สวัสดีครับวันนี้ผมจะมาแชร์ประสบการณ์แบ็คแพ็คเที่ยวต่างประเทศ 7 วัน 4 เมือง 2 ประเทศ โดยใช้งบแค่ 8,000 บาท
โดยทริปนี้ผมไปเมื่อวันที่ 21 - 27 พฤษภาคม 2558 ทริปที่ผมไปคือ ปีนัง กัวลาลัมเปอร์ ลังกาวี และสิงคโปร์
เกริ่นนิดๆ >> ทริปนี้มันเริ่มมาจากผมไปเห็นกระทู้ๆหนึ่ง นั่งรถไฟไปมาเลเซีย-สิงคโปร์ ผมก็เลยชวนเพื่อน เฮ้ย! ไปเที่ยวมาเล-สิงคโปร์ป่ะ ก็ตกลงกันกับเพื่อนว่าจะไป และเมื่อปิดเทอมผมก็ได้ทำงานเก็บเงิน ทำงานได้เดือนกว่าๆ ก็ได้เงินมาจำนวนหนึ่ง แต่เพื่อนยังไม่มีที่ทำงานเลย มันก็ถึงเวลาจะจองตั๋วเครื่องบินแล้ว (ตั๋วถูก) ก็เลยบอกกับเพื่อนว่าเดี๋ยวจะออกให้ก่อน แต่เพื่อนก็บอกว่าไม่เป็นไร ก็เลยตัดสินใจ โอเค! คนเดียวก็คนเดียวว่ะ ก็เลยกดจองตั๋วเครื่องบินไป (ทริปนี้ผมนั่งเครื่องบิน 6 ไฟล์ท)
แผนการเดินทางคร่าวๆนะครับ >> ทีแรกผมว่าจะนั่งรถไฟไปกับเพื่อน แต่คราวนี้ไปคนเดียว ในใจคิดว่านั่งรถไฟไปคนเดียวคงไม่ไหวแน่ๆ งั้นไปเครื่องบินดีกว่า เริ่มจาก...
- นั่งเครื่องบินจากดอนเมืองไปลงหาดใหญ่
- แล้วต่อรถตู้จากหาดใหญ่ไปปีนัง
- นั่งเครื่องบินจากปีนังไปกัวลาลัมเปอร์
- นั่งเครื่องบินจากกัวลาลัมเปอร์ไปลังกาวี (ไป-กลับ)
- นั่งเครื่องบินจากกัวลาลัมเปอร์ไปสิงคโปร์
- นั่งเครื่องบินจากสิงคโปร์กลับกรุงเทพฯ
ปล. รูปทั้งหมดถ่ายด้วย iPhone 5
ก่อนอื่นบอกเลยว่าตื่นเต้นมากๆๆ ไปต่างประเทศครั้งแรก ไปคนเดียวด้วย ในใจก็มีกลัวๆด้วย ตอนนั้นถึงกับกังวลและก็เครียดเลยอ่ะ ว่าคิดดีแล้วหรอที่มาคนเดียว แต่มันก็ไม่ใช่อย่างที่คิด ผ่านไปได้ด้วยดี ประทับใจมากๆด้วย
สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทางเพจ Facebook ได้นะครับ Khunjao's Backpacker
เริ่มกันเลย >>>
21 พ.ค. 58
วันนี้เป็นวันเดินทางวันแรก ตื่นเต้นมาก นอนประมาณเที่ยงคืน ตื่นอีกทีตี 2 ก็นอนก็ไม่หลับอีกเลยจนเช้า ตีห้าครึ่งอาบน้ำแต่งตัวพี่ไปส่งขึ้นแท็กซี่ และก็ไปถึงสนามบิน 6 โมงครึ่ง (เครื่องออก 10 โมง) ก็ไปแลกเงิน ลองเดินดูทุกธนาคารในสนามบินเรทเท่าๆกันหมด ก็เลยแลกที่ธนาคารกสิกรไทย จากนั้นก็ไปรอขึ้นเครื่องเพื่อไปหาดใหญ่
