ภูเก็ต มีความหลากหลายของอาหารเป็นอย่างมาก และที่โดดเด่นเลยเห็นจะเป็นอาหารพื้นเมืองซึ่งมีอัตลักษณ์ สูตรลับเฉพาะที่ถ่ายทอดผ่านคนในครอบครัว ไม่สามารถหาทานที่อื่นได้ อาหารบางเมนูหาทานได้เฉพาะที่ภูเก็ตเท่านั้น ในปี 2558 ยูเนสโกได้ประกาศให้ภูเก็ตเป็นเมืองแรกของไทย และเมืองแรกของอาเซียน เป็นหนึ่งใน 18 เมืองทั่วโลก ที่เป็นเมืองสร้างสรรค์ด้านวิทยาการอาหารหรือ City of Gastronomy

รีวิวนี้ผมเลยจะมาแนะนำร้านอาหารในภูเก็ต 4 ร้าน 4 สไตล์ ที่ผมได้ไปชิมมา เผื่อเพื่อนๆ ไปภูเก็ตแล้วไม่มีไอเดียว่าจะไปทานที่ไหนดี รีวิวนี้อาจจะช่วยทำให้อาหารมื้อธรรมดา เป็นอาหารมื้อที่ถูกปากถูกใจของเพื่อนๆ ก็เป็นได้นะครับ


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

หมี่สะปำคุณยายเจียร

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอเริ่มที่ร้าน " หมี่สะปำคุณยายเจียร" ร้านนี้เป็นร้านขายอาหารพื้นเมือง อยู่คู่ภูเก็ตมานานกว่า 50 ปี ที่นี่มีหลากหลายเมนูเลยทีเดียว ตัวร้านเป็นร้านกว้างๆ ชั้นเดียว ขอบอกว่า ลูกค้าเยอะมากๆ ครับ

การเดินทางมาร้านหมี่สะปำคุณยายเจียร หากมาจากอนุสาวรีย์ท้าวเทพกษัตรีฯ ให้ขับตรงมาทางเข้าตัวเมือง จนมาถึงแยกบายพาสทางขวามือ แต่เราขับตรงไปอีกนิดหน่อย ร้านจะอยู่ทางขวามือ ให้กลับรถตรงโชว์รูมมิตซูบิชิ จอดรถขนานกับฟุตบาทหน้าร้านครับ

มาร้านหมี่สะปำก็ต้องลอง " หมี่สะปำ" ซิครับ หมี่สะปำ ถือเป็นพระเอกของร้านนี้ เป็นหมี่ผัดฮกเกี้ยน ลักษณะจะเป็นเส้นหมี่สีเหลือง เอามาผัดกับผักกวางตุ้ง เสริมด้วยเนื้อปลา กุ้ง ปลาหมึก ลูกชิ้นปลา เมนูนี้มีทั้งใส่ไข่และไม่ใส่ไข่ครับ

" โอต้าว" เมนูนี้คล้ายๆ หอยทอดภาคกลาง แต่ที่นี่ใช้หอยติบ (หอยนางรมตัวเล็กๆ ที่อยู่ตามธรรมชาติ ไม่ใช่หอยเลี้ยง) ผัดรวมกับเผือกนึ่ง ไข่ และแป้งสาลีผสมแป้งมันสำปะหลัง แป้งจะรวมกับน้ำของเผือก ทำให้หวาน เนื้อแป้งเหนียวนุ่ม โรยหน้าด้วยกากหมู หอมแดงเจียว เสิร์ฟพร้อมถั่วงอกดิบ ทานคู่กับซอสพริก จานนี้ถูกปากผมจริงๆ ครับ เชื่อกันว่าการทานโอต้าวจะทำให้ลูกหลานรักกันเหนียวแน่นเหมือนกับโอต้าวที่มีความเหนียวนุ่ม

ตามมาด้วย " หอยทอด" หอยทอดที่นี่ไม่เหมือนหอยทอดภาคกลางที่จะผสมแป้ง หอยแมลงภู่ และถั่วงอก ผัดรวมกันพร้อมใส่ไข่ แต่ที่นี่จะใช้หอยติบมาผัดกับถั่วงอก เสิร์ฟพร้อมแป้งที่บางกรอบม้วนแยกออกมาต่างหาก ทานคู่กับซอสพริก อร่อยเข้ากันดีเลย

