Readme.me - เวียดนามใต้ ง่ายๆ ได้ครบทุกบรรยากาศ Đà Lạt - Mũi Né

เวียดนามใต้ ง่ายๆ ได้ครบทุกบรรยากาศ Đà Lạt - Mũi Né - Hồ Chí Minh

หลากหลายอารมณ์ที่เวียดนาม เวียดนาม เป็นอีกประเทศที่ได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากความเป็นธรรมชาติ สถานที่ทางประวัติศาสตร์ และเรื่องราวของผู้คนที่นี่ ย่อมเป็นสิ่งดึงดูดใจให้ผู้คนเข้ามาค้นหาอยู่เสมอ

วันที่ 1

วันที่ 1 ดาลัด ( Đà Lạt )

เดินทางด้วยสายการบินนกแอร์ Bangkok - Hồ Chí Minh โฮจิมินห์ ( สนามบินเตินเซินเญิ้ต )

เป้าหมายแรกของเราคือเมืองดาลัท การเดินทางไปเมืองดาลัทมีทั้งรถทัวร์และเครื่องบิน ระยะทางจากโฮจิมินห์ - ดาลัดประมาณ 300 กิโลเมตร ถ้าเป็นรถทัวร์ใช้เวลาประมาณ 8 ชม. ราคาประมาณ 300 บาท

แต่เราเลือกใช้สายการบิน Vietjet Air ซึ่งได้ทำการจองตั๋วและจ่ายเงินไว้ก่อนหน้านี้เรียนร้อยแล้ว ราคาประมาณ 700 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาทีถึงสนามบิน Đà Lạt

เดินลงมาจากเครื่องบินนี้สภาพอากาศแตกต่างกันเลยจากที่โฮจิมินห์ ลมพัดมาสัมผัสได้เลยถึงความหนาว

จากสนามบิน Đà Lạt ใช้บริการรถ Shuttle Bus เพื่อเข้าเมืองราคาก็ 40,000 VND

Shuttle Bus ไม่ได้ไปส่งถึงโรงแรมที่เราพัก จะมีแค่บางโรงแรมเท่านั้นละแวกใกล้ๆ ที่รถจะไปส่ง เราต้องลงแล้วต่อ TAXI แนะนำตรงนี้เลยให้ดูแผนที่มาก่อนแล้วให้ TAXI กดมิเตอร์ ไม่เช่นนั้นอาจโดนราคาเหมามากกว่าความเป็นจริงได้

มาถึงแล้วเมือง Đà Lạt

Đà Lạt

ถึงแล้วที่พัก Binh Yen Hotel เลือกนอนเป็นห้องรวมเตียง 2 ชั้น ราคาประมาณ 300 กว่าบาท ในห้องไม่มีแอร์ไม่มีพัดลมนะครับ คือมันหนาวมาก

ให้ทางโรงแรมติดต่อรถให้พร้อมคนขับตกลงในราคา 750,000 VND ประมาณ 1,200 THB เพื่อพาเที่ยวรอบเมือง Đà Lạt

Crazy House ( เครซี่เฮาส์ ) ศิลปะการออกแบบบ้านรูปทรงแปลกประหลาด ประกอบด้วยห้องหลายห้องด้านใน และได้ตื่นตาตื่นใจกับทางเดินอุโมง และบันได ค่าเข้าชมประมาณ 40,000 VND

Crazy House ( เครซี่เฮาส์ ) สูงพอสมควร

Crazy House ( เครซี่เฮาส์ ) บ้านแปลกประหลาด

Crazy House ( เครซี่เฮาส์ ) ทางเดินบันได

ที่ 2 DALAT KING PALACE

ดูร่มรื่นมากๆ

DALAT KING PALACE บริเวณทางเข้า

DALAT KING PALACE ภายในอาคาร ก่อนเข้าชมจะมีเจ้าหน้าที่ชี้แนะพร้อมทั้งให้ถอดรองเท้าและสวมเป็นถุงเท้าคู่ใหญ่ๆ ก่อนเข้าพื้นที่

