วัดที่ยื่นไปในทะเล

          ถ้าพูดถึงทะเล หลายคนคงนึกถึงเกลียวคลื่นและหมู่ปะการัง แต่ถ้านึกถึงวัดที่ยื่นไปในทะเลที่จังหวัดสมุทรปราการเราก็มีที่แบบนั้นด้วยเหมือนกัน วัดที่ถูกห้อมล้อมรอบด้วยน้ำทะเล และอยู่ติดกับปากอ่าวจึงเป็นสาเหตุที่ทำให้พื้นดินบริเวณรอบ ๆ ถูกน้ำทะเลกัดเซาะจนพื้นดินหายไป จนวัดจำเป็นต้องยกพื้นพระอุโบสถ และกฏิให้สูงขึ้น เพื่อไม่ให้น้ำทะเลกัดเซาะจนเกิดความเสียหาย และสถานที่ที่พูดถึงนั่นก็คือ

          วัดขุนสมุทรจีน หรือ วัดขุนสมุทราวาส ตั้งอยู่ที่ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์  จังหวัดสมุทรปราการ สร้างขึ้นเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2510 โดยนายประเทือง เจริญนาค และผู้ใหญ่หั่น เข่งสมุทร (คลังข้อมูลชุมชน ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร, 2564)

การเดินทาง

          ในช่วงก่อนหน้านี้ หากต้องการจะไปเที่ยวยังวัดขุนสมุทรจีนก็จะต้องขับรถหรือหารถมายัง ต.แหลมฟ้าผ่าข้ามสะพานคลองสรรพสามิตแล้วให้เลี้ยวขวาตรงไปอีกประมาณ 5 กิโลเมตร จะเจอท่าเรือป้ารี่ และเดินทางต่อโดยเรือโดยสารไปลงบริเวณท่าเรือของวัด ใช้เวลาประมาณ 10 นาที จากนั้นจะต้องปั่นจักรยานหรือเดินเท้าต่อไปอีก เป็นไงหละครับกว่าจะมาได้ต้องใจรักจริง ๆ (แต่ผมก็ไม่เคยไปแบบนั้นนะครับ)

          เพราะในพุทธศักราช 2567 ประมาณเดือนเมษายนปลาย ๆ เราก็ได้ข่าวว่าเขาได้ทำถนนที่รถยนต์สามารถขับไปจอดใกล้ ๆ กว่านั้นได้ และเดินเท้าหรือขึ้นรถสามล้อของชาวบ้านที่มีรับส่งไปตามสะพานปูนที่ทอดจากฝั่งแผ่นดินไปยังวัดได้เลย (ไม่ต้องต่อเรือแล้ว) จะช้าอยู่ใยสตาร์ทรถและเตรียมตัวออกเดินทางได้ (เอ่อมัวแต่จะรีบไปลืมมองบนดูแผ่นฟ้าที่ตอนนี้แสงแดดช่างเปรี้ยงจ้า จนแขนเยิ้มสยองผิวกันเลยครับ)

บริเวณที่จอดรถริมถนนก่อนจะเดิน หรือรอรถสามล้อไปยังวัด

ทางเข้าวัด

          เมื่อขับรถยนต์มาจอดริมทางแล้ว (สังเกตุว่ารถจะจอดเป็นแถวยาวริมทางอย่าฝืนขับต่อเข้าไปเลยครับมันเป็นทางตัน) จากก็ลุยเดินกันต่อไปตามสะพานปูนนี้เพื่อไปยังจุดหมาย หรือใครไม่อยากเดินก็รอรถสามล้อที่จะแวะเวียนรับ-ส่งผู้คนที่หลั่งไหลกันมาอยู่บริเวณปากทางสะพานปุนก็ได้ก็ได้ราคาประมาณ 10 บาท ส่วนเรานั้นเดินเลยครับขืนถ้ารอตรงนี้ต่อจะต้องเป็นหมูย่างแน่นอน

          ตลอดสองข้างทางตามสะพานปูน หากท่านเลือกโปรแกรมเดินก็จะได้รับชมกับวิวธรรมชาติป่าชายเลนที่พอเขียว ๆ ได้สบายตา หมู่นกหาปลา และเหล่าสัตว์ตามแนวต้นโกงกาง เช่นพวกปลาตีน ปู หอย โปล่ออกมาให้เราได้ยลโฉม สายลมที่พัดหอบความเค็มและไอร้อนสลับเย็นของทะเลมาเป็นพัก ๆ หากมือมันว่างจากการกางร่มก็สามารถสั่นระฆังให้ดังกังวาลที่มีแขวนเรียงรายไปตลอดเส้นทางได้ด้วยเช่นกัน

