ลับมาอีกครั้งกับการโบกรถไปเที่ยว ครั้งนี้เหลือสมาชิก 3 คน

ทริปนี้นึกไรไม่ออกไม่รู้จะไปไหน ขอเเค่ได้ออกไปนอนกางเต็นท์ พักผ่อนสบายๆ

เดินทาง 5 - 7 ส.ค. 2559

วันที่ 1

เนื่องจากเป็นวันศุกร์ที่รถติดสาหัสสุดๆ ทำให้การเดินทางเลื่อนจาก 2 ทุ่ม กลายเป็น 4 ทุ่ม ตามระเบียบ

การเดินทางครั้งนี้ยากสุดๆ ฝนตก รถติด ออกดึก ไม่มีรถ นั่งรอกันที่ปั๊มจนเเล้วจนเล่า ไม่มีรถสักคัน

จนกระทั่ง 00.30 น ได้พี่ผู้ชายใจดี ไปส่งที่ อ.เมือง สระบุรี เดินทางไป ชม กว่าๆ ถึงปั๊มปตท 01.30 น

โบกยากจริง ๆ ไม่มีรถสักคันเลย

พวกเราตัดสินใจเดิน ท่ามกลางความมืดเเละสังเวียนของเหล่านักบิด ที่เต็มท้องถนน

จนถึงปั๊มใหญ่ รอไปนานมาก เวลา ตี 4 กว่าๆ ได้รถไปส่งที่ อ.บึงสามพัน จ.เพชรบูรณ์

วันที่ 2

ถึงบึงสามพันเเล้วตัดสินใจ นั่งรถประจำทาง - เพชรบูรณ์ - หล่มสัก

โบกรถไปอีก 2 ต่อ ถึงหล่มเก่า ใกล้ๆ ทางขึ้น เเล้วก็รอรถโบกรถชาวบ้านที่ลงมาข้างล่าง ขึ้นภูทับเบิก

รอไม่นาน ก็ได้รถขึ้นทับเบิก

ช่วงเที่ยงๆ ฟ้าใสดี มีหมอกคลอเคลีย สมกับฤดูฝน

เดินหาที่พักวิวดีๆ ไว้รอชมทะเลหมอกตอนเช้า จนเจอที่ถูกใจ

ได้ที่พักเเล้ว จัดการกางเต็นท์ ทำธรุะส่วนตัว เเล้วนอนยาวๆ รอดูอาทิตย์ลับขอบฟ้า



คิดไว้ว่าพรุ่งนี้คงมีหมอกให้เราดู เพราะลมสงบมาก

ตื่นเช้ามา ถึงกับอึ้งงง ไม่เคยเจอทะเลหมอกเต็มๆเเบบนี้อยู่ใกล้ๆเต็นท์เลย

วิวเจดีย์ถูกบดบังด้วยหมอก เหมือนเราอยู่บนเมฆ

พวกเราไม่รอช้ารีบเก็บภาพความสวยงามนี้ไว้

ผู้คนต่างพากันถ่ายภาพ เพื่อเก็บความสวยงามนี้ไว้

11 โมงกว่าเเล้ว ทะเลหมอกก็ยังเเน่นอยู่

หลังจากนั้นพวกเราก็โบกรถลงจากภูทับเบิก โดยโบกไปประมาณ 4 ต่อ ก็ถึงกรุงเทพ

การโบกรถเป็นอีกเสน่ห์นึง คือ เราไม่สามารถกำหนดเวลาได้เป๊ะ อาจจะมีผิดเเผนบ้าง เเต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ล้ำค่ามาก

การที่จะมาเจอทะเลหมอกเเบบนี้ ก็ต้องอาศัยดวงเหมือนกัน เเละผมคิดว่าดวงของผมก็อาจจะชอบให้มาเจอทะเลหมอกเเบบนี้ทุกภูเขา

ติดตามเรื่องราวการเดินทางของผมได้ ในตอนต่อไป!!!!

https://www.facebook.com/DREAM-DARE-D0-17068045929...

Tiranon Tippayamongkongul

 วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 15.15 น.

ความคิดเห็น