วัน กับ 1 คืน....เป้หนึ่งใบ..กับใจถึงๆ มานอนกอดหมอก ที่ดินแดนแห่งหมอกเที่ยงวันกัน..." ภูสอยดาว " การเดินเท้าขึ้นยอดภูใช้เวลา 6 ชั่วโมงกว่า ลื่น หกล้ม เจอฝน แต่เพื่อมาเจอกับสิ่งนี้...คุ้มสุดๆ แล้วทริปนี้...ถามว่าทางโหดมั้ย..บอกเลยโหดดดมาก....เดินไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็นั่งพัก ที่นี่ไม่มีเครื่องอำนวยความสะดวกอะไร ข้าวปลาอาหาร และน้ำดื่มต้องเตรียมไปเอง ทำกินกันเอง น้ำอาบน้ำต้องไปตักเองที่ลำธาร ห้องน้ำก็เช่นกัน...แต่มาเหอะคุ้มจริงๆ ค่ะ ดอกหงอนนาคกำลังบานสวย คือ ช่วงเดือน ส.ค.-ก.ย. แต่ถ้ามาช่วงนี้เจอฝนแน่นอน...แต่เราไม่กลัว ^^
**********************************************************************************************************************
ทริปนี้เราเดินทางโดยรถส่วนตัว จาก กทม. มาทางน้ำปาด อุตรดิตถ์ มีอีกทางคือ ไปทางชาติตระการ พิษณุโลก ขับรถกันอย่างเมามันส์ไม่มีพักเพื่อที่จะขึ้นภู ในตอนเช้าวันรุ่งขึ้น ก่อนจะเข้าอุทยานฯ พวกเราแวะซื้อของสด และขนมนมเนย ที่ตลาดกันก่อน เพื่อทำอาหาร เย็นกับเช้าพรุ่งนี้ และเตรียมอาหารกลางวันระหว่างเดินขึ้นภูด้วย เตรียมให้พร้อม น้ำดื่ม และเอากล่องโฟมไว้ใส่ของสดด้วยจะดีมาก ถึงอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว ประมาณ 7 โมงเช้า ทำธุระของเราให้เรียบร้อย แล้วเตรียมของเพื่อให้ลูกหาบนำสัมภาระขึ้นไปบนภู และรอเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เพื่อกรอกรายละเอียด การเข้าพักในอุทยานฯ ลูกหาบคิดค่าแบกของ กิโลละ 30 บาท ค่ามัดจำขยะ 200 (ส่วนนี้จะคืนเมื่อเอาขยะลงมาทิ้งด้านล่าง) ส่วนเตนท์เราเช่าของอุทยานค่ะ ราคาเหมา 3 คน 900 บาท รวมที่รองนอน ถุงนอน หมอน คุ้มกว่า เพราะถ้าเอาเต้นท์ไปเองราคาก็ประมาณนี้ จัดการเรื่องของที่จะให้ลูกหาบแล้ว...
กองทัพต้องเดินด้วยท้อง ในอุทยานมีร้านค้าสวัสสดิการ มีอาหาร น้ำดื่มขาย จัดการอาหารเช้า ให้เรียบร้อย ส่วนอาหารกลางวันต้องเตรียมไปเพื่อทานระหว่างทางด้วยค่ะ อย่าลืม!!! ไม่มีของขายเหมือนภูกระดึงน๊า...น้ำดื่ม ควรพกไปด้วยระหว่างเดิน อย่างน้อย 2 ขวด..เมื่อเรียบร้อยแล้วจะมีรถของทางอุทยานฯ รถอีแต๊ก และรถกระบะ รอรับไปส่งตรงทางขึ้นภูฯ ค่ะ
มาถึงตรงทางขึ้น น้ำตกภูสอยดาวอยู่ด้านหน้า พร้อมแล้วลุย!!!! ทางขึ้นจะเริ่มชันนิดๆ ก่อนถึงเนินแรก คือเนินส่งญาติ แค่เนินแรกก็หอบจะกินแล้วจ้า...เดินชมน้ำตก ชมนกชมไม้กันไปเรื่อยๆ เหนื่อยก็นั่งพัก แต่มีบางช่วงนอนกันเลยจ้า...555 ทางจะชันบ้างไม่ชันบ้าง บางช่วงเดินสบายๆ ถ้าฝนไม่ตกด้วยนะ แต่ถ้าเจอฝนนี่บอกเลยยย เล๊ะตุ้มเป๊ะมากกกก...เดินไปเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบ เดี๋ยวก็ถึง ระหว่างจะเจอลูกหาบเดินผ่านหน้าเราไปเรื่อยๆ เพื่อนร่วมเดินทางจุดหมายเดียวกัน ทักทายกันได้ ตามธรรมเนียมของคนไทยจ้า...
