update Promotion & Review สดใหม่ได้ตลอดที่ https://www.facebook.com/reviewnowz


พระตำหนักภูพานราช



สวัสดีครับ


พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ นั้นตั้งอยู่ในจังหวัดสกลนครห่างจากตัวเมืองสกลนครประมาณ 16 กิโลเมตร บริเวณเทือกเขาภูพานในเขตอุทยานแห่งชาติภูพานริมทางหลวงสายสกลนคร-กาฬสินธุ์ หมายเลข 213 บริเวณกิโลเมตรที่ 14 ซึ่งตำแหน่งของพระตำหนักนี้ถูกเลือกโดยพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชด้วยพระองค์เอง ในช่วงปีพ.ศ. 2518 ซึ่งถือเป็นพื้นที่สีชมพูที่มีผู้ก่อการร้ายคอมมิวนิสต์กบดานหลบซ่อนอยู่ ดังนั้นการสร้างพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์นอกจากจะไว้เป็นที่ประทับทรงงานช่วยเหลือประชาชนในภาคอีสานแล้วยังหมายถึงสัญลักษณ์ของการควบคุมจุดยุทธศาสตร์ที่สำคัญไว้อีกด้วย สำหรับพื้นที่บริเวณพระตำหนักเมื่อครั้งเริ่มแรกมีจำนวน 940 ไร่และได้มีการจัดทำโครงการฟื้นฟูสภาพป่าคืนชีวิตสู่ธรรมชาติอีกประมาณ 1,010 ไร่ รวมเป็นพื้นที่ 1,950 ไร่ นอกจากนี้ปัจจุบันพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์แห่งนี้ยังถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญอีกแห่งนึงของจังหวัดสกลนครซึ่งนักท่องเที่ยวสามารถเข้ามาเยี่ยมชมชั้นนอกได้โดยสะดวกส่วนหากต้องการชมพระตำหนักชั้นในจะต้องติดต่อทางราชการล่วงหน้าครับนิเวศน์


สำหรับในการเดินทางเยี่ยมชมในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายอนันตสิทธิ์ ซามาตย์ ผู้อำนวยการพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์เป็นผู้พาชมพระตำหนักพร้อมให้ข้อมูลต่างๆมากมาย


แต่ก่อนที่จะไปชมพระตำหนักขอเริ่มการเดินทางที่บริเวณอ่างเก็บน้ำกันก่อนเพราะน้ำนั้นสำคัญเป็นรากฐานของชีวิต ดังนั้นก่อนการสร้างพระตำหนักจะต้องมีการสร้างอ่างเก็บน้ำให้เรียบร้อยก่อน


เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดไม่ใหญ่มากสูงหลายสิบเมตรเงียบสงบสวยงามข้างๆยังมีเรือนรับรองสำหรับแขกส่วนพระองค์อีกด้วย


เมื่อมีน้ำพร้อมแล้วพระตำหนักหลังแรกก็เริ่มสร้างขึ้นในปีพ.ศ. 2518 นั่นเองในชื่อ พระตำหนักปีกไม้เป็นรูปแบบล็อกเดขินใช้เวลาในการสร้างประมาณ 4 เดือนเท่านั้น รายล้อมไปด้วยดอกไม้และต้นไม้น้อยใหญ่


ไม่ห่างกันมากนักก็จะเป็นอาคารสำหรับผู้ติดตามต่างๆซึ่งต่อมาได้มีการสร้างเพิ่มเติมอีกหลายจุด


เดินตามเส้นทางมาเรื่อยๆก็จะถึงบริเวณเขตพระตำหนักชั้นใน


บริเวณด้านหน้าของพระตำหนักชั้นในได้สร้างหมู่บ้านตัวอย่างเล็กๆขึ้นโดยสร้างให้เหมือนของจริงที่ชาวบ้านใช้งานกันจริงๆ


พร้อมกับลานไม้ที่ไว้สำหรับพระองค์ท่านพบกับประชาชนซึ่งเรียบง่ายและร่มรื่นมาก


มาถึงในส่วนพระตำหนักชั้นในซึ่งใช้เป็นที่ประทับหลัก


เพียงหันหลังกลับไปก็จะรู้สึกได้เลยว่าที่ประทับของพระราชากับบ้านของประชาชนไม่ได้ไกลกันเลยเพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น


