สวัสดีเพื่อนๆ ชาว Read me
Journey Travel With Us พร้อมรีวิว
เข้าสู่ฉบับที่ห้าของเราแล้ว
ฝากตามรอย ไปเที่ยว ไปกิน ไปพัก
ไปหลงรักสถานที่ที่เราเดินทางไปสัมผัสกันด้วยน้า
✿ ✿✿ ✿✿ ✿✿ ✿✿ ✿✿ ✿
ทริปนี้เกิดขึ้นปุปปัปก่อนสิ้นปี
ต้นเดือนธันวาอากาศเริ่มจะเย็นลงหน่อย
หยุดวันอาทิตย์วันเดียวหาเที่ยวที่ใกล้ๆ เดินทางไม่ไกลหน่อยดีกว่า
เราเลยเลือกไปจังหวัดใกล้ๆ " นครนายก " นี่ไงใกล้แค่ตูด
เรื่องของเรื่องคือ อยากถ่ายรูป 555 ไม่มีเหตุผลอะไรมากมาย
เลยลองชักชวนพี่ๆ ทีมงานทริปแม่ฮ่องสอน ไปตะลอนออกทริปถ่ายรูปด้วยกันหน่อย
ว่าแต่...นครนายกมันมีอะไรเที่ยวอีกมั้ยล่ะ ? นี่แหละคือคำถามก่อนออกทริป
เราเบื่อเที่ยวนครนายกในแบบเดิมๆที่จะต้องไปน้ำตก หลวงพ่อปากแดง สักการะพระพิฆเนศ
หรือจะไปเขื่อนขุนด่าปราการชลล่ะ เอาเป็นว่าเราเที่ยวในแบบฉบับเราดีกว่า หาที่สวยๆถ่ายรูปชิคๆพอ
แล้ว Choice ของเราในวันนี้มีอยู่ 4 สถานที่ด้วยกัน เริ่มจาก...
-
ทุ่งบัวแดงบ้านนา
-
อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ
-
ร้านบะหมี่เกี๊ยวโหน่งชะชะช่า
-
วัดจุฬาภรณ์วนาราม หรือ ซุ้มป่าไผ่
เราออกเดินทางในช่วงเช้าของวันที่ 11 ธันวาคม 2016 ปลายปีที่ผ่านมา
ในวันหยุดวันอาทิตย์แบบนี้ ขับรถสบายดีจริงเชียว อาจเพราะนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่
หยุดยาวต่อเนื่องวันรัฐธรรมนูญกันหมด เป็นโอกาสอันดีงามมากจริงๆ บึ่งรถไม่ถึงชั่วโมงก็มาถึง
จุดแรกที่หนึ่ง l ทุ่งดอกบัวแดงบ้านนา
เคยอ่านๆรีวิวมาเขาบอกให้มาช่วงเช้าๆหน่อย เพราะถ้าสายโด่งเกิน 10 โมงเช้าขึ้นไป
ดอกบัวจะหุบหมดแล้ว และจะไม่สวยบานสะพรั่งเท่าช่วงเช้า
แนะนำให้มาถึงสัก 7-8 โมงเช้าน่าจะดีกว่าคะ
ชาวบ้านเขาจะเก็บดอกบัวไว้ขายสำหรับนักท่องเที่ยวที่จะซื้อเอากลับบ้านไป
หรือจะเอามาเป็นพร้อพถ่ายรูปก็เก๋ไปอีกแบบนะแกร์ ~
ไปที่ไหนในประเทศไทย ก็จะมีพ่อคอยเฝ้าดูอยู่ตลอด เห็นแล้วก็คิดถึงพระองค์สุดหัวใจ
เรามาถึงประมาณ 7 โมงเช้า เลยได้ชื่นชมกับทุ่งบัวแดงที่ออกดอกบานสะพรั่งกลางทุ่งนา
สีดอกชมพูบานเย็นตัดกับสีนาข้าวที่ขึ้นเขียวขจี
สร้างสีสันให้กับท้องทุ่งในแบบวิถีชีวิตชนบทแบบชาวบ้านจริงๆ
แฮปปี้ ฟินเฟร่อมากกกกกกก...ยิ้มหน้าบานแข่งกับดอกบัวเลยทีเดียว
ดอกบัวบานชูช่อแข่งกันเลย สวยมากจริงๆ
