 
	เกาะเสม็ด Low Season ก็เที่ยวได้ 
	
	ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ผมและเพื่อนๆได้มีโอกาสและมีเวลาว่าง จึงจัดทริปสั้นๆ เที่ยวทะเลเกาะเสม็ด จ.ระยอง บทความนี้เป็นการเขียนแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวของพวกเรา อาจจะไม่ได้ละเอียดมากพอ
	
	แต่ก็พอจะเป็นข้อมูลให้เพื่อนๆที่สนใจและอยากจะออกไปเที่ยวแบบพวกเราได้ไม่มากก็น้อย 
	ไม่ขอเกริ่นนำยาวมาก ออกไปเที่ยวกันนนนนน
	
[ภาพถ่ายทั้งหมดถ่ายด้วยกล้อง Nikon D90 + lens Nikon AF-S 50mm f/1.8G และ Sigma 10-20mm f/4-5.6 EX DC HSM]
	
	มาเริ่มกันที่การออกเดินทางไปยังเกาะเสม็ด จ.ระยอง พวกเราเลือกการเดินทางโดยรถตู้โดยสาร 
	วินรถตู้"ครัวคุณป้า" (จากที่หาข้อมูลมาค่อนข้างมีเครดิตที่ดี) จากอนุสาวรีชัยฯ ขึ้นรถบริเวณห้างเซนเตอร์วัน 
	ค่าโดยสารคนละ 200 บาท (ถ้าซื้อตั๋วไป-กลับ จะเหลือ 380 บาท) ผมและเพื่อนๆซื้อตั๋วไป-กลับ กรุงเทพฯ - บ้านเพ บอกพี่คนขับว่าลงท่าเรือไปเกาะเสม็ด พี่เขาก็ไปส่งถึงท่าเรือเลยครับ ขับรถดีมากๆ
	
	 
ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง เราก็มาถึงท่าเรือที่จะไปเกาะเสม็ดกันแล้ววว
วันนั้นเป็นวันที่ท้องฟ้าไม่ปลอดโปร่ง เมฆนี่ดำครึ้มมาเลยทีเดียว
	 
มาถึงก็เข้าไปซื้อตั๋วเรือที่จะข้ามไปยังเกาะเสม็ดที่ท่าเรือนวลทิพย์ ท่าเรือชื่อดังที่เรามักจะเห็นในกระทู้รีวิวเกาะเสม็ดอยู่บ่อยๆ ที่นี่มีทั้งเรือช้า และเรือสปีดโบ๊ท พวกเราเลือกขึ้นเรือช้า ตั๋วไป-กลับ ราคา 100 บาท
	 
ระหว่างที่รอเรือออกรอบบ่ายโมง ก็ออกไปเดินหาอะไรรองท้องกันสักนิด
ด้านหน้าท่าเรือจะมีร้านขายของที่ระลึก ของฝาก และอาหารแปรรูป มากมาย
	 
บ่ายโมงแล้ว ก็ออกไปขึ้นเรือกัน เรือที่พวกเราขึ้นก็เป็นเรือแบบลำที่อยู่ในภาพเลยครับ
	 
บรรยากาศบนเรือ ระหว่างทางไปเกาะเสม็ด มองเห็นเกาะเหมือนอยู่ไม่ไกลแต่ก็ไม่ถึงสักที ฮ่าๆๆ
	
	 
	ใช้เวลาประมาณ 40 นาที เราก็มาถึง เกาะเสม็ดดดดดดด !!
	 
มุมที่มองออกจากท่าเรือ
	 
	หลังจากเดินทางมาถึงท่าเรือ ที่ท่าเรือจะมีการเก็บค่าธรรมเนียมคนละ 20 บาท 
	ชำระค่าธรรมเนียมเรียบร้อยพวกเราก็ออกเดินไปยังที่พักที่ผมจองไว้จากทางเว็บ www.booking.com 
	ที่พักของเราชื่อ ไอทะเล อยู่ใกล้กับท่าเรือหน้าด่านที่เราลงเรือมา ใช้เวลาเดินไม่นานก็ถึง
ช่วงนี้ Low Season ครับ มีแค่ผมและเพื่อนๆเท่านั้นที่เข้าพักที่นี่ ตึกนี้ทั้งตึกจึงเป็นของพวกเรา ฮ่าๆๆ มีความเป็นส่วนตัวมากๆ
	 
