หากคุณเปนคนหนึ่ง ที่ต้องการหนีกรุง แล้วมุ่งสู่เชียงใหม่ ใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ กับใครสักคนแล้วละก็ ผมขอแนะนำ Bamboo Pink House " เยือนถิ่นปกากะญอ " หนึ่งสถานที่ ร้อยบรรยากาศ ที่บ้านผาหมอน ดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่จ้าวววว

ก่อนอื่นเลยนะครับ ต้องบอกก่อนว่า ผมเป็นคนที่ชื่นชอบการถ่ายภาพ ตอนที่ผมไปก็ไม่ได้คิดว่าจะต้องเก็บภาพมารีวิวให้พี่ๆเพื่อนๆดูกัน และตัวผมเองก็ไม่เคยเขียนมาก่อน และตอนนั้นก็แค่คิดว่าไปแล้ว ก็รีบทำงานให้เสร็จทันเวลา แล้วจะได้กลับอย่างสบายใจ แต่พอไปถึงเท่านั้นแหละครับ ว้าว!!! ทั้งบรรยาการ สายลม แสงแดด และก่อนเมฆ ที่พาดผ่านภูเขาและท้องนา พาใจหวั่นไหว ต้องไปหยิบกล้อง มาร้องบอกเพื่อนๆเพื่อจะอินไปด้วยกัน และนี้ก็ถือเป็นการบอกเล่าเรื่องราวครั้งแรก ผ่านอักษร และรูปถ่าย ของผมครับ...



หากใครจะเดินทางไปบ้านผาหมอน ก็อยู่ระหว่าง กม.ที่ 23 เส้นทางขึ้นดอยอินทนนท์ จากถนนลาดยางเข้าไปอีกราวๆ 7 กม. เส้นทางลาดยางบ้าง ดินแดงบ้าง ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ก็ประมาณ 100 กิโลเมตรเห็นจะได้ เส้นทางที่เข้าไปที่บ้านผาหมอน ฝั่งหนึ่งของถนนเป็นหุบเหว ธารน้ำไหล สายน้ำตกเล็กๆ สะท้อนความร่มเย็น ขณะที่อีกฝั่งติดเขา ต้นไม้ใหญ่ริมทางสะท้อนความร่มรื่น แสดงให้เห็นถึงผืนแผ่นดินที่ยังคงความอุดมสมบูรณ์ และควรค่าแก่การอนุรักษ์ เป็นอย่างยิ่งครับ




หลังจากเดินทางมาทั้งวัน จากเมืองบางกอก สู่มหานครล้านนา เราก็เข้ามาถึงที่พักเป็นเวลาบ่ายสามโมงกว่าๆ ก็ได้รับการต้อนรับดีๆ จากพี่ๆที่ดูแล สอบถามก็ได้ความมาว่า ใครก็ตามที่ต้องการเข้าพัก ก็ต้องจองร่วงหน้า โดยการโทรเข้ามาติดต่อ ซึ่งเบอร์ติดต่อที่นี่ก็หาได้ทั่วไปบนโลกอินเตอร์เน็ตที่แสนสะดวกและใครๆก็เข้าถึงได้ง่ายๆครับ



สำหรับที่พักก็ต้องบอกว่าการตกแต่งที่เรียบง่าย และเข้ากับบรรยาการ ชึ่งที่พักก็มีทั้งหมดสามหลัง หลังใหญ่สุดหรือที่นักท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์รู้จักกันในชื่อ "Bamboo Pink House" ก็เป็นบ้านสองชั้น สามารถเข้าพักได้ 10 คน ถึงที่พักจะเรียบง่าย ไม่หรูหราแบบโรงแรมห้าดาว หากใครได้มาสัมผัส ห้าดาวหรือจะสู้ "ร้อยดาว" บนท้องฟ้า




นอกจากที่นี่จะมีหมู่ดาวแล้ว ยังมีนาขั้นบรรไดเป็นที่ดึงดูด นักท่องเที่ยวอย่างเราๆนะครับ หรือที่หลายๆคนคงเคยเห็น ได้สัมผัสเป็นอย่างดี แต่ผมเชื่อว่า คุณคงไม่เคยได้เห็นวิวท้องนาสลับกับภูเขาได้เหมือนที่นี่




ไหนๆเราก็ลิ้มรสบรรยากาศกันพอสมควรแล้ว ก็อยากพามาดูลม และห่มดาวกันอีกสักหน่อย แต่ก่อนที่เราจะไปห่มดาว ขอแนะนำครับว่า อาหารของที่นี่ โดยแม่ครัวท้องถิ่น ฝีมือหรือว่ารสมือของเขาแหละเธอไม่ธรรมดาจริงๆ โดย อาหารจะมีให้สามมื้อเติมได้เต็มที่ แต่ละมื้อก็จะเป็นอาหารท้องถิ่นบ้างหรืออาหารปกติบ้างปนๆกันไป เพื่อใครที่ทานไม่ได้ อาหารไม่ได้ถ่ายครับแต่รับรองอร่อยมากก เลยเก็บบรรยาการโรงอาหารแบบชิวๆ และบรรยาการบนท้องฟ้ายามค่ำคืนมาฝากกัน





และนี่ก็คือหนึ่งสถานที่ ที่ผมอยากแนะนำให้ไปสัมผัส ถือว่าเป็นบล๊อกชี้เป้า เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเดินทาง ของใครหลายๆคน แต่!หากเราไปเยือนสถานที่นั้นๆแล้ว สิ่งที่เราควรระลึกถึง ไม้ใช้แค่ความสนุก ความสุขของเราเพียงฝ่ายเดียว เราควรต้องเคารพกฏ ข้อบังคับของสถานที่ เพื่อให้สถานที่นั้นๆยังคงความสมบูรณ์สวยงาม และเป็นปอดของไทยอย่างยั่งยืนต่อไป







ความคิดเห็น