เบื่องาน เหนื่อยชีวิต อยากหาที่พักผ่อนแบบชิลๆ ลมเย็นๆ เราแนะนำที่นี่เลย..

ที่ 'ริเวอร์แคว จังเกิลราฟท์' เพื่อนๆไม่มีไฟฟ้า (ทีวี ตู้เย็น แอร์ พัดลม เครื่องทำน้ำอุ่น) ไม่มีสัญญาณ wifi ก็อยู่ได้ เพราะเขามีกิจกรรมให้ทำเพียบ ! ตั้งแต่โดดน้ำ พาย ล่องแพ เดินป่า ไปจนถึงเดินเล่นหมู่บ้านมอญที่อยู่ใกล้ที่พักนิดเดียว นี่ไปมา 2วัน 1คืน คือเลิฟมาก มีความสุขมาก แล้วรู้สึกว่าได้พักจริงๆ (เพราะจะทำงานก็ทำไม่ได้ ฮ่าๆ) แพเขาเปิดมา 40 กว่าปีแล้ว กวาดรางวัลมาเยอะ แต่ตอนเราไป เห็นคนที่มาพัก 90% เป็นชาวต่างชาติ เลยอยากชวนคนไทยไปพักที่นี่กัน เอาเป็นว่าอ่านรีวิวนี้จบค่อยตัดสินใจเนอะ : )




วิธีการเดินทาง

แพนี้อยู่บนแม่น้ำแควน้อย อำเภอไทรโยค จ.กาญจนบุรี ค่ะ เราเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว จากกรุงเทพฯใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง มาได้ 2 เส้นทาง คือ สะพานปิ่นเกล้า–พุทธมณฑล-นครชัยศรี-นครปฐม-บ้านโป่ง-กาญจนบุรี-ไทรโยค และ บางใหญ่-บางเลน-กำแพงแสน-พนมทวน-กาญจนบุรี-ไทรโยค โดยจอดรถไว้ที่ 'ท่าเรือรีโซเทล' แล้วนั่งเรือหางยาวเข้าที่พักค่ะ (GPS ท่าเรือ : N 14.281035, E 99.000796) เรือออกทุกวัน ทุกๆ 30 นาที จนถึง 6 โมงเย็น ถ้ามาหลังจากนี้เพื่อนๆต้องเช่าเรือหางยาวราคา 1,000 บ. / เที่ยว


ถึงแล้วๆๆๆๆ..



เช็คอินแล้วไม่รอช้า สำรวจที่พักกันเลย.. ที่นี่เขาเด่นเรื่องการออกแบบที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและใช้วัสดุธรรมชาติในการก่อสร้าง ตัวแพ หลังคา โต๊ะ เก้าอี้ ชั้นวางของ กระถางต้นไม้ ก็ใช้วัสดุจากธรรมชาติทั้งหมดค่ะ



นี่ มีให้นวดด้วย



ไหนดูห้องของเราซิ..



ห้องพักที่นี่จะหน้าตาเหมือนกันทุกห้องนะคะ คือมีเตียง มุ้ง ห้องน้ำในตัว มีระเบียงทั้งหน้าห้องและหลังห้อง ตรงระเบียงด้านหน้าจะมีโต๊ะยาวกับเปล เอาไว้นั่งเล่นนอนเล่น รับลมแบบเต็มๆกันไปเลย




ห้องน้ำมีสายฉีดดดดดดดดดดดดดด แค่นี้ก็อยู่ได้แล้วค่ะ ฮ่าๆ..

จะเห็นว่าพื้นห้องน้ำมีช่องอยู่ เพื่อให้น้ำที่เราอาบ ไหลลงไปได้เลยยยย



หลายคนอาจจะสงสัยอยู่ว่าอ้าว ไม่มีไฟฟ้าแล้วตอนกลางคืนทำไง ? ไม่ต้องห่วง ที่นี่เขามีตะเกียงน้ำมันก๊าดให้ ในห้องมีเทียนไขไฟฟ้าเพิ่มให้ด้วย ตอนกลางคืนก็นอนในมุ้ง เปิดหน้าต่างไว้ หลับสบายหายห่วง.. มัวแต่อธิบายเดี๋ยวจะลืมบอกราคา ปกติราคาต่อคืน รวมอาหารเช้า-เย็น อยู่ที่ 2,945 บ. รวมอาหารเช้า-กลางวัน-เย็น อยู่ที่ 3,590 บ. ของเราเป็นแบบหลัง หาร 2 คนแล้วถือว่าคุ้มค่า ป.ล. ถ้าจอง 3คืนขึ้นไปหรือจองล่วงหน้า 1เดือน ราคาต่อคืนจะถูกลง ใครสนใจก็เข้าไปดูรายละเอียดในเว็บเขาได้เล้ยยยยย >> https://www.riverkwaijunglerafts.com/th/



