สวัสดีครับวันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ Backpack ไปเวียดนาม โดยทริปนี้เริ่มต้นคือชวนเพื่อนๆไปเที่ยวในช่วงปิดเทอม โดยปกติพวกผมจะหาทริปไปเที่ยวกันอยู่เสมอๆ โดยครั้งที่แล้วพวกผมไปลาวใต้ ปากเซ - ดอนเดด >>> เที่ยวลาวใต้ 4 วัน 3 คืน กับงบ 3,000.


ครั้งนี้ผมเก็บเงินช่วงปิดเทอมประมาณ 1 เดือน ทริปนี้แทบจะไม่ได้วางแผนเพราะไม่มีเวลาวางแผนเลย วางแผนล่วงหน้าประมาณ 1 สัปดาห์และก็ไม่ค่อยได้ศึกษารายละเอียดสักเท่าไหร่

ปล.ภาพถ่ายจากกล้อง DSLR Canon Kiss X7i และ iPhone 5 ปรับสีและแสงจาก Lightroom เล็กน้อย


สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทางเพจ Facebook ได้นะครับ Khunjao's Backpacker


แผนที่ผมวางคือ

วันที่ 1 เดินทาง อุบลฯ - มุกดาหาร - สะหวันนะเขต

วันที่ 2 เดินทาง สะหวันนะเขต - เว้ (พักที่เมืองเว้)

วันที่ 3 เดินทาง เว้ - ดานัง - ฮอยอัน (พักที่ฮอยอัน)

วันที่ 4 เดินทางกลับ ฮอยอัน - ดานัง - เว้ (พักที่เมืองเว้)

วันที่ 5 เดินทางกลับมุกดาหาร เว้ - สะหวันนะเขต - มุกดาหาร

วันที่ 6 เดินทางกลับ มุกดาหาร - อุบลฯ

แต่จะบอกว่าพวกเราผิดแผนตั้งแต่วันแรกจนถึงวันสุดท้ายเลย!!!


ทีแรกว่าจะไปทาง อุบลฯ - ปากเซ - สะหวันนะเขต - เว้

แต่คำนวณดูค่ารถ ไปทางมุกดาหารน่าจะถูกกว่า


ขอบคุณข้อมูลจากลิ้งค์ด้านบนนะครับ


-----------------------------------------------------------------------



เริ่มกันเลยดีกว่า

6 พ.ค. 59

วันแรกของการเดินทางโดยพวกเรานัดกันขึ้นรถไปมุกดาหารเวลา 08:00 น. รถออกเวลา 08:45 โดยผมมาถึงสถานีขนส่งฯอุบลฯเวลา 08:00 ก็นั่งรถเพื่อนจนเพื่อนมาโดยที่ไม่ได้ไปซื้อตั๋วไว้ล่วงหน้าเพราะถามที่เค้าเตอร์เค้าบอกให้รอรถตู้ที่ชานชลาที่ 8 ผมก็รอรถตู้ที่ช่องที่ 8 ไม่เห็นมาสักทีเห็นแต่รถมินิบัส พอเพื่อนมาถึง เพื่อนก็ถามทำไมไม่ไปซื้อตั๋วรอ ผมก็บอกว่ารอรถตู้อยู่เขาให้มารอที่ช่องที่ 8

ที่ไหนได้รถตู้จอดอยู่ช่องที่ 9 พอไปถามซื้อตั๋วปรากฎว่าตั๋วหมด!!! ก็เลยได้ขึ้นรถมินิบัสซะงั้น ผิดแผนตั้งแต่วันแรกเลยยยย...


ค่ารถอุบลฯ - มุกดาหาร 120 บาท


ถึงมุกดาหารเวลาประมาณ 11:10 ก็ถามแม่ค้า พี่ๆมอไซค์วิน แถวนั้นว่ามีที่แลกเงินไหมคือพวกเรายังไม่ได้แลกเงินกันเลย เขาก็บอกให้ไปแลกที่ธนาคารในห้าง


จากนั้นพวกเราก็เลยเลือกนั่งรถสองแถวเพื่อนไปยังห้าง Big C ค่ารถสองแถวจากบขส.ไปบิ๊กซี 10 บาท

สำหรับใครที่จะแลกเงินแนะนำให้ไปแลกที่ธนาคารใกล้บ้านเลยนะครับจะได้ไม่ต้องยุ่งยากในการหาที่แลกเงิน เพราะเรทก็เท่าๆกัน

ผมเลือกแลกที่ธนาคารกรุงเทพ สาขา Big C มุกดาหาร (พนักงานบริการดีมากกกกก)

โดยผมเลือกแลก 2 สกุล คือ ดอลล่าร์สหรัฐ (USD) และ ด่อง (VND) เพราะเคยอ่านว่าสามารถใช้เงินดอลล่าร์ได้และเมื่อนำไปแลกที่เวียดนามจะได้เรทที่สูงกว่า ผมแนะนำให้แลกเงินด่องไปให้หมดเลย เพราะใช้ง่าย ไม่ต้องหาที่แลกยาก


ผมแลกได้ในเรท

1 ดอลล่าร์ = 35.3 บาท

602.4 ด่อง = 1 บาท

(20,000 ด่อง = 33.2 บาท)


จากนั้นนั่งรถสามล้อจากบิ๊กซีมุกดาหารไปยังสถานีขนส่งมุกดาหาร ค่ารถคนละ 30 บาท

พอถึงสถานีขนส่งก็รีบวิ่งไปซื้อตั๋วข้ามไปยังสะหวันนะเขต คนละ 50 บาท

ขึ้นรถไม่ถึง 1 นาที รถก็ออกมุ่งหน้าไปยังเมืองสะหวันนะเขต


ถึง ตม.ไทย ก็ขอบัตรขาเข้า ขาออกไทย จากนั้นก็กรอกข้อมูล และให้เจ้าหน้าที่ปั๊มพาสปอร์ต (ที่ด่านไทยไม่เสียเงิน)

จากนั้นก็รอขึ้นรถบัสคันเดิม ข้ามสะพานมิตรภาพ ไทย - ลาว ไปยังเมืองสะหวันนะเขต

พอถึง ตม.ลาว ก็ขอใบขาเข้าขาออกเมืองเหมือนเดิม ก็กรอกๆข้อมูล เจ้าหน้าที่บอกว่าเสียค่าธรรมเนียมคนละ 50 บาท ก็เลยต่อเหลือ 40 เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าไม่ได้เพราะเงินไทยมันอ่อนค่าลง พอดีตอนนั้นมีเงินกีบอยู่ ก็จ่ายไปคนละ 10,000 กีบ

พอมาถึงสถานีขนส่งเมืองสะหวันนะเขต ก็มาถามเจ้าหน้าที่ว่ามีรถไปเวียดนามกี่โมงบ้าง

จากนั้นความคิดออกนอกแผนก็มา คือพวกเราจะไปเว้ในคืนนี้เลย ก็ไปถามเจ้าหน้าที่ว่ามีรถไหม เพราะในตารางบอกว่ามีรถเวลา 21:00 วันพฤหัสกับวันศุกร์ ค่ารถ 90,000 กีบ แต่!!! เจ้าหน้าที่ขายตั๋วบอกว่าไม่มีรถ ผมก็เลยงงๆว่าไม่มีรถแล้วเขียนไว้ในตารางทำไม เขาก็บอกว่ามันเป็นรถของเวียดนามแล้วแต่เขาจะวิ่ง ปกติเขาก็วิ่ง แต่วันนี้ไม่มีรถ ในใจก็คิดช่างมันเถอะตามแผนเดิมของเราดีกว่า

