เชียงใหม่ 2 วัน 2 คืน เราก็ไป เป็นการใช้เวลาวันหยุดให้คุ้มค่ามากที่สุด พวกเราได้มีโอกาสมาเชียงใหม่ โดยเป้าหมายแรกที่มาคือ จะมาแก้บนที่พระธาตุดอยคำ (เพื่อนมาแก้บนนะคะ บนแล้วได้อะไรยังไง เป็นความเชื่อส่วนบุคคล สาธุๆ) และจุดหมายต่อไป คือ อยากตามรอยพ่อหลวง โครงการหลวงตามพระราชดำริ ซึ่งที่เชียงใหม่จะมีหลายโครงการ พวกเราเลือกที่จะไป ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ อำเภอแม่แตง เพราะดูจากเวลาที่เรามีจำกัด เลือกโครงการหลวงที่ใกล้ๆ ตัวเมืองเชียงใหม่ ก็ลงเอยที่นี่ค่ะ ตามรอยโครงการหลวงของพ่อ


โดยครั้งนี้เดินทางเหมือนจะมีแผน แต่ในความเป็นจริงที่เกิดขึ้นก็ตามสภาพอีกแล้ว ^^. ไปได้เรื่อยๆ แต่จุดหมายคือที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ และดอยม่อนเงาะ พวกเราเดินทางค่ำๆ วันศุกร์ มาถึงเชียงใหม่ก็หาที่พักใจกลางเมืองใกล้ประตูท่าแพ และให้ใกล้สวนสาธารณะ เพราะเช้าๆ จะออกมาซ้อมวิ่งได้ พักที่นี่กันค่ะ The Small Chiang Mai อยู่ถนนท่าแพ ใกล้ไนท์บาซ่าอีกด้วย ข้ามสะพานนวรัฐตรงมาแป๊บนึงก็ถึง

ตึกแฝดอยู่ข้างกันกับ UFN ฺBakery House

เข้ามาเจอล๊อบบี้โรงแรม

ชั้น 1 ครึ่ง มีมุมหนังสือ

ภายในห้องพัก เก๋ๆ

โรงแรม The Small มี 5 ชั้นนะคะ ถ่ายจากระเบียงห้องพักลงมา

ด้านหลังตึกชั้น 3 แอบมีสระว่ายน้ำเล็กๆ

ห้องอาหารอยู่ชั้น 5

กินเช้าที่โรงแรมอิ่มแล้ว ระหว่างรอเพื่อนมารับไปเที่ยวต่อ ก็เดินเล่นแถวโรงแรม ในระแวกนี้มี วัดบุพพาราม เป็นวัดเก่าแก่วัดหนึ่งในเชียงใหม่ ที่สร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2060 อยู่ในย่านเศรษฐกิจสำคัญของเมืองเชียงใหม่


ตรงข้ามเยื้องมาอีกนิด ก็มี วัดแสนฝาง เป็นหนึ่งในวัดบนถนนสายเก่าแก่นี้

โบราณสถานที่สำคัญภายในวัดคือ "พระเจดีย์มงคลแสนมหาชัย" เจดีย์ก่ออิฐปูนสีขาวแบบศิลปะพม่า


ภาระกิจต่อไป แก้บนที่ วัดพระธาตุดอยคำ ค่ะ มารอบสองก็รู้วิธีมากขึ้น ก่อนอื่นต้องซื้อดอกมะลิแก้บนจากด้านล่างวัด เพราะบนวัดจะไม่มีขายนะคะ แต่ถ้าไม่ได้ซื้อดอกมะลิขึ้นมาก็มีคนบริการรับจ้างลงไปซื้อจากด้านล่าง

ใช้เวลาแก้บนไม่นานค่ะ ใครไม่ได้แก้บนก็ขึ้นมากราบไหว้บูชาได้นะคะ ได้ชมวิวเมืองเชียงใหม่ด้วย


เสร็จภาระกิจแก้บน ต่อไปก็หามื้อเที่ยงกินนะคะ ตั้งใจว่าอยากจะหาอาหารพื้นเมืองแบบบ้านๆ แต่สุดท้ายขับรถผ่าน ร้านอาหารโอ้กะจู๋ หรือร้าน สวนผัก โอ้กะจู๋ ที่รู้จักกันดี ที่มาในคอนเซปเก๋ๆ ว่า ปลูกผักเพราะรักแม่ แต่ตอนนี้ ปลูกผักเพราะรักพ่อ สวนผักปลอดสารพิษ ปลูกแบบออกานิค และใช้ผักสลัดเป็นส่วนประกอบในอาหารเกือบทุกเมนู เราผ่านแล้วก็ต้องเข้าไปลองนะคะ โอ้กะจู๋ สาขา นิ่มซิตี้เดลี่ อยู่ใกล้ๆ สนามบินด้วย (เค้าว่าสาขานี้คือโอ้กะจู๋เล็ก ส่วนสาขาแรกโอ้กะจู๋ใหญ่จะอยู่ที่แยกหนองจ๊อม แถวสันทรายค่ะ) ได้ยินว่าคนเยอะและคิวยาวด้วย มาถึงก็ลงชื่อจองคิว โชคดีคิวไม่ยาวมาก รอไม่เกิน 15 นาทีก็ได้กินแล้วค่ะ