มีการอารักขาอย่างเข้มงวดมากในส่วนนี้


เมื่อผ่านเข้ามาจะพบกับสวนพร้อมบ่อน้ำที่ออกแบบโค้งมนสวยงาม


ให้ความรู้สึกสมัยใหม่เรียบง่ายสวยงามลงตัว


ขนาดสองชั้นพร้อมห้องพักต่างๆ


ถัดไปจะเป็นอาคารหลัก


ทางเดินกว้างขวางสะอาดเรียบร้อยสวยงาม


สวยงามด้วยห้องโถงใหญ่กับหลังคาแบบรับแสงได้และพื้นหินขัดมันในโทนสีขาวนวลสะอาดตา


จัดแท่นไว้อย่างสวยงามมากแล้วก็เศร้ามากด้วยในเวลาเดียวกัน


ลงนามน้อมเกล้าถวายความอาลัยแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช


ครั้งนึงเคยได้มีโอกาสมาในสถานที่ที่ทรงประทับส่วนพระองค์จะไม่มีวันลืมแน่นอน


บริเวณโดยรอบห้องโถงจะมีชุดโซฟาหลายชุด


ด้านนอกห้องโถงจะเป็นระเบียงปูนยาวพร้อมวิวสวนป่าต้นไม้และลำธาร


ชั้นล่างของห้องโถงเป็นห้องน้ำขนาดใหญ่สูงโปร่งออกแบบแปลกตาพร้อมกระจกใสที่มองออกไปเป็นหินก้อนใหญ่ที่รับแสงแดด


บริเวณพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์โดยรอบจะมีสวนไม้ดอกไม้และต้นไม้นานาพรรณที่พร้อมจะให้เราได้ชื่นชมได้ทั้งวัน


นอกจากพระตำหนักที่ทรงสร้างขึ้นแล้วก็ยังมีโรงงานหลวงสำเร็จรูปที่ 3 (เต่างอย) ในเขตพื้นที่บ้านนางอยห่างจากตัวจังหวัดสกลนครประมาณ 25 กิโลเมตร เพื่อพัฒนาอาชีพและเสริมรายได้ของราษฎรในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนให้ยั่งยืนด้วยการปลูกมะเขือเทศและส่งเสริมการแปรรูปผลผลิตมะเขือเทศในเขตพื้นที่ลุ่มแม่น้ำมูล


ปัจจุบันเป็นพื้นที่ส่งเสริมการปลูกมะเขือเทศกว่า 23,000 ไร่ จนกระทั้งมีคำกล่าวเรียกพื้นที่ตลอดฝั่งแม่น้ำมูลว่า "เส้นทางสายมะเขือเทศ" (Tomato Belt)


วัตถุดิบหลักของโรงงานคือมะเขือเทศซึ่งช่วงเวลาที่ชาวบ้านจะนำมาขายคือช่วงเดือนธันวาคนจนถึงเดือนเมษายน


ซึ่งก่อนหน้านี้ทางโรงงานหลวงจะรับเฉพาะมะเขือเทศเท่านั้นซึ่งทำให้โรงงานต้องปิดในช่วงนอกฤดูมะเขือเทศ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จึงมีรับสั่งให้รับวัตถุดิบอย่างอื่นแล้วนำมาแปรรูปอย่างอบแห้งทำให้ปัจจุบันโรงงานสามารถเปิดทำการผลิตได้ตลอดทั้งปี


นอกจากนี้ยังมีวัตถุดิบอื่นๆที่ชาวบ้านนำมาขายให้กับโรงงานได้อย่างเช่นข้าวสารซึ่งทางโรงงานหลวงจะรับซื้อเพื่อนำไปบรรจุและขายต่อเพื่อเป็นตัวช่วยเกษตรโดยตรง


โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 3 (เต่างอย) ทำการผลิตผลิตภัณฑ์จากมะเขือเทศครั้งแรกในปีพ.ศ. 2525 โดยดำเนินงานภายใต้ความดูแลของมูลนิธิโครงการหลวง วันที่ 8 สิงหาคม 2537 จดทะเบียนเป็นบริษัทนิติบุคคลภายใต้ ชื่อบริษัท ดอยคำผลิตภัณฑ์อาหาร จำกัด รวบรวมโรงงานทั้งสี่แห่งไว้ด้วยกัน และอยู่ภายใต้การดูแลของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และในปีพ.ศ. 2554 ก็ได้ปรับปรุงโรงงานขึ้นมาใหม่ตามพระกระแสรับสั่งของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมีการบริหารจัดการที่เป็นระบบและรักษาสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระเบียบไม่ว่าจะเป็นระบบการบำบัดน้ำเสีย พลังงานทดแทนอย่างพลังงานแสงอาทิตย์และแก๊ส


