แจกแพลน เที่ยว เกียวโต-นารา 3 วัน 2 คืน เที่ยวตามได้ง่าย ๆ พร้อมร้านลับ
Day 1
เช็คอิน ที่พัก Apa Hotel Kyoto-Ekimae ที่นี่โลเคชั่นดี ใกล้สถานีรถไฟเกียวโตเพียง 350 เมตร
หลังจากฝากกระเป๋าเสร็จ เราตรงดิ่งไปที่ Arashiyama Bamboo Groove หรือสวนป่าไผ่ที่ทุกคนคุ้นหน้าคุ้นตาเป็นอย่างดี
บริเวณทางเข้ามีร้านอาหารเปิดเพียบเลย
อย่าลืมชิม ดังโงะ กันนะที่เกียวโตถือว่าเป็นต้นกำเนิด
ด้านในอากาศเย็นมาก ตลอดทางเป็นมุมถ่ายรูปได้หมด แต่คนเยอะมาก แนะนำให้มาช่วงเช้าก่อนเที่ยงค่ะ
อิ่มจากขนมแล้ว เราก็เดินทางไปที่ Kinkakuji Temple (วัดทอง) ต่อค่ะ วัดนี้มีปราสาท 3 ชั้นสีทองอร่าม
นักท่องเที่ยวชอบมาถ่ายมุมหน้าสระน้ำเคียวโกะ เพราะจะเห็นเงาสะท้อนของปราสาทที่สวยงาม นอกจากนั้นพื้นที่รอบ ๆ ยังเต็มไปด้วยปราสาทเก่าและต้นไม้ที่ขึ้นตามธรรมชาติ (ค่าเข้า 600 เยนนะ)
มาต่อกันที่ Fushimi Inari Shrine ศาลเจ้าชื่อดังที่มีเสาแดงเป็นเอกลักษณ์
ตั้งอยู่บนภูเขาอินาริ มีสัญลักษณ์เป็นจิ้งจอก มีป้ายขอพรให้เขียน และสักการะระหว่างทางขึ้น
บริเวณมีของกินเต็มไม่ต้องกลัวหิวเลย ใครอยากมาที่นี่ เผื่อเวลากันนิดนะ เพราะช่วงวันหยุดคนจะเยอะสุด ๆ
มาจบมื้อเย็นที่ Nishiki Market ตลาดปลาแห่งเดียวในเกียวโต
ซาซิมิ ปูทาราบะ ละลานตา ที่นี่นอกจากของสดแล้วยังมีเทมปุระเจ้าดัง ที่บอกเลยว่าแสงออกปาก! และปลาไหลย่างไฟ อร่อยมากกก
และทาโกะยากิ ที่รสชาติต่างจากโอซาก้าไปเลย
Day 2
วันนี้มีแพลนไปเที่ยวนาราแบบเต็มวัน เรานั่งรถบัส โดยใช้บัตร Kansai Thru Pass มาที่ Nara Park สวนสาธารณะที่เต็มไปด้วยน้องกวาง
ใครก็อยากมาถ่ายรูปคู่ อย่าลืมให้ขนมน้อง ๆ ด้วยนะ มีขายแพ็คละ 200 เยน
เดินเลี้ยวขวาเข้าไปไม่ไกล ก็จะเจอวัด Todaiji ที่ที่มีหลวงพ่อโตองค์ใหญ่ประดิษฐานอยู่
และที่นี่ยังถูกบันทึกว่าเป็นวัดที่มีอาคารไม้ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย หลังจากที่ไหว้พระเสร็จ เราก็มานั่งพักผ่อนริมทะเลสาบ มีที่นั่งให้นั่งชิล ดื่มด่ำธรรมชาติ
พักกินข้าวเที่ยงกันที่ NOROMA ราเมนซุปไก่ เจ้าดังที่สุดในนารา เขาบอกว่าเคี้ยวน้ำซุปนานถึง 8 ชม. เลยนะ รสชาติกลมกล่อมมากค่ะ ห้ามพลาดเลย
ต่อกันที่สุดท้ายของนาราคือ Nara Kingyo Museum พิพิธภัณฑ์ปลาทอง ที่เหมือนมาดูงานศิลปะสวย ๆ
มีหลายโซน และปลาทองหลากหลายพันธุ์ ถ่ายรูปเพลินมากก เสียค่าเข้าคนละ 600 เยน หรือประมาณ 320 บาทเท่านั้น
Day 3
วันสุดท้ายที่เกียวโต รีบตื่นแต่เช้าเพราะตั้งใจไปถ่ายรูป ที่ Higashiyama ย่านเก่าแก่ที่เต็มไปด้วยบ้านเรือน 2 ข้างทาง อยู่ระหว่างทาง
ไปศาลเจ้ายากาสะ จะถ่ายรูปไหนก็สวย มุมที่เห็นเจดีย์ยากาสะ คือมุมสุดฮิต!
ถ้าอยากได้รูปสวย ๆ แบบนี้ ต้องมาก่อน 8 โมงเท่านั้น ถ่ายรูปหนำใจแล้วเราก็ขึ้นรถบัส ไปที่ Kiyomizu-dera หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ วัดน้ำใส
บอกเลยว่า ที่นี่เดินไกลมากก แต่คุ้ม! อาคารไม้ที่เห็นถูกสร้างมากกว่า 380 ปีแล้ว ที่มาของชื่อวัดน้ำใส มาจากน้ำตกโอโตวะ ที่ไหลมายังบ่อ ที่สามารถดื่มขอพรได้นั่นเอง ใครมาก็มีแต่ความโชคดี ๆ
วิธีเดินทางในเกียวโต - นารา เราซื้อบัตร Kansai Thru Pass แบบ 2 วัน ราคา 1,053 บาท (ใช้ได้ทั้งรถไฟใต้ดินและรถบัสเลย)
พวกเราเลือกสายการบิน Thai Vietjet เพราะเขามีบินตรงจาก เชียงใหม่ ไป โอซาก้า ถึง 4 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ (จันทร์ พุธ ศุกร์ อาทิตย์) ไม่ต้องไปต่อเครื่องที่กรุงเทพฯแล้ว
และยังบริการดี ถูกใจเหมือนเดิม เพิ่มเติมคือตรงต่อเวลา ไม่มีดีเลย์!
ที่นั่งกว้างสบาย มีที่ชาร์จให้ด้วย
มี Sky Cafe ให้สั่งอาหารด้วยค่ะ เฟิร์นกับหมูชอบ ขนมปังนมโสด ของเขามาก ขึ้นเครื่องทีไร ต้องสั่ง!
ตอนนี้สามารถจองเที่ยวบิน ผ่านแอปได้แล้ว สะดวกมาก
IOS : https://apps.apple.com/th/app/...
Android : https://play.google.com/store/...
#พาไปหน่อย #ญี่ปุ่น #เกียวโต #นารา #คันไซ #ThaiVietjet #เที่ยวนี้บินเวียตเจ็ท
Papainhoi Couple
วันพุธที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2567 เวลา 10.06 น.