มีเรือไว้ประกอบฉากถ่ายรูปด้วยนะจ๊ะ อีกทั้งยังเยี่ยมชมฟรีไม่เสียค่าบริการใดใดทั้งสิ้น
นับเป็นอีกหนึ่งสถานที่ในนครนายกที่น่ามาเช็คอินเลยก็ว่าได้
เพราะได้รูปสวยๆกลับมาเก็บไว้เพียบเล้ยยย 55555555
จุดที่สอง l อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ
แค่ชื่อก็สะลึมสะลือแหละ 555 เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กที่มีทิวทัศน์สวยงามตามธรรมชาติ
ตอนแรกเรากะมาดูแสงเช้าที่อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ แต่ดันเจอทุ่งดอกบัวแดงสกัดไว้ด่านแรกก่อน
เลยอด กะคราวหน้าว่าจะมาชมแสงแรกที่นี่ให้ได้ เขาว่ากันว่าช่วงเช้าจะมีหมอกบางๆ
ให้บรรยากาศสดชื่นจริงเชียว แค่คิดก็ฟินแล้ว
ลมเย็น โกรกเต่าแห้งเลยล่ะ 555 โธ่ๆๆๆ สองหนุ่มนี่มานั่งโยนหินว่าใครจะปาได้ไกลสุดอยู่
เจ้าตัวแสบดูจริงจังมากนะ !!!!
รายล้อมไปด้วยธรรมชาติ และที่สำคัญอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ
เราสามารถขับรถเที่ยวแบบ one day trip ได้ นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวใกล้เคียง
ที่สามารถแวะได้ อาทิเช่น อ่างเก็บน้ำทรายทอง เขื่อนขุนด่านปราการชล น้ำตกวังตะไคร้ สาริกา บลาบลา
โดยรอบอ่างเก็บน้ำจะเป็นภูเขา ที่ยังคงความสวยงามตามแบบธรรมชาติสร้างขึ้นมา
สำหรับใครที่กำลังมองหาและสนใจจะไปถ่ายรูป พยายามอย่าเอาปากกาไปขีดเขียนตามหลักกิโลเมตร
ก็จะดีนะคะ แล้วใครที่เอาอาหารไปกิน ก็ช่วยเอาเก็บไปทิ้งด้วยก็ดีนะคะ สถานที่สวยๆงามๆแบบนี้
เราควรรักษามันไว้ ให้คนที่ยังไม่เคยมาเขาจะมาได้ซึมซับกับบรรยากาศและวิวสวยๆ
จริงๆ ที่นี่ก็เหมาะกับการถ่ายพวก Pre weding ได้อยู่น้าาาา มีแบลคกาวน์ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง
กว่าจะได้ช็อตนี้ทำเอาหอบไปหลายรอบ ทั้งคนกระโดดและคนอุ้ม 555
และจังหวะคนลั่นชัตเตอร์ต้องพอดีอีก
นอกจากนี้ยังมีต้นหญ้าขึ้นอยู่เรียงรายตามรอบอ่างเก็บน้ำด้วย
นี่ถ่ายออกมาคิดว่าอยู่เจแปน แดนปลาดิบซะอีก
มีความอยากถ่ายแบบนิตยสารไรงี้ เลยลองของ โดดขึ้นไปนั่งบนหลังคารถมั่ง
แล้วคือต้องนั่งริมๆขอบรถ เพราะความแข็งแรงมันมีมากกว่าช่วงกลางของหลังคารถ
กว่าจะได้แต่ละรูป ยากเย็นเสียนี่กระไร 5555555
นอกจากนี้...ที่นี่ยังเป็นเส้นทางปั่นจักรยานสุดฮิตของบรรดาเหล่านักปั่นทั้งหลาย
