ตอนนี้ถ้าพูดถึงเลห์ ลาดักห์ น้อยคนที่จะไม่รู้จักที่นี่ จากคำบอกเล่าปากต่อปากที่เล่าสู่กันฟังทำให้เลห์กลายเป็นที่รู้จักมากขึ้นในหมู่นักท่องเที่ยวที่รักหิมาลัย

แต่ด้วยสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงแปรปรวนของดินแดนทิเบตน้อยแห่งนี้ อาจทำเหล่าบรรดาแบคแพคเกอร์รุ่นเล็กรุ่นใหญ่สงสัยกันว่า ช่วงไหน สวยหรือแตกต่างกันอย่างไร

กระทู้นี้เลยจะขอรวบรวมความสวยงามและความแตกต่างของฤดูทั้ง 4 ที่เลห์ และสถานที่ท่องเที่ยวรอบๆ มาให้เพื่อนๆรับชม เผื่อจะช่วยให้ตัดสินใจได้ว่า รักหรืออยากมาเที่ยวฤดูไหนมากกว่ากัน

ฤดูใบไม้ผลิ
ปลายเม.ย - พ.ค

| การเริ่มต้น |

จากความหนาวเหน็บในช่วงฤดูหนาวทำให้ทั้งเมืองเหมือนเป็นเมืองร้าง แต่เมื่อเริ่มเข้าสู่ฤดูใบไม้ผลิ ทุกอย่างก็เริ่มต้นตามวิถีของมันใหม่อีกครั้ง ใบไม้เริ่มผลิใบเขียว ตามหมู่บ้านรอบๆเลห์ เราจะเห็นเชอร์รี่บลอสซั่ม แข่งกันออกดอกสีขาวสีชมพูตามสวนก่อนที่จะกลายเป็นผลแอปริคอตและแอปเปิ้ล พร้อมกับความสงบในตัวเมืองเลห์ที่ยังคงเดิม โดยไม่มีนักท่องเที่ยวเยอะมากนัก

- Confluence of Indus and Zanskar river -

ตามโรงแรม ร้านค้าต่างๆที่เจ้าของเป็นคนต่างเมือง ก็เริ่มกลับมาทำมาความสะอาดเปิดร้าน เปิดโรงแรมเพื่อรอรับนักท่องเที่ยวกันอีกครั้ง

- บน Spring | ล่าง Summer -

ช่วงนี้บนพาสจะพบหิมะเยอะมากอยู่ ได้เล่นหิมะกันสมใจแน่นอน แต่ข้อเสียคือ หากต้องการเดินทางมาเลห์ทางรถ ไม่ว่าจะจากศรีนาการ์หรือมะนาลี จะผ่านไฮเวย์พาส ที่เวลาเปิดจะขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในปีนั้นๆด้วย หากปีไหนหิมะบนพาสระหว่างเขตยังไม่ละลาย กำหนดเปิดอาจเลื่อนออกไปอีก ฉะนั้นหากต้องการมาช่วงเวลานี้ทางรถอาจจะเสี่ยงที่จะต้องนั่งเครื่องบินไปแทนหากพาสยังปิดอยู่

ทั้งเรื่องอากาศก็ยังไม่ค่อยแน่นอน บางช่วงอากาศไม่ดี หิมะตกหนัก พาสในเลห์เองก็ปิดขึ้นมาดื้อๆ อันนี้ก็แล้วแต่ดวง เหตุการณ์พาสปิดมีโอกาสเกิดขึ้นได้ทุกฤดู

- หิมะบนชังลาและคาร์ดุงลา -

ส่วนอาหารนั้นจะมีของให้กินมากกินน้อยก็ขึ้นอยู่กับพาสเปิดหรือยังนั่นแหละค่ะ เพราะของบางอย่างก็ต้องนำเข้าจากเมืองอื่น เราเคยเจอไข่ไม่มี ผักไม่มี โค้กสักขวดยังหายาก มีแต่ของเก่าที่ค้างสต๊อคไว้ตั้งแต่ก่อนโซจิลา-โรทังลาพาสจะปิด

