ก่อนตอนนี้ บันทึกตอนที่ 1 เริ่มเดินทาง
First Love Returned in Japan #1 :: ทะเล ลมหนาว ภูเขา รถไฟ และใบไม้เปลี่ยนสี

--------------------------

30 ธันวาคม 2558 :: ใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Meguro

ใครๆก็บอกว่า ช่วงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ที่ญี่ปุ่น...คือช่วงเวลาที่โรแมนติตที่สุด

ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี...อาจจะหวานไม่เท่า...ช่วงฤดูสีชมพู
ที่ซากุระบานสะพรั่ง แต่...การเดินจูงมือใครซักคน...
แหงนมองร่มเงาของใบไม้สีแดงที่สะพรั่งเต็มถนน
ย่างก้าวไป...บนทางที่มีใบไม้สีเหลือง...ร่วงหล่น ปูพรมอยู่บนเต็มพื้น
ก็คือช่วงเวลา...ที่...คู๋รัก...ทุกคู่ อยากให้โลกหมุนช้าลง...
เพื่อจะเดินไปด้วยกันให้...นานเท่าที่จะนานได้


ปกติช่วงเวลาที่ใบไม้เปลี่ยนสีสวยที่สุดของญี่ปุ่น จะอยู่ในช่วงเดือนกันยายน ไปจนถึงปลายพฤศจิกายน
พอบอกว่าจะไปดู "ใบไม้เปลี่ยนสี" ในช่วงปีใหม่แบบนี้...
มันก็ช่วยไม่ได้ ที่ฉันจะกระตือรือร้นจนตื่นเป็นคนแรกอีกตามเคย

ทริปนี้...เพราะมี นิ้ง คุณแม่บ้าน เจ้าถิ่นคนเดิม...ช่วยชี้จุดให้...ในที่สุด....

ทั้งที่มาผิดฤดู แต่ก็ยังอุตส่าห์ได้พิกัดให้เดินทางไปเก็บภาพใบไม้สีแดง สีส้ม สวยโรแมนติคที่ยังหลงเหลืออยู่

การเดินทางของวันใหม่ เริ่มต้นที่สถานี Zoshigaya เหมือนเดิม

"วันนี้จูงมือหลานไว้ดีๆละ วิ่งเปลี่ยนรถสถานีที่คนเยอะล้วนๆ ระวังเหอะ จะหลง! "

มนุษย์กวนโทโสยั่วมาตั้งแต่เริ่มออกเดินทาง แต่ฉันตั้งสติได้ละ
เพราะฉะนั้น อย่าหวังเลยว่าวันนี้อารมณ์จะปรี๊ดง่ายๆ
เป้าหมายการเดินทาง...ออกจะสวยงาม เรื่องอะไรจะมาเสียอารมณ์ตั้งแต่เริ่ม

แต่ว่า.......คนเยอะจริงๆซะด้วย โชคดีที่น้องนัทจับมือฉันแน่นไม่ปล่อย
คงกลัวอีน้าจอมเอ๋อ หลงทางจริงๆนั่นแหละ มน กับ ตี้ เดินนำลิ่ว เพราะกลัวไม่ทันเวลาที่นัดกับนิ้ง ทิ้งลูกชายที่จูงมือฉันแน่นไม่ปล่อย วิ่งตามไปติดๆ โดยมีนายดิน ปิดท้ายขบวน ตามเดิม


จากรถไฟสาย Fukutoshin Line เราต้องไปลงเปลี่ยนสายรถไฟที่ Shibuya Station
เบียดเสียดผู้คนนับร้อย ที่วิ่งสวนกันไปมา กึ่งเดินกึ่งวิ่งไป
ไปขึ้นรถไฟสาย Yamanote Line เพื่อไปลงที่สถานี Meguro Station
เป้าหมาย...ที่นัดนิ้งไว้ แล้วมุ่งไปยังจุดหมาย
ที่เพื่อนเจ้าถิ่นบอกว่า... ใบไม้เปลี่ยนสี...ที่นี่ยังสวยงาม