เราเดินถ่ายรูปกันสักพักก็จะเจอนักท่องเที่ยวหลายกลุ่ม ทั้งกลุ่มนักปั่นจักรยาน
กลุ่มสายแว๊นมอเตอร์ไซค์ หรือมาแบบรถยนต์อย่างเราๆก็มี
เอาเป็นว่า อ่างเก็บน้ำห้วยปรือ นี่ดีต่อใจใครหลายคนจริงๆ
แนะนำให้ลองมาสัมผัสกับธรรมชาติสวยๆงามแบบนี้กันเยอะๆนะคะ
จุดที่สาม l ร้านบะหมี่-เกี๊ยวโหน่งชะชะช่า
จุดนี้ท้องเริ่มคำรามละ 555 เผลอแพ๊พเดียวจะบ่ายโมงล้าว
เนื่องจากเรามัวเสียเวลาว่าจะไปกินก๋วยเตี๋ยวกะลาลุงเผ่าเจ้าดังในนครนายกเหมือนกัน
ซึ่งใช้เวลาเดินทางจากอ่างเก็บน้ำห้วยปรือไปร้านลุงเผ่าเกือบชั่วโมงเพราะร้านอยู่แถวๆเขื่อนขุนด่านเลย
พอเลี้ยวไปถึงที่จอดเท่านั้นแหละรู้เรื่องเลย ทัวร์ลงจ้าา...ไหนจะคันอื่นๆอีกต่อแถวยาวเลย
รีบถอยกลับให้ไว ไปพักท้องวนกลับมากินบะหมี่โหน่งก็ได้
ได้ยินชื่อมานานละ ! ว่าเขาทำบะหมี่เกี๊ยวขาย แต่ยังไม่เคยได้ลองลิ้มชิมรสสักที
วันนี้มีโอกาสได้มาเยือนสาขาใหญ่กันเลยทีเดียว ปกติแถวบ้านจะเห็นแต่เป็นรถเข็นเฟรนชายด์
มีแต่บะหมี่เกี๊ยวขาย แต่ที่สาขาใหญ่นี้มีอะไรนอกเหนือจากนั้นคะคุณผู้ชม
ตอนแรกใจก็หวั่นๆ กลัวคนเยอะพอๆกับลุงเผ่าเหมือนกัน แต่โชคดีที่ร้านเขามีโต๊ะเพียงพอต่อลูกค้า
ทั้งแบบ IN - OUT DOOR ก็เพิ่งมารู้ตอนกินเสร็จแล้วเดินมาเข้าห้องน้ำนี่แหละ
ถึงรู้ว่าข้างนอกก็นั่งทานก๋วยเตี๋ยวได้ ชิลล์เลยไม่แออัดเท่านั่งในร้าน
บรรยากาศร้านเขาจะตกแต่งสไตล์ไหนกันนะ 55555 นี่ก็ไม่เข้าใจ เหมือนเป็นที่รวบรวมผลงาน
และบรรดาของสะสมของพี่เขาด้วย เพราะมีหลากหลายแนวเหลือเกิน มีทั้งเหล่าซุปเปอร์ฮีโร่ จักรยาน
มอไซด์ ป้ายทะเบียนรถ เครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นเก่าๆ หน้าหนังสือพิมพ์ที่ลงข่าวเขาก็มีมาใส่กรอบแปะไว้
แล้วก็บรรดารูปถ่ายส่วนตัวของครอบครัวก็มี
เราเข้ามาทาน ภายในร้านมีทั้งห้องพัดลม แล้วก็ห้องแอร์ ทั้งชั้นบนและชั้นล่างเลยคะ
เลือกได้ตามสบาย แต่เสาร์-อาทิตย์คนน่าจะเยอะพอสมควร อาจจะหมดสิทธิ์เลือก
ได้ตรงไหนก็นั่งคะ 5555555
ของหวานเชิญทางนี้นะจ๊ะ น่าจะเป็นพวกไอติม น้ำแข็งใส หวานเย็นชื่นใจกันไป
รูปนี้เหมือนเป็นเหรียญ รัชกาลที่ ๙ ในเวอร์ชั่นขยายใหญ่
วันนี้เราได้โต๊ะตรงกับเหรียญนี้พอดี อยู่ชัั้นสองนะจ๊ะ
โชคดีเจอพี่โหน่งตัวจริง เสียงจริง ไม่อิงโฆษณา 55555 พี่แกเข้าร้านด้วย คอยพูดเทคแคร์ลูกค้าตลอด