ช่วงนี้จะได้ธีมเมืองเลห์ไม่วุ่นวาย ภูเขาที่ตัดกับดอกเชอร์รี่บลอสซั่ม คนชอบอากาศหนาวๆหิมะเยอะๆแบบไม่หนาวโหดเกินไป อีกทั้งยังคงความสงบไม่จอแจน่าจะชอบฤดูนี้

สถานที่ท่องเที่ยวทั่วไปเช่นนูบร้า วัลเลย์ (Nubra Valley) ทะเลสาบแปงกอง (Pangong Tso) เที่ยวได้สวยงามตามปกติ ถ้าเจอฟ้าใสๆอะไรก็ดีหมด ส่วนทะเลสาบยังมีบางส่วนเป็นน้ำแข็ง สวยงามไปอีกแบบ

ช่วงเวลาโซจิลาและโรทังลา เปิดโดยประมาณปลายเม.ย - ต.ค

อุณหภูมิ : -5 - 12

---

ฤดูร้อน
มิ.ย - ส.ค.

| ความรื่นเริง มีชีวิตชีวา |

ด้วยอากาศที่ค่อยๆเริ่มอุ่นขึ้นเรื่อยๆ ช่วงนี้เราจะเห็นต้นป๊อปล่าออกใบสีเขียวขจีสดใสตามที่ราบในหุบเขาอยู่เต็มไปหมดระหว่างทางจากเลห์ไปทะเลสาบแปงกอง จะมีทุ่งมัสตาร์ดออกดอกเต็มแปลงสลับกับทุ่งข้าวบาเลย์อยู่มาก มองไกลๆจะเห็นเป็นทุ่งสีเหลืองสลับเขียว ดูสดชื่น อุดมสมบูรณ์ มีชีวิตชีวา

ตามระหว่างทางมีดอกไม้ป่าสีเหลืองสีม่วง สีชมพูขึ้นแซมตามซอกหินซอกเขาอยู่กระจัดกระจาย จามรีและลาพากันกินหญ้าเพลิดเพลินมีความสุข ตัว Marmot ตื่นจากการหลับใหลใต้พื้นดินในฤดูหนาว ซึ่งมีโอกาสพบได้มากในฤดูนี้ พวกมันพากันออกมาวิ่งเล่นสนุกสนาน ราวกับกำลังต้อนรับนักท่องเที่ยว

ปลายก.ค - ส.ค จะเริ่มเข้าหน้าร้อนเต็มตัว กลางวันแดดแรงร้อนจัด กลางคืนอากาศดี ฟ้าใส เหมาะกับการชมดาวถ่ายดาวมากๆอากาศไม่หนาวทรมาน จิบเบียร์ดูดาวกำลังชิลดี แต่อาจไม่เห็นทุ่งมัสตาร์ดแล้ว ส่วนทุ่งข้าวจะเริ่มออกรวงเป็นสีเหลือง

- กลาง ก.ค. -

- กลาง ส.ค. -

น้ำตามแม่น้ำเริ่มเป็นสีขุ่นข้น เนื่องจากหิมะที่ละลายได้ชะล้างเอาดินลงสู่แม่น้ำด้วย หากอยากมาเจอหิมะอาจจะยังมีให้เห็นตามคาร์ดุงลาอยู่

- บางช่วงก็เกิดจราจลติดขัดบนพาส | หิมะเหลือพอเล่นได้อยู่ -

เป็นช่วงที่เหมาะทำกิจกรรมได้หลากหลายมากกว่าฤดูอื่น ไม่ว่าจะแคมป์ปิ้ง ขี่จักรยาน มอเตอร์ไบค์ เทรคกิ้ง ราฟติ้ง ได้หมด ทั้งยังสามารถเดินทางได้ทางรถทั้ง 2 เส้นทาง (ศรีนาการ์-เลห์ หรือ มะนาลี-เลห์ ที่มีความสวยงามแตกต่าง) และหุบเขาซันสการ์ทางรถก็เหมาะที่จะเข้าไปเที่ยวในฤดูนี้เช่นกัน

