นั่งรถไฟเดินทางไป 

พิชิตยอดดอยหลวงเชียงดาว จ.เชียงใหม่ 

แบบไม่มีรถส่วนตัว ด้วยงบ 4900 บ.

คลิปวิดีโอ รายละเอียดการเดินทาง

►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►

►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►


วันที่ 0

นั่งรถไฟไปเชียงใหม่

ผมนั่งรถไฟจากสถานีกลางบางซื่อ เดินทางไป สถานีรถไฟเชียงใหม่

โดยซื้อตั๋วตั๋ว รถโบกี้นั่ง ชั้น 2 พัดลม 

รอบ 20.05 น. ราคา 468 บาท


วันที่ 1

เดินทาง กทม - เชียงใหม่ - เชียงดาว


ผมมาถึงสถานีรถไฟเชียงใหม่ เวลา08.50 น.

จากนั่นก็นั่งรถสองแถว (รถแดง) เดินทางไป ขนส่งเชียงดาว

จากนั่นก็นั่งรถสองแถว (รถแดง) เดินทางไป ขนส่งเชียงดาว

ราคา 40 บาท

ผมเดินทางมาถึงขนส่งช้างเผือก เวลา 09.30 น.

จากนั้นก็เข้าไปซื้อตั๋วกับเจ้าหน้าที่ รถเมล์ไปขนส่งเชียงดาว 

อยู่ที่ชานชาลา ที่ 3 นะทุกคน 

เป็นเส้นทางเชียงใหม่-ฝาง-ท่าตอน ราคาตั๋ว 44 บาท

เมื่อกี้ผมมาไม่ทันรอบ 09.30 น. ทำให้ต้องนั่งรอไปรอบ 10.30 น. แทน

ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมง ครึ่งนะ

ผมเดินทางมาถึง ขนส่งเชียงดาว เวลา 12.15 น.

เมื่อผมมาถึงที่ ขนส่งเชียงดาวแล้ว 

ผมได้ติดต่อให้พี่ที่ผมพักโฮมสเตย์ในคืนนี้มารับผม 

แล้วไปส่งที่ วัดถ้ำเชียงดาว สถานที่อบรม 

และฟังคำแนะนำจากเเจ้าหน้าที่ก่อนจะเริ่มเดินป่าในวันถัดไป

มอ'ไซค์ ราคา 50 บาท

ขนส่งเชียงดาว - วัดถ้ำเชียงดาว

                             เบอร์ติดต่อ รถรับส่ง 081-841-5692 / 081-733-8505

สถานที่อบรมวัดถ้ำเชียงดาว
เวลา 12:50 น.

ด้วยความที่ดอยหลวงเชียงดาวแห่งนี้ได้ถูกยกให้เป็นพื้นที่สงวนชีวมณฑลของโลก

จากองค์การ UNESCO ทำให้การเข้าสู่พื้นที่ธรรมชาตินั้นมีความละเอียดอ่อน

และข้อจำกัดที่เพิ่มมากขึ้นกว่าที่อื่นๆ 

เพื่อป้องกันความเสียหายต่อธรรมชาติ

นี่แหละ คือ เหตุลผลที่ทุกคนต้องมานั่งฟังอบรมก่อนเริมเดิน 1 วัน


คนที่กำลังบรรยายอยู่ คือ ชื่อว่าพี่อู๊ด เป็นเจ้าของโฮมสเตย์มราผมจะพีกในค่ำคืนนี้

โฮมสเตย์พี่เขา ชื่อว่า เชียงดาวสตอรี่แคมป์ ซึ่งพี่เค้าก็มีบริการ รับ-ส่ง จาก 

สถานที่ขนส่งเชียงดาวมาที่สถานที่อบรม

สำหรับคนที่ไม่ได้เช่ารถมา ถือว่าสะดวกมากๆเลย

เจ้าของเชียงดาวสตอรี่แคมป์ 081-841-5692 / 081-733-8505


หลังจากอบรมเสร็จผมก็เดินทางไปยังที่พัก

เชียงดาวสตอรี่แคมป์อยู่ไม่ไกลจากวัดถ้ำเชียงดาว เดินประมาณ 15 นาที ก็ถึงแล้ว

เวลา 16.30 น. ณ เชียงดาวสตอรี่แคมป์

ผมพักคืนละ 400 บาท พร้อมอาหารเช้า


ที่มีวิวด้านหลังเป็นยอดดอยหลวงเชียงดาว

หลังจากพักผ่อนได้ประมาณ 1 ชั่วโมง 

พี่อู๊ดก็พาผมไปถนนคนเดิน อ.เชียงดาว

เวลา 17.30 น. ณ ถนนคนเดินเชียงดาว

เป็นถนนคนเดินที่เปิดเฉพาะทุกๆวันพฤหัส ในเดือนพฤจิกายน ถึง เดือนมกราคม

ใครที่มาเที่ยวหรือเตรียมตัวเดินทางขึ้นดอย 

อย่าลืมแวะมาเดินเล่นกันนะ



วันที่ 2 

เดินทางไปพิชิตดอยหลวงเชียงดาว

เวลา 07.30 น. ณ เชียงดาวสตอรี่แคมป์

พี่อู็ดขับรถกระบะโฟวิว ไปส่งทุกคน ที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว 