ความจริงมีรถไปเว้ เวลา 09:00 แต่เนื่องจากพวกเรามาจากอุบลฯรถรอบเช้าสุดก็มาถึงมุกดาหารประมาณ 08:30 ก็เลยคิดว่าไม่ทันรอบ 9 โมงแน่ๆเลย จึงเลือกมานอนที่สะหวันนะเขต ถือเป็นการชมเมืองไปด้วย




จากเดิมที่จะไปพัก Mody Guesthouse ก็เปลี่ยนแผนวอล์คอินหาที่พักเลย ที่ไหนใกล้สถานีขนส่งก็เลือกที่นั่น แต่ไปที่แรกไม่มีไวไฟ เลยเดินไปอีก คืนนี้เราพักที่เฮือนพักสะหวันทอง ห้องแอร์ น้ำอุ่น ฟรีไวไฟ ราคาห้องละ 450 บาท (จ่ายเงินไทย)


แผนที่จาก สถานีขนส่ง

พิกัด GPS 16.575629 104.74817


จากนั้นช่วงเวลาเย็นก็หาอะไรอร่อยๆกินกัน อิอิ

พวกเราถามคนแถวนั้นว่าแถวนี้มีร้านไหนชิวๆน่านั่งบ้าง เขาก็แนะนำร้านฮ่มฟ้า ซึ่งอยู่ในเมือง 1 - 2 กิโลเมตร พวกเราก็เลือกวิธีการเดินไปเรื่อยๆ ถือว่าชมเมืองสะหวันนะเขตไปในตัว

แผนที่ร้าน


ด้วยความที่หิวมากก็สั่งข้าวและเบียร์ลาวมากิน

เบียร์ลาวอร่อยมากรสชาติอ่อนๆ กินง่าย


7 พ.ค. 59

ในวันนี้พวกเราเดินทางไปดานัง (ในแผนคือจะไปเว้ ผิดแผนอีกแล้ว) รถออกเวลา 07:30 ซื้อตั๋วราคาคนละ 150,000 กีบ เป็นรถนอนราคาเลยค่อนข้างจะแพงหน่อย แต่พวกเราจ่ายเป็นเงินดอลล่าร์ คนละ 20 USD


จากนั้นไปหาซื้ออะไรกินรองท้อง ได้ไก่ย่าง ข้าวเหนียว อร่อยมากก (เพราะหิว)


รถออกตรงเวลามาก ก่อนขึ้นรถจะมีเจ้าหน้าที่แจกถุงพลาสติกให้เราถอดรองเท้าใส่ถุงนั้นไว้

รถบัสจอดหลายครั้งมาก พอถึงเวลารถจอดก็มีคนไปเข้าห้องน้ำ (ข้างทาง)

และจอดครั้งสุดท้ายก่อนออกจากลาว

รถบัสจะจอดให้ลงกินข้าวที่ร้านแห่งหนึ่งก่อนข้ามไปเวียดนาม เราถึงที่นี่เวลาประมาณ 11:30

พอถึงร้านอาหาร แม่ค้าจะตักๆอาหารรวมๆกันใส่จานเดียว เหมือนเป็นข้าวราดแกง ผมว่าจะลองชิมดูแต่กลัวกินไม่ทัน พอจะถามว่ารับเงินเวียดนามไหมเขาก็เหมือนไม่ว่างที่จะตอบ ก็เลยไม่กินข้าวแล้ว


ก็เลยไปซื้อนมน้ำม่วงแทน ก็จะมีเด็กแถวนั้นมาขอเงิน แต่พวกเราไม่ให้และไล่ไป เขาก็มาตามตื้ออีก เด็กๆก็ขอน้ำกิน พวกเราเลยบอกว่าอยากกินก็ไปซื้อสิ เขาก็ไม่มีเงิน ก็บอกว่าไม่มีเงินก็ไปหางานทำสิ เขาก็บอกว่าไม่มีงานทำ ก็เลยให้น้ำที่ซื้อมาให้เด็กๆไปซะ


ไปถึงชายแดน ลาว - เวียดนาม (ด่านแดนสะหวัน ด่านลาวบาว) เวลา 11:55

รถจอดให้ลงแล้วเดินเข้าไปยัง ตม. ด่านลาวบาว เวียดนาม

ตม.ที่นี่ดีอย่างหนึ่งคือ ตม.ลาวและเวียดนามติดกัน คือ พอปั๊มขาออกที่ลาวเสร็จก็เลื่อนไปเค้าเตอร์ข้างๆเพื่อปั๊มขาเข้าเวียดนาม (เข้าเวียดนามไม่ต้องเขียนใบขาเข้า - ขาออก)


Welcome to Vietnam ตื่นเต้นๆๆ

เราเสียค่าล่วงเวลาที่ด่านลาว คนละ 30,000 ด่อง (ขอเจ้าหน้าที่จ่ายเป็นเงินเวียดนาม)

ค่าธรรมเนียมออกจากด่านลาวอีก คนละ 25,000 ด่อง

ค่าธรรมเนียมเข้าเวียดนาม คนละ 25,000 ด่อง


จากนั้นพอออกจาก ตม. ก็เดินมาเรื่อยๆ เพื่อขึ้นรถบัสคันเดิม ก่อนออกจากด่านจะมีเจ้าหน้าที่ ตรวจพาสปอร์ตของเราอีกทีว่าเรียบร้อยหรือไม่

พอเสร็จเรียบร้อยทุกขั้นตอนก็ขึ้นรถพร้อมมุ่งหน้าสู่ดานัง

ระหว่างทางเป็นวิวที่สวยงามมากๆ ต้นไม้ ภูเขา ลำธาร


มีฝรั่ง 2 คนนั่งรถมาเตียงข้างๆกัน มาจากประเทศแอฟริกาใต้ สองคนนี้มีจักรยานมาปั่นด้วยและลงที่เมืองเว้

เตียงข้างๆก็เลยว่างงงง


ลงใกล้จะหมดแล้วววว


บรรยากาศระหว่างทาง


พวกเรามาถึงดานังเวลาประมาณ 17:30 จากนั้นความคิดออกนอกแผนก็มาอีกครั้ง ทีแรกพวกเราจะนอนดานัง แต่ทีนี้คิดว่า ถ้านอนดานังคืนนี้ ก็ต้องไปฮอยอัน และกับมานอนที่ดานังอีก ก็เลยตัดสินใจไปเริ่มต้นฮอยอันเลยเพราะจะได้เที่ยวย้อนกลับคืนมาคือ ฮอยอัน - ดานัง - เว้