บริเวณ lobby (อาจจะดูกว้างเกินจริงไปนิดเนื่องจากถ่ายด้วยเลนส์ไวด์)
	 
	เก็บของเข้าที่พักเรียบร้อย พวกเราก็ไม่รอช้ารีบออกไปหาร้านเช่ามอเตอร์ไซด์ ออกไป Survey รอบเกาะราคาเช่าแต่ละร้านก็เหมือนๆกันครับ ร้านที่ผมไปเช่ามีราคาดังนี้ 
	1 ชม. 100 บาท
	2 ชม. 200 บาท
	24 ชม. 300 บาท 
	แน่นอนครับว่าพวกเราเลือก 24 ชม. ขี่ทั้งวันเอาให้คุ้มไปเลย
	จากที่หาข้อมูลเส้นทางในเกาะ ไม่ซับซ้อนมากเท่าไหร่เลยครับ 
	
	ผมใช้แผนที่เกาะจากเว็บ www.chillpainai.com รวมกับแผนที่ google map ในการหาทางไปหาดต่างๆ
	 
Cr: http://www.chillpainai.com/map/6/
	
	เริ่มที่หาดแรกเลยครับ "หาดทรายแก้ว" หาดชื่อดังของเกาะเสม็ด  เป็นหาดที่มีทรายสีขาวละเอียด นักท่องเที่ยวนิยมมาที่นี่ บริเวณหาดนี้จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเยอะมาก จึงเป็นบริเวณที่ไม่เงียบเหงา
	
	ก็อย่างที่บอกครับว่าเป็นช่วง Low สภาพอากาศไม่สดใส หาดทรายแก้วจึงไม่สวยแบบที่คิดไว้ (เรามาไม่ถูกช่วงเอง) ฮ่าๆๆ
	
	 
	 
	จากหาดทรายแก้ว เราออกเดินทางกันต่อไปยังอ่าวทับทิมและอ่าวช่อ
	และนี่เป็นสะพานไม้ที่อ่าวช่อครับ
	 
จากนั้นเราไปกันต่อที่อ่าวเทียน อ่าวเทียนเป็นอ่าวที่มีชายหาดที่เงียบสงบ พวกเราเข้าไปแค่นิดเดียวเพราะเวลาตอนนั้นก็เริ่มจะเย็นแล้ว เลยคิดว่าหาดที่เหลือทางท้ายๆเกาะเอาไว้มาต่อวันพรุ่งนี้
	ระหว่างทางกลับที่พัก จะเจอกับทางแยกไปอ่าวพร้าว ไหนๆก็ผ่านแล้วแวะกันสักหน่อยดีกว่าาา อ่าวพร้าวเป็นสถานที่ที่เคยได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำมันรั่ว ในเดือน ก.ค. 2556 จนถูกประกาศให้เป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติทางทะเล  เวลาผ่านมาแล้ว3ปี ผมเองก็อยากมาดูด้วยตัวเองว่าอ่าวพร้าวในวันนี้เป็นอย่างไร
	
	 
	 
	 
	แล้วก็จบทริปวันแรกที่อ่าวพร้าว
	เช้าวันที่สองของทริป ผมและเพื่อนตั้งใจจะตื่นไปดูพระอาทิตย์ขึ้นตั้งแต่เช้า ไปที่หาดทรายแก้ว แต่เมื่อดูแผนที่เลยรู้ว่าหาดทรายแก้วนั้นหันไปทางด้านทิศตะวันออกเฉียงใต้ เราจึงเริ่มหาทางใหม่เพื่อที่จะไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ถามพี่ๆชาวบ้านที่เกาะได้ข้อมูลมาว่าจะต้องไปที่แหลมใหญ่ แล้วเราก็หาทางไปแหลมใหญ่จนได้
	กว่าจะหาแหลมใหญ่เจอก็สายไปซะแล้ว สายจริงๆพระอาทิตย์ขึ้นไปซะสูงเลย แต่วิวข้างบนก็สวยใช้ได้เลยแหละ ที่แหลมไม่มีนักท่องเที่ยวคนอื่นขึ้นไปนอกจากพวกเรา เพราะทางขึ้นค่อนข้างรกร้าง และต้องปีนหินขึ้นไป นักท่องเที่ยวส่วนมากจะมาถ่ายรูปบริเวณหินด้านล่างกัน
	 