ถึงแล้วววว...ดีใจแทบสิ้นสติ หลังจากเดินมหากาพย์กันยาวนาน 555 มาถึงแล้วก็ต้องถ่ายป้ายเป็นที่ระทึกสักหน่อย ทีนี้แทบจะเดินละล่อง อยู่บนลานสนเลยจ้า แต่อย่ามัวแต่ชิวกันอยู่ เย็นแล้วรีบไปที่จุดรับของกันดีกว่า จะได้ทำมื้อเย็นกิน เพราะตอนนี้ท้องไส้ปั่นป่วนไปหมดแล้ว ไปถึงติดต่อเจ้าหน้าที่ด้านบนเพื่อเอาเต้นท์ก่อน เตนท์ถ้าเช่าของอุทยานแล้ว จะกางรอให้เราไปจิ้มนิ้วเลือกกันเลย นอกจากว่าอยากได้วิวดี สวยๆ ถึงเร็วก็จะดีกว่าค่ะ สรุปพวกเราเดินเท้าขึ้น 6 ชม. ถึง 4 โมงเย็น (ทำเวลาดีมากกกกก...จริงหรือเปล่าไม่รุ้)
อาหารที่อร่อยที่สุดก็อาหารบนดอยนี่ละ ขนาดปลากระป๋อง มาม่าต้มยำ หมูเค็ม ไส้กรอกทอด ยังอร่อยมากกกกก....ไม่รอช้า รีบทำและรีบกินกันให้ไว เพราะต้องรีบไปอาบน้ำ น้ำที่นี่ต้องไปตักที่ลำธารมาอาบน้ำ ทำธุระส่วนตัวเอง ควรเช่ากระป๋องตักน้ำไว้ด้วย กฏห้ามคือ ห้ามลงไปอาบน้ำในลำธาร มิฉะนั้นจะโดนปรับ!!! แต่ก็ยังเห็นมีหนุ่มน้อยลงไปอาบกันอยู่จ้าาาา...
เต้นท์ของอุทยานฯ คือดีตรงมีผ้าใบพลาสติกใส ทำเป็นหลังคา คลุมไว้ไม่ต้องกลัวว่าฝนจะตกหนัก แล้วเตนท์เปียก นอนสบายๆ กันถึงเช้าเลยค่ะ....^^ และคืนนั้นฝนก็ตกท้างคืน แนะนำติดถุงดำ ใบใหญ่ไปด้วยจะดีมาก ไว้ปูก่อนวางที่รองนอน จะได้ไม่เปียกแค่นี้ก็หลับยาวจนถึงเช้าเลยจ้า...ฝันดีราตรีสวัสดิ์ พรุ่งนี้ขอเจอหมอกสักที อยากเจอ...มาเห๊อะ!!!
