คลิปวิดีโอ รายละเอียดการเดินทาง
►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►►
นั่งรถไฟไปเที่ยวเกาะลิบง ตรัง 2 วัน 1 คืน
เกาะลิบงเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในจังหวัดนี้ และยังเป็นที่ที่สามารถพบฝูงพะยูนได้มากที่สุดในไทย
#เกาะลิบง#เที่ยวตรัง#เที่ยวทะเล
ค่าใช้จ่ายวันแรก
1.ตั๋วรถไฟ (กรุงเทพ-ตรัง) =460 บ.
2.เช่ามอเตอร์ไซค์ วันละ 250 เช่า 3 วัน =750 บ.
3.อาหาร+เครื่องดื่ม =340 บ.
4.แพคเกจทัวร์เกาะลิบง =1900 บ.
5.ฝากมอเตอร์ไซค์ ท่าเรือหาดยาว =40 บ.
6.นั่งเรือ ท่าเรือหาดยาว-เกาะลิบง (ไป-กลับ) 50*2 =100 บ.
รวมทั้งหมด 3590 บ.
�� Contact - สามารถติดต่องาน โฆษณา/สปอนเซอร์
ได้ที่ ►E-MAIL : [email protected]
Camera Gear
- SonyA7C2 - Osmo Pocket 3 - GoPro Hero 11 - DJI Mavic Air 2
01 สถานีกลางบางซื่อ
ก็อย่างที่กล่าวข้างต้นแหละครับ
ทริปนี้ผมเดินทางด้วยรถไฟ จากสถานีกลางบางซื่อ ไปที่ สถานีรถไฟตรัง
ช่วงที่ผมไปเป็นช่วงหยุดยาว ตอนที่จองที่นั่งเกือบเต็มทุกโบกี้เลย
สงสัยทริปนี้จะต้องเมื่อยตูดแน่ๆ เพราะ ในกำหนดการ นี่เราต้องนั่งยาวๆเกือบ 15 ชั่วโมงเลย
รอบรถไฟที่ออกจากสถานี คือ เวลา 18.50 ไปถึง 8.30น.
02 ระหว่างเดินทาง
ระหว่างที่อยู่บนรถไฟ ผมก็เดินเปื่อยๆไปโน้นไปนี่ ไปล้างหน้า แปรงฟัน ที่โบกี้นั่ง นอน ตู้แอร์
แล้วเดินย้อนกลับมาที่ตู้เสบียง ตู้เสบียง ปิด สี่ทุ่ม และมีเมนูอาหารประมาณนี้เลย
จริงๆตลอดเส้นทางเดินทางก่อนสี่ทุ่ม จะมีแม่ค้าพ่อค้า มาเดินขายอาหารกันเยอะมากๆ
อาจเพราะเป็นเส้นทางที่ผ่านแหล่มชุมชน ทำให้มีแม่ค้าพ่อค้า ขึ้นลงตลอดสาย
ต่างจากเส้นทางเหนือที่ผมเคยขึ้น
รถไฟจะเปิดไฟตลอดทั้งคืน แนะนำให้เอาผ้าปิดตามาด้วยนะ
03 สถานีรถไฟตรัง
ผมเดินทางมาถึงที่สถานีตรัง ตอนประมาณ 08.30 น.