	 
	 
ช่วงสายของวันนั้น เราออกเดินทางกันต่อไปหาดที่เหลือ บริเวณท้ายๆเกาะที่ยังไม่ได้ไป และได้พบจุดชมวิวก่อนที่จะถึงทางเข้า"อ่าวลุงดำ" จุดชมวิวแห่งนี้อยู่ทางด้านทิศตะวันตกของเกาะ เป็นจุดที่มีลักษณะเป็นหน้าผาสูง ด้านล่างเป็นหิน มีน้ำทะเลสีฟ้าสวยมากๆ
	 
ทางลง สามารถเดินลงไปด้านล่างได้ แต่ผมไม่แนะนำให้ลงไปด้านล่างมากนัก เพราะทางค่อนข้างชัน
	 
	 
นั่งชมวิวสวยๆได้สักพักก็ออกเดินทางต่อไปที่ "อ่าวลุงดำ" จากผมที่หาข้อมูลมา ที่อ่าวนี้จะมีสะพานไม้สวยๆทอดยาวไปในทะเล เมื่อไปถึงก็ได้พบกันสะพานไม้ แต่ก็ไม่เหมือนกับที่เคยดูในรูปสักเท่าไหร่ ฮ่าๆๆ อาจเป็นเพราะสะพานแห่งนี้ได้ผ่านลมผ่านฝนมาเป็นเวลานานแล้วก็คงเก่าและทรุดโทรมไปตามกาลเวลา
	 
	 
ชื่นชมกับสะพานไม้ที่อ่าวลุงดำแล้ว เราก็ไปต่อกันที่ "อ่าวหวาย" อ่าวหวายมีหาดที่มีทรายขาวละเอียด น้ำทะเลสีฟ้าน่าลงเล่นมากกว่าหาดไหนๆ
	 
จากอ่าวหวาย เราจะลงไปที่จุดปลายสุดของเกาะ ที่แห่งนั้นคืออออ "แหลมปะการัง" จุดชมวิวที่แหลมปะการังแห่งนี้ จัดว่าเป็นสถานที่ที่มีความสวยงาม และเป็นจุดดูพระอาทิตย์ตกอีกจุดหนึ่งของเกาะเม็ด สำหรับผมแหลมปะการังถือว่าเป็นไฮไลต์ของการเที่ยวเกาะเสม็ดเลยล่ะครับ
	 
	 
	 
	 
	 
	 
	 
	 
	 
ทางเดินลงไปด้านล่างค่อนข้างชัน แต่ถ้าอยากได้วิวสวยๆก็ต้องปีนป่ายกันสักนิด
	 
อีกด้านของจุดชมวิวอ่าวปะการัง เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกครับ
	 
วันที่สามเป็นวันสุดท้าย พวกเราเช็คเอาท์ออกจากที่พัก และเตรียมตัวเดินทางกลับกรุงเทพฯ โดยเรือและรถตู้จากตั๋วไป-กลับ ที่ซื้อไว้
	 
	
ท้ายที่สุดทริปของพวกเราก็จบลง นอกจากการได้พักผ่อนแล้ว การเดินทางให้อะไรกับเราหลายอย่าง การเดินทางทำให้เราได้ออกไปเจออะไรใหม่ๆ ได้เห็นสถานที่จริง ได้ฝึกแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การตัดสินใจ และความสัมพันธ์ของกลุ่มเพื่อน ถ้าคุณเป็นคนที่รักและชื่นชอบการออกเดินทางและอยากที่จะเรียนรู้ จัดทริปกับเพื่อนๆของคุณแล้วออกไปเที่ยวกันเถอะครับ ++
	 
แล้วพบกันใหม่ในการออกเดินทางครั้งต่อไป .. .
Saharat Chada
วันพุธที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2559 เวลา 02.21 น.

 Readme before you journey
Readme before you journey