สำหรับใครที่ยังไม่ได้โต๊ะแจ้งพี่แกได้ เขาจะช่วยหาให้ ใครที่ยังไม่ได้อาหารหรือรอนาน พี่แกก็ตามให้
ที่ร้านเขาบริหารกันเป็นระบบมากจริงๆ เมื่อได้โต๊ะแล้ว ก็เขียนติ้กเมนูในกระดาษให้เรียบร้อย
มีหลายหลายเมนูคะ นอกจากบะหมี่เกี๊ยวแล้วก็จะมีเมนูข้าว เช่น ข้าวหมูตุ๋น ข้าวหมูแดงหมูกรอบ
แล้วก็เมนูที่มาอะแด๊ปให้เข้ากับบะหมี่ได้ ใครที่มาเที่ยวนครนายก แล้วลองแวะมาทานดูนะคะ
มีเมนูให้เลือกหลากหลาย เมื่อติ้กเสร็จก็ลงเอาใบมายื่นและทำการจ่ายเงินอะไรเองให้เสร็จเรียบร้อย
ไม่มีมาเรียก น้องๆเก็บตังค์หน่อย เพราะร้านเขาใหญ่และกว้างมาก พนักงานอาจจะดูแลไม่ทั่วถึง
เราลงมาชำระเงินกับลูกชายพี่โหน่งคนโตคะ
ระหว่างรอจ่ายเงิน แอบหันไปเห็นเขาทำบะหมี่กันอย่างขมักเขม่น มองไปมองมาหน้าคุ้นจัง
อ้าวเห้ย...นี่มันเมียพี่แกนี่หน่าาาาลงครัวเองเลยจ้าาา ยกขบวนกันมาดูแลกิจการเองทั้งครอบครัวเลย
ช่วยกันทำมาหากิน น่ารักดีคะ
พอเสร็จเขาก็เรียกเด็กเสริฟ์มารับอาหารตามคิว เห้ยแกร์ ข้าวหมูแดงหมูกรอบมันน่ากินสะเหลือเกิน
มาเสิร์ฟแล้วอาหารว่าง ลูกชิ้นปิ้งไม้ละ 10 บาท แต่อร่อยลืมอะ ลูกชิ้นหมูเด้งดี น้ำจิ้มก็เด็ดดวง
มาร้านบะหมี่เกี๊ยวก็ต้องกินอะไรที่มันเป็นแบบออริจินอลคะ ชามนี้..
บะหมี่หยกเกี๊ยวหมูแดงแห้งธรรมดา 55 บาท อร่อยครบเครื่องอีกแล้วชามนี้
ส่วนจานนี้เป็น ข้าวหมูตุ๋นคะ หมูนี่เคี้ยวมากำลังดีเลยคะ จานนี้ประมาณ 65 บาทคะ
อร่อยอีกแล้วหรออะไรเนี้ยะ 555555 ไม่มีอะไรให้ติเลย
จานสุดท้ายลองเมนูแบบมิกซ์ๆกันบ้าง บะหมี่แห้งแกงเขียวหวานไข่ตุ้ม ก็อร่อยอีกแหละ
เห้ออ...ทำอะไรก็อร่อยใช่ไหมเนี้ยะ
ราคาอาจจะแรงไปหน่อย สำหรับบะหมี่หมูแดงทั่วไป แต่มาถึงสาขาใหญ่นานๆที ก็โอเคคะ
อร่อยทุกเมนูไม่มีผิดหวังเลยสักจาน ใครที่ผ่านแนะนำเลย ไม่ผิดหวังเลี้ยวเข้ามาเลยจ้าา
นี่ไม่ได้เป็นติ่ง หรือ หน้าม้าอะไรพี่แกเล้ย แต่มันอร่อยจริงๆอ่าาาาาา
จุดที่สี่ l วัดจุฬาภรณ์วนาราม หรือ ซุ้มป่าไผ่
เราเดินทางมาตาม Map เลยจ้า เกือบเลยซอยเลยแหนะ ซอยทางเข้าเล็กมาก
ต้องตาดีจริงๆ ทางเข้าจะมีป้ายไม้เขียนชื่อวัดอยู่ ที่นี่เป็นสถานที่เที่ยวแห่งใหม่ของนครนายกเลยก็ว่าได้
นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวแล้วเป็นต้องลงมาแชะเก็บภาพไว้เป็นที่ระลึก