นอกเหนือจากการสร้างงานสร้างรายได้แล้วทางโรงงานหลวงยังเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยพัฒนาสังคมและชุมชนอีกด้วยไม่ว่าจะเป็นวัดหรือโรงเรียนอย่างในช่วงวันที่ 22-24 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมากับกิจกรรม "โครงการจิตอาสาพัฒนาเต่างอย แผนงานส่งเสริมการเรียนรู้ศาสตร์แห่งพระราชา กิจกรรมพัฒนาศักยภาพผู้นำเยาวชนโดยรอบโรงงานหลวงฯ"
– เพื่อให้เยาวชนของชาติ เรียนรู้ และเข้าใจ ศาสตร์ของพระราชา (หลักการทรงงาน และการพัฒนาพื้นที่ตามแนวทางพระราชดำริ)
– เพื่อสร้างเครือข่ายความร่วมมือด้านการพัฒนาชุมชนจากสถาบันการศึกษาต่างๆ ให้แก่ชุมชนเต่างอย
– เพื่อส่งเสริมและพัฒนาทักษะความเป็นผู้นำของเยาวชน
– เพื่อสร้างความสัมพันธ์ในชุมชน (บวร : บ้าน วัด โรงเรียน) ให้มีความสามัคคี สงบสุข เอื้อเฟื้อเกื้อกูล


โดยได้รับความร่วมมือจากคณะศิลปศาสตร์และวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด มหาวิทยาลัยสยาม และศิลปินท้องถิ่นกลุ่มสะกะละ จัดการอบรม และทำกิจกรรมต่างๆ ให้แก่เยาวชนในชุมชนเต่างอย


เป็นเยาวชนจำนวน 40 คนระหว่างศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปีที่ 1-6 ในพื้นที่ชุมชนเต่างอยและชุมชนบ้านยาง ร่วมกันทำกิจกรรมในรูปแบบ "ค่ายศิลปะเยาวชน" ด้วยการเรียนรู้สีจากธรรมชาติภายในชุมชนเต่างอย พืชให้สีชนิดต่างๆ สีจากกากวัตถุดิบและเศษวัสดุเหลือใช้ของโรงงานหลวงฯ เช่น ใบไม้ ดิน คราม กากกระเจี๊ยบแห้ง ครั่ง กากชา กาแฟ ใบสัก ใบกระถินณรงค์ เปลือกประดู่ เปลือกไม้แดง และมะเขือเทศเข้มข้น เป็นต้น ผ่านกิจกรรมต่างๆอย่างการย้อมผ้า, การทำเครื่องปั้นดินเผา, สมุดบันทึกทำมือ, และการทำภาพพิมพ์ด้วยเพลทเจลาติน


กิจกรรมที่ตั้งใจดีเพื่อให้เยาวชนมีความเป็นผู้นำที่ดีและสร้างความภาคภูมิใจในตัวเองและชุมชน ซึ่งจะเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาประเทศไทยในอนาคต


จากพ.ศ. 2518 จวบจนถึงปัจจุบันพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงอยากให้ปรับปรุงความเป็นอยู่ของราษฎรหมู่บ้านนางอย-โพนปลาโหลให้ดีขึ้น ส่งเสริมให้มีรายได้เพิ่มขึ้น หลังจากพัฒนาแล้วราษฎรสามารถรักษาสภาพความเป็นอยู่และพัฒนาต่อไปได้ด้วยกลุ่มชาวบ้านเองยังคงดำเนินต่อไปด้วยความตั้งใจของทุกฝ่าย


วันนี้เป็นอีกหนึ่งวันที่โด้ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้ทรงทำให้ประชาชนประเทศชาติของท่านมีความสุขมีความเจริญภูมิใจในถิ่นฐานของตนและพร้อมที่จะช่วยเหลือเกื้อกูลผู้คนในสังคมให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นแบบมั่งคงสืบต่อไป

สุดท้ายนี้ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ขอน้อมเกล้าฯ ถวายอาลัยส่งเสด็จสู่สวรรคาลัย ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ


ขอบคุณมากครับ
โด้

รายละเอียด
พระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ / Phu Phan Ratchaniwet Palace
อำเภอภูพาน จังหวัดสกลนคร
Phu Phan, Sakon Nakhon, Thailand
โทร. 042-714-499, 042-711-550

รายละเอียด
โรงงานหลวงอาหารสำเร็จรูปที่ 3 (เต่างอย) / Third Royal Factory
215 หมู่ 4 บ้านนางอย ตำบลเต่างอย อำเภอเต่างอย จังหวัดสกลนคร [สกลนคร]
215 Moo 4 Tao Ngoi, Sakon Nakhon, Thailand
โทร. 042-761-129
website : www.thirdroyalfactory.siam.edu

update Promotion & Review สดใหม่ได้ตลอดที่ https://www.facebook.com/reviewnowz

ความคิดเห็น