เครื่องดีเลย์ 30 นาที ไปถึงหาดใหญ่ 11:30 ก็รีบนั่งสองแถวไปในเมืองเพื่อไปขึ้นรถตู้ ก็ไปขึ้นรถตู้ของบริษัท KST Travel รถตู้ออก 12:30 พี่เขาไปส่งถึงที่พักในปีนังเลย นั่งรถประมาณ 4 ชั่วโมงกว่า ค่ารถก็ 400 บาท [ พูดถึง ตม.นิดนึง ผมอุตส่าห์เตรียมเอกสารไปเยอะมาก ทั้งแผนการเดินทาง สำเนาพาสปอร์ต เอกสารการจองที่พัก เอกสารการเดินทางของ Airasia (Itinerary) และ Boarding Pass ไม่ได้ขอดูเลยสักนิด ตม.ที่ไทยถามแค่ว่าไปไหน ไปคนเดียวหรอ มีญาติที่นั่นเหรอ ไปกี่วัน มาจากอุบลเลยหรอ ยังเรียนอยู่หรือเปล่าเนี่ย...แล้วก็ปั๊มๆพาสปอร์ตให้ นอกนั้น ตม.ที่มาเลเซียหรือที่สิงคโปร์ไม่ถามเรื่องสุขภาพผมซักคำ ]
และก็ถึงปีนังแล้ว หรือถ้าใครมีงบเยอะและไม่มีเวลา นั่งเครื่องบินมาลงที่ปีนังเลยก็ได้นะ แต่ค่าเครื่องก็เกือบๆ 2 พัน
และก็เข้าที่พัก คืนนี้ผมนอนที่ Xavier's Lodge (ที่พักทั้งหมดผมจองผ่าน Booking.com)
และก็เดินเล่นแถวๆนั้น หาอะไรกิน
22 พ.ค. 58
ตื่นเช้ามาก็เช็คเอ้าท์ และไปหาที่พักใหม่ คืนที่ 2 ผมนอนที่ Just Inn เพราะมันใกล้กับตึก Komtar จะได้สะดวกเวลาไปขึ้นรถบัสและจากนั้นก็ได้แผนที่มาอันหนึ่ง ที่มีลายแทงของจิตรกรรมบนท้องถนนบ้านเรือนต่างๆ ผมก็ตัดสินในเดินเก็บภาพให้ทั่วเมืองเลย (มีน้าที่ปั่นสามล้อมาถามว่าสนใจนั่งรถไหมราคาแค่ 3.5 ริงกิตเอง คุณจะได้ชมภาพเกือบทุกภาพเลยนะ) แต่มันผิดวัตถุประสงค์ของผม คือผมตั้งใจจะเดินให้ทั่ว ก็ได้เดินสมใจซะ บอกเลยว่าไกลและเหนื่อยมากกกกก
และก็เที่ยงแล้ว หาอะไรกินสักหน่อยดีกว่า ก็ไปกินข้าวราดแกงบนห้าง Prangin Mall Penang ข้าวราดแกง 8 ริงกิต และก็กลับไปพักที่ห้องพักแป๊ป zZZ
ตอนบ่ายๆก็ลุยต่อต้องเดินให้ทั่ว และก็บังเอิญไปเจอตลาดนัดขายของมือสองอยู่แถวๆถนน Lebuh Cannon มั้งถ้าจำไม่ผิด คือเป็นตลาดขายของมือสองที่น่าสนใจมาก ไม่เคยเห็นมาก่อน ขายทุกอย่างเลยอ่ะ ไม่ว่าจะเป็นที่ชาร์จแบต หูฟัง ไม้ตียุง โทรศัพท์เก่า กล้องถ่ายรูป แก้วน้ำ เครื่องปั้นดินเผา หนังสือ เสื้อผ้า กางเกง รองเท้า ฯลฯ เยอะมาก
เดินถ่ายภาพต่อไป
และก็เดินไปที่ถนน Pangkalan Weld ไปเจอคล้ายๆตลาดน้ำเลยอ่ะ จะมีขายของที่ระลึกต่างๆ
หาอะไรกินซักหน่อย น้ำอะไรไม่รู้จำชื่อไม่ได้ จะมีเม็ดแมงลักด้วย รสชาติก็เหมือนน้ำหวานทั่วไป