มาต่อกันที่ส่วนกลางหรือบริเวณห้องอาหารค่ะ ส่วนตัวชอบการตกแต่งบนเพดานมาก มีโมบายที่ทำจากไม้ไผ่ พอลมพัดมามันก็กระทบกันเกิดเสียงน่ารักน่าร้ากกกกกกก



มาแล้ว มื้อเที่ยงของพวกเรา.. ไล่จากซ้ายไปขวานะ มี หมูผัดคะน้า ต้มจืด หมูผัดฉ่า และ ผัดผักใส่หมู ชอบกับข้าวแบบนี้ เพราะถึงมีหลายอย่าง แต่แต่ละอย่างให้ปริมาณพอดี ไม่มากไม่น้อยไป อิ่ม อร่อยทุกอย่างจ้า



กินเสร็จแล้ว ภารกิจต่อไปคือการขึ้นไปจุดชมวิว ถ่ายรูปผาเอนและถ้ำพระมอญ เมื่อคุณฉัตรชัย(ไกด์)พร้อม เราก็พร้อมไปด้วยกัน เดินบนทางที่สามเราเลือกไปปปปปปป (ตลกหรอ ?)



จุดชมวิวมี 2 จุดค่ะ (จะมีป้ายบอกทางอยู่) จุดแรกสวยน้อย จุดที่สองสวยมาก แต่เมื่อกี๊กินไปเยอะเลยอยากเบิร์น งั้นจัดไป 2 จุดเลยแล้วกัน.. เดินขึ้นเขามาประมาณ 15 นาทีก็ถึงแล้วจุดแรก



จุดที่สอง ผาเอน และ ถ้ำพระมอญจะอยู่ติดกันค่ะ เรานั่งพัก ตากลมที่จุดแรกแป๊ปนึง ก็เดินต่อ.. ระหว่างทางจะผ่านหมู่บ้านมอญ (ไว้มาพรุ่งนี้ๆๆ) กับดงไผ่จำนวนมาก พี่ไกด์เขาก็ชี้ให้ดูไผ่ที่คนชอบมาขูดเป็นชื่อหรือเป็นคำ น่ารักดีๆ




คำเตือนก่อนเข้าบริเวณผาเอน **อย่าลืมทายากันยุงเยอะๆ อาบเลยก็ได้** ยุงเยอะม๊ากกกกกกกก เหมือนมันรอกัดมนุษย์เข้าไปตรงนั้นอยู่ตลอด55555 ขยับหรือไม่ขยับก็โดนค่ะ พยายามจะโฟกัสที่ความสวยของหน้าผานะ แต่ยุงแบบ..



ตอนแรกก็งงว่าผามันเอนตามธรรมชาติไม่ใช่หรอ ทำไมต้องเอาไม้ไปค้ำ พี่ไกด์เขาก็อธิบายว่านักท่องเที่ยวเชื่อว่าถ้าหาไม้มาค้ำๆ กลับไปจะมีคนมาค้ำจุน สนับสนุน.. 'แล้วมันจริงป่าวพี่ ?'.. 'ไม่จริงครับ'.. รู้เรื่อง !



ถึงแล้วจุดชมวิวที่สอง มองลงไปเห็นแพที่พวกเราพักด้วย : D



เดินกันจนเหนื่อย เหงื่อซกขนาดนี้ กลับมาถึงที่พักรีบคว้าเสื้อชูชีพมาใส่แล้วโดดน้ำเล้ยยยย



วิธีเล่นคือเพื่อนๆต้องไปหยิบชูชีพมาใส่ก่อน จากนั้นเลือกโดดน้ำจากหน้าห้องพักไหนก็ได้ (แต่ส่วนใหญ่เขาจะไปโดดจากห้องแรกๆ จะได้แช่น้ำนานๆ) พอโดดแล้วก็ลอยตุ๊บป่องๆจนกว่าจะเห็นธงสีส้มที่ตั้งอยู่ตรงแพเกือบสุดท้าย เราต้องว่ายมาขึ้นบันไดตรงธงนั้นค่ะ ระวังอย่าว่ายเพลิน ถ้าเลยธงไปนี่งานเข้าแน่นอนนนนนน



เรากับเพื่อนเล่นไป 4 รอบก็ฟินแล้วค่ะ ฝรั่งบางคนนี่ลอยผ่านหน้าห้องเราไป 10 รอบ (ไม่ทำอย่างอื่นบ้างหรอ ฮ่าๆ แซวๆ) เล่นเสร็จก็อาบน้ำแต่งตัว รอทานมื้อค่ำค่ะ อาหารเย็นที่นี่เขาเสิร์ฟพร้อมกันทุกโต๊ะตอน 1 ทุ่ม พอถึงเวลาพนักงานก็จะตะโกนดังๆว่า 'ดินเนอร์ ดินเนอออออออออออออออออร์ !!' แต่นี่หิว เลยไปนั่งตั้งแต่ 6 โมงครึ่ง ก็รอไปค่ะ…