ที่นี่มีลักษณะเป็นดงป่าไผ่ ขึ้นสูงโค้งมนเข้าหากันคล้ายซุ้ม เหมาะมาถ่ายรูป Pre Weding อีกเช่นกัน
เมื่อสองปีที่แล้วเคยมามอเตอร์ไซค์แล้วเจอกลุ่มทีมงานถ่ายพรีด้วย แต่ตอนนั้นที่นี่ยังไม่ค่อยบูมเท่าไหร่
ไม่มีใครรู้จักเท่าปัจจุบัน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ที่มาเยือน บรรยากาศรอบๆเปลี่ยนไป
มีพื้นที่สำหรับจอดรถนักท่องเที่ยว มีของมาขายอยู่หน้าทางเข้าเต็มไปหมด
แตกต่างกับเมื่อสองปีก่อนเป็นไหนๆ ณ ปัจจุบัน มีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวเยอะขึ้น
ดูร่มรื่นสดชื่นจริงๆ จะกางร่มทำไมร้อนหรอ ? [ หลานตัวแสบสงสัย ]
ที่สุดท้ายนี่คือของแถม จะเรียกว่าสถานที่ท่องเที่ยวมันก็ไม่ใช่อะ
คือ เคยเห็นคนรีวิวว่าเหมือนมีภูเขาทราย อยู่ซอยเดียวกับวัดเลย ถ่ายรูปออกมาแล้วเก๋ดีอะ
เลยอยากมาเห็นอยากมาถ่าย
ตอนแรกสอบถามกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลแถวๆ วัดจุฬาภรณ์วนาราม ยื่นรูปให้เขาดูเลยว่า
พี่คะเคยเห็นสถานที่ในรูปนี้ไหม มันอยู่ตรงไหนหรอ ? เขาทำหน้า งง สักพัก
แล้วก้ส่ายหัวบอกไม่เคยเห็นนะ แป่ววววววว !!!! ไม่มีใครรู้จักเลยหรอเนี้ยะ
แต่ขาเข้ามาก็ไม่เห็น จนขาออกจากซอย หันไปมองทางซ้ายมือโดยบังเอิญ
เห้ยย นั่นช่ายปะ เลี้ยวเลยพี่ 555555 ประมาณไม่ได้ว่าอยู่ช่วงไหนของซอยอะคะ
แต่ขาออกจากซอยคอยสังเกตดีดีเอาละกัน
ลักษณะเป็นลานกว้างๆ เป็นพื้นดินทรายล้วนๆ มีบ้านคนอาศัยอยู่หลังเดียวแถวๆที่เราจอดรถ
ลักษณะภูเขาทรายนี้ เหมือนถูกถมให้มันสูงๆแล้วก็ปล่อยทิ้งไว้ เจอทั้งแดดฝนลมหนาว เลยเกิดการแข็งตัว
ขนาดเราขึ้นไปเหยียบหรือกระโดดยังไม่ยุบเลย 55555555
พื้นดินรอบๆ ภูเขาทรายนี้เป็นดินแห้งแตกระแหงเลยทีเดียว
บ๊ายบายเจ้านกน้อย แดดร่มลมตกแล้ว กลับบ้านกันดีกว่า !!!!!!
ปิดจ๊อบเช็คอินเที่ยว 4 สถานที่ในนครนายก
ภายใน 1 วัน แบบชิลล์ๆ และไม่แตะน้ำตกเลยสักนิด
ตามแบบฉบับของพวกเรา เที่ยวไกลเที่ยวใกล้ก็ไปหมด
เอาเป็นว่า...ทริปหน้าเราจะพาไปเที่ยวที่ไหนต่อรอชมรีวิวกันด้วยน๊า
หวังว่าจะเป็นข้อมูลการท่องเที่ยวให้แก่เพื่อนๆ ไปตามรอยกันได้
แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้า ฝากกดไลค์กดแชร์กันด้วยนะจ้าาา
By Journey Travel With us
JOURNEY TRAVEL WITH US
วันพฤหัสที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560 เวลา 15.37 น.