พอลงจากรถบัสที่มาจากสะหวันนะเขต พอดีเห็นรถดานัง - ฮอยอัน ก็เลยจะไปถามราคาว่าไปฮอยอันราคาเท่าไหร่ พอไปถามคนแรกเขาก็ไม่เข้าใจ เหมือนพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ จากนั้นก็มีคนหนึ่งเดินเข้ามา ทีแรกผมนึกว่าเป็นผู้โดยสารเพราะเขาแต่งตัวปกติธรรมดา ผมก็เลยถามเขาว่าค่ารถไปฮอยอันเท่าไหร่ เขาก็บอกว่าสองคน 150,000 ด่อง คือตอนนั้นไม่ได้คิดอะไร เพราะคิดว่าเป็นราคาปกติ ด้วยความที่รีบเพราะมันค่ำแล้ว ก็ขึ้นรถไปเลย พอมารู้อีกทีว่าผู้ชายคนนั้นคือ กระเป๋ารถเมล์

จากนั้นขึ้นรถไปก็ไปถามผู้โดยสารอีกคนว่าค่าโดยสารไปฮอยอันเท่าไหร่(ขอเรียกว่าพี่ A) เขาก็บอกประมาณว่า โฟร์ติๆ จากนั้นผู้ชายคนนั้นก็เดินมา พร้อมส่งสายตาไปหา พี่ A ประมาณว่าอย่าบอกค่าโดยสารที่แท้จริงนะ หลังจากนั้นพี่ A ก็ไม่คุยกับผมอีกเลย

เราปรึกษากันเฮ้ย อ่านในกระทู้ค่ารถมันประมาณ 30,000 ด่องเองนะ นี่เราโดนหลอกหรือเปล่าว่ะ รีบลงรถกันเถอะ แต่ถ้าลงแล้วเราจะไปไหนดีล่ะก็เลยนั่งต่อไป

ไม่นานรถก็ออก พวกเราเลยต้องยอมจ่าย คนละ 75,000 ด่อง แสรสสสสส ความประทับใจวันแรกเมื่อมาเวียดนามก็โดนหลอกซะแล้ว

(เค้าบอกว่าถ้ามาเวียดนามไม่โดนโกง โดนหลอก ถือว่ามาไม่ถึง แสดงว่าพวกผมมาถึงแล้ว เย้ๆๆๆ)

ภายในรถบัสที่เรานั่งจากดานังไปฮอยอัน


บอกเลยว่ากว่าจะออกจากดานังได้นานมาก ทั้งรถติด ไฟแดง เรื่องบีบแตรนี่ไม่ต้องพูดถึงมีอยู่ทุกซอกทุกซอย

เราไปถึงฮอยอันประมาณ ทุ่มกว่าๆ ด้วยความที่เราผิดแผน ที่พักก็ไม่มี สถานีขนส่งก็ห่างจากตัวเมืองประมาณ 1 - 2 กิโลเมตร

พอไปถึงก็เปิดแอพหาที่พักกันเลย ดีหน่อยที่ฮอยอันมี Free WiFi ทั่วเมือง ผมเลือกใช้แอพ Booking.com และ Hotel combined เลือกหาที่พักที่ถูกที่สุดก็เจอ Long Life Hotel Hoi An ราคาในแอพคนละ 7 ดอลล่าร์


จากนั้นก็เดินตามหาตามพิกัด GPS แต่ปัญหาอีกอย่างหนึ่งที่พวกเราเจอคือ พิกัดกับสถานที่จริงไม่ตรงกัน ก็เลยต้องถามคนแถวนั้นว่าโรงแรมนี้อยู่ไหน เขาก็บอกให้เดินๆๆ พอไปถึงปรากฎว่าไม่มีราคาดังกล่าว มีแต่ราคาคนละ 9 - 10 USD เป็นห้องพักรวม แต่พนักงานที่นั่นใจดีมาก คอยช่วยเหลือให้บริการเขาก็บอกว่าให้ลองไปโรงแรม Hoi Pho สิราคาไม่แพง แถมห้องพักดีด้วยพร้อมเข้าแอพ Booking.com ให้เรา


จากนั้นผมก็กดจอง (จอง 5 นาทีก่อนเข้าพัก) และเดินไปยังโรงแรม Hoi Pho

พวกเราจองห้องละประมาณ 14 ดอลล่าร์ แต่ไปถึงปรากฎว่าห้องที่เราจองเต็ม เขาก็เลยให้พวกเราไปนอนห้องสามเตียง ห้องละ 20 USD ผมก็เลยต่อรองราคาเหลือห้องละ 18 USD ห้องส่วนตัว แอร์ ไวไฟ น้ำอุ่น ทีวี ตู้เย็น กว่าจะเข้าถึงที่พักก็เวลาเกือบ 3 ทุ่ม


หลังจากที่เก็บของเข้าที่พักเสร็จ ก็พักผ่อนสักพันหนึ่งก่อนที่จะไปหาอะไรกิน

พวกเราได้ถามเจ้าหน้าที่ของโรงแรม เขาก็บอกเส้นทางเพื่อเข้าไปยังตลาดกลางคืน

ภาพจาก http://hoianvietnam.net/travel-updates/entrance-ticket-hoi-ancient-town/


จากนั้นก็เดินไปยัง Night market


ตอนนั้นหิวมากกก อะไรก็อยากกินหมด เลยลองซื้อขนมกิน

ราคาชิ้นละ 15,000 ด่อง


จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆ เห็นร้านข้างทาง เราไปถามว่านี่คืออะไร เขาก็บอกว่า Cao lầu ราคา 25,000 ด่อง

และเดินจากไปเพื่อหาชมวิวก่อน จากนั้นก็เดินกลับมาที่ร้านเดิม พร้อมสั่ง Cao lầu และเบียร์เวียดนามกระป๋องละ 15,000 ด่อง

พอเก็บตังค์คนขายก็บอกว่า 30,000 ด่อง พวกเราจึงพากันต่อรองว่าทีแรกบอก 25,000 ด่องนี่ ในที่สุดเขาก็ลดราคาให้

8 พ.ค. 59

เช้านี้ที่ฮอยอัน โรงแรม Hoi Pho (ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าอ่านว่าอะไร) ที่โรงแรมมีอาหารเช้าฟรีให้โดยมีเมนูให้เราเลือกสั่ง

แผนในวันนี้คือ ปั่นจักรยานชมเมืองเก่าฮอยอัน และปั่นไปทะเล ผมได้เช็คเอ้าท์ จ่ายเงินค่าห้อง (ปกติจะจ่ายก่อนอยู่ แต่โรงแรมนี้อยู่ก่อนค่อยจ่าย และฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม จากนั้นไปเช่าจักรยานร้านที่อยู่หน้าโรงแรม เจ้าของร้านบอกว่าเท่าไหร่นี่แหละเขาบอกให้จ่ายเป็นเงินด่อง แต่ผมจะจ่ายเป็น ดอลล่าร์ เขาก็บอกว่าประมาณ 2 USD ก็เลยต่อเหลือ 1 USD เหมือนเขาจะไม่พอใจอะไรสักอย่าง พวกผมก็จะเดินหนี แต่เขาก็ยอมๆลดราคาให้คันละ 1 USD ดังนั้นถ้าจะเช่าจักรยานอย่าให้ราคาสูงกว่า 1 USD นะครับ ต้องต่อๆๆๆ

จากนั้นก็ปั่นจักรยานชมเมือเก่าฮอยอัน...