- Parkachik Glacier -

- Suru river -

- Likir Gompa -

- Ney Gompa -

- Rohtang La | Manali - Leh highway -

- Moriri Lake | Korzok -

เลยเป็นช่วงที่จะเจอกระแสนักท่องเที่ยวจากทุกประเทศเยอะที่สุด รวมทั้งคนอินเดียเอง เพราะนอกจากอากาศจะไม่หนาวมาก ยังตรงกับเทศกาลระบำหน้ากากของวัดเฮมิส วัดใหญ่และสำคัญมากอีกแห่งในลาดักห์ เราจะได้เห็นคนท้องถิ่นแต่งตัวสวยงามตามประเพณีแห่แหนกันมาเข้าร่วมพิธีอีกด้วย (กำหนดการจัดแต่ละปี ประมาณมิ.ย.-ก.ค. ตรงกับวันเกิดขององค์คุรุปัทมาสัมภพ ซึ่งจะจัดทุกวันที่ 10 เดือน 5 ตามปฎิทินทิเบต เห็นว่าปีหน้า 2016 จะเป็นงานบุญใหญ่ที่จัดทุกๆ 12 ปี ที่จะทำพิธีคลี่ผ้าทังก้าผืนใหญ่ที่สุดในลาดักห์ออกมาให้ผู้คนได้สักการะกัน ส่วนเรายังไม่เคยไปตรงกับช่วงจัดงาน แหะๆ)

จริงอยู่ว่าช่วงนี้เลห์อากาศอบอุ่นที่สุด แต่คนก็เยอะจอแจ ฝุ่นเยอะมากที่สุดเช่นกัน หากต้องการเดินทางมาช่วงนี้ ถ้ามาเป็นกลุ่มใหญ่ๆ แนะนำให้ติดต่อรถหรือโรงแรมไว้เนิ่นๆค่ะ ฤดูนี้ก็สวย กลางคืนอากาศดี กลางวันแดดแรงร้อนมากกก แต่ฟ้าใส ความสงบเงียบเป็นส่วนตัวนั้นอาจหาได้ยาก คงต้องเผื่อใจ ทำใจเย็นนิดนึง หากไปเที่ยวที่ไหนก็เจอแต่คนๆๆ เพราะเป็นช่วงไฮซีซั่นของเค้าละเนอะ

- Pangong Tso -

อาหาร ไม่ขาดแคลนอะไร สั่งเมนูไหน ก็ทำให้ได้ ร้านอาหารร้านค้าเปิดทุกร้าน ร้านดังๆนั้นคนเยอะแน่นอน ที่เห็นนิยมกันก็จะเป็น Chopsticks, Gesmo, Summer Harvest (ถ้าในเลห์เราก็ชอบ 3 ร้านนี้นะ อิอิ) ส่วนร้านเสื้อผ้า เครื่องประดับ ผ้าพันคอ แฮนด์เมด เคาน์เตอร์ทัวร์ ครึกครื้นสุดๆ

อุณหภูมิ : มิ.ย. = 3 - 16, ก.ค. = 7 - 21, ส.ค. = 10 - 25

---

ฤดูใบไม้ร่วง
ตค - พย.
| งานเลี้ยงต้องมีเลิกรา |

หลังจากส.ค.- ก.ย.เริ่มเป็นช่วงเปลี่ยนฤดูฝนเริ่มตก อากาศแปรปรวน แต่ก็เป็นช่วงสั้นๆ

