สวัสดีครับ เพื่อนๆ ห้องบูลแพลนเน็ตทุกท่านครับ วันนี้ผมจะมารีวิว การเดินทาง ประเทสญี่ปุ่นของผมให้ชมกัน โดยครั้งนี้เราจะพาไปชม โซนในเกาะคิวชูกัน โดยเมืองที่ผมจะไปนั้น จะมี Saga - Nagasaki - kumamoto - Yufuin - Beppu - Hakata โดยใช้เวลาเดินทางทั้งหมด 7 วัน ไปช่วงเดือน พ.ย. ใบไม้เปลืยนสีครับ



ก่อนที่จะไปดูกันเพื่อน ๆ สามารถแวะไปทักทายหรือดูรีวิวสถานที่อื่นๆของพวกเราเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ



https://www.facebook.com/TwinTraveller

http://twintravellerblog.com

โดยการเดินไปยังประเทศญี่ปุ่นนั้น เราได้ใช้บริการของ Vietnam Airlines ข้อดีคือ มีราคาที่ถูกมาก ในราคาของสายการบินฟูลเซอวีส ส่วนข้อเสียนั้น จะเป็นเรื่องการที่ต้องรอ ต่อเครื่องเป็นเวลานานๆ ที่เวียดนาม แต่ถ้าหากใครที่ไม่มีปัญหาเรื่องเวลาก็แนะนำเลยครับ ประหยัดเรื่องค่าเดินทาง ไปใช้ ค่าที่พัก ค่าอาหารที่นู้นดีกว่า



รีวิวจากความคิดเห็นส่วนตัวนะครับ AIRBUS A321 เครื่องที่ผมนั่ง ค่อนข้างสบาย นอนหลับสบาย ที่นั่งพอดีๆ ไม่แคบจนเกินไปพอรับได้ ในราคาตั๋วไม่ถึงหมื่น กับฟูลเซอวีส ของ Vietnam Airlines ส่วนเรื่องของการบริการนั้น ถือว่าใช้ได้ครับ เครื่องออกตรงเวลา แถมถึงที่หมายเร็วกว่ากำหนดเวลาอีกด้วยครับ



เรื่องอาหารการกินนั้น ในความคิดเห็นส่วนตัวนั้น ถือว่า ปานกลาง นะครับ แต่อิ่มจริงๆ ครับ บิน 4 เที่ยว เสริฟอาหารทุกครั้งเลย ถ้าหากใครชอบกิน คงจะถูกใจไม่น้อยเลยทีเดียว สิ่งหนึ่งที่ผมชอบมากที่สุดคือ ตอนเขาเสริฟขนมปัง เขาจะอบร้อนมาก่อนเสมอ อร่อยมากกก ปกติกินแต่เย็นๆ ไม่ค่อยอร่อยเท่าไหร่หลังจากที่เราได้ชมรีวิวของสายการบิน Vietnam Airlines เป็นที่เรียบร้อยแล้วต่อไปนี้จะเป็นการรีวิวการเดินทางกันครับ



DAY1 Fukuoka Airport > Saga City



เนืองจากเราได้เดินมาทางมาถึง Fukuoka Airport ประมาณ 7:20 โมงเช้า ผมชอบเลือกเวลาเที่ยวบินมาถึงเช้าๆ เพราะผมจะชอบหลับบนเครื่องเอาแรง แล้วพอมาถึงตอนเช้า ผมก็เดินทางไปยังที่พัก ไปฝากกระเป๋า แล้วออกเที่ยวทันที กว่าจะกลับอีกที ก็ดึกเลยทีเดียว ถือว่าเอาให้คุ้มในวันแรกเลยทีเดียวครับ