พอตอนเย็นก็ไปหาเดินตากแอร์ที่ห้างต่อครับ อยู่ที่นั่นห้างติดกันประมาณ 2-3 ห้าง
และก็ไปกินข้าวห่อๆ ไม่รู้เขาเรียกว่าอะไร อยู่ตรงข้ามห้าง Prangin Mall
23 พ.ค. 58
ตื่นเช้ามาเช็คเอ้าท์ เดินไปขึ้นรถบัสที่ ตึก Komtar เพื่อไปยังสนามบิน ค่ารถก็ 2.7 ริงกิต
ถึงแล้ว สนามบินนานาชาติปีนัง
ซื้อเบอร์เกอร์กินรองท้องที่สนามบิน
แล้วก็บ๊าย บาย ปีนัง เจอกันที่กัวลาลัมเปอร์
23 พ.ค. 58
ถึงแล้วกัวลาลัมเปอร์
จากสนามบินไปในตัวเมืองจะมีการเดินทางหลักๆ 2 แบบ เท่าที่ผมรู้คือ นั่งรถไฟฟ้าด่วนไปถึง KL Sentral ราคา 35 ริงกิต กับ นั่งรถบัสไป KL Sentral ราคา 10 ริงกิต แน่นอนผมเลือกนั่งรถบัส 555 จะมีรถบัส 2 บริษัทคือ Sky Bus กับ AERO Bus
นั่งรถบัสประมาณ 1 ชั่วโมงก็ถึง KL Sentral ผมเลือกที่พักใกล้ๆสถานีรถไฟ Pasar Seni
ก็นั่งรถไฟ LRT จาก KL Sentral ไป Pasar Seni 1.3 ริงกิต
ถึงแล้วที่พัก Marquee Guest Houzz
จากนั้นก็หานั่งรถไฟไปตึกแฝดดีกว่า จากสถานี Pasar Seni ไป KLCC 1.6 ริงกิต
ถึงแล้ววววว Petronas Twin Towers
อยู่ใต้ตึกแฝดก็จะมีห้างด้วยนะชื่อห้าง SURIA KLCC
ก็เดินเล่นอยู่แถวนั้นเรื่อยๆแหละครับ จนค่ำ กว่าจะได้รูปนี้มา
จากนั้นนั่งรถไฟกลับที่พัก พอดีไปเห็นการแสดงวัฒนธรรมของมาเลเซียก็เลยเข้าไปดูสักหน่อย อยู่แถว Central Market
ก็หาข้าวเย็นกินสักหน่อย มื้อนี้หมดไป 9.8 ริงกิต
รูปขนมปังเป็นอาหารมื้อเช้าฟรีจากที่พัก และก็บรรยากาศด้านหลังที่พัก
บรรยากาศห้องพัก ฝันดีครับ zZZ
24 พ.ค. 58
ตื่นเช้ามาก็เช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก และฝากกระเป๋าไว้ที่นั่น
ก็เดินหาดูแถวๆนั้นครับ
เจอวัดอะไรสักอย่างไม่รู้ ก็เข้าแว๊บไปถ่ายรูป
จากนั้นก็เดินต่อไปแถว China Town เดินไปตรงที่เขาเรียกว่า Petaling Street ก็เป็นที่ขายของทั่วๆไปครับ
จากนั้นเดินไปเรื่อยๆ แอบเห็นธนาคารกรุงเทพในมาเลเซียด้วย
แล้วก็เดินไปเรื่อยๆ ไปเจอ National Textile Museum ฟรีค่าเข้าชมก็เลยลองเข้าไปดู บอกเลยบรรยากาศหลอนมากๆๆ ไม่มีคนเลย ก็เดินถ่ายรูปไปเรื่อยๆ หลอนนนน
จากนั้นก็เดินไป Merdeka Square และก็ถ่ายรูปกับ Sultan Abdul Samad Building
