12.00 น.
. ณ สนามบินดอนเมือง . 

สามสาวพร้อมกันที่ McDonal's กินอะไรรองท้องเป็นมื้อเที่ยง ก่อนไปหลับบนเครื่องบิน มุ่งหน้าสู่กัวลาลัมเปอร์ มาเลเซียเป็นทริปที่พวกเราเล็งกันมาสักพัก จนได้ปักหมุดวันกัน แต่ . . ก็เป็นทริปที่เกือบต้องลากกระเป๋ากลับบ้าน เมื่อพวกเราสามคนไปรอผิดเกต !! วิ่งเดี๋ยวนี้เกตที่จะไปเปิดแล้วววว เมื่อรู้ตัวเท่านั้นแหละ วิ่งโดยไม่สนใจใคร กระเป๋าหนักแค่ไหนก็แบกลอยได้ เอาแล้วไง ยังไม่ทันได้ไปถึงมาเล พวกเราก็บันเทิงกันแล้ว วิ่งกันสุดชีวิต

. . . แล้วพวกเราก็วิ่งกันทัน ไม่ต้องลากกระเป๋ากลับบ้าน >< ไปเจอกันที่กัวลาลัมเปอร์ กับทริป #3girlsinKL

เวลคัม ทู 'Kuala Lumpur International Airport' มาถึงมาเลเซียแล้วววว 

เวลาที่นี่จะเร็วกว่าบ้านเรา 1 ชั่วโมง ทริปนี้เราเดินทางไฟล์ทบ่าย ไฟล์ทดีเลย์ไปนิดหน่อย ทำให้มาถึงมาเลช่วงเย็น สถานีต่อไปจะต้องเดินทางเข้าเมืองไปที่พักของเรา 

การเดินทางเข้าตัวเมืองมาเลเซีย หลัก ๆ จะมี 3 แบบ รถบัส รถไฟฟ้า หรือหากใครมากัน 3 คนขึ้นไปจะเรียก Grab เข้าตัวเมืองก็ได้ ส่วนพวกเราเลือกไปโดยรถไฟฟ้า เพราะอยากได้ฟิวการเดินทางหลากหลายรูปแบบ ซึ่งรถไฟฟ้าก็จะมีให้เลือก 2 แบบ แบบแรกเป็น KLIA ekspres ซึ่งจะวิ่งตรงเข้าเมืองโดยไม่หยุดจอดสถานีระหว่างทาง (ค่ารถสูงกว่าแบบ KLIA Trasit แต่ใช้เวลาไม่นานก็ถึงตัวเมือง) แบบที่สอง KLIA Trasit รถจะหยุดจอด 5 สถานี (ค่ารถถูกกว่าแบบแรก แต่จะใช้เวลานานกว่า) 

ขณะนี้เวลา 18.32 น. (ตามเวลาท้องถิ่นของประเทศมาเลเซีย) รถไฟฟ้าบ้านเขา สำหรับเรา เราว่าโอเคเลย เป็นการเดินทางเข้าเมืองที่สะดวกสบาย

ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง มาถึง KL Sentral สถานีปลายทางของขบวน KLIA Trasit ขบวนนี้ พวกเราเดินออกมาจากสถานี และเรียก Grab เข้าที่พัก 

การเดินทางไปแต่ละที่ในทริปนี้พวกเราเรียก Grab ซะส่วนใหญ่ ค่ารถไม่แพง เรียกรถง่าย สะดวก ใครที่อยู่เมืองไทยใช้ Grab อยู่แล้ว ก็เปิดแอพเรียกรถได้สบายๆ

ที่พักในทริปนี้เราจองผ่าน Airbnb เป็นอพาร์ทเม้นชื่อ 'Continew Residence' ย่าน Jalan Tun Razak, Pudu (ใครอยากตามรอยเราพิมพ์ชื่ออพาร์ทเม้นดูเส้นทางใน Google Map ได้เลย) ห้องพักที่พวกเราเลือกรองรับได้ 3-4 คน มีส่วนครัวเล็กๆ โต๊ะกินข้าว มีเครื่องซักผ้าให้สามารถใช้ได้ 