หลังจากปั่นชมเมืองเก่า สถานที่ต่อไปคือ ปั่นไปทะเล

จากที่ศึกษาข้อมูลในเว็บ และถามเจ้าหน้าที่โรงแรมเขาก็บอกทางไปยัง หาด An Bang ระยะทางค่อนข้างไกลแต่ปั่นจักรยานแป๊บเดียวก็ถึง

แผนที่

ปั่นไปตามทางจะเจอทุ่งหญ้า ทุ่งนา เขียวขจีสวยงาม

เพื่อนผมบอกว่า นี่พามาเที่ยวทุ่งนาหรอ แถวบ้านแบบนี้ก็มีนะ ๕๕๕


พอไปถึงจะมีที่ฝากรถจักรยาน (บังคับต้องฝาก) ค่าฝากรถประมาณ 10,000 ด่อง แล้วแต่ร้านและการต่อรอง

ถึงแล้วหาด An Bang จากนั้นก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ

ทีแรกว่าจะลงเล่นน้ำแต่ตอนพวกเราไปประมาณเที่ยงๆ บ่ายๆ อากาศร้อนมากก็เลยไม่เล่น ๕๕๕


จากนั้นก็ปั่นจักรยานจากหาดกลับมายังเมืองฮอยอัน

ถึงเวลาประมาณบ่ายโมง ก็หาอะไรกิน มาเวียดนามทั้งทีก็ต้องกินอาหารเวียดนามกันสักหน่อย

เลยปั่นจักรยานหาร้านอาหารแถวนั้น แวะดูเมนูอาหารร้านไหนโอเคก็เข้า

ผมขอแนะนำสำหรับคอเบียร์ลองชิมเบียร์สดที่นี่ เริ่มต้นแก้วละ 3,000 ด่อง (แล้วแต่ร้าน) หรือ ประมาณ 5 บาท!!! อร่อยกว่าเบียร์กระป๋องมากกก


เฝอรสชาติจืดๆ ตามสไตล์อาหารเวียดนาม


หลังจากนั้นก็เอาจักรยานไปคืนร้าน และไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ที่โรงแรม

ด้วยความที่ประหยัดเงิน ก็เลยเดินไปสถานีขนส่งฮอยอัน ประมาณ 1 - 2 กิโลเมตร

และนั่งรถเมล์จากฮอยอันไปดานัง

พอไปถึงก็ขึ้นรถไปเลย ไม่ถามราคาสักคำ บอกแค่ว่าจะไปดานัง ไม่นานรถก็ออก

พอกระเป๋ารถเมล์มาเก็บก็จ่ายไปคนละ 30,000 ด่อง (อืมมมม ตอนมาโดนไปคนละ 75,000 ด่อง เศร้าาา)

ข้อสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือเวียดนามคนที่ขับรถมอเตอร์ไซค์จะใส่หมวกกัน แทบจะ 100% ขนาดขึ้นรถเมล์ยังใส่เลย


ระหว่างทาง ฮอยอัน - ดานัง


นั่งรถได้ไม่นานพวกผมก็เผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีถึงสะพานข้ามแม่น้ำ Han

จากนั้นพี่กระเป๋ารถเมล์ก็มาบอกเราว่าเตรียมลงนะถึงดานังแล้ว ทีแรกพวกผมจะไปลงสถานีขนส่งดานังแล้วต่อไปเว้เลย


ด้วยความที่กำลังตื่นแผนที่ก็ไม่ได้เปิดดูว่าใกล้ถึงขนส่งหรือยัง กระเป๋ารถเมล์ก็บอกว่าถึงดานังแล้วนะลงป้ายหน้าเลย

จากนั้นรถเมล์ก็ปล่อยพวกเราลงที่ป้ายรถเมล์หน้าธนาคาร Scombank


ระยะห่างจากสถานีขนส่งประมาณ 5 - 6 กิโลเมตร

ปล่อยผมลงนี้ทำไม ผมจะไปลงขนส่ง ๕๕๕


บรรยากาศบริเวณริมแม่น้ำ Han


เอาว่ะ ไหนๆก็ปล่อยพวกเราลงนี้แล้วนอนที่ดานังแล้วกัน

ก็เลยเปิดแอพ Booking.com ค้นหาที่พักที่ถูกที่สุดก็เจอ Danang Backpacker Hostel คนละ 5 ดอลล่าร์ ใกล้จุดที่เราอยู่ด้วยก็เลยตัดสินใจกดจองทันที (อีกแล้ว...กดจอง 5 นาทีก่อนเข้าที่พัก)


และก็เปิด Map เดินตามพิกัดไปที่ Danang Backpacker Hostel เดินแป๊บเดียวก็ถึง

พอไปถึงการต้อนรับของโฮสเทลดีมาก คือพอเข้าไปเช็คอินก็มีเครื่องดื่ม Welcome Drink คือประทับใจตั้งแต่การต้อนรับเลยอ่ะ

พอไปถาม Reception ว่าพวกเราจองผ่าน Booking.com ไว้ เขาก็หาชื่อเราไม่เห็น (จะเห็นได้ไงละ ก็จองเมื่อ 5 นาทีที่แล้ว ๕๕๕) ผมก็เลยบอกไปว่าผมเพิ่งจองเมื่อกี้


จากนั้นทางโฮสเทลก็ให้กุญแจล็อกเกอร์พร้อมคูปองเบียร์ฟรี ใช่ครับ เบียร์ฟรี!!! ๕๕๕

บรรยากาศที่พักก็ถือว่าโอเค เหมาะสมกับราคา และคุ้มค่ามากกกก

ห้องนอน


ห้องน้ำ


บรรยากาศบนดาดฟ้า


มีบาร์สำหรับตอนกลางคืน


แทงพลูฟรี


ชมวิวเมืองดานังบนดาดฟ้า ดานังแบ็คแพ็กเกอร์โฮสเทล


ชั้นล่างของโฮสเทลก็มีมุมสบายๆให้พักผ่อน


จากนั้นพวกเราก็ออกเดินสำรวจเมือง โดยเป้าหมายคือไปบิ๊กซีดานัง

เดินตามถนนไปเรื่อยๆ

อ้อ! ผมลืมแนะนำ ผมใช้แอพแผนที่อยู่ 4 ตัวคือ

Maps Me แผนที่ออฟไลน์ฟรี

Here maps แผนที่ออฟไลน์ฟรี

Google Maps ไว้ค้นหาออนไลน์

และ เฟสบุ๊ค Nearby Places

เดินชมเมืองดานัง รถมอเตอร์ไซค์เยอะมากๆๆๆ เสียงแตรสนั่นหวั่นไหว


จากนั้นก็หาอะไรทาน โดยทริปนี้พวกผมจะเน้นอาหารท้องถิ่น Local Foods

ร้านที่ผมนั่งเป็นร้านอาหารข้างทาง จะมีโต๊ะเล็กๆ และเก้าอี้ เห็นคนนั่งกินเยอะมากก็เลยเข้าไปย่อมๆมองๆดู และก็ไปนั่งบนโต๊ะ พอเวลาสั่งก็สั่งไม่เป็น คนขายก็พูดอังกฤษไม่ได้ ก็เลยชี้ๆแบบโต๊ะข้างๆ เขาก็จัดมาให้ชุดหนึ่ง พอกินเสร็จผมก็ไปถามเขาว่า อันนี้คืออะไร กว่าจะสื่อสารกันได้ต้องใช้ภาษามือ อยู่นานเลย อันนี้เขาเรียกว่า ถ้าผมได้ยินไม่ผิดเขาออกเสียงว่า "บันแบ่อึ" ทั้งชุดนี้ราคา 40,000 ด่อง