ก่อนที่ใบไม้จะร่วง ก็เป็นช่วงที่เริ่มเปลี่ยนสีซึ่งต้องกะเกณฑ์เวลาให้พอเหมาะจริงๆ ใบไม้จะเปลี่ยนสีได้สวยพีคเต็มที่แค่ไหนนั้นก็ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศแต่ละปีด้วย (หรือบางทีกำลังจะเปลี่ยนสีสวยๆ เจอฝนเจอลมหนักร่วงหมดต้นไปเลยก็มี)

เห็นว่าปีก่อนๆจะสวยช่วง กลาง-ปลายตค. แต่ปีนี้ 2015 หนาวช้า สวยที่สุดจะเป็นช่วง ต้น พ.ย. (โชคดีที่บังเอิญไป ตค.ไม่ได้ เลยมาช่วงนี้แทน ซึ่งเป็นช่วงใบเหลืองกำลังดีเลย)

เลห์ในช่วงนี้ยอมรับว่าเป็นช่วงที่มีเสน่ห์มาก ทั้งสงบ ทั้งดูเหงาเคล้าโรแมนติกในคราวเดียวกัน เหมือน Autumn ในที่ต่างๆทั่วไป แต่ที่แตกต่างจริงๆเลยคือ เลห์นั้นดูเหงาของจริง

พอเริ่มเข้าสู่โลว์ซีซั่น หลายโรงแรมและร้านค้าก็เริ่มทยอยกันปิดลง เนื่องจากสภาพอากาศที่หนาวจนไม่คุ้มที่จะเปิดรอนักท่องเที่ยวที่เริ่มบางตา ความสะดวกสบายเริ่มน้อยลงตามลำดับคล้ายๆช่วงหน้าหนาวที่อากาศเริ่มเย็นถึงติดลบในตอนกลางคืน

ส่วนพาสข้ามจากศรีนาการ์ หรือมะนาลีนั้น จะปิดประมาณเดือนตค. หากปิดแล้วจะเดินทางมาเลห์ได้ทางเดียวคือ เครื่องบิน

แต่บรรยากาศรอบตัวโรแมนติก สวยงามมากๆ แม้เลห์และหมู่บ้านโดยรอบใกล้เคียง จะไม่ได้เต็มไปด้วยป่าหนาที่จะพร้อมจะเปลี่ยนสีกันเหลืองเต็มเขา แต่ภูมิประเทศ ความคอนทราสของต้นป๊อปล่าเรียงรายสูงต่ำ ลำธารที่เริ่มตกตะกอนกลายเป็นสีฟ้าใสและภูเขาหินทรายอันแห้งแล้งต่างหากที่ดึงดูดให้ดินแดนแห่งนี้ยิ่งดูมีเสน่ห์มากขึ้น

คนชอบถ่ายรูป แค่แสงดีๆเล่นกับเงาของใบไม้เปลี่ยนสีที่ตัดกับท้องฟ้าก็หลงรักจนแท่บไม่ต้องไปไหนให้ไกลเลย

- เจ้าของวันเกิดใส่ชุดสีส้ม -

- งานวันเกิดใหญ่ ที่ตามประเพณีดั้งเดิม ทั้งชีวิตจัดเพียง 1 ครั้ง -

อีกทั้งช่วงนี้จนถึงเข้าฤดูหนาวเราอาจจะได้มีโอกาสเห็นและเข้าร่วมงานประเพณีท้องถิ่น เพราะจะเป็นช่วงที่คนลาดักนิยมจัดงาน เช่นงานแต่ง (เพื่อนบอกว่าหน้าหนาวเป็นช่วงว่างและพักผ่อนจึงนิยมจัดกันช่วงนี้) ส่วนเราบังเอิญไปเจองานวันเกิดพอดีเลยได้ร่วมวงกับเค้าด้วย