เมื่อมาถึงที่พัก ได้คีย์การ์ดเข้าห้องเรียบร้อย เปิดระเบียงมาคือ วิวดีมากกก เห็นตึกแฝดอยู่ไกลๆ บนถนนยังคงมีรถสัญจรกันไปมาเต็มท้องถนนแม้ขณะนี้จะเป็นเวลา 3 ทุ่มกว่าแล้ว 

มื้อเย็นมื้อแรกที่มาเล พวกเราเดินไปห้างใกล้ๆ ที่พัก เป็นจังหวะที่หน้าห้างยังมีของขายอยู่ อาหารมาเลเซียมื้อแรกค่อนข้างหลากหลายหน่อย อิ่ม อร่อย 

ช่วงที่ไป อัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน 1 RM ประมาณ 7.78 บาท เราแลกเงินสดกันไปบางส่วน และใช้บัตร Travel Card กันด้วย ซึ่งร้านค้าส่วนใหญ่สามารถจ่ายผ่านบัตรได้ ไม่ว่าจะเป็น 7-11 ร้านขายของชำ ร้านอาหาร ย่านช้อปปิ้ง หากใครมีบัตรกันอยู่แล้ว ใช้จ่ายผ่านบัตรกันได้เลย

ซาลามัด ดาตัง (Selamat datang) สวัสดีเช้าวันที่สอง อากาศวันนี้แจ่มใส หลังจากโทรคุยกับที่บ้านถึงได้รู้ว่าเมืองไทยฝนตกตั้งแต่เมื่อวานแล้ว จังหวะดีมากที่เราไม่เจอฝน

Day 2 in KL

Putrajaya Mosque
BOOKXCESS
Lai Foong lala Noodles
Pavilion

มาเริ่มต้นเช้านี้ด้วยการเรียก Grab มาลง Nu Sentral เพื่อขึ้น KLIA Trasit ไปลงสถานี 'Putrajaya' 
มุมนี้เรียกว่าเป็นจุดเช็คอินอีกหนึ่งจุดที่คนมามาเลต้องมาเก็บภาพกันให้ได้

เดินขึ้นบันไดเลื่อน มองซ้ายมองขวา คิดๆ กันว่าจะกินอะไรดี และเราก็มองไปเห็นร้าน 'BiARlah REAL' ร้านอาหารเช้าสไตล์มาเลเซีย ไม่ลังเลแต่อย่างใด เดินมุ่งหน้าเข้าร้านกันทันที

เห็นแบบนี้แต่ของจริงชามไม่ได้เล็กเลยทุกคน เมนูที่เราชอบที่สุดเช้านี้จะเป็น Roti Jala & Kari Ayam แป้งโรตีนุ่ม อร่อย ในส่วนของ Cantonese Noodle มีรสชาติคล้ายกับราดหน้าบ้านเราเลย ส่วนเมนู Prawn Mee หน้าตาคล้ายกับก๋วยเตี๋ยวต้มยำ แต่รสชาติไม่เหมือนบ้านเรา 

อิ่มแล้ว . . เดินทางกันต่อ

ซื้อตั๋ว KLIA Trasit ลงสถานี 'Putrajaya & Cyberjaya' เดินออกจากสถานีเรียก Grab ไป 'Putrajaya Mosque' ใช้เวลาประมาณ 10 นาที เราจะเดินทางถึงจุดหมายแรกกัน

ถึงแล้ว Putrajaya Mosque หรือ มัสยิดสีชมพู จุดเช็คอินสำคัญสำหรับทุกคนที่เดินทางมาท่องเที่ยวมาเลเซีย ถ้าไม่ได้มาก็เหมือนกับมาไม่ถึงมาเล เมื่อเดินเข้าไปภายในมัสยิดแห่งนี้ มองไปรอบๆ จะเห็นมัสยิดสีชมพูกุหลาบทั่วทั้งภายในอาคาร และถูกตกแต่งด้วยลวดลายสวยงามตามหลักศาสนาอิสลาม