จากนั้นก็เดินเรื่อยๆกลับที่พัก ก็เห็นร้านๆหนึ่ง เอ๊ะ! เขานั่งทำอะไรนะ จิบชา ชมวิวถนน

ก็เลยแวะเข้าร้านดู

พอนั่งที่โต๊ะปั๊บพนักงานก็จะเอาชามาเสิร์ฟ ผมก็ถามว่าอันนี้คืออะไร เขาบอกว่า ชาฟรี

จากนั้นก็สั่งชานมกิน มื้อนี้หมดไป 25,000 ด่อง


จากที่ผมสังเกตอีกอย่างหนึ่งคือ รถจักรยานยนต์ที่นี่เวลาติดไปแดงจะไม่จอดล้ำเส้น และสวมหมวกกันน็อกกันทุกคน ทุกเวลา ถือเป็นเรื่องที่น่าชื่นชมมากๆ (ภาพถ่ายจากหน้าร้านชานมที่ผมไปกิน)


จากนั้นก็กลับที่พักเพื่อไปกินเบียร์ฟรี ที่บาร์ชั้นดาดฟ้าของโฮสเทล

เบียร์ฟรีในที่นี้คือให้ฟรี 1 ขวด ขวดต่อไปก็ซื้อกินเอง


นั่งชมวิวเมืองดานังยามค่ำคืน พร้อมจิบเบียร์ชิวๆ ช่างเป็นอะไรที่ฟินมากกกก ๕๕๕


นี่แหละครับคือเบียร์ฟรี คนละขวด คืนนั้นพวกเราหมดไปคนละ 2 ขวด อิอิ

แต่เบียร์ยี่ห้อนี้เมาเร็วมากก และหายเมาเร็วมากก


จิบเบียร์ชมวิว


พอรู้สึกเมาๆ พวกเราก็อยากจะออกไปสำรวจเมืองดานัง ก็เลยเดินไปเรื่อยๆ เป้าหมายคือแถวๆสะพานข้ามแม่น้ำ Han


มาถึงแล้วสะพานข้ามแม่น้ำ Han


หลังจากสร่างเมาก็หาอะไรกินกัน ๕๕๕

ถ้วยนี้ของเพื่อนราคา 40,000 ด่อง


ขนมปังอันนี้ผมถามคนขายอยู่ว่าเขาเรียกว่าอะไร แต่ผมก็จำไม่ได้สักที ราคาชิ้นละ 15,000 ด่อง

9 พ.ค. 59

วันนี้เราตกลงกันว่าจะไป Bana Hill ซึ่งจะออกเดินทางเวลา 08:00 แต่!!!! ขณะนี้เวลา 08:00 พวกเราเพิ่งจะตื่น ก็เลยผิดแผนไปอีกวัน ก็พากันรีบอาบน้ำแต่งตัว และไปกินอาหารเช้า อาหารเช้าที่โฮสเทลนี้ฟรี รวมอยู่ในราคา 5 ดอลล่าร์ แหม! โฮสเทลนี้ช่างดีจริงๆ ทั้งฟรีเบียร์ ฟรีอาหารเช้า


หลังจากนั้นก็เช่ารถมอเตอร์ไซต์ที่โฮสเทลนี้ พวกเราเช่าคันละ 150,000 ด่อง รถออโต้ แต่สภาพค่อนข้างเก่า

จากกำหนดการเดิมที่จะออกจากโฮสเทลคือ 08:00 กว่าจะเช่ารถ หาที่เติมน้ำมัน กว่าจะออกจากดานังอีก ก็ปาเข้าไปเวลาเกือบ 11:00

สำหรับใครที่จะเช่ารถมอเตอร์ไซค์ในดานังต้องมีทักษะขับรถพอสมควร เพราะรถเยอะมากกก อีกอย่างขับคนละเลนกับบ้านเรา ทั้งยังมีเสียงบีบแตรให้ตกใจเป็นระยะๆ ๕๕๕ แต่ก็สนุกดีขับรถในเวียดนาม

จากนั้นก็มุ่งหน้าสู่ Bana Hill โดยมี Google Maps นำทาง

ระหว่างทาง...


ถึงแล้วที่จอดรถจักรยานยนต์


จากนั้นก็เดินเข้าไปเพื่อซื้อตั๋ว


พอมาถึงที่ขายตั๋ว ก็เข้าไปซื้อราคาคนละ 600,000 ด่อง

เฮ้ย! ในกระทู้ทำไมว่าคนละ 500,000 ด่องอ่ะ

ก็พยายามต่อเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่ก็ไม่รู้เรื่องก็เลยจ่ายๆไปคนละหกแสน T_T


พอซื้อตั๋วเสร็จ ก็จะได้ตั๋วแบบนี้


จากนั้นก็เดินๆตามทางเพื่อไปขึ้นกระเช้าไฟฟ้า


พอเข้ามาถึงก็นั่งรอสักพัก รอให้เจ้าหน้าที่มาเรียกเพื่อไปขึ้นกระเช้าไฟฟ้า


จากนั้นก็เดินไปเรื่อยๆตามทาง


ขึ้นบันไดเลื่อน สูงมากๆๆๆ


น้ำตาจะไหล ครั้งแรกในชีวิตที่ได้นั่งกระเช้าไฟฟ้า


และก็มาถึงแล้ววว Ba na Hill


ตอนผมไปถึงก็วัดระดับความสูงอยู่ที่ 1,428 เมตร จากระดับน้ำทะเล อ้างอิงจากแอพ


ก่อนขึ้นกระเช้าไฟฟ้าเขาจะแจกคูปองดื่มไวน์ฟรีคนละใบ


พอขึ้นไปถึงผมก็ถามเจ้าหน้าที่ว่าจะดื่มไวน์ฟรีได้จากที่ไหน เขาก็บอกให้ไปนั่งกระเช้าสีเหลืองๆระยะสั้นไป


ด้วยความที่อยากกินของฟรีก็เลยนั่งกระเช้าไป ก่อนทำสิ่งอื่นใด


แต่พอไปถึงเจ้าหน้าที่บอกว่าต้องนั่งรถรางไปข้างบนอีกจึงได้ได้กินไวน์ฟรี ซึ่งค่ารถรางคนละ 70,000 ด่อง

และตอนนั้นพวกผมก็เงินหมดไปกับการซื้อตั๋วแล้ว ก็เลยได้แต่ถ่ายรูปเฉยๆแล้วกัน


ก็นั่งกระเช้ากลับขึ้นไปเหมือนเดิม


มาต่อกันที่ภายใน Ba na Hill กันนะครับ

เมื่อมาถึงแล้วจะมี เขาเรียกว่าอะไรล่ะ พวกสถานที่สไตล์ต่างๆมากมาย พวกผมก็เดินถ่ายภาพไปเรื่อยๆ