- คนลาดักห์ เชื้อสายอารยัน -

เที่ยวช่วงนี้เริ่มจะลำบากเรื่องร้านอาหารโรงแรมบ้าง แต่อากาศยังไม่โหดมากเท่าช่วงหน้าหนาวค่ะ ยังพอมีนักท่องเที่ยวเดินสวนกันบ้างอยู่

อุณหภูมิ : 0 - 5

---

ฤดูหนาว
พ.ย - มี.ค
| กลับคืนสู่สิ่งที่เลห์เป็น ความสงบอย่างแท้จริง |

เป็นฤดูที่เมืองทั้งเมืองแท่บจะกลายเป็นเมืองร้าง โรงแรม ร้านค้า ร้านอาหารกว่า 80% ที่ปิดในช่วงนี้ มีแค่ไม่กี่ที่ที่ยังเปิดอยู่ แม้ตัวเลือกเหล่านี้จะดูน้อยลง แต่ก็ไม่ได้แปลว่ามันจะแย่ แต่กลับกันเราได้รับและเห็นน้ำใจของคนเลห์ที่ช่วยเหลือพวกเราเต็มที่

เราได้เห็นหิมะและน้ำแข็งตามจุดต่างๆรอบเมืองเลห์อยู่เต็มไปหมด น้ำในลำธารตกตะกอนกลายเป็นสีฟ้า สงบมากๆ ทุกชีวิตดำเนินไปตามหน้าที่ของแต่ละคนอย่างเรียบง่ายสวยงาม สัตว์ต่างๆที่อาศัยตามภูเขาหิมาลัย ได้กลับออกมายึดพื้นที่ของพวกมันออกหากินอีกครั้งโดยไม่ต้องเกรงมนุษย์หน้าไหนไปรบกวน

- เด็กน้อยเล่นไอซ์สเก็ตบนลำธารหน้าบ้าน -
- ปั่นขึ้นพาสช่วงนี้ ถ้าไม่เจ๋งจริงทำไม่ได้.. เพราะถ้าเกิดอะไรขึ้นคงหาคนมาช่วยลำบาก -
- หมาจิ้งจอก -
- ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรกับเจ้าเคราะห์ร้ายตัวนี้ เห็นแอ้งแม้งอยู่ข้างทาง -

แต่แน่นอนว่าความลำบากทุกอย่างมากขึ้นเท่าตัว ไม่ว่าจะอากาศที่หนาวเหน็บ กลางวัน - 10 องศา กลางคืน -20 องศา ลำธาร น้ำขวดทิ้งไว้ข้างนอกกลายเป็นน้ำแข็ง น้ำในห้องน้ำไม่ไหล ต้องใส่มาเป็นถัง น้ำแท่บไม่ได้อาบ

พวกเราผ่านทริปนี้มาได้ เพราะการสุมหัวนอนรวมกัน ซึ่งมันช่วยให้อากาศตอนกลางคืนอุ่นขึ้น หรือไม่ก็ขอนอนในห้องรับแขกกลางของเกสเฮาส์ที่มีเตาผิง แม้จะจ่ายค่าที่พักไปแล้วก็ตาม ถ้าถามถึงฮีทเตอร์ บางโรงแรมก็มีแต่อาจคิดค่าฮีทเตอร์เพิ่มค่ะ

- เจอแบบนี้ทุกเช้า -

นึกแล้วขำอยู่เรื่อง ตอนนั้นเราไม่รู้ เปิดห้องมาเจอฮีทเตอร์แบบเสียบปลั๊กอันเล็กเปิดไว้อยู่ในห้องน้ำ ดีใจใหญ่ว่าที่นี่มีฮีทเตอร์ด้วย เลยย้ายไปเปิดในห้อง อีกวันเจ้าของมาเห็น บ่นเราบอกว่าอันนี้น่ะเค้าเปิดไว้ให้ห้องน้ำ ไม่ใช่อันที่ให้แขกใช้ เรานึกในใจ.. ทำไมต้องเปิดให้ห้องน้ำฟระ คนนอนหนาวสั่นจะตายแล้วเนี่ย เพื่อนเลห์เลยอธิบายว่าถ้าไม่ทำให้ห้องน้ำอุ่นตลอด น้ำจะไปแข็งค้างอยู่ในท่อจนทำให้ท่อพัง ต้องมาซ่อมมาดูแลให้เสียงเงินกันอีก เลยต้องมีไว้ให้สำหรับห้องน้ำตลอด เราเลยอ้อออ โอเครรร 555

