ล่องเรือเขื่อนขุนด่าน เที่ยวเขาช่องลม ในฤดูฝนพรำ

ล่องเรือเขื่อนขุนด่าน

1. ที่หมายของทริปนี้ ณ จังหวัดนครนายก มีระยะทางห่างจากกรุงเทพ ประมาณ 130 กว่ากิโลเมตร หากขับรถใช้ความเร็ววิ่งประมาณ 100 กิโลมตรต่อชั่วโมง ไปตามถนนหมายเลข 305 ก็จะใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงกว่า ๆ ( ตามสูตรฟิสิกส์ v = s/t )

ก็จะถึงที่หมายปลายทางของพวกเราตรงตามเวลาที่คำนวณไว้ หากจะเลทไปบ้างตามความหนาแน่นของภาคการจราจรของถนนเส้นคลองที่จำต้องผ่าน และเหล่าบรรดาลูกทริปที่พากันเข้าห้องน้ำ ร้านสะดวกซื้อ ห้าง บลา ๆ ที่ต้องแวะเข้ากลางทาง

2. เมื่อถึงที่หมาย จัดแจงจับจองที่นั่งเรือแบบเหมาลำ เพราะแก๊งค์เรามา 10 คน (อ้ายมา 10 คน) ในราคาหัวละ 2 แบงค์แดง รวมกันก็ 2 แบงค์เทา ที่จุดจำหน่ายตั๋วเรือ ณ เขื่อนขุนด่านปราการชล หรือใครไม่อยากนั่งเรือก็มีรถรางวิ่งชมที่สันเขื่อนก็ย่อมได้ แต่ถ้ามาลงเรือช่วงนี้มีป้ายบอกเด่นชัด “หมดเขตเทศกาลทุ่งหญ้าเขียวสวิตเซอร์แลนด์” เรียบร้อย! ไม่เป็นไรไม่สวิตก็ไม่สวิต

3. สถานที่แรกที่โปรแกรมล่องเรือจะพาเราไปก็คือ “น้ำตกผางามงอน” ระยะทางไปไม่ไกลจากที่ขึ้นเรือเพียงไม่กี่อึดใจเราก็จะถึงที่หมายกับสถานที่แรก และเดินเท้าต่อไปอีกประมาณ 40 เมตรจากจุดที่เรือที่จอดได้ แต่จะเห็นความงามของเจ้าหญิงได้นั้นต้องปีนป่ายกันนิดหน่อย (นิดหน่อยจริ๊ง ๆ) สถานที่แรกมีเวลาให้พวกเราเต็มอิ่มกันที่ 30 นาทีสำหรับที่จะไปพิสูจน์ความงามของสายน้ำที่ตกจากหน้าผา พร้อมกับความสดชื่นของธรรมชาติที่ชุ่มฉ่ำเขียวขจี

4. หลังจากที่แรกจบครบบริบูรณ์ ลำดับต่อไปคือ “น้ำตกคลองคราม” แต่ก่อนที่เรือจะแล่นฉิวไปยังจุดหมายเหมือนขามาในตอนแรก ฟ้าก็ร้องโครมครามส่งสายฝนลงเม็ดซ่ามาแบบไม่ทันตั้งตัว (แล้วนักผจญภัยก็กลายเป็นผู้ประสบภัยในบัดดล)

พอเม็ดฝนซาเราก็เริ่มออกเดินทางกันต่อได้ น้ำตกคลองคราม ในฤดูฝนนี้เราสามารถเข้าไปถึงที่ได้โดยไม่ต้องเดิน เมื่อถึงที่หมายก็พบว่าสีของน้ำเหมือนเพิ่งผ่านสงคราม จากอิทธิฤทธิ์ของฝนห่าใหญ่เมื่อครู่นี้มาหมาด ๆ

5. และอีกหนึ่งไฮไลท์ของสถานที่สุดท้ายของโปรแกรมล่องเรือ ณ เขื่อนขุนด่านปราการชลแห่งนี้ คือ "น้ำตกเขาช่องลม" เป็นอีกจุดที่เราสามารถเข้าไปถึงที่ได้โดยไม่ต้องเดิน (ในฤดูฝน) แต่เราจะพลาดความสวยงามอีกแบบไปเช่นกัน

และนี่คือความลับ หากมาที่แห่งนี้ในช่วงเดือนถ้าหากมาในช่วงเดือนที่เหมาะสมคือ 6 7 8 เราจะสามารถพบกับทุ่งหญ้าเขียวขจี ที่หลายคนเรียกขานกันว่า “สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” ที่มีเส้นทางเดินเท้าให้เราได้พบกับธรรมชาติของเส้นทางอีกรูปแบบหนึ่ง ก่อนจะมาพบน้ำตกที่อยู่ด้านใน