ไม่ว่าจะฤดูไหน ใคร ๆ ก็มักจะไปเที่ยวทะเลอยู่เสมอ เราก็คนหนึ่งแหละ ที่เมื่อไหร่ก็ตามที่รู้สึกทุกข์หรือสุขทะเลมักจะคือคำตอบที่ดีอยู่เสมอ ครั้งนี้ก็เลยออกเดินทางไปเที่ยวที่ท้องทะเลกันดีกว่าที่ .. หัวหิน ..

การเดินทางเราไปหัวหินเดี๊ยวนี้สบายมาก ไม่ว่าจะเป็นรถไฟ รถตู้ รถยนต์ส่วนตัว หรือแม้กระทั่งเรือเฟอร์รี่ก็สามารถมาได้นะ สำหรับเรานั้นเดินทางไปกับผองเพื่อนอีก 3 คนก็เลยเลือกการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว ขับมุ่งหน้าสู่หัวหินจากตัวเมืองพระนครศรีอยุธยา ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงนิด ๆ กับระยะททางประมาณ 275 กิโลเมตร ค่อย ๆ ไป อยากแวะก็แวะ ชิลล์ไปอีก

จริง ๆ พวกเราก็ไม่ได้มีการวางแผนหรือเตรียมการท่องเที่ยวในครั้งนี้มาเลย เพียงแต่เตรียมเรื่องสถานที่พักไว้เท่านั้น โดยจะพักกันที่ บ้านเคียงฟ้า

นี่ถ่ายจากสถานที่จริงนะครับ ดูห้องพักแบบสะอาดมาก มีเครื่องครัวพร้อมอุปกรณ์เตรียมไว้ให้เราด้วยนะครับ

แต่ก่อนที่เราจะเข้ามายังห้องพัก เราก็ขับรถกันไปที่ อุทยานราชภักดิ์ เพื่อไปชมความยิ่งใหญ่ของพระบรมราชานุสาวรีย์ของพระมหากษัตริย์ไทยในอดีตทั้ง 7 พระองค์ ประกอบด้วย พ่อขุนรามคำแหง , สมเด็จพระนเรศวรมหาราช , สมเด็จพระนารายณ์มหาราช , สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี , พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช , พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว

ต่อจากนั้นก็ไปยังสวนสนประดิพัทธ์ กันต่อนะครับ ที่สวนสนประดิพัทธ์แห่งนี้ เป็นชายหาดทะเลที่ตั้งอยู่ในบริเวณของกองทัพบกนะครับ มีค่าบริการเป็นค่าบำรุงสถานที่ 20 บาท ที่นี่เป็นชายหาดที่กว้างมาก แลดูเงียบสงบ ทรายละเอียดสัมผัสได้ถึงความนุ่ม เหมาะแก่การเล่นน้ำทะเลเป็นอย่างยิ่ง ที่นี่ยังมีกิจกรรมทางทะเล เช่น บานาน่าโบ๊ท มีเตียงผ้าใบสำหรับให้เช่า และมีร้านค้าสวัสดิการของทางกองทัพบก คือถ้าใครต้องการความเงียบสงบ นั่งฟังเสียงคลื่นพร้อมดื่มด่ำกับบรรยากาศริมทะเลที่ไม่ต้องแก่งแย่งกันกับคนอื่น ๆ แล้วระก็ สวนสนประดิพัทธ์ น่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดนะครับ

ทิวต้นสนบริเวณชายฝั่งครับ

ถ้าไม่รู้จะมาทำอะไร ก็ลองมานั่งชิลล์ ๆ ตั้งกล้องถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ ก็ฟินดีนะครับ

ไม่ก็มาถ่ายรูปเปลือกหอยสีขาวที่ชายหาด

หรือไม่ก็มาถ่ายรูปขวดน้ำพลาสติกที่เด็ก ๆ เอามาตักน้ำทะเลและลืมทิ้งไว้กันก็ได้ครับ