แวะถ่ายรูปกับ KL City Gallery และเดินกลับที่พัก จะเห็น Masjid Jamek
พอดีมีเพื่อนอยู่ที่กัวลาลัมเปอร์ (เพื่อนสมัยมัธยม) เพื่อนก็เลยชวนไปเที่ยวน้ำตกแถวๆ Kawasan Perkelahan Hutan Lipur Sungai Tua ห่างจากกัวลาลัมเปอร์ประมาณ 20 กิโลเมตร
จากนั้นเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนก็มาส่งที่ KL Sentral แล้วก็เดินไปที่พัก ประมาณ 5 นาที
วันนี้นอนที่นี่ครับ Bullockcart Hostel
จากนั้นก็ไปเดินห้างใกล้ๆกับ KL Sentral ชื่อห้างว่า NU Sentral
และก็มาซื้อข้าวกับขนมที่เซเว่น และก็ซื้อข้าวกล่อง จะเป็นแบบให้เราอุ่นเอง
25 พ.ค. 58
ตื่นเช้ามาก็มีอาหารเช้าฟรีให้จากที่พัก (อาหารฟรีคือขนมปังกับกาแฟนะ) ส่วนรูปแรกเป็นอาหารที่ซื้อมาจากเซเว่นเมื่อคืน แล้วก็นั่งรถบัสจาก KL Sentral ไปสนามบินกัวลาลัมเปอร์ โดยใช้บริการจาก AERO Bus ค่ารถ 10 ริงกิต
ถึงแล้วสนามบิน klia2 (Kuala Lumpur International Airport 2)
เตรียมตัวมุ่งสู่ลังกาวี
25 พ.ค. 58
ถึงแล้ว...ลังกาวี
ทีแรกว่าจะเช่ามอเตอร์ไซค์ขับไปหาดเจอนัง แต่ต้องนั่งแท็กซี่ไปเช่ามอไซค์ 200 ค่าเช่ามอไซค์อีก 400 ค่าแท็กซี่กลับมาอีก 200 ก็เลยเฮ้ย เกินงบว่ะ นี่มาคนเดียวด้วย ถ้ามีเพื่อนมาด้วยยังจะพอได้หารกัน ก็เลยตัดสินใจ อืม! อยู่สนามบินนี่แหละ
สรุปวันนี้นั่งเครื่องบินมากินข้าวที่ลังกาวีครับ 55555
ได้ข่าวว่าเมืองนี้เหล้าถูก (หรือเปล่า)
และก็บ๊าย บาย ลังกาวี 555
คืนนี้นอนที่สนามบินกัวลาลัมเปอร์ครับ
26 พ.ค. 58
บ๊าย บาย กัวลาลัมเปอร์ มุ่งหน้าสู่ สิงคโปร์ แอร์โฮสเตสก็จะมาแจกใบตม.ผ่านเข้าเมือง ก็กรอกๆ แนะนำให้พกปากกาไปด้วยนะครับ เพราะบนเครื่องไม่ได้แจกให้ หรือไม่ก็ยืมคนข้างๆ
ถึงสิงคโปร์แล้ว สวัสดีสิงคโปร์
สวัสดีสนามบินชางงี
จากนั้นก็มองหาป้ายรถไฟเข้าเมือง Train to City
ตอนนี้เครื่องมาลงที่ Terminal 1 รถไฟฟ้า MRT จะอยู่ที่ Terminal 2 กับ 3 ก็ให้นั่งรถไฟจาก Terminal 1 ไป Terminal 2 หรือ 3
การขึ้นรถไฟฟ้าที่นี่จะมี 3 แบบ คือ ใช้บัตร EZ-Link , บัตร Tourist Pass , และตั๋วแบบเที่ยวต่อเที่ยว (มั้ง)
ถ้าใครจะซื้อบัตร Tourist Pass (บัตรขึ้นรถไฟฟ้าและรถบัสแบบไม่อั้น) ให้ไปซื้อที่ สถานีรถไฟฟ้า MRT Terminal 2 ราคาจะอยู่ที่