ภายในจะมี Fantasy Park แหล่งรวบรวมเครื่องเล่นต่างๆมากมาย ทีแรกผมนึกว่าจะเสียเงินค่าเครื่องเล่น ก็เลยไปถามพนักงานว่าเสียค่าเข้าเท่าไหร่ พนักงานก็บอกว่าฟรี

ผมยังเสียดายที่เวลาของเราน้อยเกินไป เพราะเรามาช้ายังเล่นได้ไม่ครบเลย

ผมเล่น Tower Drop ไม่เสียวอย่างที่คิดเลย แต่ก็สนุกดี


ข้างๆกันจะมี ปีนหน้าผา แต่ผมก็ไม่ได้ไปเล่น ยังแอบเสียดายที่มาช้าเกินไป


และแอบแว๊บไปดูหนัง 3 มิติ 360 องศา หลักการคือฉายโปรเจ็คเตอร์เป็นจุดรอบๆด้าน โปรเจคเตอร์จุดละ 2 ตัว


Skiver Pilot อันนี้ก็ไม่ค่อยเสียวเท่าไหร่


พิพิธภัณฑ์หุ่นขึ้ผึ้ง อันนี้เสียค่าเข้า น่าจะคนละ 100,000 ด่อง

ส่วนพวกผมไม่ได้เข้า เพราะประหยัดเงิน ก็เลยได้แต่ถ่ายหุ่นยนต์ด้านหน้าแล้วกัน


เครื่องเล่นต่อไป จะเป็นเหมือนเขาวงกต แต่ทางเดินจะเป็นกระจกใส ต้องเดินดีๆไม่งั้นชนกระจก เดินไปเรื่อยๆเพื่อหาทางออก อันนี้ก็สนุก แต่เกือบออกมาไม่ได้ ส่วนเพื่อนผม พอผมเดินเข้าไป เขาก็เดินตามโดยไม่รู้ว่านี่คืออะไร ก้าวแรกเท่านั้นแหละ ชนกระจก ดังปั้ง!! พนักงานก็เลยหัวเราะ ๕๕๕

ความจริงผมเป็นคนชอบดูหนัง ที่ชอบดูไม่ใช่อะไรหรอกชอบเทคโนโลยีที่ใช้ในการถ่ายทอดมากกว่า ดูมาเกือบหมดแล้ว ทั้ง IMAX ฟิล์ม , IMAX ดิจิตอล , RealD 3D , HFR 3D เหลืออย่างเดียวคือ 4D

ก็เลยไปดูหนัง 4 มิติ เป็นหนังสั้นๆ เกี่ยวกับการแข่งเครื่องบิน หรือรถอะไรสักอย่าง ก็สนุกดี

แต่แอบเสียดายมี 5 มิติอยู่ข้างๆกัน ผมอยากไปดู แต่เนื่องจากเราต้องทำเวลา ก็เลยไม่ได้ดู T_T


ต่อไปเครื่องเล่นที่ผมชอบที่สุดคือ Alpine Coaster

คนเยอะมากกกก ต้องต่อแถว ต่อแถวนานพอสมควรกว่าจะได้เล่น

ทางลงไปยังเครื่องเล่น


พอถึงเครื่องเล่นปุ๊บ เจ้าหน้าที่ให้ขึ้นไปนั่ง สามารถนั่ง 2 คน หรือ จะนั่งคนเดียวก็ได้

พอนั่งลงเจ้าหน้าที่ก็อธิบายการใช้งานให้ฟังเป็นภาษาเวียดนาม ผมก็บอกว่า English Please! จากนั้นเขาก็พูดเป็นภาษาอังกฤษ ถามว่ารู้เรื่องมั้ย ฟังออกแต่ ให้ห่างจากคันข้างหน้า 5 เมตร โยกคันบังคับไปข้างหน้าเพื่อให้รถเคลื่อน โยกกลับมาเพื่อเบรก ฟังออกแค่นี้ นอนนั้นก็บอกพนักงาน Oh Yes OK Thank you!


วิวปราสาทระหว่างที่นั่ง Alpine Coaster


พอรถไหลตามแรงโน้มถ่วง จนสุดแล้ว จะมีรางที่มีกลไกดึงรถขึ้นไปยังจุดที่เราถูกปล่อยออกมา


จากนั้นก็เดินถ่ายรูปเกือบทั่วทั้ง Bana Hill ทั้งวัดจีน อาคารสไตล์ยุโรป(หรือเปล่า)


อาคารสไตล์ยุโรป (หรือเปล่า)


วัดต่างๆ


จากนั้นก็เดินทางกลับดานัง

ทางกลับจะลงกระเช้าเล็กๆสีเหลือง และไปต่ออีกกระเช้าใหญ่ที่สถานีหนึ่ง


ลงมาด้านล่างของ Ba Na Hill ก่อนขับรถมอเตอร์ไซค์กลับดานัง


พอมาถึงดานังแผนต่อไปของเราคือจะนั่งรถประจำทางไปเว้

พวกเราจึงพากันไปถามสถานีขนส่งว่ามีรถไปเว้ถึงกี่โมง เพราะว่ากลัวตกรถ พอไปถึงสถานีขนส่งเสียค่าจอดรถประมาณ 3,000 ด่อง และไปถามที่ท่ารถไปเว้ พอถามคนขับรถพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ ใช้ภาษามือกันอยู่นาน จนมีพี่คนหนึ่งที่พูดภาษาลาวได้มาช่วยแปลให้

พี่คนนั้นที่พูดลาวได้ : คนลาวบ้อ?

ผม : ครับ (เพราะผมพูดภาษาอีสานเขาเลยนึกว่าเป็นคนลาว) พี่ครับมีรถไปเว้จนถึงกี่โมงครับ

พี่คนนั้นที่พูดลาวได้ : หันไปถามเจ้าของรถแล้วตอบว่า มีจนถึง 1 ทุ่ม

ผม : ค่ารถเท่าไหร่ครับ

เจ้าของรถ : 100,000 ด่อง

โอเคงั้นรีบกลับไปเอาของที่ฝากไว้ที่โฮสเทลแล้วกลับมาขึ้นรถ

พอถึงที่โฮสเทลก็คืนรถมอเตอร์ไซค์ พร้อมเอากระเป๋าที่ฝากไว้คืนและถามพนักงานว่ามีรถจากโฮสเทลไปถึงสถานีขนส่งไหม เขาก็บอกว่ามีแค่แท็กซี่ (พวกผมไม่เลือกขึ้นแท็กซี่อยู่แล้วเพราะกลัวโดนโกง และราคาแพง) และพนักงานก็ถามว่าจะไปสถานีขนส่งแล้วไปไหนต่อ ผมเลยบอกว่าไปเว้ เขาก็บอกว่ารถไปเว้เวลานี้หมดแล้ว (จะหมดได้ไงครับพี่ผมเพิ่งไปถามมาเมื่อกี้รถหมดหนึ่งทุ่ม -_-)