ภายในอาคาร

DALAT KING PALACE บริเวณด้านหลัง

ที่ 3 ROBIN HILL ขึ้น cable car ชมเมืองดาลัดแบบพาโนรามา ราคาตั๋วมี 2 แบบนะครับ แบบ ไป - กลับ และ ไป เที่ยวเดียว ผมเลือกแบบไปเที่ยวเดียว ราคาประมาณ 50,000 VND เพราะจะได้ไปลงที่วัด Truc Lam Medutation Monastery (Thien Vien Truc Lam) พอดี

CABLE CAR บนเทือกเขา ROBIN HILL

ROBIN HILLวิวทิวทัศน์ผ่านป่าสน ต้นไม้เป็นธรรมชาติมากๆ

CABLE CAR มาลงที่วัด TRUC LAM

TRUC LAM MEDUTATION MONASTERY (Thien Vien Truc Lam)

ออกจากวัด TRUC LAM ก็มาต่อที่ COCK CHURCH ( โบสถ์ไก่ )

COCK CHURCH ( โบสถ์ไก่ ) โบสถ์ใหญ่ ณ เมืองดาลัด

มืดแล้ว ออกเดินเล่นในเมืองไปเจอร้านนี้เข้าพอดี แม่ค้าพูดภาษาอังกฤษได้เป๊ะมาก

ลองสั่งมาชิมดู เรียกอะไรไม่แน่ใจ แต่รสชาติอร่อยมาก เข้ากับบรรยากาศหนาวๆ

เดินเล่นต่อในเมือง

ริมทะเลสาบ ดาลัด

นี่ก็อร่อย เจอขายอยู่ข้างทาง

Dalat at Night ( ไนท์มาเก็ต ) ถนนคนเดินดาลัด มีพ่อค้า แม่ค้ามาขายของ มีสินค้าหลากหลายประเภท ทั้งเสื้อผ้า ของประดับ และของกิน

อยากทานเฝอร้อนๆ นั่งชิวได้เลย

บรรยากาศ ไนท์มาเก็ต

วันที่ 2

ตื่นเช้ามาหน้าโรงแรมมีร้านกาแฟเล็กๆ กาแฟดริฟ โดยส่วนด้านบนจะเป็นผงกาแฟ ด้านล่างจะเป็นนมข้น ปล่อยให้น้ำไหลผ่านกาแฟอย่างช้าๆ หอมมากๆ

ต่อด้วย เฝอ หน้าโรงแรม

อิ่มท้องแล้วเดินทางเที่ยวต่อในเมือง ดาลัด

DALAT FLOWER PARK ( สวนดอกไม้ดาลัท ) ค่าเข้าชมประมาณ 30,000 VND

ด้านหน้า

มีกิจกรรมขี่ม้าถ่ายรูปด้วย

กระท่อมหลังนี้ถ้าเข้าไปด้านในต้องจ่ายค่าเข้านะ เราก็เลยถ่ายรูปเฉพาะด้านหน้าพอ

เดินขึ้นไปได้ด้านบน เป็นแปลงพันธุ์ไม้

ออกจากสวนดอกไม้ก็เดินทางต่อสู่ น้ำตกดาตันลา ( DATANLA WATERFALL )

DATANLA WATERFALL ( น้ำตกดาตันลา ) เป็นน้ำตกที่สวยมากๆ และได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยว กิจกรรมที่ทำ นั่งรถราง Roller Coaster ตั๋วก็จะมาแบบไป - กลับ และไป เที่ยวเดียว แต่ผมเลือกแบบไป - กลับ เพราะจะได้ไม่ต้องเดินกลับให้เมื่อย

ซื้อตั๋วเสร็จก็เตรียมพร้อม

ฟังคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ ในเรื่องการเคลื่อนตัว การเบรค และคาดเข็ดขัดให้พร้อม