สำหรับการเดินเข้าชม หากเป็นผู้หญิงจะต้องใส่เสื้อคลุมสีแดง (เดินเข้าไปเลี้ยวขวาจะมีจุดรับเสื้อคลุม) หากเป็นผู้ชายที่แต่งกายไม่สุภาพมาก็จะต้องเดินเข้าไปรับเสื้อคลุมเช่นกัน

เมื่อเดินชมภายในเสร็จแล้ว พวกเราเดินออกมาชมบรรยากาศภายนอก มองจากมุมไกลๆ แบบนี้ มัสยิดสวยงามมากจริงๆ

ยืนมุมนี้จะเห็นสะพาน Seri Wawasan

พวกเราใช้เวลาเดินชมกันประมาณ 1 ชั่วโมงกว่าๆ ก่อนจะเรียก Grab ไปยังจุดหมายที่ 2 BOOKXCESS ย่าน Jalan Sultan, City Centre ใช้เวลาเดินทางประมาณ 40 นาที

BOOKXCESS แหล่งคอมมูนิตี้สำหรับสายหนอนหนังสือ สายอาร์ต สายคาเฟ่ สายแฟชั่น สายของสะสม เรียกได้ว่ามาครบจบในที่เดียว เราอยากชวนให้ทุกคนไปดูคอมมูนิตี้แห่งนี้ด้วยตัวเอง คลังหนังสืออลังการงานสร้างมาก สามารถสิงตัวอยู่ที่นี่ได้เป็นวันแน่นอน เพราะพวกเราอยู่ตั้งแต่บ่ายจนถึงเย็นกันเลยทีเดียว มารู้ตัวกันอีกทีคือหิวข้าวแล้วจ้า

มื้อกลางวันตอนเย็น จากที่พึ่งรู้ตัวกันว่าหิวแล้ว เดินข้ามถนนมาหน่อยจะเจอร้าน Lai Foong lala Noodles จุดหมายที่ 3 ที่มีบะหมี่หอยลายระดับมิชลินรอเราอยู่

ระหว่างนั่งรออาหาร ในช่วงที่คนเต็มร้าน เรามองไปมองมาคนเดินเข้าออกร้านกันตลอดเวลา และแล้วอาหารของพวกเราก็มาเสิร์ฟถึงโต๊ะ

อยากบอกทุกคนที่กำลังอ่านรีวิวเราอยู่ว่า 'ห้ามพลาดเลยนะ!!' กินแล้วอยากกลับไปบอกที่บ้านให้ไปซื้อหอยลายมาทำให้ทานเลย น้ำซุปมีกลิ่นหอมของขิง ต้นหอม รสชาติเผ็ดนิดๆ บอกได้เลยว่า อร่อย

หลังจากกินอิ่ม เราสามคนก็กลับไปนอนพักผ่อนกันที่ห้อง คืนนี้เราจะออกมาเดินเล่นจุดหมายที่ 4 กันที่ Pavilion

มาเดินย่านนี้ให้ความรู้สึกเหมือนเดินย่านสยามตอนกลางคืน ท้องถนนเต็มไปด้วยผู้คน แต่ด้วยเวลาที่พวกเราออกมาประมาณ 3 ทุ่มได้แล้ว เป็นเวลาที่ห้างใกล้ปิด กินอาหารคาวกันไปแล้วเมื่อช่วงเย็น ก็ได้เวลาของหวาน และของหวานที่ว่าก็คือ . . . llaollao (ไม่อยากจะบอกล่วงหน้าว่า กินวันนี้แล้ว พรุ่งนี้ก็มากินอีก ><)

กินของหวานเติมพลังกันแล้ว พวกเราทั้ง 3 ชวนกันเดินเล่น เข้าร้านนู้น ออกร้านนี้กันอย่างเพลิดเพลิน แม้ห้าง Pavillion จะปิดไปแล้ว แต่ร้านค้า ร้านอาหารภายนอกยังคงมีผู้คนเดินกันไปมาอย่างครึกครื้น ส่วนพวกเรา 3 คน ตาเริ่มปิด พรุ่งนี้มีทริปกันแต่เช้า จึงถอนทับกลับห้องไปนอนเติมแรงก่อน