" ปอเปี๊ยะสดเนื้อปู" จานนี้อร่อยดีทีเดียวครับ


" กระเพาะปลา" จานนี้ไม่ใช่อาหารพื้นเมืองครับ สั่งเพราะความอยากทานมากกว่า

" เกี๊ยวทอด" ถึงจะไม่ใช่อาหารพื้นเมือง แต่เห็นโต๊ะข้างๆ เขาสั่งมาแล้วอดใจไม่ไหวครับ เลยขอสั่งมาเคี้ยวเล่นสัก 1 จาน

ปิดท้ายด้วย " โอ้เอ๋ว" ของหวานที่หาทานได้ที่ภูเก็ตที่เดียวครับ โอ้เอ๋วทำมาจากวุ้นของเมล็ดโอ้เอ๋ว ที่แช่น้ำแล้วใช้เมือกโอ้เอ๋วมาผสมกับเมือกของกล้วยน้ำว้า เพื่อให้โอ้เอ๋วจับตัวเป็นก้อน เวลาทานก็ตัดมาเป็นชิ้นๆ ทานคู่กับน้ำเชื่อมและน้ำแข็งใส อร่อยชื่นใจดีครับ


นอกจากนี้ยังมีอาหารพื้นเมืองอย่างอื่นอีก เช่น หมี่หุ้นกระดูกหมูตุ๋นยาจีน โลบะ อูแช แต่ผมไม่ได้สั่งมาลอง เพราะอิ่มซะก่อนครับ ร้านหมี่สะปำคุณยายเจียร เปิดทุกวัน ตั้งแต่ 10.00-18.00 น. นะครับ


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ร้านหมอมูดง

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ร้านที่สอง "ร้านหมอมูดง" ร้านนี้จะเป็นร้านอาหารใต้สไตล์ลูกทุ่งนิดๆ ชื่อร้านอาจจะฟังดูแปลกๆ ตอนแรกผมคิดว่าเจ้าของร้านเป็นหมอเสียอีก แต่แท้จริงแล้วเจ้าของร้านชื่อ "หมอ" มาตั้งร้านอยู่ริมคลองมูดง เหตุนี้จึงน่าจะเป็นที่มาของชื่อร้าน หมอมูดงครับ

การเดินทางมาร้านหมอมูดง หากมาจากตัวเมืองภูเก็ต ให้ใช้เส้นทางถนนเจ้าฟ้า เส้นทางเดียวกับสวนสัตว์ภูเก็ต ขับตรงมาเรื่อยๆ จนถึงสามแยกป่าหล่าย ให้เลี้ยวซ้ายที่นี่ สังเกตจะเห็นป้ายชี้บอกมายังร้าน เมื่อเลี้ยวซ้ายแล้วให้ตรงไปจนสุดซอย แต่ถ้าไม่ชำนาญเส้นทางแนะนำให้จับ GPS มาจะชัวร์กว่า จะได้ไม่หงุดหงิดก่อนทานอาหารครับ

เจอป้ายร้านแบบนี้ เลี้ยวขวาเข้าไปด้านในเลย ด้านในมีที่จอดรถไว้ให้พร้อมครับ

สภาพร้านคล้ายบรรยากาศในสวน แบบลูกทุ่ง มีศาลามุงจากหลายหลังตั้งอยู่ริมคลองมูดงเลยครับ

นั่งทานอาหารไป ชมบรรยากาศป่าชายเลนไปพร้อมๆ กันครับ

หลังสั่งอาหาร น้องพนักงานจะนำผลไม้มาเสริฟ มีทั้งสับปะรด ฝรั่ง และมะม่วง มาพร้อมเกลือเคย หน้าตาคล้ายน้ำปลาหวาน ผมเพิ่งมารู้ว่าเป็นน้ำปลาหวานก็หลังจากผลไม้หมดแล้ว แล้วเกิดสงสัยว่ามันคืออะไร จนต้องถามน้องพนักงาน ถึงได้รู้ว่าที่นี่เขาเรียกเกลือเคยครับ

"ยำสาหร่าย" สาหร่ายที่ทางร้านนำมาเสิร์ฟเป็นสาหร่ายพวงองุ่น โดยจะแยกระหว่างสาหร่ายและน้ำยำออกจากกัน ตัวสาหร่ายมีรสชาติออกเค็มๆ ยิ่งตรงปลายของสาหร่ายจะมีลักษณะเหมือนถุงน้ำกลมๆ ถ้าหากกินสดโดยที่ยังไม่ราดน้ำยำลงไป เวลาเคี้ยวสาหร่าย ถุงน้ำกลมๆ ที่ปลายสาหร่ายจะแตกกระจายทั่วทั้งปาก รับรู้ถึงรสความเค็ม แต่เมื่อเอาน้ำยำมาราดแล้ว มันทำให้รสชาติกลมกล่อมมากๆ ครับ