เป็นจุดลงทะเบียนเดินศึกษาธรรมชาติ

ทุกคนจะต้องมาลงทะเบียน และนั่งรถ 4WD

จากเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่า ไป หน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก (เด่นหญ้าขัด)

จากเขตรักษาพันธ์ุสัตว์ป่า ไป หน่วยพิทักษ์ป่าขุนห้วยแม่กอก  

เส้นทางเดินทางเท้า เด่นหญ้าขัด 

ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง

โอ้ ไกลเหมือนกันนะเนี่ย

หมอกหนามาก

ผมมาถึงเส้นทางเดินทาง เด่นหญ้าขัด เวลา 10.30 น.

สำหรับเส้นทางเดินป่าที่เราจะต้องเผชิญกันในวันนี้

มีระยะทางประมาณ 9 กิโลกว่าๆ โดยแบ่งเป็นระยะทาง 8.5 กิโลเมตร

จากจุดเริ่มเดินเด่นหญ้าขัดถึงจุดกางเต็นท์อ่างสลุง

และ จากจุดกางเต็นท์ถึงยอดดอยหลวงอีกประมาณ 700 เมตร

และจะมีจุดสแกนเช็กพอยต์ ทั้งหมด 28 จุดที่ 28 จนถึงยอดดอยหลวงเชียงดาว

พร้อมออกเดินทางกัน

เส้นทางในช่วงแรกๆ นั้นจะเป็นป่าสนที่เดินค่อนข้างง่าย 

มีทางชันในบางช่วง แต่ก็ไม่หนักหนาจนเกินไป

ป่าบริเวณนี้ มีไผ่หลายชนิดพันธุ์เติบโตร่วมกัน 

ซึ่งไผ่จัดเป็นหญ้าชนิดหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก 

โดยบริเวณนี้เป็นจุดสุดท้ายที่ท่านจะสามารถพบไผ่

ตรงบริเวณ จุดสแกน QR7 เราจะพบกับเทียนนกแก้ว (Impatiens psittacina)

พืชเฉพาะถิ่น (Endemic) ของดอยหลวงเชียงดาวรอต้อนรับอยู่

หลังจากเดินทางมาได้ 4 ชั่วโมง ผมก็มาถึงจุดสกัดสามแยกปางวัว 

ในเวลา 14.20 น.

บริเวณนี้มีห้องน้ำด้วย ถ้าใครอั้นไม่ไหว นี่คือช่วงที่ดีที่สุดที่จะปล่อยของออกมา

มองเผินๆเหมือน เจ้าหมาน้อยกำลังนั่งอยู่เลย

หลังจากผ่านสามแยกปางวัวมาแล้ว เส้นทางจะค่อยๆ โหดขึ้นเรื่อยๆ 

มีทางชันสลับทางราบ และมีบางช่วงที่เป็นทางชันยาวๆ

เดินกันยาวๆเลยครับ ผ่านโซนดงกล้วยแดง จนมาถึงเนินเสือโคร่ง

QR17 : จุดชมวิวดอยสามพี่น้อง
ลักษณะมียอดดอย 3 ยอดเรียงกัน ที่เห็นเป็นทุ่งหญ้าโล่งระหว่างยอดนั้น 
เนื่องจากเคยเป็นพื้นที่ถูกแผ้วถางเพื่อปลูกฝิ่นมาก่อน
ปัจจุบันเป็นพื้นที่อยู่อาศัยของกวางผา 
และเลียงผา จึงไม่อนุญาตให้เข้าไปในพื้นที่ "โดยเด็ดขาด"
ตรงเนินเสือโคร่ง คนในพื้นที่ เรียกจุดนี้ว่า “เนินหมาก๊าน” แปลว่า “เนินสุนัขแพ้”

คือ เดินแล้วเหนื่อยมาก


ผมเดินทางมาถึงลานกางเต็นท์ อ่างสลุง

ในเวลา 16.50 น.