Day 3 in KL

Genting Highland
Petronas Twin Towers

เปิดหน้าต่างออกมาเช้านี้ ฝนตกลงมาเล็กน้อย ท้องฟ้าไม่แจ่มใสเหมือนเมื่อวาน เราได้แต่ภาวนาให้สายฝนหยุดตกก่อนเวลาขึ้นกระเช้า วันนี้พวกเรามีทริปขึ้นไป Genting Highland กัน

การเดินทางไปขึ้นกระเช้า เราจองรถบัสโดยขึ้นจากสถานี Pudu sentral > Genting Highland ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2 ชั่วโมง Genting Highland อยู่ห่างจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 51 กิโลเมตร

แล้วสายฝนก็หยุดตกในช่วงระหว่างทางที่รสบัสกำลังพาพวกเราขึ้นไปที่สถานี Awana Skyway ใครชอบมีอาการเมารถกับเส้นทางที่คดเคี้ยวแนะนำให้หลับปุ๋ยไปได้เลย เพราะเจ้าเส้นทางขึ้น Genting Highland ตั้งอยู่บนยอดเขาที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเลถึง 2,000 เมตร รถบัสกำลังไต่ระดับขึ้นที่สูงขึ้นเรื่อยๆ เราลืมตาขึ้นมาช่วงระหว่างที่รถบัสเริ่มไต่ระดับจากพื้นที่ราบสู่ที่สูง เริ่มเห็นหมอกปกคลุมอาคารสูง วิวสองข้างทางเปลี่ยนจากต้นไม้สูงขนาดใหญ่มาเป็นตึกอาคารสูง แม้จะเป็นที่สูงแต่กลับมีการสร้างตึกสูงอยู่หลายตึก แอบคิดในใจว่าคนสร้างก็เก่งจริงๆ พื้นที่สูงชันไม่ราบเรียบแบบนี้ยังสามารถสร้างตึกสูงกันได้อีก

และพวกเราก็เดินทางมาถึง Genting Highland ลงรถบัสมาปุ๊ป สัมผัสได้ถึงความเย็นทันที ประชากรที่ลงมาจากรถรวมถึงพวกเราเดินมุ่งหน้ากันไปที่สถานี Awana Skyway เราซื้อตั๋วกระเช้าผ่าน Klook กันเรียบร้อย หากใครไม่ได้ซื้อมาล่วงหน้าก็สามารถมาซื้อที่หน้าสถานีได้เช่นกัน สถานีนี้นับเป็นจุดที่ 1 จากทั้งหมด 3 จุด พวกเราวางแผนกันว่าจะขึ้นไปจุดที่ 2 และจุดที่ 3 ก่อนกลับลงมาช้อปปิ้งกันที่จุดที่ 1 ซึ่งเป็นแหล่งรวมร้านค้า Premium Outlet

จุดที่ 2 - Chin Swee Station

กลัวความสูงเล็กน้อย แต่เป้าหมายในครั้งนี้ พวกเราต้องขึ้นมาให้ได้ นั่น Chin Swee Caves Temple เห็นแล้วๆ สถานีนี้จะจอดเลยวัดไปเล็กน้อย เมื่อลงจากกระเช้าแล้ว ให้เดินตามเส้นทางภายในอาคารที่มีบันไดเลื่อนลงมาเรื่อยๆ ตามป้าย

ถึงแล้ว แลนมาร์คสถานี Chin Swee Caves Temple วัดชิน สวี เป็นสถานที่ที่มีรูปปั้นของ พระอาจารย์ชิน สวี เทพเจ้าที่ชาวบ้านในมณฑลฟูเจี้ยนให้ความเคารพนับถือ ซึ่งประดิษฐานอยู่ในเจดีย์ 9 ชั้นแบบจีน ภายนอกวัดยังมีรูปปั้นต่างๆ ตั้งอยู่ตามทางเดินภายในวัด สถานที่แห่งนี้ตั้งอยู่ในป่าหินที่มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 4,600 ฟุต 