1 วัน 10 ดอลลาร์
2 วัน 16 ดอลลาร์
3 วัน 20 ดอลลาร์
และจะมีค่ามัดจำบัตรอีก 10 ดอลลาร์
จากนั้นก็นั่งรถไฟฟ้าไปยังที่พัก ผมพักอยู่แถว Little India เลยนั่งรถไฟจากสถานี Changi Airport ไปลงที่สถานี Little India และก็เดินไปที่พักประมาณ 10 นาที คืนนี้ผมนอนที่นี่ครับ Footprints Hostel
และก็ไปหาอะไรกินแถวๆนั้น พอดีผมพักอยู่ย่านลิตเติ้ลอินเดีย เลยได้กินอาหารแบบอินเดียๆครับ เขาเรียกว่า Vegetarian Set Meal
มุมล่างขวาคือบัตร Singapore Tourist Pass ราคา 16 ดอลลาร์สิงคโปร์ (2 วัน)
คือมาสิงคโปร์ไม่ได้วางแผนอะไรเลย ขอแค่ว่าได้เห็น Merlion , Marina Bay Sand และ Sentosa แค่นี้ก็พอ
ก็เลยนั่งรถไฟฟ้า MRT ไปลงที่สถานี Marina Bay และก็ได้เห็นแบบในภาพ
จากนั้นก็เดินเรื่อยๆไปยัง Merlion Park (ไกลมากกกก) ความจริงถ้าจะไป Merlion Park ให้นั่งรถไฟไปที่สถานี Raffles Place แล้วเดินไปจะใกล้กว่า
เชื่อไหม ผมเดินจากสถานีรถไฟ Marina Bay จนไปถึง Merlion Park เหนื่อยโคตรรรร
น้ำตาจะไหล ถึงแล้ว Merlion Park
จากนั้นก็เดินไปไม่มีเป้าหมาย แล้วก็นั่งรถบัสจาก Merlion Park ไปลง สถานีรถไฟ Nicoll Highway ไปเรื่อยๆๆ จนไปถึงสถานี China Town
พอดีวันนี้ฝนก็ตกด้วย ก็เลยนั่งรถบัสไปเรื่อยๆไม่มีจุดหมาย คนลงไหนเยอะก็ลงตาม 555
และก็นั่งรถไฟ MRT ไปเรื่อยๆ จนถึงสถานี HarbourFront ขึ้นมาจากใต้ดินจะเป็นห้าง Vivo City
และก็นั่งรถไฟไปเรื่อยๆ จนไปถึงสถานี Bayfront ก็เดินตามป้ายเรื่อยๆเพื่อไป Gardens by the Bay ก็เดินไปเรื่อยๆ ไกลพอสมควรไปถึงพนักงานบอกว่าปิดแล้ว ให้มาพรุ่งนี้เช้า (รู้สึกว่าค่าเข้าจะแพงอยู่) ก็เลยเดินไปถ่ายรูปรอบๆ
หลังจากนั้นเดินจาก Gardens by the Bay ทะลุเข้ามายัง Marina Bay Sand (จะมีทางเดินให้เข้ามา)
นี่คือภายใน Marina Bay Sand น้ำตาจะไหล 555
เดินทะลุมาเรื่อยๆ มันจะเจอห้างอะไรไม่รู้ จากนั้นผมก็ลงมาชั้นใต้ดินเพื่อนั่งรถไฟ MRT ไปต่อ
และก็นั่งรถไฟจากสถานี Bayfront มาลงที่สถานี Raffles Place แล้วเดินมายัง Merlion Park อีกครั้ง (ขยันจริง 555)
แล้วก็กลับที่พัก หาอะไรกินสักหน่อย Prata Banana และ Mio
27 พ.ค. 58
