แจกพิกัด staycation กลางกรุง 

โรงแรมบูทีค 5 ดาว สวย ปัง มีครบทุกอย่าง 

Hotel Indigo Bangkok Wireless Road (กรุงเทพมหานคร)

---

ใครอยากเปลี่ยนบรรยากาศ มาพักห้องดีไซน์เลิศ

ดูวิวอินฟินิตี้ใจกลางเมือง ต้องที่นี่เลย 

ไฮไลท์ของ Hotel Indigo คือ CHAR Restaurant

ห้องอาหารสุดคลาสสิค เสิร์ฟ Surprise Menu

ไม่ซ้ำที่ไหนๆ และ CHAR Rooftop Bar

ที่อยู่ชั้น 26 ของโรงแรม ให้เราจิบเครื่องดื่มไป

ได้ดูวิวเมืองไปฟินๆ 

ยังไม่หมดแค่นั้น! ยังมีห้องอาหาร

Metro On Wireless ที่เสิร์ฟอาหารไทย

แนว Street Food และ buffet อาหารเช้า 

ส่วน 22 Steps Craft House ก็เสิร์ฟ

Craft Beer & Draft Beer หลากหลาย 

ที่ชอบมาก คือ แคมเปญ ‘Borrowed by Hotel Indigo’

ที่ให้ลูกค้ายืมชุดไทยไปถ่ายรูปทำคอนเทนต์ 

เขามีพร๊อพให้ครบเลย อย่าง เซ็ตปิกนิค/ปิ่นโต

ใส่อาหารไปทานในสวนได้ด้วย!

รายละเอียดอื่นๆอยู่ในรีวิวนี้แล้วน้า เลื่อนอ่านกันได้เลย

ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม / จองห้องพัก ได้ที่…

- เบอร์ : +66 (0) 2 207 4999

- อีเมล: [email protected]

- เว็ปไซต์: Bangkok.hotelindigo.com

หรือ https://bit.ly/Blissoutthere Official Account : @hotelindigobkk

มาเริ่มกันที่ห้อง Standard

Garden View Corner

High Floor Balcony กันค่ะ

ห้องนี้ตกแต่งแบบผสมผสานระหว่าง

ความไทยเดิมกับความโมเดิร์น ทำให้

รู้สึกได้ถึงเสน่ห์ของความคลาสสิก

ตัวห้องกว้าง โปร่ง แถมมีโซฟานิ่มๆให้นั่งเล่นด้วย 

ทุกคนลองเข้าไปเช็คราคาตามวัน-เวลาที่ต้องการเข้าพักได้เลยที่ https://bit.ly/3Ma7OfX

อย่างที่บอกว่าคอนเซปต์ของที่นี่เค้าจะเน้นความเก๋แบบไทยๆ 

ยุคเก่าที่ผสมกับความโมเดิร์น

Decoration ต่างๆภายในอาคารเลยดีเทลมากๆ 

แถมมีกระจกรอบด้าน รับแสงธรรมชาติแบบเต็มๆ ถ่ายรูปสวยเว่อร์ 

ใครเบื่อนอนเตียง เปลี่ยนมานอนดูวิวตรงนี้ก็คือฟินสุดๆ 

เขาดีไซน์ห้องน้ำให้ดูโปร่งแสง

เห็นเงาต้นไม้ อาบแบบเพลินๆไปเล้ย 

อันนี้เป็นวิวเมืองที่มองเห็นจาก

ระเบียงห้องเราเอง ความวิว 360 องศา

ก็คือ สิบสิบสิบ! 

สระว่ายน้ำของที่นี่อยู่ชั้น 24 น้า

ไม่ต้องกลัวร้อนเลยเพราะข้างบนลมดีมาก 

ถ่ายรูปมุมไหนก็อออกมาสวยปัง 

ตรงนี้เป็นมุมชิลล์ๆริมสระว่ายน้ำค่ะ

ใครอยากอยู่ที่ร่มๆรับลมอย่างเดียว

ต้องมุมนี้เลยยย 

ใครเป็นสายเฮลท์ตี้ ชอบออกกำลังกาย

ไม่ต้องห่วงจ้า เพราะฟิตเนสที่นี่เขา

เปิด 24 ชั่วโมง แถมมีอุปกรณ์ครบสุดๆ 

ขนาดในฟิตเนส วิ่งไปดูวิวไปก็ยังได้ บรรยากาศดีเนอะ 

คอนเซ็ปต์การตกแต่งภายในโรงแรมเค้าชัดมากจริงๆ 

ทั้งกลิ่นอายความไทยโบราณ ทั้งความโมเดิร์นที่ผสมกันอย่างลงตัว 

คือมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาก ขอย้ำอีกครั้งว่าถ่ายรูปได้ทุกมุมจริงๆ 

