สวัสดีครับเพื่อน ๆ ทุกคน ช่วงกำลังเริ่มผลัดจากร้อน เข้าสู่ฤดูฝน มีหลายสถานที่ดึงดูดที่อยากไปสัมผัส แต่เนื่องด้วยเรื่องของเวลาเพราะคนทำงานออฟฟิตอย่างเรา ๆ ทำได้แค่หนีงานมาเที่ยว ฮี่ ฮี่ หลังจากตัดสินใจอยู่นาน ว่าจะเดินทางเที่ยวไหนดี จนมาได้บทสรุปที่ ทริปชุมพร เพราะเห็นกระทู้ของเพื่อน ๆ หลาย ๆ คนที่ไปสัมผัสมา เลยต้องตาโดนใจในความมีเสน่ห์ของจังหวัดแห่งนี้

ผมออกเดินทางตอนเย็นจาก กทม. หลังจากเลิกงานเพื่อฟันฝ่า ตะลุยเมืองรถติดระดับโลกอย่างบ้านเรา แต่ให้เดินทางไปชุมพรเลยภายในคืนนี้คงจะไม่ไหว ขอพักเดี๋ยวนึงที่ โรงแรมประจวบบีช ในคืนนี้ เพื่อเก็บแล้วแรงไว้สำหรับ เดินทางสู่ ชุมพรในวันพรุ่งนี้ก็แล้วกันนะครับ


ห้องพักของโรงแรมประจวบบีช


มองจากหน้าต่างห้องพักออกมาจะเห็นวิวของเขาช่องกระจก


อีกมุมมองจากหน้าต่างห้องพักบ้านเรือนในตัวเมืองประจวบคีรีขันค์


ที่โรงแรมนี้ก็เหมาะกับนั่งชิล ๆ อ่านหนังสือเพลิน ๆ เหมือนกันนะครับ


บรรยากาศบริเวณโรมแรม


มองเห็นวิวเขาล้อมหมวก...เค้าน่าจะเปิดให้ขึ้นได้เฉพาะเทศกาลหยุดยาวครับ


อีกด้านนึงครับ...มองเห็นเขาช่องกระจก...แต่เสียดายไม่ได้แพลนไว้...เลยไม่ได้ขึ้น


ปลาตากแห้ง...ไม่รู้ว่าปลาอะไรครับ....ผมมองซ้าย...มองขาว...ก็ไม่เห็นคนพื้นที่เลยไม่รู้จะถามใคร


หลังจากกินมื้อเที่ยงกันเสร็จ ผมออกเดินทางต่อทันที

เริ่มโปรแกรมแรกสำหรับเช้าวันนี้ ผมแวะสถานที่แรกคือ ปั้มน้ำมันครับ...ฮา ฮา...เพื่อหากาแฟดื่มสักแก้ว...เพราะต้องขับรถระยะทางค่อนข้างไกล ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่า ๆ

คราวนี้เที่ยวกันจริงจังแล้วครับ ก่อนเข้าเมืองชุมพร ต้องผ่านประทิว ผมเลยแวะชมชายหาดสวย ๆ น้ำใส ๆ สงบ ๆ ที่อ่าวทุ่งซางก่อนเลยครับ


ชายหาดอ่าวทุ่งซาง


เจอจระเข้น้อยด้วย...คนแถวนั้นเค้าเรียกว่า "แลน" ครับ


ขับออกมาจากอ่าวทุ่งซาง มาได้ไม่นานมองเห็นป้ายแหลมแท่น เลยขับเข้าสำรวจดูครับ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง


บรรยากาศบริเวณของแหลมแท่น...มีศาลาสำหรับนั่งเล่น...ชมวิวของอ่าวบ่อเมา


เดินเลาะลงมาข้างล่างบริเวณนี้จะเป็นลานหินกว้าง


บริเวณของแหลมแท่นมีลักษณะเป็นเนินเขาเตี้ยๆ ที่ยื่นล้ำออกไปในทะเล มีลานหินขนาดใหญ่ที่สามารถนั่งชมทัศนียภาพของอ่าวบ่อเมาได้อย่างชัดเจน