          เพียงหนึ่งอึดใจที่มาพร้อมกับเหงื่อที่ซึมนิดหน่อย สะพานปูนที่เราเดินผ่านมาก็ไม่ได้ไกลอะไรมากนัก (เหมือนกับความทุกข์ที่ยังไงมันก็ต้องผ่านไปสักวันหนึ่ง) เราก็จะมาถึงบริเวณปากทางเข้าวัดขุนสมุทรจีน บริเวณปากทางมีร้านอาหาร ทั้งของสดจากทะเล และร้านค้าคอยให้บริการ หยุดพักแวะปั๊ม (ร้านค้า) เติมน้ำตาลให้ร่างกายกันก่อน

           จากนั้นเดี่ยวเราขออนุญาตแนะนำสถานที่ จุดแลนด์มาร์คของวัดแห่งนี้ โดยจะแบ่งวัดออกเป็น 3 โซนด้วยกัน คือ โซนหน้า โซนกลาง และโซนหลัง และจะนำเสนอจากซ้ายไปขวา ทุกท่านสามารถดูจากรูปแผนที่ข้างล่างโดยสังเขปได้ดังนี้

แผนผังวัดดยสังเขป

  • จุดที่ 1 ศาลาไม้ริมทะเล ด้านในประดิษฐานสมเด็จพ่อโตและหลวงปู่ทวด บริเวณด้านหน้าศาลายังมีช่อฟ้าสามารถให้เราเอาผ้าสามสีไปผูก และร่วมทำบุญกันได้ (เมษา 2567)

  • จุดที่ 2 ศาลาครุฑ ด้านในเป็นที่ประดิษฐาน พระปรางห้ามสมุทร หลวงพ่อเขาตะเครา หลวงพ่อวัดบ้านแหลม หลวงพ่อโต หลวงพ่อวัดไร่ขิง พระพุทธรูปปางอุ้มบาตรที่แกะจากไม้ (บาตรแตก) หลวงพ่อโสธร และไอ้ไข่ ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับศาลาไม้ริมน้ำสมเด็จโตและหลวงปู่ทวด

  • จุดที่ 3 ทางขวามือของศาลาครุฑ จะเป็นศาลาสำหรับถวายสังฆทานหากใครมาถึงแล้วสามารถนำของมาถวายพระภิกษุได้ตรงจุดนี้ ซึ่งหลวงพ่อท่านก็จะให้พรและแจกพระผงพระพุทธชินราชเป็นที่ระลึกให้ด้วยคนละองค์ (เมษายน 2567) และเมื่อเข้ามาแล้วจะผ่านเลยไปไม่ได้ ด้านในยังมีองค์ท้าวเวสสุวรรณทั้ง 3 ปางที่เปิดให้เข้าไปสักการะได้ด้วยเช่นกัน


  • จุดที่ 4 พระอุโบสถเก่ากลางน้ำ (โบสถ์มุด)

          สำหรับพระอุโบสถหลังนี้ ไม่ว่าคุณจะยิ่งใหญ่มาจากไหน ไม่ว่าคุณจะร่ำรวยหรือยากจน หากเข้ามาภายในพระอุโบสถหลังนี้แล้วนั้น ทุกคนมีสิ่งหนึ่งที่เท่าเทียมกันคือต้องก้มศีรษะน้อมลงเคารพแด่องค์พระประธาน "เพราะถ้าหากคุณยังเชิดหน้าตั้งคอของคุณอยู่คงจะต้องชนเข้ากับขอบวงกบประตูโบสถ์อย่างแน่นอน"

        ด้วยที่พระอุโบสถมีการยกพื้นสูงขึ้นด้วยสาเหตุของน้ำทะเล แต่ขอบวงกบของประตูโบสถ์นั้นไม่ได้ขยับสูงตาม เมื่อคุณเข้ามาในพระอุโบสถก็ต้องใช้วิธีการ "มุด" ผ่านเข้าไปด้านใน เราจึงของอนุญาตเรียกชื่อพระอุโบสถเก่าแก่กลางน้ำแห่งนี้ว่า โบสถ์มุด (เสือซ่อนยิ้ม, 2567) 

        ร่องรอยการจมน้ำที่ยังคงทิ้งคราบไว้เสมือนย้ำเตือนเรื่องราวที่เคยผ่านมา แต่ภายนอกของอุโบสถหลังนี้ยังมีลวดลายปูนปั้น และศิลปะที่สวยงามมิเปลี่ยนแปลง ด้านในของพระอุโบสถเก่าหลังนี้เป็นที่ประดิษฐาน "หลวงพ่อรุ่งสมุทรศักดิ์สิทธิ์" ที่เป็นที่เคารพศรัทธาของผู้คน 