จานใหญ่มากกกกก แต่ก็กินหมด หิวหนัก อิอิ ห้ามพลาดกับเมนูนี้ ซี่โครงสะพานโค้ง แทะกันมันส์เลยละคะ โอ้ววววววว


โอ้วววววว อิ่มแล้วไปกันต่อ เดี๋ยวจะมืดค่ำหาทางไปโครงการหลวงลำบาก แต่สุดท้ายก็มาถึงมืดค่ำจริงๆ ต่อนยอนกันไปเรื่อย


>>> ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ หมู่บ้านม่อนเงาะ ตำบลเมืองก๋าย อำเภอแม่แตง

การเดินทางมาไม่ยากเลยค่ะ จากตัวเมืองเชียงใหม่ประมาณ 67 กิโลเมตร ใช้เวลาในการเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวประมาณ 2 ชั่วโมง ตามถนนหมายเลข 107 เชียงใหม่-แม่แตง มาถึงแยกตลาดแม่มาลัยก็เลี้ยวซ้าย ไปตามถนนหมายเลข 1095 แม่มาลัย-ปาย ประมาณ 12 กิโลเมตร ให้สังเกตวัดสบเปิงด้านซ้ายแล้วเลยไปอีกนิดจะเจอทางแยกขึ้นศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะทางขวามือ เลี้ยวขวาไปอีก 17 กิโลเมตรจะถึงที่ทำการศูนย์ฯ ช่วงนี้ปรับปรุงถนนใหม่ถนนดีเลยค่ะ รถทุกชนิดสามารถขึ้นถึงได้

มีบ้านพักให้บริการจำนวน 5 หลัง พักได้หลังละ 4 คน ราคาหลังละ 800 บาท และมีพื้นที่ให้กางเต็นท์ มีร้านอาหารสามารถสั่งมากินได้ค่ะ พวกเรามาถึงก็มืดแล้ว อากาศเย็นสบายเกือบหนาวนะคะ ตอนเช้าก็เหมารถกะบะเพื่อไปดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ดอยม่อนเงาะ คันละ 700 บาท

----------------------------------------------------------


ตัดภาพมาตอนเช้ามืดเลยเนอะ ตี 5 ออกจากบ้านพักไปดอยม่อนเงาะ ประมาณ 7 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาทีได้ เนื่องจากถนนขึ้นไปบางจุดถนนยังไม่ค่อยดี ถ้ารถเก๋งอาจจะลำบาก และดอยม่อนเงาะนี้มีจุดให้กางเต็นท์ได้ ถ้านำเต็นท์มาเองคิดค่าบริการเต็นท์ละ 150 บาท ถ้าใช้เต็นท์ของศูนย์ฯ คิดคนละ 100 บาท แต่ห้องน้ำอาจจะยังไม่สะดวกเท่าไหร่นะคะ


มาทันพระอาทิตย์ขึ้นพอดีค่ะ ทะเลหมอกเบาๆ กับต้นดอกบัวตอง ฟินค่ะ

จากจุดชมวิวเดินไปอีกประมาณ 200 เมตรจะถึงยอดดอยม่อนเงาะ

มีป้ายชื่อดอยม่อนเงาะให้ถ่ายรูป check in ได้ค่ะ เด๋วจะหาว่ามาไม่ถึง ^_^

เดินลงมาจุดชมวิว

จุดนี้กำลังสร้างระเบียงยื่นออกมาให้ได้ยืนชมวิวถ่ายรูป



จุดชมวิวดอยม่อนเงาะ มีความสูง 1,425 เมตร เหนือระดับน้ำทะเล ห่างจากศูนย์พัฒนาโครงการหลวงม่อนเงาะ ประมาณ 7 กิโลเมตร เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่สามารถมองเห็นยอดดอยที่สลับซับซ้อนและลดหลั่นกันไป ได้สัมผัสธรรมชาติและอากาศหนาวเย็น ชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้าเคล้าทะเลหมอกที่ความสวยงามทอดยาวตามหุบเขา ทางด้านทิศตะวันตกจะเห็นดอยอินทนนท์ ด้านทิศเหนือจะเป็นดอยผ้าห่มปกและถัดมาด้านตะวันออกจะเป็นดอยหลวงเชียงดาว มองเห็นได้หลายยอดดอยนะคะ ในช่วงเย็นก็สามารถชมพระอาทิตย์ตกดินบริเวณจุดชมวิวดอยม่อนเงาะได้ด้วย


หันมาสนใจทุ่งบัวตองเล็กๆ กันบ้าง

ดอกไม้ต้องคู่กับสาวสวย เหร๋อ?

