะ

ชาวบ้านผู้อยู่อาศัยในบริเวณนี้มีจำนวนเพียงเล็กน้อย ส่วนใหญ่เป็นชนพื้นเมืองชนเผ่านาซี อาศัยอยู่ในหมู่บ้านเล็กๆ และหาเลี้ยงชีพโดยการเพาะปลูกและรับจ้างนำทางคนต่างถิ่นต่างๆ

วิธีการเดินชมความสวยงาม : จุดจอดรถจะอยู่บริเวณด้านบน ข้างร้านขายของที่ระลึก หลังจากพวกเราก็เดินมาลงบันไดเลื่อน (ที่จะต้องชำระเพิ่มเติมจากค่าตั๋ว)  หรือหากไม่ใช้บันไดเลื่อน ก็สามารถเดินลงบันไดไม้กว่า 1,000 ขั้น เพื่อลงไปชมบริเวณช่องแคบที่แคบที่สุด และ รูปปั้นเสือ บริเวณด้านล่างตามภาพในรีวิวนี้ค่ะ

ช่องเขาเสือกระโจน คืออีกหนึ่งสถานที่ หากมาถึงลี่เจียงแล้วไม่ควรพลาดนะคะ

ระยะทางอีกยาวไกล พวกเราต้องเดินทางกันต่อยังจุดหมายวันนี้ เมืองจงเตี้ยน หรือ แชงกรีล่า (Shangri-La)  ดินแดนกลางหุบเขาบนความสูงกว่า 3,160 เมตรจากระดับน้ำทะเล

ใช้เวลาประมาณ 2 ชม.จากหุบเขาถึงจุดแวะพัก วิวข้างทางสวยงามเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าสีแดง การมารถเช่าก็ดีอย่างนี้ล่ะค่ะ มีเวลาถ่ายรูปเมื่อถึงจุดแวะ หรือจุดที่มีวิวสวยๆระหว่างทาง จัดไปค่ะ

จากจุดแวะพัก ประมาณ 1 ชม 30 นาที เราก็ไปถึงที่พักในเมืองแชงกลี-ล่ากันค่ะ

ภาพแรกคือรถส่งผิดโรงแรม  ตกใจหมด ต้องลากกระเป๋าไกลเลย แต่โรงแรมของเรารถไปส่งได้ถึงหน้าโรงแรมค่ะ เราพักที่โรงแรมนี้ Fengyuan Inn ค่าห้อง 2คืน 904/2  = 452 บาทต่อคืน

สรุปเส้นทางจาก ลี่เจียง ถึง แชงกรี-ล่า สามารถนั่งรถบัสประจำทาง ค่ารถคนละ 88 หยวน หรือรถเหมา  รถแชร์ ซึ่งส่วนใหญ่รับผู้โดยสารได้ไม่เกิน 5 ที่นั่ง ค่ารถประมาณ 800-1000 หยวนค่ะ

ก่อนจบรีวิวนี้ ขอย้อนกลับไปถึงการเตรียมตัวก่อนเดินทางนะคะ

 จองตั๋วเครื่องบินไปกลับ ดอนเมือง- คุนหมิง (ซางซุ่ย) โดยสายการบิน Airasia FD582 เวลา 8.00-11.25 น จากเฉิงตู (เทียนฟู่) – ดอนเมือง โดยสายการบิน Airasia FD563 พร้อมน้ำหนักกระเป๋าไป- กลับขาละ  20 กก ราคาตั๋ว ไป กลับ  8,600 บาท

หาข้อมูลสถานที่ท่องเที่ยว  ที่เป็นไฮไลท์ในระหว่างเส้นทางจาก ลี่เจียง ภูเขาหิมะมังกรหยก ย่าติง จิ่วจ่ายโกว เฉิงตู จองที่พักใกล้สถานที่ท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวนิยมไปในช่วงเวลานี้เช่นที่ลี่เจียง ย่าติง จิ่งจ้ายโกว (เราเดินทาง10-28 ตค 2566)

ลงแอปที่จำเป็นต้องใช้ในการสื่อสาร & การชำระเงิน
คนจีนสื่อสารผ่านทาง wechat เท่านั้น แต่เราไม่สามารถลง wechat ได้ (ไม่่ทราบเพราะอะไร พอได้แล้วก็โดนบล้อค) ก็เลยใช้วิธีให้เพื่อนในกลุ่มสื่อสารแทน    
     โปรแกรม แปลภาษา เป็นอีกหนึ่งช่องทาง ที่เราใช้กันบ่อยมากที่สุดในการสื่อสารกับร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ฯลฯ  
      เงินสด ใช้ได้ทุกที่ แต่ควรใช้แบงค์เล็ก (อาจจะมีบางอุทยานที่ไม่ค่อยมีระบบชำระเงินสดแต่สุดท้ายขอเขาในบางเคาเตอร์ก็จะยอมให้ชำระได้ค่ะ)