ใช้เวลาเดินทางแค่ครึ่งชั่วโมง เราก็มาถึงเมือง เมะงุโระ(Meguro)

เมืองเล็กๆ ใกล้กับโตเกียว ที่มีชื่อเสียงว่าเป็นจุดชมซากุระที่สวยงามจุดหนึ่ง
เมืองนี้เป็นเมืองท่องเที่ยวอีกเมืองที่มีสถานที่ทางวัฒนธรรมหลายแห่งที่น่าสนใจ
แต่เสียดายที่เวลาของเราวันนี้...มีไม่พอ


กองทัพเดินด้วยท้อง...จากสถานีรถไฟ เราเดินทะลุเข้าไปที่ห้าง Atre Meguro 2 เพื่อหาร้านอาหารเติมพลัง
แล้วกองทัพก็เลือก To The Herbs ร้านอาหารอิตาเลี่ยนชื่อดัง สั่ง Pasta และ Pizza มาเติมพลังกัน


อากาศวันนี้ ไม่เย็นมากนัก แต่ท้องฟ้าสีแปลกๆ

แสงแดด...แลดูเป็นสีส้มอมเหลือง จนดูหม่นๆไปหมด
จากสถานีเมงุโระ เดินลงเขาไปตามถนนเล็กๆ ก่อนจะถึงจุดหมาย
เพื่อนที่นำทาง พาเราแวะที่วัดเก่าแก่ของเมือง ที่ชื่อวัด Daienji Temple


วัด Daienji Temple เป็นวัดเก่าแก่ สร้างขึ้นตั้งแต่ปี 1624
วันนี้...ในวัดไม่มีคนเลย นอกจากกลุ่มพวกเรา
บรรยากาศภายในวัด ร่มรื่น สงบ และมีสิ่งสักการะหลายสิ่ง ที่สะดุดตา สะดุดใจ



ฉันสะดุดตากับรูปปั้นพระพุทธรูปเล็กๆ ที่เรียงรายอยู่มุมหนึ่งของวัด มองดูคล้ายเป็น...สุสาน...
นิ้งเล่าว่า...ที่นี่...เป็นที่ที่คนนำศพเด็กที่แท้ง มาฝังไว้ จึงมีรูปปั้นพระพุทธรูปมากมายเรียงไว้คล้ายๆการสะกดวิญญาณ แต่...ก็แค่เรื่องเล่า เพราะหลังจากเปิด Google ค้นด้วยความอยากรู้ ฉันก็ได้ข้อมูลเพิ่มเติมมาว้า

รูปปั้นพระพุทธรูปเล็กๆ ที่สร้างขึ้นกว่า 500 รูปนั้น สร้างขึ้นเพื่ออุทิศให้แก่เหยื่อไฟไหม้ครั้งใหญ่ ในปี 1772 ซึ่งเผาทำลายเมือง และคร่าชีวิตผู้คนไปนับพัน
.


เราอยู่ในวัดไม่นานนัก...เพราะคนพามา ทำท่าไม่ค่อยอยากอยู่นานซักเท่าไร
เพราะยังเชื่อว่า...ที่นี่...มีวิญญาณเด็กมากมายวนเวียนอยู่...

ไหว้พระ อธิษฐานขอพร ถ่ายรูปบรรยากาศร่มรื่นในวัด แล้วพวกเราก็เริ่มออกเดินต่อกัน...


จากวัด...เราเดินลงเนินมาเรื่อยๆ เงียบๆ มุ่งไปยัง Wedding Hall ที่อยู่ด้านล่าง

"บรรยากาศมันดูเศร้าๆเนอะ" คนตัวสูงที่เดินตามเงียบๆ มาตลอดทั้งวันเปรยเบาๆ
"นั่นสิ แต่จากประวัติ มันก็เป็นเรื่องน่าเศร้าน่ะแหละ" ฉันเห็นด้วย วันนี้บรรยากาศมันซึมๆจริงๆด้วย
"อากาศด้วยละมั้ง แดดไม่มี ฟ้าออกจะสีหม่นๆ ชวนเหงา..."
"บ้าเหรอ เพื่อนเยอะแยะ เหงาอะไรกัน"
เขาหัวเราะเบาๆ แล้วก็เงียบไป จนฉันต้องหันกลับไปมอง พอตาสบตา...ฉันก็ชะงักกึก