22 Steps Craft House 

ห้องอาหารชั้น M ตกแต่งแบบสบายๆ

ที่นั่งกว้าง ไม่อึดอัด ให้มู้ดโรแมนติกหน่อยๆ

มานั่งดื่มคราฟท์เบียร์ / ดราฟท์เบียร์ ชิลล์ๆ แกล้มของทานเล่น แต่รสชาติ

อร่อยไม่ใช่เล่นๆเลยเธอ 

มุมที่นั่งตรงนี้น่ารักมาก มีหนังสือให้ยืม

อ่านเล่น หรือจะยืมมาเป็นพร็อพ

ถ่ายรูปสวยๆก็ได้ค่ะ 

เอาภาพมุมหนึ่งของ lobby มาให้ดูกันค่ะ

อย่างที่รู้กันว่าที่นี่ตั้งอยู่บนถนนวิทยุ

ตามผนังเขาก็เลยตกแต่งด้วยวิทยุรุ่นเก่าๆ

เก๋มาก ครีเอทมากกก 

CHAR Rooftop Bar 

บาร์ไวบ์ดี ค็อกเทลอร่อยที่ตั้งอยู่บนชั้น 26

มีดีเจ คอยเปิดเพลง ทุกคืนวันศุกร์-เสาร์

เรื่องบรรยากาศคือไม่ต้องพูดถึง

เพราะไม่ว่าจะเป็นโซนไหนของโรงแรมนี้

ก็แทบจะมองเห็นวิวเมืองได้แบบอินฟินิตี้เลย 

Vibe แบบจะมากับแฟนก็หวาน

จะมากับเพื่อนก็สนุก เลือกมุมที่ชอบนั่งได้ตามใจเล้ยยย 

ผนังอิฐตรงนี้เก๋มากก

จัดไปอีกหนึ่งแชะแล้วกัน 

ก่อนเลื่อนไปอ่านต่อ ฝากกดติดตาม 𝐁𝐥𝐢𝐬𝐬 𝐎𝐮𝐭 𝐓𝐡𝐞𝐫𝐞 

ให้ครบทุกช่องทางด้วยน้า 

FB : Bliss Out There

IG เพจ : blissoutthere

IG แอดมิน : pingpitchayaa

TikTok : blissoutthere

YouTube : Bliss Out There

Website : https://blissoutthere.com

CHAR Restaurant 

หรือห้องอาหารชาร์นั่นเองค่ะ

ห้องอาหารนี้ตั้งอยู่บนชั้น 25 ของโรงแรม

เขามาในคอนเซ็ปต์ Contemporary Grill

เป็นเมนูสเต็กและอาหารทะเล โดยใช้วัตถุดิบ

สดใหม่ทั้งจากในและต่างประเทศ บอกเลยว่าอร่อยฉ่ำ 

วิวที่ห้องนี้สวยเว่อร์มาก

คนที่ไม่ได้พักที่นี่ไม่ต้องน้อยใจ

เพราะไม่ว่าใครก็เข้ามาใช้บริการได้นะ 

ส่วนตัวนี่ชอบที่นั่งโซนนี้มาก โรแมนติก 

สำหรับ 3-Course Surprise Menu

เราไปกัน 2 คน ได้ทานตามนี้เลยค่ะ 

- Wild Mushroom & Truffle Soup

- Tuna Tartare

- Roasted Salmon

- Wagyu Ribeye Steak

- Raspberry Sponge Cake served with vanilla ice cream

- Banana-Chocolate Cakes served with macadamias, caramelized banana and coffee ice cream

เมนูจานแรกที่เราได้ทานก็คือ

Tuna Tartare เป็นทูน่าดิบ

ส่วนประกอบหลักๆก็จะมีซอสเผ็ด, มะกอกดำ,

มูสอะโวคาโด้ แล้วก็ไข่ปลาแซลมอน ทานแล้วสดชื่นมาก 

ลองทานคู่กับ cracker ก็ได้อีก textureนึงน้า 

ส่วน Wild Mushroom &

Truffle Soup เป็นซุปเห็ดป่า

ผสมเห็ดทรัฟเฟิล รสชาติเข้มข้น หอมเห็ดมากๆ 

จานต่อไปเป็นเมนู Roasted Salmon ค่ะ 

เมนูนี้เค้าจะเสิร์ฟพร้อมกับ carrot-ginger purée, 

กะหล่ำปลี, ควินัว, หอมแดงใหญ่ดอง

แล้วก็องุ่น ใดๆคือแซลมอนสุกกำลังดี เนื้อฉ่ำมาก 

ทานคู่กันแล้วมีรสหวานเปรี้ยวแบบลงตัวกำลังดี

ต่อไป Wagyu Ribeye Steak 

จานนี้ประกอบไปด้วยมันฝรั่งบดใส่พาเมซานชีส,

ผักย่าง แล้วก็ราดด้วยซอสชิมิชูรี

เราชอบจานนี้ที่สุด เพราะเนื้อนุ่มมากกก

กับมันบดก็นุ่มละลายในปาก รสชาติซอสก็เข้ากันสุดๆ 

CHAR Restaurant เปิดให้บริการทุกวัน

เวลา 17.00-22.30 น. นะคะ 

คอร์สอาหารนี้ราคาจะอยู่ที่ประมาณ 1500++ บ. / 3 คอร์ส / คน ไม่รวมเครื่องดื่มน้า

ขอย้ำอีกครั้งว่าถึงจะไม่ได้เข้าพัก ก็เข้ามาทานได้นะ!