เป็นจุดชมวิวที่สวยอีกแบบครับ บริเวณแหลมแท่น ไม่มีหาดทรายครับ มีแต่หินล้วน ๆ


ถ้ามองจากบริเวณศาลา จะเจอแต่ต้นไม้บัง


ขับรถออกจากแหลมแท่น มุ่งหน้าไปต่อ ตามโปรแกรมที่ได้แพลนไว้ จริง ๆ แหลมแท่นผมได้แพลนไว้ครับ ไม่ได้หาข้อมูล และไม่รู้จักด้วยซ้ำไปครับ แต่ขับรถผ่านมาเจอพอดีครับเลยแวะ ฮา ฮา แต่เขาดินสออยู่ห่างจากแหลมแท่นประมาณสิบกว่าโล ก่อนเข้าเมืองชุมพรแวะชมวิวก่อนครับ

เขาดินสอ เป็นยอดเขาที่สูงที่สุดในเขตอำเภอปะทิว สูงจากน้ำทะเลประมาณ 736 เมตร ห่างจากตัวเมืองชุมพร ประมาณ 20 กิโลเมตร สถานที่นี่ช่วงปลายฝนต้นหนาว จะเนื้อหอมเป็นพิเศษ เพราะเป็นจุดรวมนักดูนก นักถ่ายรูป ทั้งเซียน และสมัครเล่น จำนวนมาก เพื่อรอชมผู้มาเยือนมากมายอย่าง "เหยี่ยว" ที่อพยพหนีหนาว ลงมาหากินทางตอนใต้ นับแสนตัวบินผ่านเขาดินสอในช่วงเดือนกันยายนถึงตุลาคม ของทุกปี

บนนี้จะมองเห็นทิวทัศน์ได้อย่างกว้างไกลตั้งแต่ ทะเลชุมพร ชายหาดทุ่งวัวแล่น เรือกสวนไร่นาไปจนถึงเทือกเขาสลับซับซ้อนข้ามแดนพม่ากันทีเดียว


จุดชมวิวเขาดินสอมองเห็นทิวทัศน์ได้อย่างกว้างไกล


ถนนที่ขึ้นมาบนเขาดินสอ...ค่อนข้างชัน และคดเคี้ยวพอสมควรครับ


วิวทิวทัศน์ของทะเลชุมพร สวนผลไม้ สวนยางพารา และทิวเขาสลับซับซ้อนสวยงามทอดไกลสุดตา


ลงจากเขาดินสอ มุ่งหน้าไปจุดชมวิวอีกสักที่ก่อนเข้าที่พัก ที่เขามัทรี แดดเริ่มอ่อนลง พระอาทิตย์เริ่มคล้อย ข้างบนจุดชมวิวเขามัทรีคงสวยมากแน่นอนครับ

บนเขาสามารถชมวิวทิวทัศน์ ได้ 360 องศา มองเห็นชุมชนปากน้ำชุมพร และชายหาดของทะเลชุมพร โดยเฉพาะช่วงเย็น ๆ เป็นเวลาที่แดดกำลังดี ไม่ร้อนมาก และชมทิวทัศน์ของเมืองชุมพรได้งดงามมากครับ

ด้านบนเขามัทรี มีพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวรปางมหาราชลีลาลักษณะคล้ายกับท่านั่งขององค์จตุคามรามเทพมองออกไปที่ชายทะเลชุมพร ด้านขวาเป็นหาดภราดรภาพ

บนนี้มองเห็นชุมชนปากน้ำชุมพร ซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่ เนื่องจากเป็นท่าเทียบเรือประมงแต่ขอบอกเลยว่าทางขึ้นเขาชันกว่าเขาดินสออีกครับ แต่ช่วงสั้นประมาณกิโลเมตรเดียวก็ถึงยอดเขา

บริเวณจุดชมวิวมีร้านกาแฟสดถ้ำสิงห์ เหมาะนั่งจิบกาแฟ มีระเบียงยื่นออกไปให้ชมวิวหาดภราดรภาพเพลิน ๆ รอบ ๆ ปลูกดอกไม้ล้อมรอบร้าน ถ้าได้มากับคนรู้ใจนะครับ ขอบอกว่าบรรยากาศโรแมนติกวิวบนนี้สวยมาก ๆ ครับ

แนะนำอีกอย่างคือ อย่าลืมเข้าห้องน้ำที่นี่กันด้วยนะ ห้องน้ำที่นี่สุดชิคมาก ๆ เป็นแบบโอเพ่นแอร์ ใครทำธุระหนัก หรือเบา ก็ได้ดูวิวได้อย่างเพลิน ๆ ฮา ฮา


พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร ปางมหาราชลีลา ลักษณะคล้ายกับท่านั่งขององค์จตุคามรามเทพ


