เราเคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของหมู่บ้านอีต่องเป็นอย่างดี เรียกได้ว่าเป็นอีก1สถานที่ฮอตฮิตสุดๆที่นึงในประเทศไทยเลยก็ว่าได้ เป็นอีกนึงจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวชื่นชอบและเดินทางไปเที่ยวกัน ที่นี่เป็นหมู่บ้านเล็กๆติดชายแดนไทยพม่า ตั้งอยู่ที่อำเภอทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี อยู่ห่างจากตัวเมืองประมาณ 180 กม.เศษ ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง จากตัวเมือง เรียกได้ว่าไกลเอาเรื่อง 
เราก็เคยได้เห็นรีวิวอยู่บ่อยครั้ง เห็นคนนั้นไปคนนี้ไป เราก็เลยอยากไปสัมผัสบรรยากาศของที่นี่ดูบ้าง จริงๆก็อยากจะไปตั้งแต่ช่วงฤดูฝนแต่ก็ผลัดวันมาเรื่อยจน ต้นปี 2024 วันเวลาเหมาะสมแล้วเตรียมไปลุยอีต่องกันครับ 

สำหรับการเดินทางของเรา เรานั่งรถมินิบัส ของบริษัทกาญจบุรีเอกซ์เพรส รอบเวลาประมาณ 10.00 โมง ถึงบขส.กาญ เกือบๆบ่ายโมง เราเลือกเช่ามอเตอร์ไซค์แล้วขับไปหมู่บ้านอีต่อง ก็คือตั้งใจว่าไม่รีบขับไปพักไป เพราะระยะทางค่อนข้างไกลมากๆ เราใช้เวลาเกือบๆ 4 ชั่วโมง ในการขับรถมอเตอร์ไซค์มาถึงหมู่บ้านอีต่อง ถึงประมาณ 18.00 น. 

สำหรับคนที่ไม่มีรถส่วนตัว หรือไม่อยากเช่ารถ มีรถประจำทางครับ 
จากหมอชิตหรือสายใต้ นั่งรถตู้/มินิบัสมาลงที่บขส.กาญจนบุรี (แนะนำเป็นรอบ05.00 น. - 06.00 น.) จากนั้นต่อรถบัสสีแดงหรือรถตู้ ไปลงตลาดทองผาภูมิ แล้วต่อสองแถวคันสีเหลืองไปลงที่หมู่บ้านอีต่อง (รถสองแถวจากทองผาภูมิไปอีต่องรอบสุดท้ายคือ12.30 น. เหมือนจะมีไม่กี่รอบด้วยนะยังไงเช็คเวลาดีๆครับ) ส่วนขากลับรถสองแถวออกจากหมู่บ้านอีต่อง 08.00 น.

มาถึงก็เกือบจะมืด เลยรีบเปลี่ยนชุดแล้วเดินไปถ่ายรูปเล่นริมอ่างเก็บน้ำในหมู่บ้านกันก่อน

บรรยากาศดีเลยนะ อากาศเย็นสบายเลย วันที่เราไปตอนเย็นอุณหภูมิประมาณ 20 ต้นๆ 

ตรงนี้เป็นสะพานเหมืองแร่ เป็นสะพานเก่าแก่ที่สร้างเมื่อปี 2482 สะพานที่ใช้ขนแร่ในสมัยก่อน อยู่บริเวณทางเข้าหมู่บ้านใกล้ๆกับสะพานป้ายไม้

ริมอ่างเก็บน้ำหมู่บ้านอีต่อง จะมีสะพานเล็กๆ ที่สามารถเดินลงไปชมวิวในอ่างเก็บน้ำได้

ป้ายทางเข้าหมู่บ้านอีต่อง น่าจะเป็นอีกจุดถ่ายรูปฮอตฮิตที่ใครๆมาก็ต้องถ่าย

ณ อีต่อง

วันนี้เราเดินโฉบๆ สำรวจพื้นที่ แปบเดียวก็มืด แล้วก็หิวด้วย

สำหรับที่พักคืนแรก เราพัก Brume Cafe N’ Room โฮมสเตย์
เป็นที่พักสไตล์ลอฟ์ท มีคาเฟ่อยู่ด้านล่าง ห้องเป็นลักษณะปูนเปลือย มีห้องน้ำในตัว ไฮไลท์คือจะมีดาดฟ้า มองเห็นวิวหมู่บ้าน และยังมีชาบู/หมูกระทะ สั่งทานชิลๆบนดาดฟ้า
ห้องที่เราพัก ราคาคืนละ 900 บ. ห้องโอเคเลย 