จากนั้นก็เลยเดินไปที่ป้ายรถเมล์ ที่พี่คนนั้นเคยทิ้งเราลงตอนกลับมาจากฮอยอัน

พร้อมถามคนแถวนั้นว่ามีรถเมล์ไปสถานีขนส่งไหม เขาก็บอกว่าไม่มี ให้นั่งแท็กซี่ไปอย่างเดียว พวกเรากำลังจะไปเรียกแท็กซี่พอดีรถเมล์จากฮอยอันปลายทางดานังก็ผ่านมา พวกผมเลยรีบโบกเร็วไว และรีบกระโดดขึ้นรถอย่างดีใจว่าจะได้กลับแล้ววว

กระเป๋ารถเมล์ก็พูดเวียดนามใส่ พวกผมก็ทำหน้างง ๕๕๕

และเขาเรียกเก็บค่าโดยสารประมาณคนละ 20,000 ด่อง พวกผมเลยต่อรอราคา และจ่ายเงินไปคนละ 15,000 ด่อง

เขาก็ถามว่าจะไปลงไหน พวกผมเลยบอกว่าไปเว้

พอใกล้ถึงสถานีขนส่ง และรถไปเว้กำลังจะออกเดินทางพอดี เลยจอดให้พวกเราลงที่หน้าสถานีขนส่งและก้าวขึ้นรถโดยไม่ถามราคาสักคำ

หลังจากที่หิวมากกมาจากบานาฮิลล์ไม่ได้ซื้ออะไรเลยเพราะเงินหมดไปกับค่าตั๋ว มีคนมาขายของบนรถเลยก็เลยซื้อขนมปังประทังชีวิตไป 2 ชิ้น 15,000 ด่อง

พอกระเป๋ารถมาเก็บเงินพวกเราไม่ถามราคาสักคำ พร้อมกับยื่นเงินให้เลย โดยเราเสียค่ารถแค่คนละ 50,000 ด่อง จากที่เคยไปถามที่สถานีขนส่งคนละ 100,000 ด่อง แหม! เกือบโดนหลอกอีกซะแล้ว


เราถึงเว้เวลาประมาณเกือบสองทุ่มครึ่ง

รถได้ไปจอดที่หน้าปั๊มแห่งหนึ่งข้างสถานีขนส่ง

พอไปถึง ห๊าาา!!! นี่หรือเมืองเว้ ทำไมไม่เห็นมีอะไรเลย

พอลงรถไปพวกวินมอไซค์ก็มาถามกันใหญ่ เป็นภาษาเวียดนาม พวกผมก็ทำหน้างง พร้อมพูดภาษาลาวใส่ เขาก็ไม่เข้าใจ

ดีหน่อยที่มีพี่คนหนึ่งที่โดยสารมาด้วยกันพูดภาษาอังกฤษได้ เลยบอกให้พี่วินมอไซค์เข้าไปส่งในเมือง ต่อรองราคากันอยู่นาน สรุปจ่ายคนละ 40,000 ด่อง

และวินมอไซค์พาพวกเราเข้าเมืองไปหาที่พัก คืนนี้พวกเราพักกันที่ โรงแรม 2 YOU ห้องละ 10 USD (พวกเราขอจ่ายเป็นเงินดอลล่าร์)

และไปเดินไปหาอะไรกิน ทริปนี้เน้นประหยัด หาอะไรกินข้างทาง เน้นอาหารท้องถิ่น ไปเจอร้านหนึ่งคนนั่งเยอะดี ไปสั่งก็ไม่เป็นก็ได้แต่ชี้ๆ พวกเราสั่งข้าวผัดกับเฝอ ราคาจาน/ถ้วยละ 40,000 ด่อง


จากนั้นก็เดินชมเมืองเว้ยามค่ำคืน


เดินไปจนถึงสะพาน


แถวนั้นมีอาหารเครื่องดื่มขาย ตามถนนเยอะแยะ พวกเราเลยจะไปซื้อเครื่องดื่ม เหมือนคนขายไม่เข้าใจ ก็มีกลุ่มนักศึกษาชาวเว้เข้ามาช่วยพูดเป็นล่ามให้ น้องเขาเรียนอยู่ปี 2 สาขาวิทย์คณิตอะไรสักอย่างนี่แหละ ก็เลยได้เพื่อนคุย ถามค่ารถไปสะหวันนะเขต ถามนู้นถามนี่ และก็ถามหาตลาดกลางคืน เขาก็บอกว่าอยู่ข้างๆสะพาน พวกผมเลยเดินไปเล่นสักหน่อย


จิบเบียร์ชมวิวสะพานเมืองเว้ จากนั้นก็กลับห้องเพื่อนนอนพักผ่อน


10 พ.ค. 59

หลังจากแต่งตัว เก็บของและเช็คเอ้าท์ออกจากที่พัก ก็เรียกแท็กซี่เพื่อไปยังสถานีขนส่ง ค่าแท็กซี่แค่ 30,000 ด่อง แหม!! ตอนมาเมื่อคืนนั่งมอไซค์ตั้งคนละ 40,000 ด่อง รู้งี้นั่งแท็กซี่ดีกว่า ๕๕๕


ระยะทางจากที่พักถึงสถานีขนส่งประมาณ 2 กิโลเมตร


พอถึงสถานีก็รีบไปซื้อตั๋วไปสะหวันนะเขต รถนั่ง VIP (แอร์เย็นมากกก) ราคาคนละ 300,000 ด่อง

จากนั้นก็ไปหาอะไรทาน

ถามคนขายเขาเรียกว่าบุ่งบ่อ ราคา 25,000 ด่อง


และผมก็กินขนมปังเหมือนเดิม ถ้าจำไม่ผิดเขาเรียกว่าบั่นหมี่ ราคา 10,000 ด่อง


ตารางการเดินรถจากเว้ไปลาว


สถานีขนส่งเว้


รถคันนี้ที่พาเรากลับสะหวันนะเขต แอร์เย็นมากกก


พอถึงด่าน ตม.เวียดนาม และ ตม.ลาว รถได้ไปจอดที่ ตม.แดนสะหวันที่ลาว

พวกเราก็ลงมาปั๊มพาสปอร์ต

ค่าออกจากเวียดนาม คนละ 10,000 ด่อง (เฮ้ยถูกกว่าขาเข้า ขาเข้าคนละ 25,000 ด่อง)

ค่าเข้าลาวคนละ 50,000 ด่อง (เฮ้ย แพงกว่าขาออกตั้งเท่าตัว ขาออกคนละ 25,000 ด่อง)

ผมเลยอยากทราบว่าพวกนี้มีมาตรฐานการเก็บเงินค่าธรรมเนียมเข้าออกประเทศหรือไม่ หรือแล้วแต่เจ้าหน้าที่ว่าจะเรียกเก็บเท่าไหร่ก็ได้ (รู้สึกโมโห)

พวกเราถึงสะหวันนะเขตประมาณ 16:45

จากนั้นรอรถเพื่อข้ามไปยังมุกดาหาร รถไปมุกดาหารมีจนถึงเวลา 1 ทุ่ม

รอบนี้รถออกเวลา 17:30 ค่ารถกลับคนละ 55 บาท (ขามา 50 บาท)


ลาก่อนเมืองสะหวันนะเขต


พอไปถึงตม.ลาว เสียค่าผ่านแดนคนละ 40 บาท

ค่าล่วงเวลาคนละ 50 บาท (มีแต่เสียกับเสีย T_T)


จากนั้นก็ขึ้นรถข้ามสะพานมิตรภาพไปยังประเทศไทย!!!