หลังจากที่เราเดินทางมาถึงสนามบินเรียบร้อยแล้ว เราจะมุ่งตรงไปยัง เมือง ซากะ (Saga) กันเลยครับ โดยเราจะชื้อตั๋วรถบัสในสนามบินตรงทางออกเพื่อเดินทางไปยังเมืองซากะกัน โดยใช้เวลาในการเดินทางทั้งหมด ชั่วโมงกว่าๆเท่านั้นครับ พอถึงที่พัก APA Hotel Saga Ekimae Chuo ซึ่งอยู่ใกล้สถานี ซากะ (Saga) เก็บกระเป๋า เก็บของเรียบร้อยแล้ว ก็เตรียมตัวเดินทางไปยัง สถานที่ท่องเที่ยวที่แรกของเราเลยครับ ซึ่งที่นั้นก็คือ วัดใหญ่ Yutoku Inari Shrine

นั้นองครับ



การเดินทาง: จากสถานี Saga ลงสถานี JR Hizen Kashima ออกจากสถานีแล้วข้ามถนนมาที่ Kashima Bus Center หรือ ใต้ตึก Yutoku รอรถที่ Platform 3 ใช้เวลาเดินทางประมาณ 30 นาที นั่งบัสลงป้าย Yutoku Inari-jinja Shrine ครับ



Yutoku Inari-Jinja Shrine นั้นเป็น ศาลเจ้ายอดนิยมของญี่ปุ่น ที่สามารถอธิษฐานขอได้หลายเรื่อง และเป็นศาลเจ้าที่ใหญ่เป็นอันดับต้นๆ ของประเทศญี่ปุ่นเลยก็ว่าได้ เพราะฉะนั้นหากใคร ที่มีโอกาสได้เดินทางไปยัง ภูมิภาคคิวชู แนะนำให้มาเที่ยวที่นี้กันนะครับ



บรรยากาศรอบๆ วัดนั้น สวยงามมากๆเลยครับ เดินเล่นสบายๆๆ ถ่ายรูปเพลินเลยทีเดียว



ผมว่า ศาลเจ้าที่นี้สวยงามาากเลยนะครับ ออกแบบได้อย่างลงตัวมากๆ



หลังจากที่เราเดินชมด้านล่างของศาลเจ้าแห่งนี้เสร็จเราก็สามารถเดินขึ้นบันใด เพื่อไปชมวิวมุมสูงได้จากบนศาลเจ้าแห่งนี้ได้อีก เดินเรือยๆ ไม่เหนือยเลยครับ แนะนำให้เดินขึ้นกัน



วิวด้านบนนั้นสวยงามดีจริงๆ ครับ ตอนที่ผมไป อากาศกำลังเย็นสบายเลย ยืนมองวิวเพลินๆ เป็นอะไรที่สุขใจดีจริงๆ เลยครับ



หลังจากที่เราเดินเล่นชมศาลเจ้า Yutoku Inari-jinja Shrine เสร็จเรียบร้อยแล้ว เราก็ออกมาเดินชม ร้านค้า ซึ่งตั้งอยู่ด้านหน้าของวัดแห่งนี้กันครับ ว่ามีอะไรน่าสนใจบ้าง เท่าที่สังเกตร้านค้าแถวนี้ มีป้ายกับกับสินค้าเป็นภาษาไทยอยู่ทุกที่เลย สงสัยนักท่องเที่ยวไทยจะเดินทางมาที่นี้เยอะน่าดูเลย คงจะได้อิทิพลจากหนัง ละครไทยที่เคยมาถ่ายทำที่นี้ครับ



มีร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของฝาก ร้านขายไอติม ให้ดูและช้อปปิ้งกันครับ วันนี้เราใช้เวลาที่นี้ทั้งวัน ดื่มด่ำให้เต็มที่ไปเลย เพราะพรุ่งนี้เราจะเดินทางไปนางาซากิ กันDAY2 Saga > Nagasaki



ตื่นเช้าตี 5 เตรียมตัวขึ้นรถไฟ ไปนางาซากิกัน ใช้เวลาจากเดินทางประมาณ ชั่วโมงครึ่งเท่านั้น ก็ถึงที่หมายแล้ว เราได้จองโรงแรม APA Hotel Nagasaki Ekimae ซึ่งอยู่ใกล้กับสถานีรถไฟ และใกล้ร้านอาหาร ใกล้ห้างค้าครับ