ด้านหน้าที่พักตอนช่วงหัวค่ำ

รูปจากดาดฟ้าที่พัก

อากาศเย็นๆแบบนี้ หมูกระทะต้องเข้าละ ไม่ต้องไปไหนไกล เพราะที่พักเรามีดาดฟ้าเป็นร้านอาหาร มีทั้งชาบูและหมูกระทะ และอาหารตามสั่งอีกนิดหน่อย เครื่องดื่มก็มี จัดไปค่ำคืนนี้ 

ยามเช้าตั้งนาฬิกาปลุกตี 5 ล้างหน้าล้างตา แล้วขับมอเตอร์ไซค์ไปที่ เนินช้างศึก ระยะทางจากหมู่บ้านไม่ไกลมาก ใช้เวลาประมาณ 15 นาที ส่วนถ้าใครขับรถเก๋งมาหรือรถโหลดเตี้ย ไม่แนะนำนะ ถ้าเป็นรถกระบะไปได้หรือมอเตอรไซค์ไปได้ คนที่ขับรถเก๋งไปแนะนำให้ติดต่อรถในหมู่บ้านไปได้ จะจอยทริปกับคนอื่นหรือเหมาไปก็ได้ ประมาณ คนละ 50 บาท ประมาณนี้ 

สำหรับ เนินช้างศึก เป็นจุดชมวิวยอดฮิตในหมู่บ้านอีต่อง ที่สามารถมองเห็นวิวได้ 180 องศา ยามเช้าสามารถขึ้นไปดูทะเลหมอก และพระอาทิตย์ขึ้นได้สวยงาม ยามเย็นสามารถขึ้นไปดูพระอาทิตย์ตกได้ได้เช่นกัน ลักษณะภูเขา มีความสวยงาม ทิวเขาโค้งมน สลับสลับซ้อน บางลูกเป็นภูเขาหญ้า แสงแดดอ่อนไฟยามเย็นส่งกระทบสวยงาม

วันที่เราไปแม้จะเจอเจอทะเลหมอก หรือไอหมอกสักนิด แต่ได้เห็นวิวภูเขาแบบนี้ บอกเลยว่าสดชื่น ใจฟู

ขนาดเดือนมกราคมแล้ว ภูเขาที่เราเห็นหลายๆลูกรู้สึกว่า ยังมีความเขียวให้เห็นอยู่ ดูไม่แห้งแล้ง สวยจริงๆเลย

ยิ่งเวลาแดดส่องกระทบภูเขา เกิดแสงและเงา สีเขียวตัดกับแสงสีส้มสวยมากๆ

วิวอีกฝั่งนึงก็สวยไม่แพ้กัน

ลงจากเนินช้างศึก ก็มาทานอาหารเช้าที่พัก าหารเช้าจะเป็นข้าวต้ม แต่สามารถถสั่งไข่กระทะเพิ่มได้ ด้านล่างของที่พักเป็นคาเฟ่ด้วยนะ ถ่ายรูปเล่นกันสักหน่อย
แพลนวันที่ 2 เราจะตามเก็บที่เที่ยวในหมู่บ้าน ไม่ว่าจะเป็น เหมืองปิล็อก วัดเหมืองปิล็อก จุดชมวิวเนินเสาธง อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ น้ำตกจ๊อกกระดิ่น ว่าแล้วก็ไปกัน 

บ่อปลาคาร์ป ด้านหน้าเหมือง ปลาเยอะมากนะ เวลาเราเดินริมบ่อปลาจะว่ายน้ำตาม แต่วันที่เราไปน้ำตรงนี้ไม่ค่อยใส แต่ด้านหลังใสมากๆ เดี๋ยวตามไปดูรูปกัน