Welcome to Thailand ถึงแล้ว... น้ำตาจะไหลคิดถึงบ้าน


พอถึง ตม.ไทย คนไทยปั๊มพาสปอร์ตแป๊บเดียว สแกนกระเป๋าแล้วขึ้นรถ (ไม่เสียค่าธรรมเนียมสักบาท)

ส่วนคนต่างชาติไม่รู้เจ้าหน้าที่ให้ทำอะไร รอนานมากกก กว่าจะขึ้นรถ และมุ่งหน้าสู่สถานีขนส่งมุกดาหาร

ข่าวร้ายมาอีกแล้ว รถรอบสุดท้ายที่ออกจากมุกดาหารไปอุบลฯคือเวลา 18:00 แต่พวกเรามาถึง มุกดาหารเวลา 18:30 ก็เลยต้องนอนที่มุกดาหารอีกหนึ่งคืน คืนนี้พวกเรานอนที่ห้องพักเล็กๆ ห้องพัดลม ห้องน้ำรวม ห้องละ 200 บาท อยู่ข้างๆสถานีขนส่ง (เอาว่ะ เงินหมดแล้วเช่าห้องแค่พอนอนแล้วกัน) จากนั้นก็ไปหาอะไรทานกัน ที่ร้านข้าวต้มหน้าสถานีขนส่ง

11 พ.ค. 59

หลังจากอาบน้ำแต่งตัวเก็บของเสร็จ ก็เดินมายังสถานีขนส่งและนั่งรถมินิบัสกลับอุบลราชธานีโดยสวัสดิภาพ ค่ารถคนละ 100 บาท


จบทริป!!!


-------------------------------------------------------------------------------


สรุปค่าใช้จ่าย !!!

เป็นราคาหารแล้วต่อคน

เรท

1 ดอลล่าร์ = 35.3 บาท

602.4 ด่อง = 1 บาท

(20,000 ด่อง = 33.2 บาท)


6 พ.ค. 59

ค่ารถสองแถวจากหอพักไปสถานีขนส่งอุบลฯ 10 บาท

ค่ารถ อุบลฯ - มุกดาหาร 120 บาท

ข้าวตามสั่ง 40 บาท

รถสองแถวจากบขส.ไปบิ๊กซีมุกดาหาร 10 บาท

ค่าสามล้อ บิ๊กซี - บขส. 30 บาท

ค่ารถ มุกดาหาร - สะหวันนะเขต 50 บาท

ค่าผ่านแดนลาว 10,000 กีบ (40 บาท)

ค่าห้องพักที่สะหวันนะเขต 225 บาท

ค่าอาหารและเครื่องดื่มที่ร้านฮ่มฟ้า 6 USD (211.8 บาท)


7 พ.ค. 59

ค่ารถสะหวันนะเขต - ดานัง 20 USD (706 บาท)

ข้าวเช้า + น้ำ 40 บาท

นมผลไม้ + น้ำส้ม 30,000 ด่อง (49.8 บาท)

ค่าล่วงเวลาเจ้าหน้าที่ลาว 30,000 ด่อง (49.8 บาท)

ค่าธรรมเนียมออกจากลาว 25,000 ด่อง (41.5 บาท)

ค่าธรรมเนียมเข้าเวียดนาม 25,000 ด่อง (41.5 บาท)

ค่ารถ ดานัง - ฮอยอัน 75,000 ด่อง (124.5 บาท)

ค่าห้องพัก Hoi Pho Hotel 9 USD (317.7 บาท)

เกาเหลา (Cao lầu) 25,000 ด่อง (41.5 บาท)

เบียร์ 15,000 ด่อง (24.9 บาท)


8 พ.ค. 59

เช่าจักรยาน 1 USD (35.3 บาท)

ค่าฝากจักรยานที่หาด An Bang 5,000 ด่อง (8.3 บาท)

เฝอ + เบียร์สด 32,000 ด่อง (53.1 บาท)

ค่ารถ ฮอยอัน - ดานัง 30,000 ด่อง (49.8 บาท)

ค่าห้องพัก Danang Backpacker Hostel 5 USD (176.5 บาท)

บันแบอึ อาหารท้องถิ่น 20,000 ด่อง (33.2 บาท)

ชานม 25,000 ด่อง (41.5 บาท)

เบียร์ 20,000 ด่อง (33.2 บาท)

ขนมปัง 15,000 ด่อง (24.9 บาท)

น้ำเปล่า 5,000 ด่อง (8.3 บาท)


9 พ.ค. 59

เช่ารถจักรยานยนต์ 75,000 ด่อง (124.5 บาท)

เติมน้ำมัน 25,000 ด่อง (41.5 บาท)

ค่าตั๋ว Ba Ba Hill 600,000 ด่อง (996 บาท)

รถเมล์จากเมืองดานังไปสถานีขนส่งดานัง 15,000 ด่อง (24.9 บาท)

ขนมปัง 7,500 ด่อง (12.4 บาท)

ค่ารถ ดานัง - เว้ 50,000 ด่อง (83 บาท)

ค่าวินมอไซค์สถานีขนส่งเว้ - ที่พัก 40,000 ด่อง (66.4 บาท)

ค่าที่พัก 2 YOU Hotel 5 USD (176.5 บาท)

ข้าวผัด 40,000 ด่อง (66.4 บาท)

น้ำเปล่า 7,500 ด่อง (12.4 บาท)

เบียร์ 15,000 ด่อง (24.9 บาท)


10 พ.ค. 59

แท็กซี่จากที่พักไปสถานีขนส่งเว้ 15,000 ด่อง (24.9 บาท)

ขนมปัง 15,000 ด่อง (24.9 บาท)

เบียร์ 24,000 ด่อง (39.8 บาท)

ค่าธรรมเนียมออกจากเวียดนาม 10,000 ด่อง (16.6 บาท)

ค่าธรรมเนียมเข้าลาว 50,000 ด่อง (83 บาท)

ขนม + นม 40 บาท

ค่ารถสะหวันนะเขต - มุกดาหาร 55 บาท

ค่าธรรมเนียมออกจากลาว 40 บาท

ค่าล่วงเวลาที่ด่านลาว 50 บาท

ค่าห้องพักที่มุกดาหาร 100 บาท

อาหารเย็น 180 บาท


11 พ.ค. 59

ค่ารถมุกดาหาร - อุบลฯ 100 บาท


รวมค่ารถและค่าเดินทาง 1,655.8 บาท

รวมค่าอาหารและเครื่องดื่ม 1,002 บาท

รวมค่าที่พัก 995.7 บาท

รวมค่าอื่นๆ 1,366.7 บาท


รวมทั้งหมด 5,020.2 บาท !!!


สามารถติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทางเพจ Facebook ได้นะครับ Khunjao's Backpacker

Khunjao Backpacker

 วันพฤหัสที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559 เวลา 20.00 น.

ความคิดเห็น