- เจอน้ำแข็งหล่นจกตา -

แต่ที่เลห์จะเป็นฮีทเตอร์ 2 แบบ โรงแรมอย่างดี 4-5 ดาว ก็จะใช้เครื่องฮีทเตอร์ที่เป็นแผงใหญ่ขาวๆ (แต่บางทีมันก็ไม่ทำงานหรอกนะ 55) กับอีกแบบเป็นฮีทเตอร์ถังแก๊ส แบบนี้เวลาจะนอนต้องปิด ไม่งั้นอันตราย เราเลยไม่ค่อยใช้ ส่วนมากถ้าไม่นอนรวมกันก็จะหิ้วถุงนอนหนีไปนอนห้องรับแขกที่มีเตาผิง รอดไปได้ละ

- ทะเลทรายฮุนเดอร์ กับอูฐที่งดทำการ -

โรงแรมที่เปิดตลอดทั้งปีก็มีตั้งแต่ 5 ดาว จนไปถึงเกสเฮาส์ แต่จะเปิดแค่ไม่กี่ที่ ถ้าจะให้ดีควรจองล่วงหน้า และแม้จะเป็นโลว์ซีซั่น แต่ราคาหน้าหนาวกลับแพงกว่าหน้าร้อน เพราะช่วงนี้จะทำบริการอะไรก็ลำบากเพราะอากาศ น้ำร้อนแต่ละถังที่ต้มให้เรา ก็ต้องใช้แรงคนยกถังมาให้ เห็นแล้วเหนื่อยแทน ส่วนรถถ้าไม่จองก็ยังสามารถหาได้ที่ Taxi Stand ที่อยู่ใกล้ๆกับ Main Bazar ที่อยู่กลางเมือง

- ทะเลสาบแปงกอง หนาวจนกลายเป็นน้ำแข็ง -

ร้านอาหารถึงแม้ส่วนใหญ่จะไม่เปิด แต่ไข่และไก่กลับหาได้ง่ายในฤดูนี้เพราะยังมีสต๊อคไว้ตั้งแต่ก่อนพาสจะปิด ใครคิดจะมาช่วงนี้ก็ไม่ต้องห่วงกลัวจะอดอยาก ผลไม้สดก็ยังหาได้ค่ะ

กิจกรรมในฤดูนี้ก็มีอยู่นะ เช่นการแข่งขันฮอคกี้ และ Chadar trek (Zanskar river trek) ซึ่งเป็นการเดินเทรคบนธารน้ำแข็งเข้าไปยังหมู่บ้านเล็กๆในหุบเขาซันสการ์ ใช้เวลาเดินไป-กลับประมาณ 9-10 วัน

หากมาช่วงธ.ค. ก็จะเจอกับงานปีใหม่ของชาวลาดักห์ (Ladakhi Losar) เห็นว่าปีนี้ 2015 จัดกันวันที่ 12 ธ.ค.ค่ะ (ยึดตามปฎิทินทิเบต)

การเดินทางในฤดูนี้ เสี่ยงกับการที่คาร์ดุงลาและชังลาปิด มากกว่าฤดูอื่นๆ แต่ใครจะรู้ ตอนที่เราไปเดือนก.พ.กลับผ่านฉลุยได้ทั้ง 2 พาส ทั้งนี้ก่อนหน้าที่เราจะมาถึง พาสปิดไปตั้งหลายวัน แถมยังบังเอิญได้เข้าร่วมงานเทศนาตอนที่องค์ดรุกปะ ประมุขของนิกายหมวกแดง เสด็จมาเทศน์ที่วัดเฮมิสพอดี