หน้าตาของห้องน้ำที่จะร่วมทถกข์ร่วมสุขกับเรา ในคืนนี้

หลังจากเก็บสัมภาระบางส่วนเสร็จ 

ผมก็เดินทางมุ่งหน้าไปยอดดอยหลวงเชียงดาว

มีระยะทางประมาณ 700 เมตร

เส้นทางตรงนี้อยากแนะนำทุกคนให้เตรียมถุงมือ และไฟฉายมาให้พร้อมด้วย

เพราะขาลงมืดมากกกก เราต้องพึ่งตนเองอย่างเดียว

มีเชือก ทำให้เดินทางขึ้นไปได้ง่ายขึ้น

แต่ช่วงที่ผมไปฟ้าปิดจัดๆ คงจะไม่ได้เห็ยวิวบนดอยหลวงเชียงดาว TT

จากลานกางเต็นท์ มาถึง ยอดดอยหลวงเชียงดาว

ใช้เวลาประมาณ 40 นาที

 เวลา 17.30 น. ณ ยอดดอยหลวงเชียงดาว 

เย้ๆ  ในที่สุดก็มาถึงด้านบนแล้ว แต่ โอ้ววววววว  

ฟ้าปิดมากกกก  ต้องรอลุ้นตอนเช้า ว่า ฟ้าจะเปิดไหม่



วันที่ 3 

พิชิต(ยอด)ดอยหลวงเชียงดาว

แสงแรกมาแล้ว !!!!

ผมตื่นตั้งแต่ ตี 5 เพื่อมารอชมแสงแรก ณ ยอดดอยหลวงเชียงดาว

อุณหภูมิ ตอนนั้นประมาณ 9 องศา 

หนาวสะใจมากกกกกกกกกกกกกกก

ผู้คนต่างมาชมบรรยากาศและถ่ายรูปกัน

คุณลุงสิงห์คำ ผู้ให้ความรู้และบอกเล่าเรื่องราวต่างๆให้กับผม 

ตลอดระหว่างการเดินทาง


ฟ้าเปิดแว้วววววววววว

เวลา 08.30 น. ณ ลานกางเต็นท์ อ่างสลุง

หลังจากจุดความสวยงามบนยอดดอย ก็ถึงเวลาที่ทุกคนจะต้องเดินทางกลับกัน

มเดินทางมาถึงที่ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเชียงดาว ในเวลา 15.30 น.

จากนั้นนั่งรถของทางเจ้าที่เขตรักษาฯ  ไปส่งที่ ขนส่งเชียงดาว

ราคา 100 บาท

เวลา 16.10 น. ผมมาถึงขนส่งเชียงดาว 

ตารางรถขากลับ ตรงช่อง ล่องเชียงใหม่

แล้วพบกันใหม่นะ เชียงดาว :)



สรุปค่าใช้จ่ายตลอดทริป

วันที่ 0

ชำระค่าเดินทางศึกษาธรรมชาติ+เต็นท์ ราคา 2,070 บาท

วันที่ 1

รถโบกี้นั่ง ชั้น 2 พัดลม กรุงเทพ-เชียงใหม่ ราคา 468 บาท

รถแดง สองแถว สถานีรถไฟเชียงใหม่-ขนส่งช้างเผือก ราคา 40 บาท

รถเมล์ ขนส่งช้างเผือก - ขนส่งเชียงดาว ราคา 44 บาท

มอไซค์ ขนส่งเชียงดาว - วัดถ้ำเชียงดาว ราคา 50 บาท

ที่พัก เชียงดาวสตอรี่แคมป์ คืนละ ราคา 400 บาท

ค่าหาร 400 บาท

วันที่ 2

ค่าเข้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ราคา 30 บาท

ฝากของที่ล็อกเกอร์เขตรักษาฯ ราคา 20 บาท

ค่าอาหาร ระหว่างเดินขึ้นดอย ราคา 200 บาท

วันที่ 3

ค่ารถเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า - ขนส่งช้างเผือก ราคา 100 บาท

รถเมล์ ขนส่งเชียงดาว - ขนส่งช้างเผือก ราคา 44 บาท

Grabbike ขนส่งช้างเผือก - สถานีรถไฟเชียงใหม่ 65 บาท

ค่าอาหาร 200 บาท

รถโบกี้นั่งและนอน ชั้น 2 เชียงใหม่ - กรุงเทพ ราคา 768 บาท

ทั้งหมดประมาณ ราคา 4,900 บาท



ยิ้มแบกเป้เที่ยว RoamingYim

 วันพุธที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2566 เวลา 17.03 น.

ความคิดเห็น