เรามาถึงที่นางาซากิแต่เช้า ยังคง เชคอินเข้าโรงแรมไมไ่ด้เช่นเคย เลยฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม แล้วออกไปลุยกันเลย วันนี้พวกเรามีแพลน ไป Nagasaki Atomic Bomb Museum , Nagasaki Peace Park , Megane Bridge กันครับ



บรรยากาศเมืองนางาซากิช่วงเช้านั้น เป็นเมืองที่สงบมากกก ไม่วุ่นวายเหมือนเมืองใหญ่ๆ อย่างโตเกียว หรือ โอซาก้า ใครที่อยากท่องเที่ยวแบบบรรยากาศสบายๆ ต้องชอบแน่นอนครับ และสำหรับใครที่ชอบรถไฟ ที่นี้มีรถราง หลากหลายแบบ สีสันสวยงาม แตกต่างกันไป หลายแบบมากครับ



เอาละครับ เรามาเริ่มสถานที่เที่ยวของเรา ที่แรกกันเลยดีกว่า จุดแรกของเราคือ Nagasaki Atomic Bomb Museum ครับ ไปชมประวัติศาสตร์ของเมืองที่นี้กัน ปกติแล้วผมไม่ค่อยชอบเข้า พิพิธภัณฑ์ ซะเท่าไหร่ แต่ในเมื่อเรามาถึงเมือง นางาซากิ แล้ว เมืองที่มีประวัติศาสตร์ที่สำคัญของประเทศญี่ปุ่นด้วยแล้ว ที่นี้เลยเป็นที่ที่ต้องไปให้ได้ครับ



นางาซากิ เมืองหนึ่งที่เป็นกลายเป็นเมืองประวัติศาสตรเมื่อ ระเบิดปรมาณูลูกที่ 2 เมื่อสมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้ประชาชนในเมืองแห่งนี้ลัมตายกันเยอะแยะมากมาย เมืองแหง่นี้จึงกลายเป็นเมืองแห่งสันติภาพ เพื่อให้ชาวโลกตะหนักถึงพิษภัยของจากสงครามที่มีแต่ความสูญเสีย พิพิธภัณฑ์แห่งนี้จึงเป็นสถานที่ที่สามารถเรียนรู้ประวัติศาสตร์ได้อย่างดีเลยทีเดียว แนะนำให้มากันนะครับ



บรรยากาศใน พิพิธภัณฑ์ บอกตามตรง ตอนผมเข้าไปนั้น มีความหดหู่ใจเป็นอย่างมาก ในพิพิธภัณฑ์แห่งนี้มีภาพถ่ายหลายรูป ที่ทำให้เรารู้สึกสลดใจเป็นอย่างมาก มีคลิปวีดีโอเปิดให้ชมกัน เล่าถึงเหตุการณ์ในครั้งนั้น การสูญเสียที่มหาศาล



ขนาดคนญี่ปุ่นเอง ดูไปยังถอนหายใจดังเลยทีเดียว ....



หลังจากที่เดินชม Nagasaki Atomic Bomb Museum เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เราก็เดินมาต่อที่ Nagasaki Peace Park กันเลยครับ ไม่ไกลจากกันมาก เดินเล่นชมเมืองไปด้วยเพลินดีครับ



สวนสันติภาพนางาซากิ(Nagasaki Peace Park) ถูกจัดสร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงเหตุการณ์ทิ้งระเบิดปรมาณูที่ชื่อว่า Fat man เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม ค.ศ. 1945 ที่ทำลายเกือบทั้งเมืองและยังฆ่าสิ่งมีชีวิตไปมากกว่า 80,000 คนครับ เป็นสถานที่ที่ควรไปอีกที่นึงเลยทีเดียว