ส่วนใครที่อยากดูรายละเอียดเมนูเพิ่มเติมลองเข้าไปดูได้ที่

https://bit.ly/3xeDaxU เลยจ้า

และเมนูของหวานในวันนี้ก็คือออRaspberry Sponge Cake 

เสิร์ฟพร้อมไอศกรีมวานิลลา ทานคู่กับ Banana-Chocolate Cakes 

ประกอบกับถั่วแมคคาเดเมีย,กล้วยคาราเมล แล้วก็ไอศกรีมกาแฟ 

ปังกว่าของคาว ก็คือของหวานพูดเลย

อร่อยลงตัวมากทั้งสองจาน ส่วนตัวชอบ caramelized banana 

and coffee ice cream ที่เสิร์ฟมากับจานที่สอง 

รสชาติหวานมัน เค็มนิดๆ ทำให้ทั้งจานอร่อยขึ้นมาก 

อาหารเช้าที่ห้องอาหาร Metro On Wireless 

อยู่ที่ 2 เสิร์ฟทั้งอาหารไทย Street Food 

อาหารเอเชี่ยนชาติอื่นๆ และ อาหารตะวันตก 

ถือว่าของสดแล้วก็มีตัวเลือกเยอะมากๆ 

เมนูทุกจานต้องถูกใจคนไทยแน่นอน 

มีทั้งก๋วยเตี๋ยว น้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ ฯลฯ

โอ้ย อยากกลับไปทานอีก 

นอกจากนี้ยังสั่งเมนู a la carte ได้ด้วยน้า

มีพวกเมนูไข่ต่างๆ แพนเค้ก และ วาฟเฟิล หลากหลายสุดๆ 

อีกหนึ่งไฮไลท์ของที่โรงแรมนี้ก็คือ

แคมเปญ Borrowed by Hotel Indigo 

เป็นแคมเปญที่ชวนให้คนที่เข้าพัก

มายืมไอเทมต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของแต่ละคน เช่น

- ธีมสวยเลิศ –ยืมชุดไทย / ชุดแกสบี้ไปถ่ายรูปชิคๆได้ทุกที่

- ธีมเที่ยวตลอด – จะมีเครื่องมือกำจัดความร้อนให้ยืมระหว่างไปเที่ยว 

อย่างเช่นพัดลมมือถือ กระเป๋าผ้า ร่ม ยาดม 

สเปรย์เย็น แผนที่เที่ยวรอบๆโรงแรม

- ธีมแสนสบาย – เอาใจสายปิกนิค โดยในเซตจะมีพัด 

ลำโพงพกพา ผ้าปู ยากันยุง ปิ่นโตไปนั่งชิลล์ๆ พักผ่อนในวันหยุดกันด้วย

Café 81 

เป็นคาเฟ่ที่อยู่บริเวณล็อบบี้ มีทั้งกาแฟ ชา

น้ำผลไม้ รวมถึงเบเกอรี่โฮมเมดในสไตล์

Grab & Go คอยให้บริการสำหรับคนที่

ไม่มีเวลาทานอาหารแต่ต้องการหาของรองท้อง 

ใครที่กำลังมองหาโรงแรมใจกลางเมือง

วิวสวย เดินทางง่าย นอนสบาย และที่สำคัญคือ

อาหารอร่อยมากกก เราอยากแนะนำให้

ลองมาที่ Hotel Indigo Bangkok

ถนนวิทยุกันดูน้า มันคุ้ม และดีต่อการพักใจที่สุดแล้ววว

ไม่อยากพลาดรีวิวโรงแรมปังๆ

ข้อมูลแน่นๆแบบนี้ ฝากติดตาม

𝐁𝐥𝐢𝐬𝐬 𝐎𝐮𝐭 𝐓𝐡𝐞𝐫𝐞 ให้ครบ ทุกช่องทางด้วยน้า

FB : https://www.facebook.com/BlissOutThere/

IG : https://www.instagram.com/blissoutthere/

IG แอดมิน : https://instagram.com/pingpitchayaa

YouTube : https://www.youtube.com/c/BlissOutThere

Website : https://blissoutthere.com/

Line : https://lin.ee/3R4lVCCv

แล้วเจอกันใหม่รีวิวหน้า บ๊ายบายยย