มุมนี้...เห็นคู่รักมาถ่ายรูปกับป้ายนี้หลายคู่นะครับ ด้านขวาเป็นร้านกาแฟสดถ้ำสิงห์ มีระเบียงยื่นออกไปให้ชมวิวหาดภราดรภาพ


มองออกไปเห็นหาดภารดรภาพ


ถนนเรียบชายหาดภารดรภาพ


วิวปากน้ำชุมพร


มองเห๋็นชุมชน และเรือที่จอดกันเรียงราย


อีกมุมนึงของทะเลชุมพรยามเย็น สวยมาก ๆ ครับ


สิงโตบริเวณระเบียงชมวิวของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร


ป้ายให้สำหรับให้มาถ่ายรูป...เห็นวิวด้านหลังเป็นชุมชมปากน้ำชุมพรครับ


บริเวณด้านหน้าลาน ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร


วิวบริเวณด้านหน้าลาน ของพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร


พระอาทิตย์ยามเย็นสวยมาก ๆ ครับ


ก่อนพระอาทิตย์ตก ผมรีบลงจากเขามัทรี เพื่อเข้าที่พักสำหรับคืนนี้ ผมพักที่โรงแรมโนโวเทล ชุมพร ซื้อเก็บเอาไว้ตอนงานไทยเที่ยว ซึ่งเป็นของบริษัททัวร์ดำน้ำ สยามคาตามารัน ถึงที่พักก็รีบเช็คอิน เพื่อเข้าพักทันที สนุกกับการเที่ยวระยะทางไกลมาทั้งวันแล้วครับ โรงแรมโนโวเทล ตั้งอยู่บริเวณหาดภราดรภาพ ไม่ติดทะเล เพราะมีถนนตัดผ่านระหว่างหาดกับโรงแรม


บริเวณล็อบบี้ของโรงแรมโนโวเทล


บริเวณสระน้ำ คิดว่าจะกระโดดน้ำเล่นซะหน่อย แต่เวลาไม่มีครับ


บริเวณรอบ ๆ ห้องพักของโรงแรมครับ


บรรยากาศภายในห้องพัก


มุมอีกด้านครับ


ถ่ายจากห้องน้ำ มีที่นั่ง และกระจกมองเห็นเตียงได้เลยครับ


บริเวณระเบียงของห้องพัก


ด้านหน้าทางเข้าโรงแรมตอนเย็น ๆ


บรรยากาศอีกมุมนึงของโรงแรม


ขอบอกว่าห้องพักของโนโวเทลสะอาด และกว้างขวางมากครับ เดินเหนื่อยเลยครับ ค่ำแล้ว และเริ่มหิวแล้วด้วยครับ ด้านหน้าโรงแรมจะมีร้านอาหารริมหาดภารดรภาพที่เด่น ๆ ก็ครัวเจ๊อ่าง และร้านลุย เดินข้ามถนนจากหน้าทางเข้าโรงแรมมาหน่อยเดียวเองครับ

ต้องขอโทษด้วยที่ไม่ได้ถ่ายรูปอาหารมาให้ชม เพราะยุงเยอะมาก ถ่ายไม่ไหวจริง ๆ ครับ ขนาดทางร้านจุดยากันยุงให้แล้วยังเอาไม่อยู่ครับ เลยต้องรีบกิน และรีบเข้าที่พัก


บรรยากาศของครัวเจ๊อ่าง


บริเวณชายหาดภารดรภาพ พระอาทิตย์ตกแล้ว


พระอาทิตย์ตกแล้วฟ้ากำลังสวยได้ที่เลย


ครัวเจ๊อ่างมุมมองจากตรงชายหาดภารดรภาพครับ


เช้านี้กินอาหารของโรงแรม รสชาติโอเคเลยครับ แต่ไลน์อาหารไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่

เอาหละเตรียมพร้อมเข้าโปรแกรมของวันนี้ครับผมจะไปดำน้ำกับ ทัวร์สยามคาตามารัน ทางทัวร์มารับถึงโรงแรมเลยครับ ไปถึงท่าขึ้นเรือของสยามคาตามารัน เค้าก็ให้เชคชื่อลงทะเบียนรับอุปกรณ์ดำน้ำเลยครับ เรือออกประมาณเก้าโมงเช้าครับ ทางทัวร์เค้าพาไปดำน้ำทั้งหมด 4 เกาะ