หลังจากเราเดินชมสถานที่ท่องเที่ยว 2 ที่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ช่วงนั้นก็เย็นพอดี ตามแผนผมอยากไปถ่ายสะพาน Megane Bridge ตอนกลางคืนมาก เลย เลยนั่งรถไฟใช้เวลามากพอสมควร และแล้วก็มาถึงทันเวลาพอดีครับ ช่วงเย็นอากาศเริ่มไม่ดี ฝนเริ่มตกปรอยๆ อากาศเริ่มเย็นลง



ฝนตกบ้าง หยุดบ้าง เป็นช่วงๆ เวลานั้น มีกลุ่มคนมานั่งวาดภาพ ตรงข้ามสะพานแห่งนี้เยอะเหมือนกัน มากันเยอะเลยทีเดียว จับกลุ่มกันหลายกลุ่ม และก็มีนักท่องเที่ยวไปเดินเล่น ตรงหน้าสะพาน กันไม่ขาดสาย



สะพานมากาเนะบาชิ (Meganebashi Brigde) เป็นสะพานหินสะพานแรกของประเทศญี่ปุ่นที่ถูกสร้างขึ้นในปีค.ศ. 1634 เพื่อข้ามแม่น้ำนาคาจิมะ(Nakajima) ด้วยลักษณะที่เป็นรูปครึ่งวงกลม 2 วงติดกันเมื่อมองสะท้อนน้ำจะเห็นเป็นวงกลมเต็มวง 2 วง ซึ่งเป็นเรื่องน่าตื่นตาสำหรับคนในสมัยนั้น ซึ่งชื่อมากาเนะบาชิ (Meganebashi)ก็แปลว่ากระจกนั่นเอง (ขอบคุณข้อมูลจาก http://www.talonjapan.com/)



และแล้วหลังจากที่ยืนกันไปสักพักนึง ก็ถึงเวลาที่สามารถถ่ายรุปได้แล้วครับ สะพานเปิดไฟสวยงาม เงาสะท้อนกับน้ำ สวยงามมากๆ ยามค่ำคืนเลยครับDAY3 Nagasaki > Kumamoto > Aso Mt.



วันนี้จำเป็นต้องตื่นเช้ามากๆ เพื่อที่จะเดินทางไปยังเมือง Kumamoto เพราะใช้เวลาเดินทางเยอะพอสมควรเลยทีเดียว ต้องรีบเที่ยวชม ปราสาทตอนเช้า แล้วรีบไปยัง Mt.Aso อีกซึ่งใช้เวลาเดินทางเยอะอีก



เช้าๆ เป็นเวลาที่เดินชมปราสาทคุมาโมโต้ที่ดีมากๆเลยครับ คนยังไม่ค่อยเยอะ และก็มีอากาศที่เย็นสบายมากๆ



ปราสาทคุมาโมโต้มีความยิ่งใหญ่ และสวยงาม ดูโด่ดเด่นมากๆ เลย หลังจากที่เราเดินชมปราสาทคุมาโมโต้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก็รีบเดินเล่นกลับไปยังสถานที่หลักของเมือง คุมาโมโต้ เพื่อเดินทางไปยัง Mt. Aso



การเดินทางไปยัง Mt. Aso ต้องใช้เวลามากพอสมควร เพราะจากรถไฟเสร็จ ต้องไปต่อรถบัสอีก ดังนั้นเลยต้องเผือเวลาเยอะหน่อย เพราะขากลับไม่อยากกลับเย็นมากก อยากอยู่บนเขา Aso แค่ช่วงเย็นเท่านั้น



ภูเขาไฟอะโซะ เป็นหนึ่งในจุดท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของภูมิภาคคิวชู เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับขนาดใหญ่อยู่ใจกลางเกาะคิวชู ในจังหวัดคุมาโมโต้ (Kumamoto) ใครที่มาคิวชูแล้ว ต้องมากันทุกคนเลยทีเดียว แต่เสียดายช่วงที่เราไป มีหมอกลงจัดมากๆ เลยมองไม่เห็นภูเขาอะไรเลย เลยไมไ่ด้เดินไปตรงปล่องภูเขาไฟ เลยได้แค่เก็บภาพรอบๆ แค่นั้นเอง น่าเสียดายย