"สะตอผัดกุ้ง" จานนี้ความมันของสะตอ บวกกับความเค็มของกะปิ รสชาติกลมกล่อมดีครับ

"ปลายัดไส้"ทางร้านจะขูดเนื้อปลาลังแล้วนำไปคลุกเคล้ากับเครื่องแกง ปรุงรสจนได้ที่ แล้วนำเนื้อปลาที่ปรุงรสไว้แล้วกลับมายัดในตัวปลาอีกครั้ง จากนั้นนำไปทอด เมนูนี้ให้อารมณ์คล้ายๆ ปลาทอดมันภาคกลาง รสชาติออกเผ็ดพอควร เนื้อปลาเหนียวกำลังดี ขอบอกเลยว่ามาที่ร้านนี้แล้ว ไม่สั่งเมนูนี้ ถือว่าพลาดอย่างแรงครับ

"มะเขือยาวทอดเครื่อง" ทางร้านจะนำมะเขือยาวมาเผาแล้วแผ่ออกมาเป็นแผ่น จากนั้นจะราดหน้าด้วยเนื้อปลาคั่วกับเครื่องแกง ความหวานของมะเขือยาว มันตัดกับความเผ็ดร้อนของเครื่องแกง ลงตัวมากๆ ครับ

"หมูคั่วเกลือ" ทำจากหมูสามชั้น มีรสชาติเค็มกำลังดี เมนูนี้ช่วยตัดความเปรี้ยวของยำสาหร่าย และตัดเผ็ดได้เป็นอย่างดีครับ

"น้ำพริกฉิ้งฉ้างทอด" เมนูนี้ปลาฉิ้งฉ้างทอดถือเป็นพระเอกครับ รสชาติน้ำพริกดีทีเดียว ตัดเผ็ดด้วยผักลวก อร่อยมากๆ

"ปลากะพงต้มขมิ้น" รสชาติดีเลยทีเดียว อมหวานอมเปรี้ยว อร่อยอีกเช่นกันครับ

รสชาติอาหารที่ร้านหมอมูดงถือว่าจัดจ้าน ถูกใจคนชอบทานเผ็ดอย่างแน่นอน ทานแล้วจะร้องว่า "หรอยจังฮู้" ราคาอาหารถือว่าไม่แพงครับ ร้านนี้เปิดบริการทุกวันตั้งแต่เวลา 10.00-21.00 น. แต่ดูแล้วช่วงค่ำๆ ยุงน่าจะเยอะนะครับ เพราะอยู่ในบรรยากาศสวนและอยู่ติดน้ำด้วย


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ข้าวต้ม 25 น.

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

ร้านที่สาม " ข้าวต้ม 25 น." ร้านนี้มาสไตล์ร้านข้าวต้ม ทานช่วงมื้อค่ำครับ

ร้านอาหารตามชายหาดที่อยู่ห่างจากตัวเมืองมากๆ จะเป็นสไตล์ผับ บาร์ เสียเป็นส่วนใหญ่ จะว่าไปหาร้านอาหารที่เน้นขายอาหารเป็นหลักค่อนข้างยาก และส่วนใหญ่จะเน้นขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และแน่นอนราคาก็ต้องแพงตามไปด้วย สำหรับร้านที่ผมจะแนะนำนี้เป็นร้านสไตล์ร้านข้าวต้ม อยู่เชิงทะเล เขตพื้นที่หาดบางเทา ตั้งอยู่ริมถนนใหญ่ศรีสุนทร ชื่อร้าน "ข้าวต้ม 25 น." ครับ

ถึงจะชื่อร้านข้าวต้ม แต่ไม่ได้ขายข้าวต้มอย่างเดียว เน้นอาหารตามสั่ง ที่ทานได้กับข้าวต้มหรือข้าวสวยครับ

เริ่มด้วย " ยำวุ้นเส้น" อัดแน่นด้วยกุ้งและปลาหมึกครับ

" คะน้าปลาเค็ม" ทานคู่กับข้าวต้มหรือข้าวสวยร้อนๆ อร่อยเลยทีเดียว

" สะตอผัดกุ้ง" ผมว่ารสชาติที่หมอมูดงโดนลิ้นมากกว่าครับ แต่ที่นี่ก็ถือว่าไม่ได้ด้อยกว่ากันสักเท่าไร