เหงา...รอยเหงาลึกๆในดวงตาคมคู่นั้น...มัน...อะไรกัน

"น้าบุ้ง" เสียงน้องนัทเรียกดังลั่น ทำให้ฉันต้องหันกลับไปโดยเร็ว
"ดูๆๆ ต้นไม้สีเหลือง!! " พร้อมกับเสียงตะโกนตื่นเต้น
เจ้าตัวเล็กวิ่งมาฉุดมือฉันอย่างรวดเร็วมุ่งไปหา...

ต้นไม้สีเหลือง ที่เรียงรายอยู่เต็มไหล่เขา

เหลืองสะพรั่งทั้งถนนจริงๆ ! ยังไม่ทันถึงเป้าหมาย แค่เดินลงไหล่เขา
มาถึงถนนด้านหน้าของ Meguro Gajoen ที่เป็นจุดหมาย

เราก็ได้เจอสีสันของ ใบไม้เปลี่ยนสี ที่สะพรั่งเต็มตลอดช่วงถนน
ใบเมเปิ้ล สีทอง สีแดง สีส้มสวยสะพรั่ง ท่ามกลางแสงสีทองของช่วงบ่าย สวยสุดๆ จริงๆ


เหมือนเวลา...หยุดนิ่ง

ทุกคนแยกย้ายกันหามุมถ่ายรูปกับทิวทัศน์สวยงามเบื้องหน้ากัน อย่างตื่นเต้น

ฉันเดินแยกออกไปหามุมถ่ายรูปใบไม้สีสวย ทั้งมุมใกล้ มุมไกล ทั้งสีเหลือง สีส้ม
ถ่ายเก็บทุกต้น ทุกมุมถนน จนพอใจ...ก่อนจะหยุดยืนใต้ต้นเมเปิ้ลสูงใหญ่ ใบสีทองสะพรั่ง




" คนญี่ปุ่นเรียกใบเมเปิ้ลว่า Momiji มาจาก Momizu หมายถึง ใบไม้เปลี่ยนสี "

ไม่ต้องเดา ก็รู้ใช่ไหม...ว่าใครมาคอยยืนเป็นไกด์ประจำตัวฉันอีกตามเคย
" สวยเนอะ..." บรรยากาศดีจนขี้เกียจแขวะคน ทั้งที่หมั่นไส้นิดๆ
" เดี๋ยวจะพาไปดูที่สวยกว่านี้..." เสียงบอกหลอกล่อสุด ฉันหันไปมองงงๆ
" อ้าว แล้วทำไมไม่บอกเพื่อนๆ จะได้ไปกัน"
" ไว้ก่อน ยังมีเวลา ให้คนอื่นเค้าพาเที่ยวที่ว่าสวยๆให้หมดก่อน "
" ขี้เก๊ก แล้วยังขี้กั๊กอีกนะ! คนอะไร! "


สายลมยามบ่าย ที่พัดผ่านมาเป็นระยะ ทำให้ใบไม้ร่วงพริ้วลงมา...สวยงาม...

" คิดถึง..." เสียงบอกเบาๆ จากคนที่ชิดอยู่เบื้องหลัง

" แปลกดีนะ ที่เราไม่เจอกันนานเป็นสิบปี แต่ความรู้สึกทุกอย่าง มันกลับไม่เปลี่ยนไปเลย "

ฉันฟังเงียบๆ ยังคงแหงนมองใบไม้แต่ละใบที่ร่วงลงมาตามสายลม
ไม่ขยับจากจุดที่ยืนอยู่ ทั้งที่รู้สึกว่า...เขาอยู่ใกล้เกินไป จนสัมผัสได้ถึงไออุ่นที่อยู่เบื้องหลัง