*คาร์ดุงลา ที่จะข้ามไปนูบร้าวัลเลย์ และชังลา ที่จะข้ามไปทะเลสาบแปงกอง เปิดต่อเนื่องทั้งปี ยกเว้นเจอหิมะตกหนักรถวิ่งไม่ได้ หรือเจอแลนด์สไลด์จึงจะปิด ขึ้นอยู่สภาพอากาศด้วยค่ะ*

อุณหภูมิ : -20 - 2

มีคลิปที่น้องเราตัดเอง ไม่ยาวเท่าไหร่ สงสัยอัดมาไม่เยอะ ฮ่าๆๆ https://www.youtube.com/watch?v=Uh1zYWAsDaQ

สภาพอากาศของเลห์ เปลี่ยนแปลงแปรปรวนได้ตลอด ไม่ว่าจะฤดูไหน บางคนไปช่วงหน้าร้อนแต่ก็เจอพาสปิด แลนสไลด์ข้ามไม่ได้หรือฟ้าไม่ใสก็มี หรืออย่างช่วงที่กำลังจะเปลี่ยนฤดูอาจจะเจอฟ้าเน่า ซึ่งตรงนี้มันคาดเดากันยากอยู่เหมือนกันนะ เช่น เมื่อ 7 วันที่แล้วฟ้าใส ห่างกันแค่ 3 วันกลับมาอีกที ฟ้าเน่า ครึ้มตลอดทั้งทริปก็เป็นได้ เพราะฉะนั้น เราไม่ขอฟันธงว่าถ้าไป แล้วจะเจอเหตุการณ์แบบนี้เสมอไป (กลัววว เดี๋ยวมีคนมาแหก ว่าไปมาแล้วไม่เห็นเจองั้นงี้เลย 555) เราเขียนขึ้นมาจากสิ่งที่เราได้พบและประมวลมันขึ้นมา เผื่อจะเป็นประโยชน์กับใครได้บ้าง

แต่ถ้าถามว่าไปฤดูไหนสะดวกที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวและมีโอกาสไปเที่ยวได้ครบทุกที่ ทั้งหมู่บ้านอื่นๆรอบนอกมากกว่าฤดูอื่นๆ ก็ฤดูร้อนนี่ละค่ะ แต่คนก็จะเยอะไปด้วยเพราะเป็นฤดูท่องเที่ยว ก็ลองชั่งน้ำหนักข้อดี-ข้อเสียกันดู

ซึ่งเรื่องสภาพแวดล้อม ภูมิประเทศของแต่ละฤดู ก็จะแตกต่างกันตามรูปภาพที่เห็นประมาณนี้ (ถ้าบางรูปดูไม่ค่อยแตกต่างก็ขออภัย เราพยายามแล้ว ><)

เพื่อนๆคงสงสัยว่า เอ๊ะ อินี่มันเป็นใคร ทำไมถึงไปบ่อย เราเป็นสตาฟนำเที่ยวค่ะ ทริปทำงานบ้าง ไปเที่ยวเองบ้าง

ส่วนตัวแล้วเรารักฤดูใบไม้ร่วง กับฤดูหนาวที่สุด ถึงจะต้องทนทรมานกับความหนาว แต่เลห์สงบมาก แค่เราได้ถ่ายรูป นั่งมองวิว คุยเล่นกับคนแถวนั้น ไม่มีใครมารบกวน นักท่องเที่ยวบางตา ก็ทำให้เราสุขสงบไปด้วย อีกทั้งยังสวยบริสุทธิ์มากๆเลย

ขอบคุณที่อ่านค่ะ
รักทุกคนที่รักเลห์

Oil / Wanderer Error
https://www.facebook.com/WandererError/