• เกาะง่ามน้อย

• เกาะง่ามใหญ่

• เกาะกะโหลก

• เกาะทะลุ


เรือออกแล้ว...เย่....มานั่งเล่นที่ห้องควบคุมเรือ


บรรยากาศระหว่างล่องเรือ


นั่งดูชาวประมงเค้าทำอะไรกัน


นั่งมองเรือประมงแล่นผ่านไป ผ่านมาเพลิน ๆ


เรือประมงจอกันเต็มไปหมด


วันนี้ฟ้าใสกำลังดี


เรือแล่นไปเรื่อย ๆ ก็ชมวิว ชมวิถีชีวิตไปเรื่อย ๆ


บรรยากาศป่าชายเลนสวยดีเหมือนกัน


ใกล้แล้ว ๆ


กำลังจะออกสู่ปากอ่าว


บริเวณปากอ่าวชุมพร



ออกสู่ทะเลกันเลย...go go !!


เริ่มเค้วงคว้างสู่ทะเลกว้าง



น้ำเริ่มเปลี่ยนสีและ


มุ่งหน้าสู่เกาะง่ามน้อยกันเลย


เห็นไม่ไกลแล้ว เกาะง่ามน้อย อยู่ทางขวามือ


เกาะง่ามน้อยครับ สวยอะ


พี่เจ้าหน้าที่เค้าบอกว่าให้พวกเราเตรียมพร้อม


ตามชะง่อนหิน มีกระต๊อบพักอาศัย สำหรับให้คนเฝ้ารังนก


โดดซิครับรออะไร น้ำใสมาก


ดู ๆ เหมือนหนังเรื่อง ไพรอท ออฟเดอะคาริเบียน เหมือนกันนะ


ออกจากเกาะง่ามน้อยแล้ว


เกาะง่ามน้อยเป็นหนึ่งในเกาะที่เป็นเขตสัมปทานรังนก ของจังหวัดชุมพรครับ ที่นี้คนนอกไม่สามารถขึ้นเกาะได้โดดเด็ดขาด แต่เรื่องจากสภาพแวดล้อมใต้น้ำรอบเกาะ มีความอุดมสมบูรณ์ และสวยงามเป็นอย่างมาก น้ำใสมาก ๆ ผมดำลงไปด้านล่างเต็มไปด้วยดอกไม้ทะเลกับปลาการ์ตูนเยอะมาก ๆ และฝูงปลาเล็กใหญ่ ปลาหูช้างด้วย เต็มไปหมด เสียดายที่ไม่มีกล้องถ่ายภาพใต้น้ำมาด้วย

ระหว่างล่องเรือมา เห็นทางเจ้าหน้าที่ทัวร์บอกว่าถ้าโชคดีก็มีโอกาสได้เห็นยักษ์ใหญ่ใจดีอย่างฉลามวาฬครับ แต่ไม่มีโชคเลยอดเห็น ว้า...!!!

ออกจากเกาะง่ามน้อย พาไปต่อกันที่เกาะง่ามใหญ่ เกาะที่เป็นไฮไลท์ของทริปดำน้ำในครั้งนี้

เกาะง่ามใหญ่มีความสมบูรณ์ และสภาพแวดล้อมใต้น้ำสวยงามมากครับ ผมไม่รีรอโดดทันที ดำลงไปเห็นดงดอกไม้ทะเลหนาแน่นมาก ๆ ครับ เห็นปลาการ์ตูนอินเดียแดงอาศัยอยู่ในดงดอกไม้ทะเลเต็มไปหมด เห็นปลานกแก้ว ปลาผีเสือ ปลาสินสมุทรสวยมาก ๆ ครับเกาะนี้ ผมชอบเกาะง่ามใหญ่มากกว่าเกาะง่ามน้อย เพราะลักษณะของแนวโขดหิน ที่เป็นช่องว่าง ไม่ลึกมาก ทำให้สามารถพาตัวเอาล่องลอยผ่านเข้าไปตามแนวหิว เพื่อสัมผัสกับธรรมชาติใต้ผิวน้ำรอบตัวได้ใกล้ชิดกว่าที่เกาะง่ามน้อย