" ผัดเห็ดสามอย่าง" เห็ดหอม เห็ดนางฟ้า เห็ดฟาง ผัดรวม เพิ่มความหวานด้วยแครอท เมนูนี้สั่งมาเพื่อตัดความเผ็ดจากเมนูอื่นๆ

"ไก่บ้านต้มขมิ้น" รสชาติกำลังดี เปรี้ยวนำนิดๆ เค็มกำลังดี มีกลิ่นหอมจากเครื่องสมุนไพรครับ

" หอยตลับผัดน้ำพริกเผา" หอยตลับตัวใหญ่ ผัดรวมกับน้ำพริกเผา ความหวานของน้ำพริกเผาแทรกในเนื้อหอย อร่อยเชียวครับ

" หอยแครงเผา" ขนาดหอยไม่เล็กและไม่ใหญ่เกินไป ทานคู่กับน้ำจิ้ม Seafood รสแซบมากครับ

รสชาติอาหารโดยรวมให้ผ่านครับ สำหรับราคาถือว่าไม่แรงอย่างที่คิด ผมว่าร้านนี้เน้นขายให้คนพื้นที่ รวมถึงนักท่องเที่ยวชาวไทย ราคาเลยไม่แพงครับ


----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

กันเอง 2

----------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

สำหรับร้านสุดท้าย อร่อยทั้งอาหาร และอิ่มเอมทั้งบรรยากาศกับร้าน " กันเอง 2"

ร้านกันเองมี 2 สาขานะครับ แต่ผมมาภูเก็ตที่ไร จะมาที่ร้านกันเอง 2 ตลอด ร้านกันเอง 2 ให้บริการทั้งอาหารไทย อาหารทะเล และอาหารพื้นเมืองปักษ์ใต้ครับ

การเดินทางมายังร้านกันเอง 2 จากวงเวียนห้าแยกฉลอง ให้มาตามถนนเจ้าฟ้าตะวันออก เส้นทางทีจะเข้าตัวเมืองภูเก็ต ประมาณ 600 เมตร จะเห็นซอยขวามือ มองเห็นป้ายร้านกันเอง 2 ใหญ่เบ้อเร่อ ให้เลี้ยวเข้าซอยไปอีกประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงร้านครับ

บรรยากาศของร้านดีทีเดียว ร่มรื่นแถมยังติดอ่าวฉลองเลยครับ

เริ่มที่ " ใบเหลียงผัดกุ้งเสียบ" เคยทานแต่ใบเหลียงผัดไข่ คราวนี้ลองเปลี่ยนมาเป็นกุ้งเสียบดูบ้าง ต้องบอกว่าเข้าท่าดีเหมือนกันครับ

ต้องยกนิ้วโป้งให้เมนูนี้เลยครับ " หมี่หุ้นแกงปู" แกงปูที่นี่รสชาติเข้มข้นมาก อัดแน่นด้วยเนื้อปูเป็นก้อนๆ ทานคู่กับเส้นหมี่ อร่อยมากๆ ครับ

" แกงส้มปลากะพง" ผมสั่งแบบใส่ยอดมะพร้าว ความหวานของยอดมะพร้าว ช่วยตัดความเปรี้ยวของแกงส้มได้อย่างลงตัว ทานคู่กับข้าวสวยร้อนๆ อร่อยมากเลยครับ

" ยำไข่แมงดา" เมนูนี้เปรี้ยวได้ใจจากมะม่วงซอย ได้ความมันจากไข่แมงดา อร่อยอีกเช่นกันครับ

" ออส่วน" เสิร์ฟมาบนกระทะร้อน เมนูนี้ทานแก้เผ็ดได้เป็นอย่างดีครับ

" ปูนึ่ง" ปูสดมากๆ เนื้อหวาน ทานคู่กับน้ำจิ้มซีฟู๊ด อร่อยสุดๆ ครับ

" หอยนางรม" ตัวใหญ่มาก

โดยรวมแล้ว ร้านนี้ถือว่าผ่าน ถึงแม้ว่าราคาอาจจะแรงไปสักนิด แต่ผมว่าคุ้มค่ากับคุณภาพ รสชาติ รวมถึงบรรยากาศ จึงไม่แปลกเลยว่ามาภูเก็ตแต่ละครั้ง ผมจะไม่พลาดที่จะมาทานร้านนี้ ร้านกันเอง 2 เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. ครับ

ความคิดเห็น