04 เช่ามอเตอร์ไซค์
หลังจากได้สอบถามหลายๆคนในพื้นที่ คิดๆดู การเช่ารถมอไซค์
น่าจะคุ้มที่สุดในการเดินทาง
ร้านตรงข้ามสถานีรถไฟ ผมเช่ามอไซค์ วันละ 250บาท
ก็ถือว่าถูกและคุ้มนะ ไม่ต้องรอใคร อยากไปแวะที่ไหนก็ตามใจเราเลย
05 กินอาหารเช้า
หลังจากนั้นผมขับรถมากินอาหารเช้า แถวๆหอนาฬิกา ซื่อว่า ร้านซินจิว
ตามคำแนะนำของ พี่ร้านเช่ามอไซค์ เมนูเด็ดเป็นอาหารติ๋มซำ
ทีนี้ผมงบค่อนข้างจำกัด ก็เลยสั่งกระเพาะไก่ กับ น้ำโอเลี้ยง แทนละกัน
06 ซี เอสเปรันซา
อิ่มท้องแล้ว ก็ขับรถมาร้านคาเฟ่ ชื่อว่า ซี เอสเปรันซา
คาเฟ่มินิมอลเล็กๆ แถวสถานีรถไฟตรัง
ผมสั่งเมนูเด็ดของร้านนี้ อย่าง เอสเปรสโซ มาดื่ม เติมพลังงานก่อนออกเดินทางไกล
เออ นี่ เจ้าของร้านและคนชง หล่อเท่ สาวๆน่าจะชื่นชอบแน่
07 ระหว่างเดินทาง สถานีรถไฟตรัง - ท่าเรือหาดยาว
จากสถานีรถไฟตรัง เดินทางไปท่าเรือหาดยาว ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงได้
ตอนแรกก็อยากจะนั่งรถตู้โดยสารนะ ไปท่าเรือ แต่คิดไปคิดมา ปัญหาจะอยู่ที่ขาไปและขากลับ
ถ้ารถตู้คนมาน้อย เราจะต้องเหมาคันไป งบบานแน่ๆ
อีกทั้งตารางขากลับ ไม่ค่อยตายตัวเท่าไหร่ ตัดปัญหา เช่ามอไซ น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
ระหว่างทางเราจะพบพืชพันธ์ุต้นไม้ต่างๆ โดนเฉพาะ ต้นยางพารา
ก่อนเปลี่ยนมาเป็นต้นโกงกาง ที่เป็นสัญญาณว่า เราใกล้ถึง ท่าเรือแล้ว
08 ท่าเรือหาดยาว
ผมเดินทางมาถึงท่าเรือหาดยาว เวลาประมาณ 12.50 น.
บริเวณแถวนี้มีรับฝากรถยนต์ และมอไซค์นะ
รถยนตร์คันละ 50 บาท ส่วนมอไซค์คันละ 40 บาท
ผมซื้อตั๋วนั่งเรือหางยาว ราคาคนละ 50 บาท มุ่งหน้าสู่เกาะลิบง
09 ท่าเรือหาดยาว - ท่าเรือเกาะลิบง
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 15 นาที
10 เกาะลิบง
เกาะลิบง นอกจากเป็นเกาะที่ใหญ่ที่สุดในตรังแล้ว
ยังเป็นแหล่งหญ้าทะเลที่ใหญ่ที่สุดในไทยด้วย
ซึ่งเป็นอาหารสัตว์ที่ใกล้จะสูญพันธ์ อย่างพะยูน นั่นเอง
11 เดินทางสู่โฮมสเตย์
เมื่อมาถึงบนเกาะ น้องบลาซิล ซึ่งเป็นไกด์ท้องถิ่นของทัวร์ จะเป็นผู้ดูแลผมตลอดทริปนี้
ผมซื้อแพคเกจทัวร์ของ anan travel ทัวร์นี้มีหลายเพจเกจให้ได้เลือกกัน
ผมเลือกแพคเกจ ราคา 1900 บาท
มีกิจกรรมที่ผมต้องการและราคาน่ารักๆด้วย เป็นแพจเกจที่รวมที่พักและอาหารการกินไว้ด้วย
ผมนั่งรถซาเล้งไปเก็บสัมภาระที่โฮมสเตย์ ก่อนที่เราจะนัดเจอกันอีกที่บ่ายสามโมง
12 ปัยบาตู โฮมสเตย์
โฮมสเตย์ของผม ชื่อ ว่า ปัยบาตู
เป็นที่ติดริมทะเล แต่ตอนนี้น้ำทะเลแห้งมากๆๆ
ห้องถือว่าดีมากๆเลย แค่มีแอร์เย็นฉ่ำๆ ก็ชื่นใจแล้ว
ห้องน้ำก็สะอาดด้วย