แหลมหินตรงนี้เป็นจุดดำน้ำของเกาง่ามใหญ่


ประการังที่นี่สวยมาก


อีกมุมนึงของเกาะง่ามใหญ่


มุมไฮไลท์ของทริป ฝ่ามือพระพุธเจ้า


ธรรมชาติสร้างสันได้อย่างอันซีนมากครับ


พอขึ้นจากเรือทางเจ้าหน้่าที่ทัวร์สยามคาตามารัน ก็เรียกให้กินอาหารกลางวัน ซึ่งเป็นแบบบุฟเฟ่ต์ครับ พร้อมกับล่องเรือต่อไปยังเกาะกะโหลก เนื่องจากวันนี้ทางสยามคาตามารัน ออกช้ากว่ากำหมดร่วมชั่วโมง เลยต้องกินข้าวระหว่างล่องเรือไปด้วยครับ ระหว่างล่องผ่านเกาะง่ามใหญ่ จะผ่านฝั่งที่เป็นอันซีนของเกาะง่ามใหญ่ ที่เรียกกันว่า Right Hand of Buddha (ฝ่ามือพระพุธจ้า) ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเกาะนี้ สวยมาก ๆ ครับ


เกาะกะโหลก



ล่องเรือมาถึงเกาะกะโหลก เห็นทางทัวร์บอกว่าลักษณะของเกาะคล้ายหัวกระโหลก ผมโดดลงไปดำอย่างไม่ต้องรอให้ทางเจ้าหน้าที่อธิบายจบครับ ตอนแรกก็นึกอยู่ว่า ทำไมเกาะเล็กจังวะ จะมีอะไรให้ดูหรอเนี่ย แต่ไม่ใช่อย่างที่คิด พอดำลงไปเท่านั้นแหละ โห...ประการังเยอะมาก ๆ ครับ มีทั้งปะการังสมอง ประการังครก ประการังเขากวางอยู่เยอะมาก ๆ อุดมสมบูรณ์จริง ๆ ระหว่างดำเห็นฝูงปลาอะไรไม่รู้ตัวเล็ก ๆ สีงิน ๆ เยอะแยะไปหมดน่าจะมีเป็นแสนตัวได้มั้งครับ ว่ายกันไปมาผ่านตัวผมระหว่างที่ดำ เห็นพี่เค้าบอกว่าเค้าจังหวะดี ๆ อาจจะได้เห็นฝูงปลาโทงเทงร่ม ตัวใหญ่ด้วย แต่ก็แห้วซิครับ ไม่ได้เห็นอีกและ

เกาะกะโหลกเห็นเล็ก ๆ เงียบ ๆ อย่างนี้ แต่ปลาเพียบนะครับ ออกจากเกาะกะโหลก ไปเกาะสุดท้ายของทริกันต่อเลย แต่ระหว่างล่องเรือไปเกาะสุดท้าย เหลือบไปเห็นกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาด้วยกัน ดูง่วง ๆ เหมือนอดหลับอดนอนกันมายังไงกันไม่รู้นะครับ ฮา ฮา

ยังไม่ทันครบทุกเกาะ หมดสภาพกันไปตาม ๆ กัน ฮา ฮา


เห็นเกาะทะลุอีกนิดเดียวก็จะโดดน้ำต่อและ


มุมอันซีนของเกาะทะลุ อีกหนึ่งอันซีของทริปนี้ มองเห็นช่องเป็นรูปหัวใจ


หัวใจของเกาะทะลุ


หัวใจของเกาะทะลุ


จุดดำน้ำของเกาะทะลุ


มาถึงเกาะสุดท้ายครับผม เกาะทะลุ ลักษณะเป็นเกาะหนิปูนขนาดเล็ก ผมมองเห็นโพรงถ้ำขนาดใหญ่ อยู่หลายถ้ำในลักษณะคร่อมผิวน้ำครับ สามารถว่ายน้ำลอดทะลุไปยังฝั่งตรงข้ามได้ เจ้าหน้าที่ทัวร์บอกอย่างนี้นะครับ แต่ผมว่าไม่รู้จะว่ายรอดไปยังไงมีทั้งโขดหิน และบริเวณโขดหินก็เต็มไปด้วยหอยเมน

กระโดดลงไปดำก็เห็นฝูงปลาเยอะอยู่ครับเกาะนี้ แต่ช่วงที่ผมไปเจอแมงกระพรุนอยู่ทั่วบริเวณรอบเกาะเต็มไปหมด ชนิดว่าดำไป ว่ายไปก็เจอ เห็นปลาจำพวกปลาผีเสือเงิน-ทอง ฝูงปลาสลิดหิน ปลาผีเสื้อจักรพรรดิ อยู่หลายตัว แต่ความหลากหลายยังสู้สามเกาะที่ผ่านมาไม่ได้ครับ