ได้เวลากลับลงจากดอย กลับไปอาบน้ำเก็บของ

ระหว่างทางลงผ่านหมู่บ้าน ซึ่งปลูกกล้วยไม้ของโครงหลวงม่อนเงาะ

ฟาร์มกล้วยไม้ นานาพันธุ์

กล้วยไม้พันธุ์ซิมบิเดี้ยม

กลับมาที่พัก สายแล้วหมอกก็ยังอยู่แฮะ

ถ่ายรูปกับป้ายศูนย์ฯ



สถานีต่อไป รู้ว่าห่างจากนี้ไป 3 กิโลเมตร มี ไร่ชาลุงเดช ซึ่งเป็นไร่ชาที่ปลูกชาขั้นบันไดตามเชิงเขา มีบ้านพักและร้านอาหารบริการด้วยนะคะ ลุงเดชออกมาต้อนรับและดูแลแขกที่แวะมาเยี่ยมชมด้วยตนเอง มีชาให้ได้ชิม ที่แนะนำก็จะเป็นชาขาว ส่วนกาแฟ ลุงเดชก็แนะนำให้ต้องชิม เพราะลุงปลูกและคั่วเองกับมือ กลิ่นหอมจนต้องลอง อร่อยจริงๆ ค่ะ

เบอร์โทรลุงเดช สนใจมาพักติดต่อได้นะคะ 081-1633765

ภายในล๊อบบี้ไร่ลุงเดช เป็นรูปที่มีทุกบ้าน คิดถึงพ่อหลวง

กาแฟที่ลุงเดชคั่วเอง รสชาติอร่อยนะคะ

จิบกาแฟชมวิว


ลัลล้า ๆ


ออกจากไร่ชาลุงเดชเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ ยังมีเวลาเหลือ เพราะคืนนี้ขึ้นเครื่อง 3 ทุ่ม เราก็ค้นหาที่เที่ยวระหว่างทางกันต่อ


พิพิธภัณฑ์พระตำหนักดาราภิรมย์ ที่อำเภอแม่ริม ก็แวะเข้าไปชมได้ ค่าบัตรเข้าชมคนละ 20 บาท วัน-เวลาเปิดให้เข้าชม วันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 9.00 น. - 17.00 น. และไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปข้างในพระตำหนักนะคะ


พระตำหนักดาราภิรมย์ สร้างขึ้นหลังจากที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัวพระราชทานพระบรมราชานุญาตให้พระราชชายาเจ้าดารารัศมี ทรงย้ายกลับมาประทับที่เชียงใหม่หลังจากที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จสวรรคต

บริเวณด้านล่างพระตำหนัก แสดงการทอผ้าในสมัยโบราณ

ได้เวลากลับบ้าน

จะมีเวลามากหรือน้อย ทุกคนมีเวลาเท่ากัน ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์และมีคุณค่านะคะ เที่ยวเมืองไทยไม่ไปไม่รู้ แบ่งปัน กระจายรายได้สู่ชุมชน โดยเฉพาะการท่องเที่ยวโครงการหลวงต่าง ๆ ที่พระองค์ได้ทรงสร้างไว้ เพื่อให้คนไทยได้สร้างงานสร้างอาชีพที่ยั่งยืน อยู่อย่างพอเพียง และเป็นแรงบันดาลใจในการทำความดี และทำประโยชน์เพื่อส่วนรวมต่อไป


พบกันใหม่ในทริปต่อไปของพวกเรานะคะ


* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

เรื่องโดย ลิงเปิ้ล | LingPle Mayuree : [email protected]

ถ่ายภาพโดย : ลิงเปิ้ล | LingPle Mayuree , Tor Tourlek

Facebook เที่ยวแล้วยัง กับ มิตรภาพ Friendship Journey : www.facebook.com/welikejourney

#welikejourney #เที่ยวแล้วยัง #เที่ยวแล้วyoung

IG : lingple

เที่ยวแล้วยัง

 วันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม พ.ศ. 2559 เวลา 22.05 น.

ความคิดเห็น