บอกเลยว่าตอนเช้าที่นี่สวยมาก หลังฝนตก หมอกนี่ลอยฟรุ้งฟริีงกันเลยทีเดียว...อีกเรื่องคือ เตรียมเมมการ์ดไปให้พร้อม เพราะเราจะกดชัตเตอร์ไปโดยไม่รู้ตัว 555 ช่วงเช้าของวันกลับ เราต้องเตรียมของให้ลูกหาบก่อนเก้าโมงเช้า เพื่อที่จะได้ขนลงไปรอด้านล่าง ลูกหาบถ้าคนไหนขนของเราขึ้นมา คนนั้นก็ต้องขนลงไปด้วย ทางที่ดีเก็บของให้เสร็จก่อนออกไปถ่ายรูปจะดีกว่าค่ะ...
ขาลงก็เดินเรื่อยๆ ไม่ต้องรีบร้อน เพราะขาลงจะใช้เวลาเร็วกว่าขาขึ้นแน่นอน แต่ใช้กำลังขามากกว่าเดิม...พวกเราใช้เวลาลง 4 ชั่วโมง เจอฝนนิดหน่อย และหนักมากตอนเกือบจะถึงตีนภูแล้ว ทำให้เดินลำบากไปอีก...ลงมารอขึ้นรถอีแต๊กไปที่อุทยานฯ เพื่อรับของ และอาบน้ำ ก่อนเดินทางกลับ กทม.....
มีสิ่งหนึ่งเราได้เอากลับ จากภูสอยดาว ที่เกือบทุกคนจะพูดคล้ายกันคือ เราได้มิตรภาพที่ดีอยู่แล้วจากเพื่อนที่ร่วมเดินทางด้วยกัน ว่ามันจะดียิ่งขึ้น และมิตรภาพใหม่ๆ จากคนที่ไม่รู้จักกัน แต่สามารถนั่งคุยกันได้ ทักทายกันได้ แบบไม่เคอะเขิน มันรู้สึกดีจริงๆ นะ....มีคนเคยบอกว่าการเดินทาง คือเราเลือกที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ซึ่งในชีวิตคนทำงานคนหนึ่ง ก็เลือกที่จะเรียนรู้มันตลอดนั่นละ ^_^
************************************************************************************************************************
ควรเตรียมตัวอย่างไรเมื่อไปภูสอยดาว....
<< ร่างกาย สำคัญมากกก ต้องพร้อมเพราะกลับมาอาจมีขาเดี้ยง เข่าเดี้ยงได้ (เราเองก็เช่นกันเดี้ยงไป 1 อาทิตย์) >>
<< อุปกรณ์เครื่องครัว ของสด ของแห้ง น้ำดื่ม เตรียมไปให้พอใช้พอกิน เพราะด้านบนไม่มีร้านค้า เราเองเจอมาแล้วหวังพึ่งน้ำฝนด้านบน แต่ปรากฏหมดจ้า...ดีที่พี่ลูกหาบอาสาจะหอบขึ้นมาให้ตอนเช้า เลยมีน้ำติดตัวตอนเดินกลับ (เสียค่าน้ำหนักต่อ กก 30.บาท >>
<< ไฟฉาย ยาแก้ปวด ยานวด ยาลม ยาหม่อง >>
<< สัญญาณโทรศัพท์ที่แรงสุด คือ true ส่วน AIS ก็มี แต่ของเรามันหาไม่เจอ � >>
<< รองเท้า ควรเลือกที่ดอกยางเหนียว แน่นหนึบ เพราะไม่อย่างนั้นอาจจะไถล เหมือนเราได้ 555 >>
<< เสื้อกันฝน เพราะมาช่วงนี้เปียกแน่นอน >>
<< ยาทากันตัวแมลง ตัวคุ่น ถ้าโชคดีอาจเจอทาก >>
**************************************************************************************************************************
ทริปนี้พวกเราเดินทางไปกันเอง เตรียมทุกอย่างเอง ค่าใช้จ่าย ทั้งหมด 4 คน ๆ ละประมาณ 2000.-บาทค่ะ
รีวิวนี้อยากฝากถึงสาวๆ ว่าเราไปกันเองได้แน่นอนจ้าาาา....
เที่ยวทั่วไทย ไปไหนดี
วันพุธที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 21.57 น.