Roller Coaster

DATANLA WATERFALL

เร็วเหมือนกันนะ

ออกจากน้ำตก DATANLA แวะทานอาหารร้านนี้

วิวเมือง Đà Lạt

ทานอาหารเสร็จแล้วมุ่งหน้าสู่ Mũi Né BYE BYE Đà Lạt

ใช้บริการรถคันเดิมพร้อมคนขับ ระยะทางระหว่าง Đà Lạt ถึง Mũi Né ก็ประมาณ 160 KM ใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมง 30 นาที ทางค่อนข้างจะแคบและเป็นเหวใช้ระยะเวลานานนิดนึง

การเดินทางข้ามเมือง Mũi Né - Đà Lạt คนขับรถจะให้เราเขียนชื่อ เลขที่พาสปอร์ตลงในเอกสาร พร้อมเซ็นต์ชื่อ เผื่อว่าตำรวจตรวจจะได้ไม่มีปัญหาในการเดินทาง

แวะถ่ายรูประหว่างทาง

บรรยากาศระหว่างทาง

ถึงแล้วที่พัก MINH HUNG HOTEL เป็นห้องพักเงียบสงบด้านหน้าเดินข้ามถนนไปเป็นทะเลเลย

วิวจากที่พัก

ด้วยความหิวเดินหาของกินก่อนเลย อาหารทะเลที่นี่สดมาก เรียกได้ว่ายังเป็นๆ กันอยู่เลย เลือกอะไรทางร้านก็จะชั่งน้ำหนักพร้อมบอกทางร้านว่าจะให้ย่าง ทอด หรือทำให้สุกด้วยวิธีใด

มื้อค่ำ

มีพ่อค้านำงูมาขาย ใครอยากลองก็เชือดกันสดๆเลยทีเดียว

วันที่ 3

ใช้บริการรถคันเดิม พร้อมคนขับ

ที่แรก Fairy stream ( แฟรี่สตรีม ) ก่อนลงไปเดินจะมีบริการฝากรองเท้าไว้ แต่เราไม่เป็นไรถือไปเองได้สบายมาก

เดินเข้าไปตามลำน้ำเรื่อยๆ จะพบหินลักษณะหินแบบนี้

ระหว่างทางเดิน

น้ำที่ไหลมาเย็นมากๆ

Fairy stream

ออกจาก Fairy stream เดินทางต่อสู่ MUI NE FISHING VILLAGE ( หมู่บ้านชาวประมง )

MUI NE FISHING VILLAGE ( หมู่บ้านชาวประมง )

เรือชาวประมง

เรือชาวประมงแบบกระด้ง

วิถีชีวิตชาวบ้านที่นี่

ออกจาก หมู่บ้านชาวประมง เดินทางต่อสู่ RED SAND DUNES ( ทะเลทรายแดง )

RED SAND DUNES ( ทะเลทรายแดง )

RED SAND DUNES ( ทะเลทรายแดง ) ร่มไม้มีอยู่น้อยมาก เราไปถึงตอนใกล้เที่ยงพอดี อากาศค่อนข้างร้อนเลยทีเดียว ระวังเรื่องทรายเพราะลมพัดแรง

RED SAND DUNES

ออกจาก ทะเลทรายแดง มุ่งหน้าสู่ ( ทะเลทรายขาว ) WHITE SAND DUNES

WHITE SAND DUNES ( ทะเลทรายขาว ) มีรถให้เช่า 2 แบบ แบบที่ 1 ATV แต่ราคาค่อนข้างแพงนิดนึง 400,000 VND / ครึ่งชั่วโมง

แบบที่ 2 รถ JEEP ราคาประมาณ 700,000 VND มีคนขับให้ พร้อมพาไปถ่ายรูปตามจุดทั้งหมด 4 จุดเวลาไม่จำกัด

น้องตัวเล็กขับเองนะนี่ น่ารักมาก

จอดรถถ่ายรูป

บนเนิน ทะเลทรายขาว

นี่คนขับรถ JEEP

ออกเดินทางจาก Mũi Né ช่วงบ่ายๆ เพื่อไป Hồ Chí Minh ระยะทางประมาณ 200 KM ใช้เวลาเดินทางประมาณ 4 ชั่วโมงครึ่ง