หลังจากที่เก็บภาพไปเรือย หมอกก็ลงจัดมากขึ้นเรือยๆ จนไม่เห็นอะไรเลย เลยหารถบัสนั่งกลับดีกว่าDAY4 Nagasaki > Yufuin



แน่นอนเลยว่า หากไปเมือง Yufuin ต้องนั่งรถไฟ yufuin no mori ให้ได้ เป็นรถไฟขบวนพิเศษสำหรับการท่องเที่ยวโดยแท้ เพราะมีการออกแบบที่สวยงาม นั่งสบาย มีไวไฟ ให้เล่นฟรี ระหว่างที่นั่งบนรถไฟ มีตู้ขายอาหาร เครื่องดื่ม ออกแบบ น่ารักๆ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวมากๆ



และแล้วเราก็เดินทางมาถึง เมือง Yufuin แล้วครับ อากาศฟ้าปิดตลอดเลย แต่อากาศเย็นสบายม้ากก ตั้งใจไว้ว่าจะนอนพักที่นี้ 2 วันเดินเล่นเรือยๆ ชิลๆ ไม่ต้องรีบร้อนครับ



เราว่าเมืองที่นี้น่ารักมาก เดินเล่นแล้ว รู้สึกดี และ อบอุ่น ร้านอาหาร ร่านขนม ร้านขายของฝากมีเยอะแยะมากมาย ให้เลือกชื้อเลย



ที่แรกที่จะเทียยวกันก็คือ yufuin floral village นั้นเองครับ เป็นเหมือนหมู่บ้านเล็กๆ ที่อออกแบบน่ารักๆ เหมือนอยู่ในจินตนาการ บนโลกขอลอีกโลกนึงเหมือนอยุ่ในการ์ตูนเลยทีเดียวครับ ตกแต่งสวยงามมากกก



เราใช้เวลาเดินรอบๆ ในเมือง Yufuin ทั้งวันเลย เพราะเมืองแห่งนี้มีอะไรที่น่าสนใจเยอะมากๆ เลยทีเดียวครับ เดินได้ไม่เบือเลย เดี๋ยวพรุ่งนี้เราจะไปอีกจุดนึงที่น่าสนใจก็คือ Kinrinko Lake ครับDAY5 Yufuin



ตื่นเช้าตั้งแต่ ตี 5 เดินยังไปทะเลสาป kinrinko lake เราตั้งใจไว้ว่าจะถ่ายรุปยามเช้า ที่ทะเลสาปแห่งนี้ ในช่วงเวลาตอนเช้าจะมีหมอกลอยอยู่บนผิวน้ำ สวยงามมากๆ เลยอยากเก็บภาพช่วงเวลานั้นครับ



และแล้วภาพที่คิดไว้ในหัวก็ออกมาจริงๆ ครับ บรรยากาศตอนเช้านั้นสวยงามมากๆ แนะนำเลยว่า ควรตื่นตอนเช้ามาชมในช่วงเวลานี้ เป็นช่วงเวลาที่ดีจริงๆ ครับ ดีกว่าเห็นตอนช่วงเวลาธรรมดาจริงๆ



หลังจากที่ถ่ายรุปมุมทะเลสาปเสร็จเราก็เดินรอบๆ ก็เจอมุมนี้ ที่สวยงามมากๆ แต่เสียดายเรามาช้าไป ดอกไม้เปลื่ยนสี กำลังจะร่วงหมดแล้ว



DAY6 Yufuin > Fukuoka Airport



จบการเดินทางในคิวชูของพวกเราแล้วครับ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้นะครับ ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ติดตามกันมาตลอดครับเพื่อน ๆ สามารถแวะไปทักทายหรือดูรีวิวสถานที่อื่นๆของพวกเราเพิ่มเติมได้ที่นี่ครับ ขอบคุณครับ



https://www.facebook.com/TwinTraveller

http://twintravellerblog.com

ความคิดเห็น