ทุ่มนึงแล้วววววว คนมาแล้วววว ชอบบรรยากาศคึกคักๆแบบนี้จัง



มื้อเย็นเป็นกับข้าว 5 อย่าง อย่างละนิดอย่างละหน่อย แต่อร่อยเหมือนเดิมค่ะ



จากที่สังเกต ตอนกลางคืนฝรั่งเขาก็จะนั่งกินเบียร์คุยกันตรงห้องอาหาร ไม่ก็ไปดูระบำมอญ (ค่าบริการ 160 บ.) ไม่ก็ดูหนังที่โหลดมาใน ipad หรือ นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงระเบียงห้อง เราก็ไม่รู้จะทำอะไร นอนเปลหน้าห้องเหมือนกัน ดูรูปในกล้อง ดูรูปในมือถือจนหมด ก็นั่งคุยกับเพื่อนไปเรื่อย เผลอแป๊ปเดียวห้าทุ่มกว่าแล้ว เห็นมั้ยว่าการไม่มีไฟฟ้ามันไม่ได้ลำบากอย่างที่คิด ดีซะอีกได้สนใจสิ่งรอบตัวมากขึ้น คืนนี้หลับให้สบาย แล้วพรุ่งนี้เราไปหมู่บ้านมอญกัน : )

.

.

.

เช้าแล้วววววว ชาร้อนๆสักแก้วกระตุ้นร่างกายกันหน่อย



อาหารเช้าเป็นชุดที่ทางที่พักจัดให้ค่ะ ขนมปัง นม และ น้ำส้ม สามารถเติมได้เรื่อยๆ



ซัดมื้อเช้าเรียบร้อยก็ได้เวลาไปทำภารกิจสุดท้ายของทริปนี้ นั่นก็คือออออออออออออ เดินเล่นหมู่บ้านมอญค่ะ ข้ามสะพานข้างหลังที่พักไปเหมือนเดิม เดินขึ้นไปจะเจอป้ายบอกทาง หลังจากนั้นก็สำรวจให้ทั่วเล้ยยยย



บ้านเขาจะคล้ายๆกันค่ะ คือสร้างด้วยวัสดุธรรมชาติ แทบทุกบ้านมีใต้ถุน และก็สร้างน้ำน้ำแยกออกมาจากตัวบ้าน ถึงจะเป็นหมู่บ้านเล็กๆแต่ก็ดูครบครันดี มีสนามกีฬา ลานสนามหญ้า วัด โรงเรียน เดินกันเพลินเลย



ว้าย เดินอยู่ดีๆก็มีคนสวยมาเล่นด้วย <3



มีช้างด้วยน้า เพื่อนๆซื้อกล้วยให้ช้างได้ค่ะ หวีละ 20 บ.



ต่อไปเป็นโรงเรียนมอญ พี่ไกด์บอกว่าเด็กๆที่นี่จะต้องไปเรียนภาษาไทยและวิชาหลักๆที่โรงเรียนไทยทุกวันจันทร์-ศุกร์ แล้วคาบสุดท้ายกลับมาเรียนเรื่องวัฒนธรรม ศาสนา และความรู้ทั่วไปที่โรงเรียนมอญ วันเสาร์-อาทิตย์ก็ต้องมาเรียนที่โรงเรียนมอญอย่างเดียว นักเรียนจะได้หยุดในวันพระค่ะ



ต่อไปเป็นวัดของหมู่บ้าน มีเจดีย์ที่จำลองมาจากเจดีย์ชเวดากองด้วย



เดินทั่วแล้วพวกเราก็กลับเข้าที่พัก นอนเล่นรับลมตรงระเบียงห้องอีกประมาณชั่วโมงนึงก็เช็คเอ้าท์ค่ะ

เป็นทริปที่ดีต่อหัวใจมากๆ 2วัน 1คืนนี้เราได้พักผ่อนอย่างแท้จริง ไม่มีอะไรมากวนใจ มีแต่สายน้ำ ภูเขา ธรรมชาติ และอาหารอร่อยๆ ใครอยากหนีกรุงก็ลองให้ที่นี่เป็นทางเลือกนึงแล้วกัน ไม่มีไฟฟ้าไม่เป็นไร เพราะถ้าไปจะมีความสุขขขขข

ขอบคุณทุกคนที่ติดตามรีวิวของเรา เพื่อนๆสามารถอ่านรีวิวอื่นๆได้ที่ blissoutthere.com และ…

fb : facebook.com/BlissOutThere

ig : instagram.com/BlissOutThere

tw : twitter.com/BlissOutThere

yt : http://goo.gl/nIjDRI

: )


Bliss Out There

 วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2559 เวลา 12.43 น.

ความคิดเห็น