ตรงนี้เป็นบ่อปลาคาร์ปด้านหลัง เดินเข้าไปในเหมือง ตรงนี้น้ำโคตรใสเห็นตัวปลาแบบชัดแจ๋ว แต่ปลาอาจจะไม่ค่อยเยอะ

ใส่ปลาเพิ่มซะหน่อยๆ 5555 

มีบ่อที่มีปลาช่อนภูเขาหรือปลากั้งด้วยนะ สีสวยดี มีหลายตัวด้วยนะ เหมือนในบ่อนี้ต่อมาจากธารน้ำตกอีกที เลยทำให้มีปลากั้งอยู่ 

ในเหมืองปิล็อกจะมีพวกอุกรณ์ทำเหมืองแร่เก่าอยู่ 
สำหรับที่นี่ สถานที่ในดีตเคยทำเหมืองแร่ดีบุก ปัจจุบันเลิกทำแล้ว โดยยังมีซากรถเก่า อุปกรณ์เครื่องมือเก่าใช้ที่ในการทำเหมืองแร่ในสมัยก่อนยังคงอยู่ เลยกลายเป็นจุดถ่ายรูปเท่ๆ สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเยือนเหมืองปิล็อก

วัดเหมืองแร่ปิล็อก
เป็นวัดที่ตั้งอยู่ในหมู่บ้าน ภายในวัดมีพระพุทธรูปและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ สามารถเข้าไปไหว้พระ ปิดทอง ขอพรได้ นอกจากนี้ไฮไลท์สำคัญ คือ ด้านบนวัดมีจุดชมวิว มีพระพุทธรัตนศากยมุนี ศรีทองผาภูมิ ประดิษฐานอยู่เด่นชัดเมื่อมองจากด้านล่าง และยังมีจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นหมู่บ้านอีต่องได้เกือบทั้งหมด

ภาพจากจุดชมวิววัดเหมืองแร่ปิล็อก

อุทยานแห่งชาติทองผาภูมิ
ถ้าพูดถึงที่นี่หลายคนคงจะนึกถึงเขาช้างเผือกแน่ๆ แต่ถ้าไม่ได้ไปเขาช้างเผือก ด้านในอุทยานก็ยังมีจุดชมวิวที่เราสามารถเห็นเขาช้างเผือกได้ 180 องศา เป็นวิวที่อยู่เบื้องหน้าที่สวยมากๆ นอกจากนี้ยังมีจุดชมวิวเนินช้างพลาย จุดชมวิวเนินกูดดอย ที่วิวสวยไม่แพ้กัน ภายในอุทยานร่มรื่นอากาศดี สายแคมป์สามารถนำไปกางเต็นท์นอนได้ด้วย ที่นี่มีลานกางเต็นท์

วิวเขาช้างเผือก ตั้งใจไว้ว่าสักครั้งนึงจะต้องไปพิชิตให้ได้ แต่ต้องโทรให้ติด 5555 

น้ำตกจ๊อกกระดิ่น
น้ำตกใสๆ ที่ตกลงมาจากหน้าผาสูงประมาณ 30 เมตร อยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติฯทองผาภูมิ ซื้อตั๋วเข้าอุทยานแล้วสามารถใช้ตั๋วมาเที่ยวที่นี่ต่อได้


ลักษณะจุดเด่นของน้ำตก คือ เป็นน้ำตกที่ตกลงมาจากหน้าผา บริเวณซอกเขาสูง ตกลงมาเป็นสายน้ำตก ด้านล่างมีแอ่งน้ำขนาดกว้างขวาง เป็นวงกลม สามารถเล่นน้ำได้ น้ำใสมากสีเขียวอมฟ้า น้ำเย็นๆ ในน้ำปลาเยอะมากๆ

มาถึงน้ำตกทั้งที ก็ต้องลงเล่นน้ำกันสักหน่อย น้ำนี้โคตรเย็น ลงได้แป๊บเดียว หนาว 555

ช่วงบ่ายเราไปกินก๋วยเตี๋ยวกันในตลาดบ้านอีต่อง แต่ว่าจำชื่อร้านไม่ได้ มีก๋วยเตี๋ยวหลายอย่าง พวกต้มยำ เย็นตาโฟ ก๋วยจั๊บ รสชาติอร่อยเลย 