รีบตื่นขึ้นมาเพื่อมากินอาหารเช้า(อาหารเช้าขนมปังกาแฟรูปด้านบน) เพราะที่พักบางที่ ถ้าตื่นสายอาหารเช้าอาจจะหมดก่อนได้ และที่สิงคโปร์น้ำประปาที่นี่สามารถดื่มได้เลยไม่ต้องผ่านการกรอง(รูปด้านบน) ที่พักเขาบอกมาแบบนี้
กินข้าวเสร็จก็เช็คเอ้าท์ ฝากกระเป๋าไว้ที่ห้องพัก และก็เดินทางไปยังสนามบินชางงี เพราะเพื่อนบอกว่าที่สนามบินจะมีการแสดงเครื่องบินอะไรสักอย่าง แต่ไปแล้วไม่เห็นมีอะไรเลย 555
หลังจากกลับมาจากสนามบินแล้วก็มากินข้าวมันไก่ที่สถานีรถไฟฟ้า Outram Park และก็เดินทางต่อไปยังสถานี HarbourFront
ถึงแล้วสถานี HarbourFront ก็ออกมาจะเจอห้าง Vivo City
ที่นี่จะมีการเดินทาง 2 แบบไปยังเกาะ Sentosa คือ โดยรถไฟ Sentosa Express ประมาณ 4 s$ และก็เดินผ่าน Sentosa Board Walk แน่นอนผมเลือกเดิน 555
การเดินก็ไม่ได้เหนื่อยอะไรมากนะครับ เพราะจะมีทางเลื่อนอัติโนมัติให้เกือบตลอดทางเลย
ถึงแล้วเกาะ Sentosa อันดับแรกไปถ่ายรูปกับ Universal Studio สักหน่อย
ปล.ผมไม่ได้เข้าไปเล่นนะ เพราะงบจำกัด 555
จากนั้นก็เดินเรื่อยๆไปจนถึง Sentosa Merlion (เมอร์ไลออนยักษ์)
และก็เดินไปเรื่อยๆจนถึงสถานี Beach Station (ถ้าใครดูแผนที่จะรู้ว่ามันไกลมากกก ไม่เป็นไรผมทนได้ ผมสายแข็ง 555)
จากนั้นก็เดินวนขึ้นมายัง Universal Studio อีกครั้ง
จากนั้นก็ บ๊าย บาย เกาะ Sentosa เดิน Board Walk มายัง Vivo City อีกครั้ง
ผมก็คิดแผนบางอย่างออก เรามี บัตร Tourist Pass นี่หว่า ก็เลยคิดว่านั่งรถบัสดีกว่า คันไหนมาก็ขึ้นคันนั้นแหละ ไปเรื่อยๆ ลงไหนก็ลง (ฟังดูแล้วบ้าเนอะ) ไปเรื่อยๆ ก็เลยไปเห็นตึกสวยๆนี้ ก็เลยลง
เดินไปเรื่อยๆ ขอบอกว่าไกลมากกก เดินไปรอบๆตึกนี้ และก็ไปเจอท่าเรือยอร์ช สวยมากกกก
พิกัดอยู่แถวสถานีรถไฟ Telok Blangah
จากนั้นก็กลับไปยังที่พักเพื่อไปเอากระเป๋าและไปสนามบิน
นี่คือบรรยากาศแถวๆที่ผมพัก ย่าน Little India
และก็ซื้อเครื่องดื่มเย็นๆมากิน แหมโดนหลอกซะแล้ว ข้างหน้ากระป๋องเขียนว่า Ginger Beer ไปดูส่วนผสมมีน้ำตาลด้วย นี่มันน้ำอัดลมชัดๆ
และก็มาสนามบินรอขึ้นเครื่อง
บ๊าย บาย สิงคโปร์ บ๊าย บาย สนามบินชางงี
และสวัสดีประเทศไทย นี่คือเงินที่เหลือจากทริปนี้