13 สะพานหอชมวิถีสัตว์น้ำ เกาะลิบง (สะพานหลีกภัย)
ผมกับน้องบราซิลเดินทางมาที่สะพานหลีกภัย
เป็นสะพานที่มีความยาว ๖๙๙ เมตร
ปลายสะพานหลีกภัยมีจุดชมวิว ๓๖๐ องศา เป็นหอคอยสูง 5 ชั้น
ในช่วงน้ำขึ้นเราอาจจะได้ ลุ้น เห็นเจ้าพะยูนที่มากินหญ้าทะเลในบริเวณนี้
และยังเป็นจุดที่สามารถชมทัศนียภาพที่สวยงามรอบๆ เกาะได้อีกด้วย
14 ระหว่างเดินทางไป หาดทุ่งหญ้าคา
หลังจากนั้นเราเดินทางไปที่หาดทุ่งหญ้าคา ที่อยู่ด้านหลังเกาะลิบง
15 หาดทุ่งหญ้าคา
หาดทุ่งหญ้าคา เป็นชายหาดที่มีหินเรียงรายกันตลอดหาด
ซึ่งมีความยาวชายหาดประมาณ 3 กิโลเมตร เป็นอีกจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม
16 สะพานหิน
สะพานหินเป็นส่วนหนึ่งของหินภูเขาขนาดใหญ่ที่ยื่นลงไปในทะเล
และถูกน้ำกัดเซาะจนเว้าแหว่ง ทำให้เห็นเป็นรูปร่างที่สวยงาม
บริเวณด้านบนนี้ จะดูเหมือนสะพานที่ทำจากหิน ส่วนด้านล่างเป็นโพรงขนาดใหญ่
จะนักท่องเที่ยวมาถ่ายรูปกัน
เป็นอีกจุดเช็คอินริมทะเล ซึ่งทางทำให้ อบต.เกาะลิบง
ได้ชูจุดเด่นของความสวยงามทางธรรมชาตินี้ ด้วยสโลแกน
"หากไปเกาะลิบงแล้วไม่ได้ไปสะพานหิน ถือว่ายังไปไม่ถึงเกาะลิบง"
ผมกับน้องบลาซิล ก็นั่งเรื่อยๆ รอชมประมาณอาทิตตกกัน
17 อาหารเย็น
หลังจากนั้นในช่วงเย็นๆเกือบค่ำ ผมก็มากินข้าวที่ทางทัวร์จัดให้ เป็นอาหารแกงใต้
บอกเลยว่า หรอยมากๆ หรอยหนัดเนียน หรอยจังฮู้เลย เป็นอันจบกิจกรรมในวันนี้
วันที่2
18 ท่าเรือเดินทางไปตกหมึก
ในช่วงเช้า ผมกินอาหารเช้าของทางทัวร์ คือ ข้าวหมกไก่ ก่อนที่
ผม น้องปลาซิล และ นายหัวเรือ ออกเดินทางในช่วงเวลา 9 โมงเช้า
กิจกรรมในนี้ก็คือ การมาตกหมึก ทำซาซิมิกินกันแล ไปเดินเล่น
ที่ สันหลักมังกร หรือ ทะเลแหวกนั่นเอง
เพราะพี่เค้าบอกว่า เป็นช่วงที่ดีที่สุดในวันนี้ ในการมาตกหมึก เพราะ น้ำทะเลยังนิ่ง
19 สันหลังมังกร หรือ ทะเลแหวก
เมื่อทำกิจกรรมตกหมึกเสร็จแว้ว นายหีวก็พาผมไปที่ทะเลแหวก ที่อยู่ใกล้ๆกับบริเวณตกหมึก
วันนี้พี่เค้าบอกว่า ช่วงที่ดีที่สุดในการมาเดินเล่นที่ทะเลแหวก
คือ ประมาณ 10-11โมง ก่อนที่่น้ำทะเลจะขึ้นสูง
20 เดินทางกลับฝั่ง ท่าเรือหาดยาว
เมื่อทำกิจกรรมครบแล้ว เวลาประมาณ เที่ยงๆ ผมก็เช็คเอาท์ เดินทางกลับไปที่ท่าเรือหาดยาว
#เที่ยวเกาะลิบง#เที่ยวทะเล#เที่ยวตรัง#ตรัง#รีวิวตรัง
#เที่ยวคนเดียว#เมืองตรัง #นั่งรถไฟเที่ยว #เที่ยวตรังคนเดียว
#ทะเล #ชายทะเล #ไทย #ดำน้ำ #ดำน้ำ ถ่ายรูป #ชมทะเล #รถยนต์ รถตู้#รถสองแถว#รถสาธารณะ#รถสาธารณะ
ยิ้มแบกเป้เที่ยว RoamingYim
วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เวลา 13.34 น.