      ชำระเงินผ่านแอป Alipay เราเติมเงินสดที่เป็นเงินหยวนไว้ในแอป (ใช้ได้ทุกร้าน) หรือผูกกับบัตร youtrip บัตร travel card เติมเป็นเงินไทยไว้ (ทั้งสองบัตรนี้อาจจะชาร์ท 3% ในบางสถานที่เช่นการซื้อตั๋วเข้าอุทยานบางแห่งต้องเช็คก่อนจ่ายด้วย และอาจจะสแกนไม่ได้ในร้านค้าเล็กๆ)
      หรือจะผูกกับบัตรเครดิตด้วยก็ได้แต่เราไม่ได้ผูกไว้เพราะจะมีค่าธรรมเนียมการใช้บัตร

       ชำระเงินผ่านแอป Wechat ส่วนใหญ่ทุกร้านค้าจะมีระบบการชำระผ่านช่องทางนี้ แต่เราไม่ได้ใช้

     ชำระเงินผ่านทรูมันนี่ วิธีนี้ เราใช้เยอะมากในวันท้ายๆที่เงินสด และเงินใน alipay หมด

     แลกเงินกับร้านค้าร้านอาหาร เราสามารถโอนให้ร้านค้าและแลกมาเป็นเงินสดก็ได้

ซิมอินเตอร์เน็ต มีความจำเป็นมาก (เราใช้ของทรูไป 2 ซิม ซื้อช่วงลดราคาได้ราคาต่ำกว่า 399 บาท/ซิม) สัญญาณก็ใช้ได้ดี แต่เราไม่ได้เปิดเน็ตตลอดเวลาเพื่อเซฟแบตเตอรี่มือถือไว้ถ่ายรูปอิอิ
** ซิมจีนและไวไฟที่จีน ไม่สามารถใช้แอปไลน์ เฟสบุ้ค ยูทูป google ได้ หากจะใช้ต้องลง VPN เพื่อช่วยในการเลือกส่งข้อมูลผ่านไปยังเซิร์ฟเวอร์ VPN ของประเทศอื่น เราจะเลือก Planet VPN สหรัฐอเมริกา

สำคัญสุดคือ การทำวีซ่า
เราอยู่ต่างจังหวัด ก็เลยจ้างเอเจนซีทำวีซ่า รวมค่าบริการ 2550 บาท

ประกันการเดินทาง
กับ MSIG ราคา 402 บาทสามารถซื้อก่อนการเดินทาง

สำหรับข้อมูลการจองรถเดินทางระหว่างเมือง และการเข้าอุทยาน เราไม่ได้จองไว้ล่วงหน้าเลย เพราะมีปัญหาการสื่อสารกับทางโรงแรมที่จองไว้มาก บางโรงแรมก็ติดต่อไม่ได้

กรอกฟอร์ม Health Declaration ก่อนเข้าประเทศจีน เราไปกรอกกันที่สนามบินดอนเมืองก่อนเดินทาง (มีข้อมูลว่าปัจจุบันไม่ต้องกรอกแล้ว ลองเช็คข้อมูลกันดูนะคะ)   

ในขั้นตอนการเข้าด่านตรวจคนเข้าเมืองจีน (ตม.) เราต้องกรอกใบตม.ที่เคาเตอร์บริการให้เรียบร้อย (ปกติพนง.บนเครื่องจะต้องให้เรากรอกตั้งแต่อยู่บนเครื่องแล้วนะคะ)

สแกนฟอร์มสุขภาพ แล้วไปเข้าคิวตรงตม.อีกครั้งขอบอกว่าเจ้าหน้าที่แต่ละคนแตกต่างกัน บางคนละเอียดมาก ดูข้อมูลเยอะมาก ง่ายสุดคือเตรียมข้อมูลทุกอย่างไปให้พร้อมโดยเฉพาะ ตั๋วไปกลับ ที่พัก

โปรแกรม Google Map คูเป็นแนวทางได้ แต่จะให้ถูกเส้นทางเป๊ะๆ รับรอง หลง 555 วิธีที่ง่ายที่สุดคือเอาสถานที่ที่เราจะไปเป็นภาษาจีน ให้คนขับรถดูค่ะ

หวังว่าข้อมูลทั้งหมดคงจะเป็นประโยชน์กับท่านที่กำลังจะเดินทางไม่มากก็น้อย นะคะ
ไว้จะมาอับเดทข้อมูลการจองตั๋วรถไฟความเร็วสูง รถบัส ระหว่างเมือง พร้อมค่่าใช้จ่ายอีกครั้งนะคะ

 ฝากติดตาม Ep ต่อไปด้วยนะคะ
คุนหมิง ลี่เจียง   Ep 1  https://th.readme.me/p/46805  
 
ภูเขาหิมะมังกรหยก หุบเขาพระจันทร์สีน้ำเงิน หรือ Blue Moon Valley ทุ่งหญ้าหยุนซันผิง เมืองโบราณลี่เจียง   Ep2 https://th.readme.me/p/46825

ขอบคุณที่ติดตาม KeRoDiary ค่ะ

KeRoDiaryy

 วันอังคารที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2566 เวลา 19.55 น.

ความคิดเห็น