Hồ Chí Minh ถึงค่ำๆ พอดีจัดแจงเก็บของเข้าที่พักแล้วเดินสำรวจเมืองก่อนเลย สภาพอากาศที่โฮจิมินห์ก็คล้ายๆกรุงเทพบ้านเราแหละครับ

พอดีวันที่ไปถึงมีเทศกาลอะไรซักอย่าง คล้ายๆ ตลาดนัด คนเลยเยอะเป็นพิเศษ

รถเยอะมาก

วันที่ 4

เดินทางเที่ยวในเมือง โฮจิมินห์ TAXI ที่เลือกใช้ก็เป็นของบริษัท VINASUN คิดว่าน่าจะโอเคสุดแล้ว มีจอ GPS บอกเราด้วยในรถว่าตอนนี้เราอยู่ที่ไหน กำลังจะไปไหน

ไปรษณีย์กลางโฮจิมินห์ (Central Post Office) ไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนามตั้งอยู่ใจกลางเมืองโฮจิมินห์

ไปรษณีย์กลางโฮจิมินห์ (Central Post Office)

ภายใน ไปรษณีย์กลางโฮจิมินห์ (Central Post Office) มีรูปลุงโฮ ด้วย

สามารถเขียนไปรษณีย์ โปสการ์ด ถึงใครก็ได้จากที่นี่เลย

โบสถ์นอร์ทเธอดาม ( NOTRE DAME CATHEDRAL ) ตั้งอยู่บริเวณใจกลางกรุงโฮจิมินห์ ได้รับการยกย่องว่ามีความงดงามที่สุดแห่งหนึ่งในเวียดนาม

ด้านหน้าโบสถ์มีรูปปั้นขนาดใหญ่สีขาวเด่นเป็นสง่าของพระแม่มารี

ออกจาก โบสถ์นอร์ทเธอดาม เดินทางต่อสู่ ทำเนียบประธานาธิบดี

ทำเนียบประธานาธิบดี (Reunification Palace) ปัจจุบันเปิดเป็นพิพิธภัณฑ์ ประกอบด้วยสวน ห้องนอน ห้องรับประทานอาหาร ห้องสวดมนต์ และลานจอดเฮลิคอปเตอร์

ทำเนียบประธานาธิบดี (Reunification Palace)

ทำเนียบประธานาธิบดี (Reunification Palace) โถงใหญ่

ออกจาก ทำเนียบประธานาธิบดี เดินทางต่อสู่ พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum)

พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) เป็นสถานที่จัดแสดงเครื่องมือการรบ และอาวุธยุทโธปกรณ์ต่าง ๆ ในสมัยสงครามเวียดนามมีทั้งของสหรัฐอเมริกา จีน พร้อมมีนิทรรศการและภาพถ่ายที่แสดงถึงผลกระทบของสงครามเวียดนาม การปกป้องประเทศ การเสียสละเลือดเนื้อของชาวเวียดนาม

พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum) ด้านหน้า

อาวุธที่ใช้ทางการทหาร

ชุดและอุปกรณ์ทหาร

พิพิธภัณฑ์สงคราม (War Remnants Museum)

วันที่ 5

วันซื้อของฝาก

มุ่งหน้าออกจากที่พักเดินไปเรื่อยๆ ตามถนนในเมือง

พกแผนที่ติดตัวไว้ซักใบ เดินได้รอบเมืองเลย

ตลาดเบนถั่น (Ben Thanh Market) เป็นศูนย์รวมของสินค้าหลาย ๆ ประเภท ไม่ว่าจะป็นของกิน ของใช้ เครื่องประดับ ของฝาก กระเป๋า รองเท้า เสื้อผ้า ของกินเช่น ชา , กาแฟ ซึ่งเป็นสินค้าเลื่องชื่อ เป็นต้น

ตลาดเบนถั่น (Ben Thanh Market) ส่วนใหญ่แล้วแม่ค้า พ่อค้าที่นี้จะบอกราคาไว้สูง เพื่อให้เราต่อ สามารถต่อได้จะต่อ 30% - 40% แล้วแต่ความสามารถของแต่ละบุคคล