รูปปั้นของ TAN SRI DATO' SERI (DR) LIM GOH TONG ผู้ก่อตั้ง Resort World Genting รวมถึง Chin Swee Caves Temple แห่งนี้

แม้จะมีแสงแดด แต่ยังคงสัมผัสได้ถึงลมเย็นๆ อยู่รอบตัวตลอดเวลา อากาศเย็นๆ แบบนี้ก็ต้องจัดอะไรเย็นๆ ซะหน่อย เจ้าของร้านพูดไทยคล่องประหนึ่งเป็นคนไทยกันเลยทีเดียว

จุดที่ 3 - Genting Highland

จุดหมายปลายทางของกระเช้ามุ่งหน้าสู่สถานี Genting Highland ศูนย์รวมความบันเทิง ร้านค้า ร้านอาหาร และจุดไฮไลท์ที่คนจำนวนมากแห่มาเยือนคือ คาสิโน

มองออกไปภายนอกกระเช้า หมอกปกคลุมจนบังตึกสูง มุมซ้ายมือเห็นตึกที่มีซากปรักหังพัง มีรอยดำขนาดใหญ่แต้มสีอาคาร ถามอากู๋ดูจึงทราบว่าเมื่อหลายเดือนก่อนมีไฟไหม้เกิดขึ้น ทำให้อาคารได้รับความเสียหาย

ผู้คนเดินลงจากกระเช้า และคนจำนวนมากมุ่งหน้าไปสู่คาสิโนกันอย่างว่องไว ส่วนพวกเราหรอ . . เดินชมสวนสนุก ><

ด้วยความที่เลือกมาวันธรรมดา คนในสวนสนุกค่อนข้างบางตา เดอะแก๊งค์ของเราก็มีความอยากเสี่ยงทายกันบ้าง เอาหน่า เล่นเอาสนุกๆ ก่อนไปหาอะไรกินในโซน Malaysian Food Street บนชั้น 4

เดินกันจนทั่วพื้นที่ ได้เวลากลับนั่งกระเช้ากลับลงมาช้อปปิ้งกันต่อ

ตั๋วรถขากลับเวลา 5 โมง พวกเรายังคงเพลิดเพลินกันจนเกือบไม่ได้ลงจาก Genting กันอีกแล้วครับท่าน วิ่งกันสุดชีวิต (จำโมเม้นนั้นได้ดีมาก เกือบไปแล้วววว)

รถบัสจอดยังจุดหมายแรกของเมื่อเช้า Pudu station พวกเราเดินข้ามสะพานลอยมาเรียก Grab เข้าที่พักเก็บของก่อนออกมายัง Petronas Twin Towers อีกหนึ่งแลนด์มาร์คของประเทศมาเลเซีย หรือที่ใครๆ ก็เรียกเจ้าตึกนี้ว่า "ตึกแฝด" ประชากรในพื้นที่บริเวณนั้น ต่างพากันหามุมถ่ายรูปที่เห็นยอดตึกแฝด รวมถึงพวกเราด้วย หามุมกันสุดฤทธิ์ ทั้งมุมนั่ง มุมยืน รวมถึง มุมท่าไม้ตาย ><

ถ่ายรูปกันจนหนำใจ ก่อนเดินเข้าไปใน Suria KLCC Mall ห้างสรรพสินค้าใต้ตึกแฝด และไปกินเจ้า llaollao กันอีกแล้วทุกคนนน ส่วนมื้อเย็นวันนี้หลังจากเดินข้ามฝั่งจากเจ้าตึกแฝดมา พวกเรามาเจอร้านอาหารอินเดีย "NASI KANDAR JAMAL MOHAMED" ไหนๆ ก็ไหนๆ ล่ะ ต้องลอง!