ช่วงเย็นเราไปกันที่ จุดชมวิวเนินเสาธง

เป็นจุดชมวิวที่อยู่ติดชายแดนเมียนมา มีเสาธงชาติไทย และธงชาติพม่า ตั้งอยู่เด่นชัด สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ฝั่งพม่าได้

อาจจะมองไม่ค่อยเห็นวิวสักเท่าไหร่ เพราะต้นไม้ค่อนข้างสูง

วิวภูเขาฝั่งพม่า

จากเนินเสาธง เราขึ้นไปเนินช้างศึกอีกรอบ ไปดูเก็บภาพยามเย็น และดูพระอาทิตย์ตก

มองเห็นเขาช้างเผือดด้วย

ตอนพระอาทิตย์ตก วิวอีกฝั่งก็สวยไม่แพ้ตอนเช้า

ภาพบรรยากาศ สวยทั้งเช้าและเย็นเลย ใครไปก็แนะนำครับ ให้ขึ้นมาทั้งเช้าและเย็น

ที่พักคืนที่ 2 เราพักที่ กรีนกาญจน์ โฮมสเตย์
เป็นที่พักเปิดใหม่ อยู่ฝั่งถนนคนเดิน ห้องใหม่เอี่ยมสะอาด บรรยากาศเงียบสงบดี แต่อาจจะไม่ได้เห็นวิวอะไรนะ

เย็นวันที่ 2 ขอเก็บบรรยากาศ มาถ่ายรูปยามค่ำคืนอีกสักรอบ 

ครั้งนี้ซื้อตะเกียงพม่า อันละ 50 บาท กับ ไฟเย็นมาถ่ายรูป กับสะพานที่เป็นโซนป้ายไม้

บรรยากาศดูโรแมนติกดีนะ ถ่ายรูปสวยดี

มื้อค่ำนี้เรามาฝากท้องกันที่ครัวเจ๊ณี ร้านอาหารตรงถนนคนเดินหมู่บ้านอีต่อง เมนูอาหารก็มีให้เลือกเยอะ ทั้งเมนูทะเล ปลากดคัง รสชาติก็ถือว่าอร่อยเลย 

ตอนเช้าจะมีพระมาบิณฑบาต ร้านขายของก็จะมีชุดใส่บาตรขาย หรอจะซื้อเป็นกับข้าวในตลาดก็ได้ 

เดินเล่นเก็บบรรยากาศยามเช้าของหมู่บ้านอีต่องอีกสักหน่อย

ยามเช้าอากาศเย็นสบาย อุณหภูมิวันที่เราไปประมาณ 16-18 องศา 

ยามเช้าเงียบสงบดี 

ลองโรตี ร้านบ้านฉันสักหน่อยอร่อยดี

ร้านกาแฟสด บดมือ เก๋ๆดี 

รถสองแถว ทองผาภูมิ-บ้านอีต่อง ขากลับรถออก 08.00 น. นะครับ ถ้าใครไปรถประจำทางต้องรีบมาขึ้นเลย 

ปิดท้ายด้วยมุมุถ่ายรูปสุดฮิต บ้านอีต่อง กับหุ่นตัวนี้ ใครมาที่นี่ก็ต้องถ่าย 

จบฮะ รีวิว หมู่บ้านอีต่อง 3 วัน 2 คืน เราว่าเป็นอีก1สถานที่ ที่ไม่มีที่เที่ยวเยอะ แต่ว่าควรไปสัมผัสบรรยากาศสักครั้ง เราว่าดีนะ เหมือนได้ไปพักผ่อน เที่ยวแบบชิลๆ Slow life ไม่สัมผัสอากาศเย็นๆ ของที่นี่ ไม่ชมวิถีชีวิต ชมวิวธรรมชาติ ขับรถขึ้นเขา กับ 399 โค้ง แต่ไปถึงก็รู้สึกคุ้มค่า กับการที่ได้มาเห็น สำหรับใครที่ยังไม่เคยไป เราว่าไปเถอะ ไปลองดู มันดีจริงๆนะ "ฮักนะบ้านอีต่อง"

อยากเที่ยวก็เที่ยว

 วันอาทิตย์ที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567 เวลา 21.39 น.

ความคิดเห็น