ขึ้นจากน้ำกัน เรือก็แล่นออกจากเกาะทะลุมุ่งหน้ากลับฝั่ง เริ่มเย็นแล้ว


เดินทางกลับฝั่ง มุมนี้มองเห็นเกาะที่ผมไปดำน้ำครบทั้ง 4 เกาะ


สวยมากครับธรรมชาติข้างใต้ทะเลของหมู่เกาะชุมพร


ทางเจ้าหน้าที่บอกว่า เกาะเสม็ด สามารถขึ้นไปเที่ยวได้ แต่ไม่มีเรื่อประจำทางเหมือนเกาะเสม็ดที่ระยองนะครับ เกาะเสม็ดของชุมพรต้องหาเหมาเรือไปเองครับ


ผ่านเกาะน้อยใหญ่ระหว่างเดินทางกลับฝั่ง


เข้าปากอ่าวแล้ว


เริ่มเห็นเรือประมงจอดเรียงรายเต็มไปหมด


วิวระหว่างทาง



กลับถึงฝัง คืนนี้ผมนอนโนโวเทลอีกคืน และก็เข้ามาหาอะไรกินในตัวเมืองชุมพร ซึ่งอยู่ห่างจากโรงแรมประมาณ 20 กว่าโล

เช้าวันนี้ไม่ได้กินมื้อเช้าที่โรงแรม เพราะอยากพักผ่อนให้เต็มที่ เพราะต้องขับรถระยะทางไกลครับ ออกจากโรงแรมก็แวะเที่ยวระหว่างทาง ไปชมปากอ่าวชุมพร และมุ่งหน้าไปที่โครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ


บริเวณปากอ่าวชุมพรครับ


ระหว่างทางไปโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ


ถึงแล้วโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริ

ยืนอ่าวแล้วทึ่ง ใช้แค่ 7 คนสร้าง ระยะเวลา 1 เดือน



ไปสำรวจเส้นทางสะพานไม้เคี้ยมกันเลยครับ


ระหว่างเดินไปตามสะพานกลัวไม่หักเหมือนกันครับ ฮา ฮา


ลมโชยมาตลอดเวลา


ภายในตัวโครงการฯ มีการสาธิตการเพาะปลูก การเลี้ยงสัตว์ให้ได้ชมกันด้วยครับ และที่โครงการฯ มีที่พักแบบโฮมสเตย์ให้พักด้วยนะครับ ถ้าใครอยากจะมาสัมพัสธรรมชาติของที่นี่ บนสะพานลมเย็นมากครับ ถึงแม้ว่าแดดจะออกก็ตาม

แวะชมโครงการพัฒนาพื้นที่หนองใหญ่ตามพระราชดำริเสร็จเป็นสถานที่แห่งสุดท้ายของทริปนี้ ก็เดินทางไปที่ปราณบุรีต่อเลยครับ เพราะคืนนี้ต้องพักแถวปราณบุรีครับ ให้ขับกลับบ้านเลยคงจะใช้เวลาหลายชั่วโมง และไกลเกินไป


ผมเลือกใช้เส้นทางสามร้อยยอด ก่อนเข้าปราณบุรีครับ




ลาวาน่า เอสเคป ที่พักในปราณบุรีเป็นแบบพูลวิลล่า เดินงาน ไทยเที่ยวไทยแล้วเห็นแล้วน่าสนใจ และมาออกโปรถูกด้วยครับ เลยเก็บไว้ซะ



เส้นทางศึกษาธรรมชาติป่าชายเลนวนอุทยานปราณบุรี


ก่อนเดินทางกลับบ้าน แวะศักการะบูรพกษัตริย์ไทยเพื่อความเป็นสิริมงคล เป็นอันปิดทริปการเดินทางเที่ยวใต้ตอนบนของผม


อุทยานราชภักดิ์ กษัตริย์ไทย 7 พระองค์


ระหว่างกลับบ้านก็ยังแวะไปไหว้ศาลพันท้ายนรสิงห์ ที่สมุทรสาคร กับกินมื้อเย็นที่ครัวลุงญา ปิดทริปลงใต้ครั้งนี้ ซึ่งเป็นทริปที่เดินทางระยะทางไกล แต่มีเรื่องราว สถานที่อันซีน ประทับใจอยู่หลายแห่ง ขอบคุณที่ติดตามครับ


ความคิดเห็น