เป็นการกินอาหารอินเดีย แบบอินเดียจริงๆ ครั้งแรกของพวกเรา 3 คน เข้าใจคำว่ากลิ่นเครื่องแกงบ้านเขาจริงๆ ก็วันนี้เลย สำหรับเราอาจจะไม่ใช่แนวเท่าไหร่ แต่ถ้าใครเป็นสายอาหารอินเดีย บอกเลยว่าร้านนี้คนเดินเข้าออกตลอดเวลา น่าจะถูกใจแน่นอน

เรียก Grab กลับห้องกัน

Day 4 in KL

SUN FONG BAK KUT TEH
BEAN BROTHERS

เช้านี้อากาศแจ่มใส เหมาะกับการไปกินบักกุ๊ดเต๋ร้อนๆ กับปาท่องโก๋ก่อนบินกลับกรุงเทพฯ เย็นนี้ SUN FONG BAK KUT TEH ร้านนี้เราได้รับการแนะนำจากพี่ที่เคยมาเที่ยวมาเล บวกกับรีวิวของพี่ว่านไฉ คูณสองขนาดนี้แล้วจะพลาดได้ยังไงกัน

เมนูอาหารฉบับ 3 คนเช้านี้ บักกุ๊ดเต๋ (น้ำดำ) กินคู่กับปาท่องโก๋ ด้านล่างซ้ายเป็นปลาหมึกผัด รสชาติจะมีความหวานเค็ม ทานคู่กับข้าวสวย ส่วนด้านล่างขวาเป็นเต้าหู้หมูสับ (เต้าหู้ถูกเสิร์ฟมาเป็นก้อน ด้านบนโปะด้วยหมูสับ) เต้าหู้นิ่มมาก เราชอบเมนูนี้ ฟินสุดๆ ไปเลย

อาหารเช้าถูกเติมเข้าไปจนแน่นท้องแล้ว ก่อนที่หนังตาจะปิดด้วยความอิ่ม ได้เวลาไปหาคาเฟอีนกัน 
พวกเราใช้วิธีเดินย่อยไปร้านกาแฟ ใกล้ๆ ห้าง Pavillion 

BEAN BROTHERS ร้านกาแฟเล็กๆ ในตึกใกล้ๆ Pavillion มู้ดแอนด์โทนดีมาก สำหรับใครที่มีแพลนจะไปช้อปปิ้งใน Pavillion อยู่แล้วแนะนำให้แวะร้านนี้ก่อนได้

เดินออกจากร้านกาแฟ มุ่งหน้าสู่ Pavillion หลังจากที่เมื่อวานก่อนมาช่วงกลางคืนแล้วห้างปิดไปแล้ว วันนี้เลยขอมาเดินตอนกลางวันกันบ้าง ก่อนจะกลับไปเช็คเอาท์ เดินทางไปสนามบินกลับกรุงเทพฯ

สถานี Nu Sentral มุ่งหน้าสู่ KLIA T1 ด้วยรถไฟฟ้าขบวน KLIA ekspres จบทริปมาเลเซีย 4 วัน 3 คืนของพวกเรา 3 คน

ทริปที่เกือบได้ลากกระเป๋ากลับบ้านแทนการลากกระเป๋าในสนามบินกัวลาลัมเปอร์
ทริปที่เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ เพราะความตลกโปกฮาของพวกเรา
ทริปที่เต็มไปด้วยความเฮฮาบนรถหลังกินอาหารอินเดียกันเข้าไป
ขอบคุณเพื่อนร่วมเดินทางในครั้งนี้ที่มาสร้างบันทึกรอยยิ้มผ่านทริป KL ไปด้วยกัน

ขณะนี้ได้เวลาเดินทางกลับประเทศไทยแล้ว

แล้วตามเราไปเที่ยวกันต่อทริปหน้านะ

พบกันได้ในโลกโซเชียล ณ เฟสบุ๊ค : บั น ทึ ก เ ก็ บ ยิ้ ม

https://www.facebook.com/keptyoursmile/

เ ขี ย น : มนุษย์ตัวเล็ก