หรือจะถ่ายรูปขอนไม้แห้งที่ตั้งวางไว้สำหรับเป็นมุมถ่ายรูปของคนแนว ๆ ก็ดีเหมือนกันนะครับ

หรือไม่ก็มานั่งกินปลาหมึกย่างกัน นี่เหมาเจ้าแรกของลุงแกเลยนะครับ ตัวละ 25 บาท 5 ตัวร้อย 555+


หรือจะถ่ายรูปอะไรก็ได้ไปเรื่อย ๆ

แต่ทีนี้จะมีชาวบ้านมาทำการคราดเพื่อเก็บหอยตลับไปขายเป็นรายได้หลักขอครอบครัวเลยนะครับ เราได้สอบถาม ถ้าจำหน่ายที่หน้าหาดเลย หอยตลับราคา 100 บาทต่อกิโลกรัม ต่อวันได้ประมาณ 6 - 7 กิโลกรัม ก็ถือว่าเป็นรายได้ที่ไม่สูงนะครับ ใครที่มาพักก็สามารถช่วยอุดหนุนพี่ ๆ ได้นะครับ

หอยตลับ สามารถนำมาผัดกินได้เหมือนกับหอยลาย ก่อนเอาไปทำกับข้าวจะต้องทำการแช่น้ำเกลือกันก่อนนะครับ แล้วก็นำไปทำกับข้าวได้ตามปกติ

แต่ถ้าใครเบื่อการนั่ง ๆ นอน ๆ แล้วระก็ ไปจัดบานาน่าโบ๊ทกันก็ได้นะครับ ราคาน่าจะไม่แพงเท่าไหร่

พวกเราก็นั่งดื่มด่ำกับบรรยากาศไปนานเหมือนกันนะครับ แล้วก็เลยกลับมาที่ห้องพักกันบ้าง อยากมาดูหัวหินในมุมสูงกันบ้าง เนื่องจากพวกเราพักกันที่บ้านเคียงฟ้า ชั้น 18 ทำให้ได้เห็นอีกมุมหนึ่งของหัวหิน

จากวิวหน้าต่างของห้องพัก สวยงามมาก

ที่ห้องพัก มีบริการสระว่ายน้ำ ฟิตเนส ห้องสมุด รวมทั้งห้องเล่นปิงปองด้วยนะ เราก็ไปจัดมาด้วย

เข้าห้องพักกันแล้ว ก็ออกมาถ่ายรูปริมชายหาดยามเย็นอีกครั้ง


แล้วก็กลับมาหาไรทานกันต่อ มาทะเลครั้งนี้ กินแค่หอย กับ ปู ก็พอเนอะ ..

แล้วก็มาดื่มด่ำบรรยากาศยามราตรีของหัวหินกันต่อจากมุมสูงนะ ไม่ได้ออกไปไหน 55+ แล้วก็นอนพักเลยทีเดียว

ตื่นเช้ามา (ไม่น่าจะเช้าระนะ 10 โมง) ก็เตรียมตัวกลับกันระครับทีนี้ ก่อนกลับก็เลยไปไหว้หลวงปู่ทวดที่วัดห้วยมงคลเพื่อเป็นสิริมงคลแก่ชีวิตกันครับ

และนี่ก็คืออีกหนึ่งการเดินทางของเรา การเดินทางของเราไม่จำเป็นต้องเริดหรู ดีเลิศ เพียบพร้อม แต่การเดินทางของเราคือการที่เราได้ไปอยู่ในมุมที่เป็นตัวเองมากที่สุด ไม่ต้องสนใจสิ่งรอบข้าง ไม่ต้องคิดอะไรมาก ไม่ต้องมีแบบแผน และปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามทางเดินของมัน แล้วเราจะกลับมาเริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่อย่างมีความสุขต่อไปนะครับ

.. Bye Bye Hua Hin 2017 ..


FreelyThailand

 วันจันทร์ที่ 3 เมษายน พ.ศ. 2560 เวลา 11.14 น.

ความคิดเห็น