" อยากให้เวลามันหยุดอยู่ตรงนี้..." เสียงนั้น...บอกมาอีก

ฉันขยับก้าวไปข้างหน้าสองก้าว ก่อนจะหันกลับมามองหน้าเขาเต็มตา...แววตาคู่นั้น...รอ...คอย
ฉันยิ้มเต็มที่ ใส่คนที่...กำลังอินกับใบไม้เปลี่ยนสี จน...ปล่อยให้ "ความทรงจำ" ตีกลับ

" เรื่องมันนานจนฉันจำอะไรไมไ่ด้แล้ว จำได้แต่ว่า...เราเป็นเพื่อนกัน "

เขาสบตาฉันนิ่ง แล้วก็หัวเราะออกมาเบาๆ รอยเหงาในดวงตาหายไป กลายเป็นรอยยิ้มล้อเลียนมาแทนที่

" ขอบคุณนะ ที่ยังอุตส่าห์นับเป็นเพื่อน! "

พร้อมๆกับใบเมเปื้ลที่ปลิวมาตามกระแสลม
เราแหงนมองใบไม้ที่ร่วงหล่น...แล้วหัวเราะให้กันเป็นครั้งแรก

ฉันเข้าใจความรู้สึกเขานะ...เข้าใจดีทีเดียว...เพราะ....

ฉันก็คิดถึง...เหมือนกัน

Meguro Gajoen คือ Wedding Hall ที่มีชื่อเสียงที่หนึ่งของญี่ปุ่น เป็นสถานที่จัดงานแต่งงาน งานเฉลิมฉลองต่างๆ ที่ครบวงจร ที่นี่ มีห้องจัดเลี้ยงเรือนกระจกโอ่โถง มีสวนหิน น้ำตกจำลอง ที่มีใบไม้เปลี่ยนสีสวนงาม นอกจากนั้น ยังรวบรวมภาพเขียนโบราณ ศิลปะประติมากรรมสวยงามมีคุณค่า และหาดูได้ยาก มากมาย จนได้รับการยกย่องว่าเป็น "ดราก้อนพาเลซแห่งโชวะ"

นอกจากงานจัดเลี้ยงใหญ่โต คนทั่วไปก็สามารถแวะมาทานอาหาร เบเกอรี่ เดินเล่นกันได้ เพราะที่ Meguro Gajoen รวบรวมไว้ครบหมด ทั้งห้องอาหาร ร้านกาแฟเบเกอรี่ ที่สามารถเข้ามาพบปะสังสรรค์นัดพบกันได้


บรรยากาศด้านในฮอลล์ อบอุ่น อบอวลไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมญี่ปุ่นแบบขนานแท้ ดั้งเดิม มีสาวๆ ใส่ชุดกิโมโนมาร่วมงานแต่ง เดินสวนไปมา เราเดินเล่นชมภาพเขียน ประติมากรรมลอยตัวสวยงามอยู่ซักพัก ก็เปิดประตูกระจกเดินออกมาสัมผัสลมหนาวอีกครั้ง ที่สวนหินด้านนอก ที่มีน้ำตกจำลอง และใบไม้เปลี่ยนสีสวยงาม อลังการ


ถ่ายรูปกันจนหนำใจ ก็ได้เวลากลับ...ขากลับ แสงบนฟ้าเริ่มหม่นยิ่งกว่าเดิม
เราต้องรีบกันสุดๆ เพื่อจะได้แวะเดินเล่นกันต่อได้ ก่อนที่ฟ้าจะมืด...



พวกเรานั่งรถไฟ มาลงที่ Shinjuku Station เพื่อไปยังห้าง LUMINE EST
เป้าหมายคือ ร้านเค้ก HARBS ร้านเค้กฝรั่งเศสชื่อดัง
ตั้งใจว่าจะไปนั่งพัก เติมความหวาน หาความขมของแกาแฟ ใส่หัวใจกันซักหน่อย
แต่...กว่าจะได้เข้าไปชิมเค้กอร่อย ก็ต้องต่อแถวรอคิวกันก่อนตามระเบียบ