          แสงแดดที่ระอุจากภายนอกที่แผดเผาช่างแตกต่างกับอากาศด้านภายในพระอุโบสถหลังนี้ เมื่อเข้ามาแล้วกลับรู้สึกถึงความร่มรื่นร่มเย็น ลมที่พัดผ่านเข้ามาตามหน้าต่างบานเล็ก ความสงบก็บังเกิดขึ้นในใจ ทุกสรรพสิ่งรอบตัวยังคงหมุนเวียนเคลื่อนไหวไป "ฉันอยากจะนั่งอยู่ตรงนี้นาน ๆ เสียเหลือเกิน" นั่นคือความรู้สึกในตอนนั้น

  • จุดที่ 5 พระอุโบสถ (ใหม่) เรือนไทยไม้สัก อยู่ตรงข้ามกับพระอุโบสถเก่า ส่วนด้านล่างเป็นใต้ถุนโปร่งมีพระพุทธชินราชประดิษฐานอยู่ หากออกมาด้านหน้าทางด้านขวาจะเป็นทางขึ้นไปยังพระอุโบสถใหม่ด้านบนชั้น 2 ที่เป็นเรือนไม้สักสวยงามเป็นอย่างมาก

ด้านบนชั้น 2 เป็นโบสถ์ไม้สักเรือนไทย ด้านในประดิษฐานพระพุทธชินราชเช่นกัน



  • จุดที่ 6 เก๋งจีนเจ้าแม่กวนอิม

          ถัดไปโซนหลังติดกับริมทะเลทางซ้ายสุดเมื่อเราหันหน้าออกทะเล เราจะพบเก๋งจีนซึ่งเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจ้าแม่กวนอิม บริเวณด้านนอกยังมีพื้นที่ให้เราสามารถนั่งพัก ชมวิวรับลมทะเลได้ด้วย (แต่ต้องเป็นตอนเย็นนะตอนนี้ไม่ไหวจริง ๆ )


  • จุดที่ 7 พ่อใหญ่ห้ามสมุทร ถัดมาจากเก๋งจีนบริเวณตรงกลางของโซนหลังติดริมทะเลเราจะพบกับพระพุทธองค์ใหญ่มหึมายืนเด่นสง่า องค์สีดำในท่าปรางห้ามสมุทร หันหน้าออกฝั่งทะเล 

  • จุดที่ 8 สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระยาพิชัย เรือพระ ถัดจากพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่อยู่ตรงกลางในโซนสุดท้าย มุมขวาสุดหากเราหันหน้าเข้าทะเล ก็จะเป็น 3 จุดสุดท้ายของวัดนี้  เป็นรูปปั้นพระเจ้าตากสินทรงเรือ พระยาพิชัยดาบหัก เสด็จพ่อ ร.5 และเสด็จเตี่ย ส่วนมุมในสุดจะเป็นเรือไม้เก่าแก่ที่บรรจุพระพุทธรูปองค์เล็กเต็มลำเรือ และองค์เทพ ซึ่งเราสามารถเข้ามากราบสักการะกันได้

ธรรมสวัสดี

           เป็นอย่างไรกันบ้างครับ เหงื่อออกกันแล้วหรือยัง สำหรับวัดขุนสมุทรจีน หรือวัดวัดขุนสมุทราวาส วัดเก่าแก่ที่มีความสวยงามและ unseen แห่งนี้ หากท่านใดพอจะมีเวลาว่าง ๆ แล้วไม่รู้จะไปเที่ยวที่ไหน เราว่าที่แห่งนี้ก็น่าสนใจมาก ๆ เลยทีเดียว และที่สำคัญอยู่ไม่ห่างจาก กรุงเทพฯ ด้วย

          ทากันแดดพกร่มกันร้อนเสียหน่อย แวะเวียนกันมาสร้างบุญและได้ท่องเที่ยวกันได้ ช่วงนี้วัดกำลังพัฒนา หากท่านมีจิตศรัทธาอย่าลืมแวะเวียนกันมาสร้างศาสนสถานกันนะครับ


" สัพพะทานัง ธัมมะทานัง ชินาติ "
การให้ธรรมะเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง

สวัสดี

- เสือซ่อนยิ้ม - 


  • ที่อยู่ : ตำบลแหลมฟ้าผ่า อำเภอพระสมุทรเจดีย์ จังหวัดสมุทรปราการ
  • พิกัด : https://goo.gl/maps/Mutk8ZUE5tEvz6r98
  • เปิดให้เข้าชม : 07.00-16.00 น.

เสือซ่อนยิ้ม

 วันอาทิตย์ที่ 19 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 เวลา 09.36 น.

ความคิดเห็น