ปล.อาจจะรีวิวไม่ละเอียดนะครับ มีอะไรสงสัยหรืออยากปรึกษา สอบถามได้ครับ FB/suwat.bb
ผิดพลาดประการใดขออภัยด้วยครับ
ค่าใช้จ่าย
(1 MYR = 10 บาท , 1 SGD = 26 บาท)
21 พ.ค. 58
ค่าแท็กซี่จากที่พักมาสนามบินดอนเมือง 150 บาท
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 72 บาท
สองแถวจากสนามบินหาดใหญ่ไปตัวเมือง 30 บาท
รถตู้จากหาดใหญ่ไปปีนัง 400 บาท
ค่าที่พัก 18 MYR (180 บาท)
ข้าวที่ปีนัง 3.5 MYR (35 บาท)
22 พ.ค. 58
ค่าห้องพัก 20 MYR (200 บาท)
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 12.7 MYR (127 บาท)
23 พ.ค. 58
รถบัสไปสนามบินปีนัง 2.7 MYR (27 บาท)
รถบัสไป KL Sentral 10 MYR (100 บาท)
รถไฟฟ้า LRT 1.3 MYR (13 บาท)
รถไฟฟ้าไปกลับ Pasar Seni - KLCC 1.6+1.6=3.2 MYR (32 บาท)
ค่าที่พัก 25 MYR (250 บาท)
อาหารและเครื่องดื่ม 16 MYR (160 บาท)
24 พ.ค. 58
รถไฟฟ้าไปหาเพื่อน 2.1 MYR (21 บาท)
ค่าที่พัก 28 MYR (280 บาท)
ค่าอาหารและเครื่องดื่ม 13.3 MYR (133 บาท)
25 พ.ค. 58
รถบัสไปสนามบิน 10 MYR (100 บาท)
อาหารและเครื่องดื่ม 11.9 MYR (119 บาท)
ค่าที่พักฟรี (นอนสนามบิน)
26 พ.ค. 58
บัตร Tourist Pass 16 SGD (416 บาท)
ค่าที่พัก 17 SGD (442 บาท)
อาหารและเครื่องดื่ม 9.8 SGD (254.8 บาท)
27 พ.ค. 58
อาหารและเครื่องดื่ม 8.5 SGD (221 บาท)
ค่าแท็กซี่กลับที่พัก 220 บาท
ค่าเครื่องบิน ผมจ่ายผ่าน Direct Debit ของธนาคารกรุงไทย (รวมค่าธรรมเนียมการจ่าย) (ในวงเล็บคือค่าธรรมเนียมการจ่าย)
ดอนเมือง - หาดใหญ่ 790+(42.80) = 832.80 บาท
ปีนัง - กัวลาลัมเปอร์ 347.13+(35.60) = 382.73 บาท
กัวลาลัมเปอร์ - ลังกาวี (ไป-กลับ) 539.74+(37.65) = 577.39 บาท
กัวลาลัมเปอร์ - สิงคโปร์ 360.31+(35.16) = 395.47 บาท
สิงคโปร์ - ดอนเมือง 1,379.31+(95.31) = 1,474.44 บาท
รวมค่าเครื่องบิน 3,662.83 บาท
รวมค่าเดินทาง 1,509 บาท
ค่าอาหาร 1,121.80 บาท
ค่าที่พัก 1,352 บาท
รวมทั้งหมด 3,662.83 + 1,509 + 1,121.80 + 1,352 = 7,645.63 บาท !!!
สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทางเพจ Facebook ได้นะครับ Khunjao's Backpacker
Khunjao Backpacker
วันพฤหัสที่ 27 ตุลาคม พ.ศ. 2559 เวลา 20.42 น.