เจ้าถิ่นที่น่ารักอาสานั่งรอคิวให้ หลังแจ้งพนักงานเรียบร้อยถึงจำนวนคนของเรา
ส่วนพวกนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน ที่เพิ่งมีโอกาสเข้าห้างญี่ปุุ่นครั้งแรก ก็ถือโอกาสเดินช้อปกันซะหน่อย

ฉันเดินตามน้องนัท ไปเลือกเลโก้กล่องใหญ่ แอบมองโน่นนี่ แต่ยังขี้เกียจจะเลือกของเล่นของตัวเอง

จนกระทั่งกลับมาที่ร้าน HARBS ถึงเพิ่งรู้ว่า...
ตัวเอง... ก็ได้ของเล่น...กลับเมืองไทยแล้วเหมือนกัน
ของที่ระลึกจาก...คนในอดีต...ที่เดินกลับเข้ามาในปัจจุบัน

" ที่ระลึกสำหรับการมาญี่ปุ่นครั้งแรก! พาฮีโร่กลับไทยไปด้วยละกันนะ "


"Cake that can fill your heart with happiness"

คือคอนเซปป์ของร้าน HARBS

" เค้ก...เติมเต็มความสุขให้หัวใจคุณได้ "

หวานฉ่ำน่าทานตั้งแต่คอนเซปป์เลยมั้ยล่ะ เค้กที่นี่เน้นความสด ใหม่ ไม่แช่แข็ง เกือบทุกเมนูจะเน้นครีมสดหนานุ่ม กับผลไม้นานาชนิด สตอเบอรี่ กล้วยหอม ช็อกโกแลตสด กาแฟ มีทั้งเค้ก ทาร์ต และเครป แยกชั้นละเอียด น่าทาน มาดูเมนูจากเวบ http://www.harbs.co.jp/ กันแล้วจะรู้ว่าเลือกยากแค่ไหน



ร้าน HARBS มีกฏ ว่าทุกคนที่มา ต้องสั่งเค้ก 1 ชื้น เครื่องดื่ม 1 แก้ว

เมนูที่เราสั่งมี Mille Crepes / Strawberry Cake / Banana Cream Pie / Mocha Cake

เค้กชิ้นใหญ่ น้ำแก้วใหญ่...ก็...นั่งกันไปเรื่อยๆเลยสิคะ กว่าจะทานกันหมด
แต่บอกได้คำเดียวว่า...อร่อยทุกชิ้นจริงๆค่ะ โดยเฉพาะ Banana Cream Pie



จบจากเติมความหวานเข้าร่างกาย...ก็ได้เวลาวิ่งต่อรถไฟกลับบ้านกันกันเหมือนเคย

วันนี้...เรากลับถึงอพาร์ทเม้นท์ ไม่ดึกนัก และ...ไม่เหนื่อยกายเท่าไร...
แต่ใจมันหวิว ๆ เหนื่อย ๆ แปลก ๆ

เรื่องบางเรื่อง...เราคิดว่าลืมไปแล้ว
ความทรงจำบางอย่าง...ที่เราคิดว่า...ผ่านไปแล้ว
แต่สุดท้าย...เราก็ค้นพบว่า...

ความทรงจำที่คิดว่าจางหาย...สุดท้าย...ก็ยังอยู่ที่เดิม
เหมือน...คนบางคน...ที่...อาจยังอยู่ที่เดิม...ในใจเรา
ไมว่าเวลา...จะผ่านไปนานแค่ไหนก็ตาม


บันทึกตอนที่ 1 เริ่มเดินทาง ย้อนอ่านได้ที่นี่
First Love Returned in Japan #1 :: ทะเล ลมหนาว ภูเขา รถไฟ และใบไม้เปลี่ยนสี

-------------------------------------------------

ทริปข้ามปีนี้ยังอีกยาวไกล เดี๋ยวมาเล่าต่อค่ะ
ให้กำลังใจ หรือมีคอมเม้นต์ แวะคุยกันได้ที่เพจนะคะ
https://www.facebook.com/loveasjourney/

ความรักเดินทาง

 วันศุกร์ที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 22.01 น.

ความคิดเห็น